
ถ้าปรุงดินดี ปุ๋ยเคมีก็ไม่จำเป็น | วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์มีอะไรบ้าง นอกจากปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก
ถ้าปรุงดินดี ปุ๋ยเคมีก็ไม่จำเป็น | วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์มีอะไรบ้าง นอกจากปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก
การปรุงดินปลูกผัก ให้ได้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงมีอะไรบ้าง?
ลุงสุเทพ กุลศรี ปราชญ์นวัตกรรมด้านการเกษตร
จะมาเล่าประสบการณ์จากการลงมือทำจริง
ผนวกกับได้คคลุกคลีกับผู้คนทางวิชาการการเกษตร
กลายเป็นความรู้ที่ผ่านการสังเคราะห์และวิจัยเชิงประจักษ์
จนกลายเป็นสูตรปรุงดินปลูกผักง่ายๆ แต่ได้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง
ที่ใช้ในฟาร์มขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง
.
และยังมีฟาร์ม และร้านอาหารอีกหลายแห่งที่ลุงสุเทพ
ได้ไปทำการโค้ชให้ ล้วนแต่ได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพสูง
จึงอยากให้ลองเรียนรู้ และทำตามแนวทางของลุง
แล้วจะได้คำตอบที่ว่า
\
Content
0.063 -> คือผมเป็น เป็นเกษตรกรตัวจริงนะ
ทําเอง ขุดดินเอง
4.583 -> คือทําทุกอย่าง
ไม่ใช่เป็นเกษตรกรเชิงวิชาการอะไรอย่างนั้น
10.103 -> มันก็เลยได้เห็นการเปลี่ยนแปลงก็เลยเอามา
12.863 -> ผลสุดท้ายเนี้ยก็สังเคราะห์ออกมาได้ว่าส่วนผสมผมมันมีอยู่ 3 อย่างเอง
คือ 1.ดิน ดินอะไรก็ได้
19.423 -> ดินที่เขาใช้ถมบ้าน
ถมบ้านจัดสรรอะไรตรงเนี้ย
22.103 -> ขอให้เป็นดินอย่างเดียว
2.ก็คือตอนแรกเนี้ยผมใช้ปุ๋ยมะพร้าว
25.423 -> ตอนหลังนี่ไม่รู้อ่ะ
มีอะไรใกล้ๆผมใช้ได้หมด
27.883 -> แต่ก่อนนี้เป็นสูตรเลยน่ะ
ดิน ขุยมะพร้าว ปุ๋ยคอก
30.363 -> พอมาอยู่ที่นี่
ไอ้นี่ไม่มี ก็เอาไอ้นู่นไอ้นี่
32.703 -> จนกลายเป็นว่าไม่มีสูตร
อะไรก็ได้เรื่อยเฉื่อย
36.783 -> ส่วนผสมก็จะมีอยู่ 3 อย่าง
ดิน 1 ส่วน
39.023 -> ขุยมะพร้าว 1 ส่วน เอ่อ เมื่อ
เมื่อตอนแรกๆเลย เนี่ย
41.783 -> ผมใช้ปุ๋ยคอก 1 ส่วน
ก็คือ 1:1:1 แต่ตอนหลังมา
44.543 -> มันมีเวอร์ชั่นสองก็คือ
ใช้ปุ๋ยคอกแค่ 0.50 พอ
47.823 -> แต่ก่อนนี้ผมเองก็ทําแล้วคลุก
ทุกคนก็คลุกผสม เหมือนกันหมดเลย
50.543 -> เอา 3 ส่วน เนี่ย
ผสมกันคลุกเคล้าให้เข้ากัน
53.643 -> แล้วก็ รดน้ําให้พอชุ่ม ครับ
เสร็จแล้วก็อันนั้น
57.063 -> จะกองเข้าไว้หรือเอาไปปลูกเลย ก็
ก็แล้ว ครับ
59.943 -> อันนี้คือการปรุงดินในช่วงที่ผ่านมา
บังเอิญช่วงนั้นเนี้ยปี 2540 กว่าๆ
64.003 -> มันมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรกําแพงแสน
เรื่องของ "ปุ๋ยน้ําชา"
68.143 -> เขาจะเอามูลสัตว์ห่อ
แล้วไปแช่ไว้ในถังน้ํา
71.143 -> สมมุติว่ามูลสัตว์สักสองกิโล
แช่น้ําถังหนึ่งร้อยลิตรอย่างนี้
74.443 -> แล้วก็เอาออกซิเจนตีเข้าไป
เสร็จแล้วก็เอาน้ํามาฉีดพ่น
78.963 -> ซึ่งพืชมันก็งอกงาม เอ๊ะ
แต่ก่อนที่เขาสอนเรามาเนี้ย
81.843 -> ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก
84.343 -> กว่าพืชมันจะกินได้
มันใช้เวลาเป็นเดือน
86.323 -> ผมเองก็มีความเชื่ออย่างงั้นมาตลอด
แต่พอมันมีงานวิจัยตัวนี้
90.343 -> มาบอกอ้าวได้แค่ชั่วข้ามคืนแค่นั้นเอง
เอามาใช้ได้แล้ว
92.423 -> แสดงว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่ล่ะ
คราวนี้พอมาถึงผม
95.323 -> ผมก็เลยแทนที่จะคลุก ก็ทําเป็นเลเยอร์
ขุ๋ยมะพร้าว 0.50 ให้
98.963 -> กองที่พื้น
เอาดินเทลงไปให้หมดเลย
101.383 -> เททับลงไปนะครับ
ก็เอาปุ๋ยคอกทับดินลงไปอีกทีหนึ่ง
104.723 -> แล้วก็รดน้ํา
ตรงรดน้ําเนี้ยละครับ
107.203 -> เป็นตัวเปลี่ยนแปลงโลก
จุดประสงค์ของผมก็คือ
109.943 -> ให้น้ํามันไปชะ
เอาธาตุอาหารที่อยู่ในปุ๋ยคอก
112.703 -> สังเกตไหมน้ํา
ถ้าหากว่าเราเอาปุ๋ยคอกมาแช่น้ําเนี้ย
115.823 -> น้ําจะออกมาเป็นสีน้ําตาลเข้มเลยใช่ไหม
ตัวนั้น คือ ธาตุอาหาร
119.103 -> อันนี้จุดประสงค์ผมก็คือเอาน้ําชะลงไปเพื่อให้ดึงเอาธาตุอาหารที่ได้หลุดเอาธาตุอาหารออกมา
แล้วดินอยู่ข้างล่างมันก็จะซับเข้าไปหมดเลย
126.603 -> ข้อแม้นิดหนึ่งก็คือ
ดินต้องควรจะเป็นดินแห้ง
129.623 -> ดินที่มันแห้งอยู่นี่
พอไอน้ําที่มันมีธาตุอาหาร
132.723 -> เห็นไหมช่วงเวลาแค่ไม่ถึง 10 นาที
ดินที่ไม่ดีกลายเป็นดินที่มีธาตุอาหารทันที
138.483 -> อันนี้ 1 ขั้นตอนล่ะ
ขั้นตอนที่ 2 พอหลังจาก
141.243 -> เออ...
ลองดูกระบวนการเปลี่ยนแปลตรงนี้
144.243 -> มันก็คือ ปุ๋ยคอก
ปุ๋ยคอกไปอยู่ในรูปของแข็ง ครับ
148.423 -> ผมเปลี่ยนสภาพจากของแข็งให้เป็นของเหลว
ครับ โดยเอาน้ําไปไดรูทมันออกมา
152.983 -> สภาวะแตกต่างกันแล้ว
พอเป็นของเหลวปุ๊บ
155.043 -> พืชดูดกินได้ทันที อืม
ถ้าหากว่ายังเป็นของแข็งเนี้ย
158.323 -> ต้องอาศัยจุลินทรีย์อาศัยสภาวะแวดล้อม
โดยเฉพาะจุลินทรีย์เนี้ย ย่อย
161.943 -> สลายมัน ครับ
แล้วพืชเนี้ยถึงจะดูดเอามาใช้ได้
166.123 -> แต่นี่ไม่
ผมเปลี่ยนจากของแข็งเป็นของเหลว
168.943 -> ใช้ได้ทันที ครับ นี่แหละครับ
ตรงเนี้ยคือจุดจุดแตกหักเลยล่ะ
172.303 -> อันนี้คือขั้นตอนที่หนึ่งจากดินที่ไม่มีธาตุอาหารอะไรเลย
175.903 -> เอ่อ ผมถึงไม่กังวล
ว่าดินเนี้ยเป็นอะไร
178.703 -> ดินทุกอย่างดีหมดครับ ครับ
ดินที่ขุดก้นสักมาลึกลึกตรงนี้
182.123 -> ดินนี้มาถมตรงนี้บอกดินไม่ดี
ในนั้นมันก็มีอะไรดีๆซ่อนอยู่
185.003 -> ขั้นตอนที่หนึ่งก็คือ
นั่นแหละพอชะออกมาแล้วดินก็ซับ
188.483 -> นั้นเข้าไว้ มีธาตุอาหาร คราวนี้
รดน้ําให้ชุ่มๆ
192.343 -> รดน้ําให้ชุ่มแล้ว
ชุ่มแค่ไหนก็คือ
194.543 -> ให้น้ํามันไหลออกมาที่ฟิล์มกรองเลย
งั้นแสดงว่าน้ําที่จากปุ๋ยคอก
198.443 -> ถูกชะออกมาแล้วก็ซึมลงไปถึงดินข้างล่างล่ะ
แสดงว่าดินข้างล่างมันเปียก
202.423 -> มันได้รับจาก
ไอที่ชะล้างจากปุ๋ยคอก
205.223 -> ก็เอาขุยมะพร้าวที่เหลือนั่นน่ะ
50% หรือ
208.023 -> อีกครึ่งหนึ่ง ก็ปิด
แล้วก็รดน้ํา แล้วก็บ่มไว้
211.263 -> บ่มกี่วันครับลุง บ่มสัก
2 อาทิตย์ ครับ
214.943 -> คือปิดไว้ตรงนั้นน่ะ
ไม่ต้องไปรดน้ําเพิ่มอีกแล้วนะครับ
217.263 -> หลังจากที่เอาขุยมะพร้าว
คลุมแล้วเนี้ย ปิดคลุมเนี้ย
220.083 -> เราก็รดน้ํา รดน้ําที่ขุยมะพร้าว
อ่า เริ่มรักษาความชื้นเอาไว้
223.323 -> ครับ อ่า ก็ปิด ปิดผิวหน้าหมดเลย
227.103 -> หมายถึงว่าขุยมะพร้าว 50% ที่เหลือนั่นน่ะ
แล้วก็รดน้ํา อันเนี้ย
231.423 -> ถ้าจะให้ดี
3 วันแรกเนี้ย เอาพลาสติก
234.123 -> เอาเศษหญ้า เศษฟาง เอาอะไร
ผ้าใบอะไรก็ได้ คลุมไว้สัก 3 วัน
238.303 -> คลุม
ก็คือบางทีดินก้อนใหญ่ๆ
240.643 -> คือดินของผม เนี่ย
หมายถึงว่าดินก้อนใหญ่ๆ ก็มี
243.123 -> ก้อนเล็กก็มีนะครับ นี่ดิน เนี่ย
บางทีมัน มันยังเปียกไม่ทั่ว
246.163 -> ครับ
ถ้าเราเอาอะไรคลุมเข้าไว้ปุ๊บ
248.143 -> เนี่ย ไอ้น้ํามันก็ยัง เอ่อ
หมุนเวียนอยู่ในนั้น
251.383 -> มันก็ทําให้ดินที่ข้างในก้อนใหญ่ใหญ่
เนี่ย ที่มันยังไม่เปียก เนี่ย
254.503 -> มันก็เปียก
มันก็จะมีความชื้นอยู่ด้วย
256.543 -> โอเค คลุมไว้สัก 3 วัน แล้วเปิด
จุดประสงค์ตอน เนี้ย
259.563 -> ก็คือต้องการให้ ไอน้ํา
มันระเหยออกละ
262.963 -> เพราะตอนแรกมันแฉะอยู่ใช่ไหม
โอเค พอแฉะอยู่ปุ๊บ เนี่ย
267.223 -> พอสักสามวันที่เราอบมาแล้วเนี้ย
ก็ให้ต้องการให้มันระเหยออกเพื่อให้ดินมันคลายตัว
271.883 -> แค่น้ําความชื้นน้ํากับดินแข็งแข็งตรงนี้เนี้ย
มันเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลอยู่แล้ว
276.923 -> พอไอน้ํามันระเหยขึ้นปุ๊บ ดินเกิดการคลายตัว
ตรงเนี้ยดิน
280.883 -> ก้อนแข็งๆ
ที่มันทุบไม่ค่อยแตกเนี้ย
283.463 -> มันจะรุ่ยออกมาเลยครับ
อันนี้คือเรื่องของการคลายตัว
286.483 -> จุดประสงค์ที่ ที่ผมไว้ตรงนั้น
อีกส่วนหนึ่งก็คือ
289.943 -> จุลินทรีย์ที่อยู่ในปุ๋ยคอก
ที่อยู่ในดิน ในดินที่มันอะไรน่ะ
293.203 -> มีจุลินทรีย์อยู่ตรงนั้นแหละ
แต่ว่ามันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่
295.563 -> เหมาะสม มันก็เข้าสปอร์ ใช่
มันก็ไม่แอคทีฟ ครับ
298.763 -> พอมีความชื้น
มีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม อ่า
302.103 -> มันก็แอคทีฟขึ้นมา
พอแอคทีฟขึ้นมา
304.623 -> มันมีอาหารก็คือ
ไอ้ตัวปุ๋ยคอกตรงนั้นใช่มั้ยฮะ
307.383 -> ครับ มันมีอาหาร มีอะไรต่ออะไร
อ้าว มันก็เจริญเติบโต
310.823 -> แล้วก็ที่สําคัญที่สุด
ปัจจัยตัวนึงก็คือ
313.103 -> มันมีเฮ้าส์ซิ่ง ครับ
คือมันมีบ้านที่อยู่อาศัยอ่ะ
316.263 -> คือมัน มันเล็กมาก ก็คือถ้ามันไป
แปะ เอาเซลล์มันไปแปะกับอะไร
320.483 -> แปะกับปุ๋ยมะพร้าว ครับ
ก็เท่ากับมันมีบ้าน คราวนี้ล่ะ
324.243 -> มันก็
เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
326.823 -> แอคทีฟมาอย่างรวดเร็ว พวกรา
พวกยีสต์ก็จะแตกสปอร์
330.583 -> แบคทีเรียก็จะแบ่งเซลล์
นี่แหละครับ
332.503 -> ไอ้ช่วงกิจกรรมของจุลินทรีย์ที่มันแตกสปอร์แล้วแบ่งเซลล์ตรงเนี้ย
มันก็จะเกิดฮอร์โมนพืช
338.683 -> ฮอร์โมนที่เป็นประโยชน์สําหรับพืช
กรดอะมิโน กรดแลคติก
342.463 -> กรดฮิวมิก ครับ แล้วไอ้สิ่งที่
ที่ผมใช้คําว่าบ่มเนี่ย
346.003 -> คือไม่ได้หมัก นะครับ
บ่มเนี่ย แค่ 2 อาทิตย์
348.643 -> ถ้าหมักเนี่ยมันต้องเป็นเดือนหรือสองเดือนขึ้นไป
30-60 วันใช่มั้ยฮะ
352.903 -> ครับ อันนี้ไม่ใช่ ก็คือ
15 วัน
355.583 -> คือในช่วงเนี้ยผมเอาไอ้ดินที่คลุกเนี่ยใส่ตลับตรงเนี้ย
แล้วก็ส่งไปวิเคราะห์นะครับ
361.583 -> เอ่อ มัน มันบังเอิญซะก่อนนะ
ผมใช้แกลบดิบบ้าง ขี้ลีบบ้าง
366.023 -> ครับ
เปลือกกากถั่วบ้างอะไรบ้างเยอะแยะไปหมด
368.663 -> ก็เขี่ยๆ แล้วก็
เอาส่งให้ห้องแล็บเขาส่องดู
372.443 -> ว่ามันมีอะไรบ้าง
ปรากฏว่าที่ ที่แกลบดิบเนี่ย
376.043 -> จุลินทรีย์ไม่สามารถจะเกาะ ได้
อ่า แต่ที่ขุยมะพร้าวเนี่ย
379.523 -> จุลินทรีย์แบบ โอ้โห หนาแน่นเลย
ก็โอเค เอ่อ พอนั่นมา
384.623 -> พบอีกก็คือโอเค
เรารู้กันอยู่แล้วว่า
387.243 -> กิจกรรมของจุลินทรีย์เนี่ยมันได้
ได้ฮอร์โมน
390.183 -> ได้กรดอะมิโนที่เป็นประโยชน์
แต่อีกตัวนึงในขณะที่ยังไม่ย่อยสลาย
394.223 -> ก็คือที่บ่มเนี่ย ครับ
ที่อินทรีย์วัตถุยังไม่ย่อยสลาย
397.263 -> มันได้เอนไซม์ขึ้นมาอีกตัวนึง
คือปกติแล้วก็จะห้ามกันว่าปุ๋ยเนี่ยต้องย่อยสลายให้มันเย็นก่อนให้มัน
402.243 -> เอ่อ
ย่อยสลายให้สมบูรณ์ก่อนแล้วค่อยเอามาใช้
404.943 -> ครับ
ถ้าสมมุติว่าแค่ 15 วันเนี่ย
407.703 -> ถ้าเป็นปุ๋ยหมักเนี่ย
มันกําลังร้อนจัดอยู่เลยนะ ครับ
410.403 -> เอามือล้วงเข้าไปนี่
60 องศาเลยนะ แต่ว่า เอา
414.003 -> มันอยู่ตรงนั้นน่ะมันหกสิบองศา
แต่พอมาเอามาใช้อย่างอื่น
416.683 -> เอามาใส่อย่างอื่นมารดน้ําแล้วมันก็ไม่มีความ
ทั้งนั้นแหละ ก็ ก็เลยไป
420.943 -> ไปคิดแยกออกมาจากตรงนั้น
ก็คือไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ว่ามันมี
424.603 -> ทางอื่นที่แยกออกไปอีก ได้
ในขณะที่ย่อยสลายยังไม่สมบูรณ์ตรงนั้น
428.383 -> มันจะมีเอนไซม์ ครับ
ก็ไปอ่านหนังสือ
431.683 -> ทางการแพทย์ นะ ครับ
ระบบร่างกายของคน
434.923 -> ทางด้านวิทยาศาสตร์นี่แหละ
เขาบอกว่าในเมื่อเรากินอาหารไป
438.343 -> ในขณะที่อาหารยังไม่ย่อย
440.623 -> มันจะเกิดเอนไซม์ขึ้นในลําไส้
ครับ แล้วเอนไซม์ เนี่ย ก็จะ
444.103 -> ดูดซึมที่ผนังลําไส้
เอาไปส่ง นั่นคือได้ก่อนแล้ว
446.843 -> ครับ
แต่ถ้าหากว่าอาหารย่อยเสร็จแล้ว
448.823 -> เนี่ย มันจะไม่มีเอนไซม์
ผมก็เอาแนวคิดตรง เนี้ย
452.543 -> มาอธิบายร่วมกันว่า โอเค
ไอ้ที่ดินที่บ่ม ยังไม่
456.763 -> ยังไม่ย่อยสลายทั้งหมด
มันมีเอนไซม์
458.843 -> แล้วก็ส่งไปให้เขาตรวจ
แต่ว่าไม่ได้ถึงกับละเอียดว่าเป็นเอนไซม์ชนิดไหน
463.403 -> เป็นอะไรต่ออะไรพวก เนี้ย
แต่ว่ามันมีเพิ่มขึ้นมา
466.643 -> แต่พอหลังจากที่ปล่อยให้มันย่อยสลายหมดแล้ว
ดินกองเดิมนะครับ ปล่อยมันทิ้งจน
471.503 -> จนนั่นไปแล้ว
เอาไปวิเคราะห์ใหม่อีกที
473.963 -> ก็จะไม่เจอเอนไซม์ อ่า
ด้วยความดื้ออ่ะเนอะ
476.463 -> ก็คือเขาบอกว่า
ไอ้ปุ๋ยยังหมักไม่สมบูรณ์เนี่ย
479.043 -> อย่าเอามาใส่ ผมก็ ก็มันไม่มีอ่ะ
ไปปลูกใส่กระถางเมื่อสมัยก่อนนู้นอะ
483.243 -> เกือบๆ สิบปีที่แล้วเนี่ย
ผมก็เอามาใส่
485.103 -> ผมก็เอามาคลุกดินน่ะ ก็รดน้ํา
ความร้อนไม่มีหรอกครับ
487.503 -> มันเป็นกรดจัด
กรดจัดก็ใช้มันเจือจางแล้วให้น้ํามันเจือจาง
490.763 -> มันก็หาย ขุยยมะพร้าว ต้องเอามา
แช่น้ํา ล้างน้ําก่อนมั้ย
497.043 -> ก่อนที่จะมาบ่มครับ ดู โอ้โห
อันนี้ผมใช้บอกว่าประสบการณ์เป็นสิบปี
503.103 -> ที่ผมใช้ขุยมะพร้าวเนี่ยนะ ครับ
แล้วผมใช้ระดับฟาร์ม
505.923 -> แค่ไม่ไหวครับ ก็คือ ไม่ใช่
ไม่ใช่ แล้วก็แต่ก่อนนะ
509.323 -> ผมเองก็ไม่รู้ว่ามัน มันจะ
เขาบอกว่ามันมี
512.863 -> มีอะไรต่ออะไรพวกเนี้ยนะฮะ เอ่อ
เอ่อ หมายถึงว่าตอนหลังเนี่ย
515.923 -> ตอนหลังเนี่ยผมไปขึ้นเวทีกับเนี่ย
เอ่อ เอ่อ เอ่อ บริษัทที่เขา
519.763 -> ทําพีสมอสอะไรต่ออะไรพวกเนี้ย
ครับ
522.303 -> ก็เลยได้แลกเปลี่ยนกัน
ก็คือตลอดเวลาที่ผมใช้มาตั้งแต่เริ่มแรก
526.843 -> จนกระทั่งปัจจุบันเนี่ยไม่เคยมีการแช่น้ําเลย
มีสองอย่างที่ ครับ นั่นก็คือ
531.563 -> หนึ่ง งานมันเยอะขึ้น
งานมันเพิ่มขึ้น
534.563 -> โอเคไอ้ทําแค่ปลูก นิดๆ หน่อยๆ
ไม่เป็นไร ผมทําที 3 ไร่
538.163 -> 4 ไร่อย่างเงี้ย ครับ
แค่ขุยมะพร้าวอย่างเดียวนี่เล่นเข้าไป
542.003 -> เอ่อ งานเอาเรื่องเหมือนกัน ครับ
อันที่สองที่เจอประจําเลย
545.803 -> เป็นคําขู่ว่า มันจะเกิดเชื้อรา
คราวนี้ผมก็ถามไปอีกว่า
549.383 -> แล้วมันราอะไร
ราเนี่ยมันมีราดีกับราไม่ดี
553.163 -> บิววาเรีย เมตาไลเซียม
ไตรโคเดอร์มา บาซิลัส
557.143 -> พวกนี้เป็นเชื้อราทั้งหมด อ่า
โอเค เชื้อราที่เกิดโรค
560.303 -> ก็เลยถามว่า ไอ้นั้นน่ะ
มันเกิดเชื้อราอะไร
562.523 -> แล้วโอเคมีสารแทนนิน
สารแทนนินเนี่ย เขาบอกว่ามัน
566.243 -> ไปยับยั้งการเจริญเติบ ของพืช
โดยทางปฏิบัติ
569.483 -> ตั้งแต่เพาะกล้าของผมก็งอกงาม
จนกระทั่งปลูกก็งอกงาม
572.543 -> บังเอิญเมื่อเมื่อสักปี
ที่แล้วเนี่ย
575.483 -> ได้ทําวิจัยร่วมกับสถาบันเฟิร์ส
ก็คือ ฟิวเจอร์อินโนเวชั่น เอ่อ
579.863 -> รีเสิร์ชไซแอนท์แอนด์เทคโนโลยีอะไรเนี่ย
ของ ของจุฬาเนี่ย ของ
583.243 -> ของ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น
นักวิจัยของเขาเนี่ย โอเค
585.923 -> คนนี้ ก็มาวิจัยร่วมกัน
บางส่วน ครับ ผมก็ถาม
589.943 -> ก็จบสรีระพืชโดยเฉพาะ
ผมถามว่าไอ้ขุยมะพร้าวเนี่ย
594.163 -> ซึ่งมันมีแทนนิน
มันมีสารอะไรต่ออะไรอยู่ในเนี้ย
597.743 -> มีผลต่อการเจริญเติบโตพืช
พืชมั้ย แกตอบได้ชัดเจนเลยว่า
600.243 -> ไม่มี
แล้วไอ้แทนนินเนี่ยมันคืออะไรรู้มั้ย
602.883 -> แทนนินจากเปลือกมังคุด
แทนนินนี่ก็คือตัวสารฆ่าเชื้อโรคด้วยซำ้
607.023 -> ใช่เปล่า
เปลือกมังคุดเนี่ย
609.203 -> ที่ท้องเสีย
อะไรต่ออะไรพวกนี้
611.823 -> แล้วก็เชื้อราที่นั่นน่ะต้องสมุนไพรที่มีรสฝาด
รสฝาดก็คือ
617.223 -> ไอ้แทนนินอะไรนี่เอง
ไปมาก็โป๊ะแตก
621.543 -> คือหนึ่งจากการปฏิบัติก่อนว่า
มันไม่มีผล
624.003 -> ผมก็ใช้มาหลวมตัวใช้มาจนนานแล้ว
จนกระทั่ง เจอกับนักวิชาการ
627.763 -> ตอนแรกผม
ผมไม่ได้เคยออกมานอกบ้านเท่าไหร่
629.983 -> ผมก็ทํา ของผมก็ได้ดีของผมตลอด
ทีนี้พอออกมานอกบ้านน่ะ เอาล่ะ
634.123 -> เนี่ย มันมีสารแทนนิน
มันมีเชื้อรา มีอะไร
637.963 -> แล้วเชื้อราเอง เนี่ย ถ้าตาม
ตามทฤษฎีของ ดร.เทรูโอะ ฮิหงะ
641.983 -> เชื้อราก็จะมีอยู่สามส่วน
เชื้อราที่ที่ก่อให้เกิดโรค
645.043 -> เนี่ย 20% ครับ
เชื้อราที่เป็นเชื้อราที่ดีอีก 20%
648.883 -> ครับ ไอ้ 60% เนี่ย
คือไอ้ตัวเชื้อราต่างๆ
652.423 -> ถ้าพวกไหนมีมากกูพร้อมที่จะไปเป็นพวกมึง
ก็ขึ้นอยู่กับ
656.683 -> ถ้าอันไหนมีมากปุ๊บ
เขาจะพร้อมที่เข้าไปเป็นพวก
659.123 -> เพราะฉะนั้น เอ่อ
ตรงที่เชื้อรามัน เชื้อราเนี่ย
662.963 -> ก็คือ
เขาบอกเชื้อราแล้วคนก็จะกลัวขึ้นสมองเลย
666.083 -> อ่า อ๋อ
เชื้อรามันทําให้พืชตั้งได้
668.123 -> แต่ความจริงแล้วเวลาเราอยู่กับเชื้อรา
แล้วเอาเชื้อราไปใช้บอก
670.643 -> ผมเนี่ยเป็นคนที่เอาเชื้อรามาใช้ประโยชน์
ไอ้พวกคีโตเมียม
673.903 -> ไลโซเดียมเห็นมั้ย
มันจะมีอีกเยอะเลย ครับ
676.643 -> พวกพีจีพีอาร์พวก โอ้ เยอะ
เพราะบอกเชื้อราปุ๊บ เค้าพูดสั้นๆ
680.543 -> พอเชื้อราแล้ว อ่ะ
คนมือใหม่ก็กูไม่กล้าใช้เลยเว้ย
684.023 -> เดี๋ยวมีเชื้อรา ไม่ได้ถาม
มันราอะไร ครับ
688.343 -> แล้วก็ถ้ารู้ลึกไปกว่านั้น
ก็จะถามต่ออีกว่า ไอ้รา
691.103 -> ถ้าเราเข้าใจทฤษฎีของ
ดร.เทรูโอะ ฮิหงะ ญี่ปุ่นเนี่ย
694.623 -> มันก็เลยกลายเป็นว่า
เป็นการตีแตกกรอบความคิดเราหมดเลย
697.743 -> ครับ เอ้า เขาบอกว่าไม่ได้ ที่
ผ่านมา ผมใช้มาตลอด แล้วมันได้
701.823 -> แล้วก็โอเค มี มันมีคําตอบอีกว่า
ที่มันได้เพราะอะไร
705.303 -> แล้วที่มันไม่ได้ ก็หา
ประเด็นของมัน ก็
708.083 -> เกิดความกระจ่าง ครับ
กระจ่างขึ้น อ๋อ เอ่อ
710.783 -> มันเป็นกรอบ หรือว่ามัน
อาจจะเป็นเทคนิคทางการค้าด้วยก็ได้
713.823 -> เพราะว่าทาง
ฝรั่งเขาไม่มีขุยมะพร้าวเหมือนบ้านเราใช่ไหมฮะ
717.463 -> เขาก็มีพีชมอสมีอะไร
ทีนี้พอคนไทยเอาพีชมอสมาขายปุ๊บ
721.063 -> อ่า
ก็ให้มองเห็นแต่ศัตรูตัวฉกาจและไอ้ขุยมะพร้าวนี่แหละ
724.803 -> ก็เลยขู่ซะ
แล้วก็ที่ผมภูมิใจมากที่สุดก็คือเราใช้วัสดุเหลือใช้ในบ้านเราให้เกิดประโยชน์
730.503 -> อันนี้คือที่มาก็คือ
กลับมาที่ตรงเรื่องของ
734.523 -> ดินก็ตรงนั้นแหละ
ก็คือเป็นปัจจัย
736.903 -> แล้วส่วนเรื่องมันจะไปช่วยเรื่อง
เรื่องโครงสร้าง
739.303 -> ไอ้ตัวขุยมะพร้าวเนี่ย
สมมติว่าดินที่แบบดินที่ไม่มีอินทรีย์วัตถุเลย
742.963 -> ดินที่แบบขุดออกมาก้นสระ
ที่เอามาถมบ้านเนี่ย
745.823 -> มันไม่มีอินทรีย์วัตถุ
ขุยมะพร้าวก็จะเป็นตัวอินทรีย์
748.043 -> เป็น เป็นอินทรีย์วัตถุ ค่ะ
ที่เข้าไปช่วยนะฮะ
750.163 -> แล้วช่วยซับน้ํา แทนที่น้ําจะ
แห้งเร็วปุ๊บเนี่ย
754.163 -> ไอ้ตัวเนี้ยก็จะช่วย
ให้น้ํามันมีความชุ่มอยู่ตลอด
758.183 -> เสร็จแล้วก็ยังเป็นที่อยู่ของอาศัยของจุลินทรีย์
762.443 -> แล้วก็เป็นตัวแทรกระหว่างอณูของดิน
ก็คือมันก็จะกลายเป็นว่า
765.683 -> ดินที่มีความร่วนซุย
มีความร่วนซุยแล้วก็มีธาตุอาหาร
768.623 -> ครับ มีคนเคยตั้งคําถามบอกว่า
อย่างผมปลูกในถุงอ่ะ
772.763 -> ที่เราปลูกในกระถางหรือปลูกในถุง
ผมปลูกผัก
775.223 -> ตัดเช้าปลูกเย็น ผมปลูกเป็นปี
ผมไม่เคยเปลี่ยนดินเลย อ้าว
779.343 -> แล้วมันก็หมดนี่พืชมัน มัน
มันดูดไปแล้ว ก็หมด
782.303 -> คนวงการอินทรีย์นะ ถามผม อะ ครับ
เฮ้ย ถ้าคิดแบบเคมีมันก็ใช่
785.663 -> แต่คิดแบบอินทรีย์ไม่ใช่
788.663 -> จุลินทรีย์เขาทำงานทุกวัน
793.643 -> คือถามว่ามันหมดไหม
ผมไม่เห็นมันหมดเลย
796.043 -> แล้วผมก็ยังใช้
ปุ๋ยหมักนิดเดียวเอง ใช้อย่าง
799.563 -> งั้นคงที่
แต่ว่าต่างกับปุ๋ยเคมีนะ ครับ
801.783 -> ปุ๋ยเคมี ถ้าดินเป็นกรด ก็ต้องเพิ่ม
เพิ่ม เพิ่ม อะไรอย่างนี้
804.763 -> มันก็เลยกลายเป็นว่า
ถ้าเราเข้าใจคือ ถ้าฟูมฟัก
807.963 -> รักษาดินให้ดีแล้ว
810.043 -> กลไกของธรรมชาติตรงนั้น
มันจะะช่วยสร้างเองไงครับ
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=-1J88aufEzM