
ตอนที่ 3 - วิธีการเลี้ยงไก่อารมณ์ดี
ตอนที่ 3 - วิธีการเลี้ยงไก่อารมณ์ดี
วิธีการเลี้ยงไก่ไข่ อาหารสำหรับไก่ไข่ อาหารเสริม การจัดการแสง การเก็บไข่ และลักษณะไก่ที่ให้ไข่ดก
Content
21.565 -> ไก่อารมณ์ดี การเลี้ยงไก่
24.252 -> สำหรับการเลี้ยงไก่
26.814 -> หลัก ๆ ก็คือ เรื่องของการให้อาหาร
28.817 -> การให้อาหารสำหรับไก่ไข่
30.281 -> เราจะแบ่งออกเป็น 2 มื้อ
33.282 -> ก็คือมื้อเช้า กับมื้อบ่าย
35.46 -> มื้อเช้าโดยปกติจะให้อยู่ที่ประมาณ
39.21 -> 40 เปอร์เซ็นต์ของอาหารที่เราจะให้ในแต่ละวัน
42.566 -> โดยเราจะให้ในช่วงเช้าตรู่
45 -> และในมื้อบ่าย อาหารที่เหลือจะให้ในช่วงบ่าย
49.238 -> ตั้งแต่บ่าย 2 ถึงบ่าย 3 เป็นต้นไป
52 -> เหตุผลที่เราให้อาหารมื้อบ่ายมากกว่ามื้อเช้า
55.116 -> ด้วยเหตุผลที่ว่าในมื้อบ่าย
57.135 -> ไก่จะกินอาหารเพื่อที่จะเก็บสำรอง
60.481 -> ไว้ในระบบทางเดินอาหาร
61.987 -> แล้วอาหารที่เก็บสำรองไว้ในทางเดินอาหาร
64.119 -> จะถูกนำไปใช้สร้างฟองไข่ และเปลือกไข่
67.743 -> ในช่วงกลางคืน
68.915 -> ซึ่งเป็นช่วงที่ไก่ไม่ได้กินอาหาร
71.323 -> การให้อาหารสำหรับไก่ไข่ปกติในบ้านเรา
74.675 -> ปริมาณอาหารที่ไก่จะต้องกิน
76.145 -> อยู่ที่ประมาณ 110 ถึง 120 กรัมต่อตัวต่อวัน
79.83 -> แต่ผมแนะนำที่ 114 หรือ 115 กรัมต่อตัวต่อวัน
84.96 -> ระดับโปรตีน พลังงาน และระดับของแคลเซียม
87.141 -> ก็เพียงพอต่อความต้องการของไก่
89.261 -> ในแต่ละวัน สำหรับไก่ที่เลี้ยงในบ้านเรา
93.187 -> การให้อาหารเสริม
95.655 -> สำหรับเกษตรกรบ้างราย ถ้ามีต้นไม้ มีต้นพืช
99.089 -> มีต้นกระถิน หรือมีหญ้าอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
104.583 -> เราสามารถตัดหญ้า หรือตัดกระถิน
107.63 -> มาห้อยให้ไก่กินได้
109.851 -> โดยการห้อยให้ไก่กินในช่วงบ่าย
111.784 -> ซึ่งการเสริมพวกพืชสด หรือว่าพวกใบกระถิน
115.144 -> ข้อดีก็คือ การให้ไก่ได้มีกิจกรรมทำในช่วงบ่าย
119.179 -> เป็นการเสริมไวตามิน
120.477 -> จะช่วยให้ไก่แข็งแรงขึ้น
122.47 -> และที่สำคัญคือช่วยลดความเครียดสำหรับไก่
126 -> ปัจจัยสำคัญสำหรับไก่ไข่อีกอย่างหนึ่ง
128.385 -> ก็คือ การให้แสงสว่าง อันนี้เป็นปัจจัยสำคัญมาก
132 -> ไก่เป็นสัตว์ที่ไวต่อแสง
134.613 -> ถ้าความยาวแสงเกิน 10 ชั่วโมงต่อวัน
137.639 -> ก็จะส่งผลกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนเพศ
140.872 -> และส่งผลต่อในเรื่องการให้ผลผลิตไข่
143.834 -> เพราะฉะนั้น สำหรับไก่ที่เลี้ยง
145.262 -> เพื่อเอาไข่เป็นหลัก
146.64 -> เราจำเป็นที่จะต้องให้แสง
148.721 -> ความยาวมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน
150.973 -> ซึ่งปกติสำหรับไก่ไข่ที่เราเลี้ยง
153.001 -> เราจะให้แสงประมาณ 15 ถึง 16 ชั่วโมงต่อวัน
156.714 -> การให้แสงเพิ่มขึ้นมา
159.067 -> เราอาจจะให้แสงในช่วงเช้าเพิ่มขึ้นมา 2 ชั่วโมง
162 -> ช่วงเย็นเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ชั่วโมง
164.205 -> การปิดเปิดไฟ หรือการปิดเปิดแสงสว่าง
167.838 -> เราจำเป็นต้องใช้ไทม์เมอร์สวิทช์
170.496 -> เนื่องจากว่า ไก่เป็นสัตว์ที่
173.192 -> ไวต่อการเปลี่ยนแปลงเวลาเปิดปิดแสง
176.805 -> ซึ่งเวลาในการปิดเปิดแสง ถ้าเกิดคลาดเคลื่อน
179.891 -> จะส่งผลต่อพฤติกรรมการกินอาหารของไก่
184.512 -> ไก่อาจจะกินอาหารไม่เพียงพอ
186.11 -> อาจจะกินอาหารไม่ทัน
187.244 -> ถ้าเกิดว่าการปิดเปิดแสงผิดปกติไป
189.98 -> เพราะฉะนั้น เกษตรกรจึงควรที่จะต้องมี
192.612 -> ไทม์เมอร์สวิทช์ หรือว่ามีนาฬิกาไฟฟ้า
195.116 -> สำหรับควบคุมการปิดเปิดแสงให้คงที่
198.508 -> และถูกต้อง
201.503 -> ประการต่อมาในเรื่องของการเก็บไข่
205.116 -> ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องเก็บไข่
207.667 -> ให้บ่อยเท่าที่จะสามารถทำได้
209.908 -> เพื่อที่จะให้ได้ฟองไข่ที่สะอาด
213.194 -> ปราศจากการปนเปื้อน
214.925 -> และหลังจากที่เก็บไข่มาแล้ว
216.423 -> เราต้องเอาไปเก็บไว้ในที่ที่เย็น
219.341 -> เพื่อที่จะคงความสดไว้เสมอ
221.231 -> จนกระทั่งถึงมือผู้บริโภค
223.823 -> อีกประการหนึ่งที่สำคัญมาก
225.696 -> เมื่อเราเลี้ยงไก่ไข่ไปซักระยะหนึ่ง
228.127 -> เราจะพบว่าไก่บางตัวให้ไข่
230.359 -> ไก่บางตัวไม่ให้ไข่
231.99 -> หรือไก่บางตัวให้ไข่ไม่ค่อยดี
234.397 -> เราสามารถที่จะสังเกตได้จากภายนอก
237.07 -> โดยไก่ที่ให้ไข่ดก
238.703 -> เราดูได้จากประการที่ 1 ก็คือ
243.219 -> บริเวณใบหน้าจะสดใส
245.339 -> หงอนใหญ่ แต่มีสีซีดจนถึงขาว
249.686 -> ขอบตามีสีซีด
251.593 -> และจะงอยปากมีสีซีด
253.581 -> บางครั้งหน้าแข้งก็อาจจะมีสีซีด
255.845 -> ถ้าเราจับดูไก่ที่ให้ไข่ดก
259.679 -> บริเวณท้องก็จะเต่งตึง หรืออาจจะหย่อน
264.876 -> เป็นเพราะว่าไก่มีฟองไข่ที่อยู่ในท้อง
268.483 -> และถ้าเราเอามือจับที่กระดูกเชิงกราน
272.315 -> โดยใช้สามนิ้วมือทาบ
274.221 -> จะเข้าไปในกระดูกเชิงกรานพอดี
276.53 -> ไก่มีการสร้างฟองไข่
279.503 -> สารสีที่สะสมอยู่ตามผิวหนังต่าง ๆ
282.225 -> จะถูกนำไปสร้างสีในฟองไข่แดง
285.719 -> อันนี้คือเหตุผลทำไมที่ไก่ที่ไข่ดก
288.555 -> บริเวณขอบตาจะซีด
290.337 -> บริเวณจะงอยปากจะซีด
291.814 -> และบริเวณหน้าแข้งจะซีด
294.121 -> ส่วนไก่ที่ไม่ให้ไข่ หรือไก่ที่ไข่ไม่ดก
297.506 -> เราจะดูได้จากหน้าตา ก็คือ
299.01 -> หงอนจะเล็ก
301.137 -> หน้าก็จะเซื่องซีม
303.966 -> ขอบตาจะมีสีเหลือง
305.729 -> จะงอยปากจะมีสีเหลือง
307.764 -> และหน้าแข้งสีเหลือง
309.296 -> การที่ขอบตามีสีเหลือง หน้าแข้งมีสีเหลือง
312.095 -> และก็จะงอยปากมีสีเหลือง
315.149 -> เป็นเพราะว่าไก่เวลากินอาหารเข้าไป
317.673 -> ซึ่งอาหารจะมีแหล่งของไวตามินเอ
320.391 -> และมีแหล่งของสารสีเหลือง
321.834 -> เมื่อไก่ไม่ได้สร้างฟองไข่
323.636 -> ไก่จะเอาสารสีเหลืองพวกนี้ไปสะสมในที่ต่าง ๆ
326.468 -> และไก่ที่ไข่ไม่ดก หรือว่าไก่ที่ไม่ไข่
329.9 -> บริเวณท้องจะเหี่ยวแห้ง
332.649 -> ถ้าเราเอานิ้วมือทาบอาจจะได้แค่หนึ่งนิ้วมือ
335.271 -> หรือสองนิ้วมือแค่นั้นเอง
337.176 -> อันนี้คือลักษณะของไก่ที่ไม่ให้ไข่
340.785 -> เพราะฉะนั้น เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่
343.761 -> สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือ
345.244 -> 1. ในเรื่องของการจัดการเรื่องสุขภาพ
347.585 -> ในเรื่องของการป้องกันโรค
349.858 -> ในเรื่องของการให้อาหาร
352.091 -> รวมทั้งในเรื่องของการจัดการอื่น ๆ
354.725 -> ให้ถูกต้องและเหมาะสม
356.051 -> เราจะได้ไก่ที่ให้ไข่ดก
359.105 -> แล้วการให้ผลผลิตไข่ก็จะให้ผลผลิตไข่ได้นาน
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=-6aeLeozqUI