[รีวิว] Toyota Altis HEV GR Sport รถไฮบริดสเปครถแข่ง I โตโยต้านครพิงค์ Official

[รีวิว] Toyota Altis HEV GR Sport รถไฮบริดสเปครถแข่ง I โตโยต้านครพิงค์ Official


[รีวิว] Toyota Altis HEV GR Sport รถไฮบริดสเปครถแข่ง I โตโยต้านครพิงค์ Official

อีกหนึ่งรุ่นของ Toyota Altis ที่บอกได้เลยว่าสเปคเดียวกับรถแข่ง คือ Toyota Altis HEV GR Sport เครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1,800 CC ที่ประหยัดน้ำมัน แต่ความแรงและสมรรถนะของตัวรถเป็นเกรดเดียวกับรถแข่ง นครพิงค์ Review SS.2 EP.29 นี้ พี่ตั้มขออาสาพาทุกท่านไปรับชมรอบคันแบบละเอียดเองครับผม

------------------------------
☎️—ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม—☎️
👉 สำนักงานใหญ่ โทร. 053 999 888
👉 สาขาสันทราย โทร. 053 999 666
👉 สาขาลำพูน โทร. 052 030 999
👉 Inbox Facebook : https://m.me/toyotanakornping.cm
👉 Line@ : @toyotanakornping
👉 หรือ http://line.me/ti/p/%40ufc4047

#altis #GRSport #โตโยต้านครพิงค์ #โตโยต้า #รถแข่ง


Content

0.166 -> หากคุณกำลังมองหารถหรู เครื่องแรง สไตล์รถแข่ง และสปอร์ต
6.072 -> แต่เน้นที่ความประหยัด
8.141 -> คันนี้ตอบโจทย์
13.213 -> วันนี้เราอยู่กับคันนี้ครับผม
17.617 -> Corolla Altis HEV GR Sport
21.488 -> ราคา 1,114,000 บาท
25.959 -> มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 สี คือ
28.228 -> สีขาวมุก สีแดง และสีดำ เท่านั้นครับ
31.297 -> สำหรับคันนี้เป็นเครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 1,800 CC
37.07 -> ให้แรงม้าสูงสุด 122 แรงม้า
40.373 -> เครื่องใหญ่ขนาดนี้แต่เน้นที่ความประหยัดครับผม
43.81 -> ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 23.3 กม./ลิตร เท่านั้นเองครับ
49.849 -> มาพร้อมกับเกียร์ E-CVT ให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน
55.588 -> ในส่วนของกระจังหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด
60.56 -> เมื่อเทียบกับ Corolla Altis ในรุ่นปกติทั่วไป
63.129 -> คือ มีเส้นสายต่างๆ
64.664 -> รวมถึงตัวกันชนหน้า เหมือนจะมีสเกิร์ต แต่ไม่ใช่สเกิร์ตนะครับ
69.202 -> เป็นดีไซน์ของตัวกันชนเพิ่มขึ้นมา
71.237 -> และตำแหน่งของไฟตัดหมอกก็ย้ายมาอยู่บริเวณนี้
73.973 -> และตัวกันชนหน้าจะมีส่วนโค้งเพิ่มเข้ามา
76.776 -> ทำให้ตัวรถดูมีมิติมากขึ้น
79.245 -> รวมถึงตัวกระจังหน้าเป็นสีดำเงาตัดกับโครเมียม
83.516 -> ให้ดูแล้ว ตัวรถมีความหรูหรามากขึ้น
87.02 -> ปกติถ้าเป็นรถไฮบริดสัญลักษณ์ด้านหน้าจะเป็นสีฟ้าใช่ไหมครับ
91.491 -> แต่รุ่น GR Sport สัญลักษณ์ด้านหน้าจะเป็นสีดำ
94.16 -> เพื่อเน้นความเป็นสปอร์ตให้เข้ากับรุ่น GR นั่นเอง
97.53 -> ไฟหน้าเป็นแบบ Projector Bi-Beam LED
100.3 -> มาพร้อมกับไฟ Daytime หรือ Light Guiding
102.702 -> ให้ความส่องสว่างและความสวยงาม
104.571 -> สำหรับด้านข้างดีไซน์ยังคงเหมือนเดิม
107.64 -> แต่ว่าในส่วนของล้อแม็กจะเป็นขอบ 17 นิ้ว
110.844 -> เท่ากันกับรุ่นอื่นๆ แต่ว่าดีไซน์ของล้อแม็กจะแตกต่างกันนะครับ
116.216 -> สำหรับล้อแม็กของ Altis GR Sport จะมีการเล่นสี
119.686 -> ก็คือ เป็นสีดำปัดเงานั่นเอง
123.056 -> ทำให้ล้อมีมิติที่ขนาดใหญ่มากขึ้น
125.625 -> ดิสเบรก 4 ล้อ ยังคงมีให้เหมือนเดิมนะครับ
128.495 -> สำหรับ Altis GR Sport คันนี้
130.864 -> ช่วงล่างเราจะปรับในเรื่องของโช๊คและสปริง และสตรัทด้านหลัง
136.236 -> ให้มีความหนึบ แน่น นุ่ม และเกาะถนนดีมากยิ่งขึ้น
141.674 -> ในระบบของช่วงล่าง ด้านหน้าเป็นแบบ Macpherson strut
144.444 -> ด้านหลังเป็น Double wishbone
146.079 -> ซึ่งเป็นข้อดีของ Corolla Altis ที่มาภายใต้โครงสร้าง TNGA
151.518 -> ทำให้เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่และเกาะถนนที่ดีมากขึ้น
155.588 -> ด้านท้ายของ Corolla Altis GR Sport
158.958 -> ไฟท้ายเป็นแบบ LED ที่มีเส้นสายต่างๆ มองเห็นได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
163.763 -> มีสัญลักษณ์ GR Sport ด้านหลังเหมือนกัน
165.932 -> ในส่วนของชุดสเกิร์ตด้านหลังจะเข้าคู่กับชุดกันชนท้าย
170.069 -> และสเกิร์ตด้านหลังจะเป็นสีดำตัดกับสีตัวรถ
174.04 -> ทำให้รถมีมิติที่มากขึ้นและดูออกเป็นแนวสปอร์ต
178.178 -> คล้ายๆ ที่ผมบอกว่าขับคันนี้เหมือนขับรถแข่ง
180.547 -> ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังยังคงกว้างขวางเหมือนเดิม
183.249 -> และ Altis GR Sport เรามีเซ็นเซอร์เตือนลมยางให้ด้วย
188.288 -> เมื่อล้อมีลมยางอ่อน จะมีไฟสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด
192.058 -> แต่ไม่ได้มีการบอกว่าลมยางล้อได้อ่อน
196.696 -> เป็นเพียงสัญลักษณ์เตือนเฉยๆ
198.164 -> ซึ่งในรุ่น HEV ปกติ และ HEV GR Sport ตัวนี้ก็มีให้เช่นเดียวกัน
203.97 -> ยางอะไหล่ก็ยังมีให้เป็นล้อแม็กขนาดเท่ากับล้อมาตรฐานเลย
208.708 -> เพราะฉะนั้น เมื่อคุณเปลี่ยนยางไปแล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าล้อนี้จะไม่สวย
213.346 -> ตอนนี้เราอยู่ภายใน Corolla Altis HEV GR Sport
217.383 -> เบาะภายในจะมีการตกตแต่งด้วยด้ายสีแดง
220.753 -> และมีการเดินด้วยด้ายสีแดง ทำให้ดูสปอร์ตมากขึ้น
224.557 -> เบาะคู่หน้าของ Altis GR Sport
227.594 -> เป็นแบบปรับไฟฟ้าทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า
231.664 -> แต่ถ้าในรุ่นอื่นๆ จะเป็นเบาะปรับไฟฟ้าเฉพาะผู้ขับขี่เท่านั้น
236.502 -> ผู้โดยสารตอนหน้าจะไม่ใช่แบบปรับไฟฟ้า
238.238 -> พวงมาลัยน่าจะมีสัญลักษณ์ GR Sport และเดินด้วยด้ายสีแดง
242.475 -> เพื่อความเป็นสปอร์ตมากขึ้น
243.876 -> แต่รุ่นนี้เขาไม่ได้เดินด้วยด้ายสีแดง ซึ่งเป็นเหมือนกับรุ่นธรรมดาทั่วไป
248.248 -> ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ยังมีให้เหมือนเดิม
250.65 -> ความแตกต่างระหว่างรุ่น HEV GR Sport และ GR Sport ปกติ
254.387 -> GR Sport รุ่นปกติ จะมีเกียร์ Paddle Shift ที่พวงมาลัยเพิ่มเข้ามาให้
259.525 -> หน้าปัดเรือนไมล์เป็นแบบ TFT มีหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่
264.063 -> ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและสวยงามเหมือนเดิม
267.3 -> รุ่น GR Sport มีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่เรียกว่า Head up display
271.971 -> ซึ่งเป็นการแสดงภาพขึ้นมาบริเวณกระจกด้านหน้า
275.308 -> ผู้ขับขี่จะสามารถมองเห็นได้เลยว่าความเร็วเท่าไหร ใช่เกียร์อะไรอยู่
279.746 -> และสามารถ ปิด-เปิด หรือตั้งค่าองศาการแสดงผลได้นะครับ
282.248 -> เป็นอุปกรณ์หนึ่งชิ้นที่เพิ่มเข้ามาในรุ่น GR Sport
286.052 -> ทั้งรุ่น HEV GR Sport และ GR Sport
289.389 -> สัญลักษณ์ GR Sport ที่ปุ่ม Push Start ยังมีให้เหมือนเดิมทั้ง 2 รุ่น
294.36 -> เครื่องเสียงยังเป็นแบบหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เหมือนเดิม
298.398 -> รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
301.1 -> เครื่องปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ มาพร้อมกับระบบ Nanoe
305.438 -> แต่เสียเล็กน้อย ถ้าปรับอุณหภูมิแยก ซ้าย-ขวา
310.109 -> ก็จะเยี่ยมขนาดนี้
311.844 -> เบรกมือไฟฟ้ายังคงมีให้เหมือนเดิม
314.18 -> และที่ถูกใจอีกอย่างหนึ่งคือมี Wireless Charger ให้ด้วย
318.484 -> ภายในห้องผู้โดยสารตอนหลังกว้างขวาง นั่งสบาย
322.955 -> ติดตั้ง Car Seat ได้ไหม? ตอบเลยว่า ติดตั้ง Car Seat ได้
326.592 -> มีที่วางแขนพร้อมกับที่วางแก้วน้ำ
329.128 -> ถามว่า วางแขนได้ไหม? ก็วางแขนได้นะครับ
332.031 -> แต่ถ้าสูงขึ้นอีกเล็กน้อย ก็จะทำให้เราไม่ต้องทิ้งตัวทิ้งแขนลงไป
335.935 -> ก็น่าจะวางแขนได้สบายมากขึ้น
338.404 -> เบาะด้านหลังพับได้ด้วย ผมพับให้ดูเลย
343.142 -> กดปุ่มแล้วดึงลงมา
345.745 -> ก็สามารถพับเป็นแบบ 60:40 ได้ คือ พับแยกได้
349.549 -> เผื่อนั่งภายในรถแล้วอยากหยิบของจากห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง
353.553 -> ก็สามารถที่จะหยิบได้
355.054 -> หรือจะพับเบาะทั้งหมดก็ได้ เผื่อไว้ขนสัมภาระชิ้นใหญ่ๆ
359.325 -> ระบบปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลังยังมีให้ไหม? ยังมีให้ครับ
362.428 -> ม่านด้านหลังนี่ครับ สามารถดึงขึ้นมาเกี่ยวได้
366.632 -> สามารถบังแสงบังแดดได้
369.235 -> แต่ถ้าเป็นไฟฟ้าได้ ก็จะเยี่ยมมาก
371.671 -> และในเรื่องความปลอดภัย คันนี้มีมาให้แบบจัดเต็ม
376.709 -> ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย 7 ใบรอบคัน
378.077 -> ระบบเบรก ABS, EBD, BA, VSC, TRC
381.547 -> ระบบ PCS เตือนก่อนการชน
384.65 -> ระบบเตือนออกนอกเลนถนนและดึงพวงมาลัยกลับมาให้อยู่กลางเลน
391.324 -> BSM, RCTA
393.86 -> ไฟสูงอัตโนมัติ
395.228 -> ท่านใดที่กังวลเรื่องความปลอดภัย ผมตอบเลยว่า
397.764 -> คันนี้หายห่วง
399.499 -> เข้ามาชมได้ที่โชว์รูม โตโยต้านครพิงค์ เชียงใหม่ ทั้ง 3 สาขา
404.637 -> สำนักงานใหญ่ แยกแม่เหียะ
406.873 -> สาขา สันทราย แยกลิขิตชีวัน ทางไป ม.แม่โจ้
410.343 -> และสาขา ลำพูน แยกเทคโนโลยีหมู่บ้านครู
413.88 -> และอย่าลืม ฝากกดไลก์ กดแชร์ กดติดตาม
417.95 -> จะได้ไม่พลาดการติดตามในครั้งต่อไป
421.454 -> สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนนะครับ
424.49 -> ครั้งหน้าเราพบกับรุ่นไหน เร็วๆนี้เจอกัน
428.961 -> วันนี้ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=11gpcsXz_to