[spin9] รีวิว Lexus IS 300h สปอร์ตซีดานประกอบนอก ขับสนุกขึ้น ราคาถูกลง

[spin9] รีวิว Lexus IS 300h สปอร์ตซีดานประกอบนอก ขับสนุกขึ้น ราคาถูกลง


[spin9] รีวิว Lexus IS 300h สปอร์ตซีดานประกอบนอก ขับสนุกขึ้น ราคาถูกลง

คลิปนี้พบกับ Lexus IS 300h Luxury รถสปอร์ตซีดานหรูที่ขับง่าย นั่งสบาย ออกแบบตามสไตล์ Lexus เน้นความเนี้ยบพิถีพิถันหรูหราสไตล์ญี่ปุ่น สมรรถนะการขับขี่โดดเด่นตามปรัชญา Lexus Driving Signature ที่เพียงแค่นั่งหลังพวงมาลัยก็รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับรถ

Lexus IS 300h มี 3 รุ่นย่อย คือ Luxury, Premium และ F SPORT ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท 
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือลงทะเบียนทดลองขับได้ที่ https://bit.ly/3pgW13O

Disclosure คลิปนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Lexus Thailand

สมัครเป็นสมาชิกของช่อง spin9 เพื่อสนับสนุนการผลิตคอนเทนต์ของเราได้ที่นี่:
   / @spin9  


Content

24.932 -> สวัสดีครับ อู๋ Spin9 ครับ
25.945 -> สวัสดีค่ะ ซู่ชิง ค่ะ
27.167 -> คลิปนี้เราสองคนพามาอยู่กับรถคันนี้
28.883 -> นี่คือ Lexus IS300h Luxury ครับ
31.837 -> สปอร์ตซีดานใน Segment หรูในไซส์ Compact จากทาง Lexus นั่นเองนะครับ
36.867 -> คันนี้เป็นรถนำเข้า CBU ประกอบนอกทั้งคัน
40.052 -> ราคาเริ่มต้นเร้าใจ 2.69 ล้านนะครับ
43.397 -> ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับแบรนด์ Lexus นั่นเองครับ
46.965 -> นอกจากว่ารถคันนี้จะดีไซน์ออกมาได้แบบสปอร์ตพรีเมียม
50.703 -> แล้วก็คงความเป็น Lexus ได้อย่างเต็มรูปแบบแล้วนะคะ
53.604 -> ประสบการณ์ขับขี่ก็ยังตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ด้วย
56.555 -> เพราะว่าจะขับให้สนุกก็ได้ขับให้สบายก็ได้ค่ะ
59.656 -> ใช่ครับ รถคันนี้ถ้าเกิดจะเทียบ Segment กันตรงๆ เลย
62.909 -> ก็จะไปชนกับ BMW Series 3 หรือว่า Mercedes-Benz C-Class นั่นเองนะครับ
67.516 -> แต่อันนั้นเป็นฝั่งยุโรปครับ
68.944 -> อันนี้เป็นสปอร์ตซีดานไซส์ Compact จากทางญี่ปุ่นบ้างนะครับ
72.734 -> ซึ่ง Lexus จะมีชื่อเสียงทางด้าน Craftsmanship อยู่แล้วนะครับ
75.782 -> หลายคนหลงใหลถึงดีไซน์ของ Lexus ถึงความพิถีพิถันภายในของเขานะครับ
80.947 -> ซึ่งวันนี้เราจะได้รับชมกันอย่างละเอียดกับรถคันนี้เลยครับ
83.947 -> เดี๋ยวเราไปเดินดูดีไซน์รอบคันรถคันนี้กันค่ะ
90.579 -> IS300h Luxury ถือเป็นการปรับดีไซน์ใหม่ทั้งหมดค่ะ
95.008 -> ไม่เหมือนกับ IS ในรุ่นก่อนก่อนหน้านะคะ
97.504 -> แต่ว่าในขณะเดียวกันก็ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็น Lexus มาได้อย่างครบถ้วนเลยค่ะ
102.499 -> ใช่ครับ Lexus IS รุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบนะครับ
107.086 -> มาจากรถสุดเท่ของทาง Lexus ก็คือ LFA กับ Lexus RC นั่นเอง
111.382 -> โดยเฉพาะ Lexus RC ถ้าเกิดเราเห็นจากด้านหน้า
114.599 -> เรียกว่าถอดแบบกันมาเลยคือใกล้เคียงกับ RC มากๆ นะครับ
117.436 -> โดยเฉพาะเส้นสายที่คมมากๆ ที่ตอนนี้เป็นเอกลักษณ์ของรถ Lexus แทบจะทุกรุ่นเลยนะครับ
121.699 -> เราจะเห็นว่าพวกเส้นสายบนฝากระโปรงเส้นคมๆ แบบนี้นะครับ
125.759 -> หรือว่าเส้นที่นำลงมาหาไฟหน้าก็จะเห็นว่ามีความแหลมคมมากๆ นะครับ
131.265 -> แล้วก็มีไฟ Daytime Running Light ที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ เลยอันนี้
134.747 -> คือถ้าเกิดคันนี้ขับตามใครอยู่นะครับ
136.949 -> เราเห็นกระจกมองหลังมาเราจะรู้ทันทีว่าเป็น Lexus
139.568 -> แบบสปอร์ต ดุดัน
141.058 -> อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้รู้ทันทีเลยว่า Lexus ขับตามหลังเรามาก็คือสิ่งนี้ค่ะ
145.528 -> Spindle Grille นี่ถือเป็นเอกลักษณ์ของ Lexus เลยนะคะ
148.755 -> ให้ความรู้สึกแบบลู่ลมเป็นดีไซน์ที่ดูสวยงามมากๆ ครับ
152.287 -> ใช่ครับ นั่นก็คือกระจังหน้ารูปทรงคล้ายๆ กับนาฬิกาทราย
155.799 -> แล้วก็ทำหน้าที่เป็น Air Intake ด้วยก็คือรับอากาศเวลาที่รถคันนี้พุ่งทะยานไปข้างหน้า
161.533 -> ก็จะรับอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่ด้วย
163.954 -> ส่วนไฟหน้าที่ดีไซน์สวยเก๋อันนี้เป็นไฟหน้าโปรเจกเตอร์ LED ค่ะ
169.28 -> เส้นสายคมเข้มดุดันที่อู๋พูดถึงไปที่หน้าตัวรถเมื่อสักครู่
174.054 -> ด้านข้างของรถเองก็มีต่อเนื่องมาด้วยเหมือนกันนะคะ
177.3 -> จะเห็นว่ารถคันนี้เน้นความโดดเด่นในเรื่องการออกแบบเส้นสายมากๆ
181.796 -> เพิ่มความเป็นมิติลูกเล่นเหมือนกับรถกำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้า
185.765 -> เส้นชัดมากเลยนะ
186.956 -> ดูมาถึงข้างหลังตรงนี้จะเห็นว่าอย่าง Shoulder Line ก็โดดเด่นมากเลยทีเดียว
190.492 -> เส้นสายที่ชัดอย่างนี้ก็จะได้ความรู้สึกที่แตกต่างจากรถที่ไม่มีเส้นสายสักเท่าไหร่ที่จะโค้งลงไป
196.088 -> เห็นปุ๊บเราจะรู้เลยว่า Lexus เน้นความเป็นสปอร์ตมากๆ กับรุ่นนี้
200.872 -> ล้ออัลลอยที่ให้มาแม้ว่าจะเป็นรุ่น Luxury นี้
204.229 -> ที่ไม่ใช่รุ่นท็อปแบบ F SPORT ก็ได้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วมาแล้ว
208.06 -> ซึ่งถือว่าก็ให้มาเต็มที่นะ
209.767 -> คือไม่ต้องมาเปลี่ยนล้อเองถึงจะหล่อนะครับ
211.917 -> นี่คือหล่อออกมาตั้งแต่ที่เราออกรถเลย
215.2 -> กระจกมองข้างนี้ก็เป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกัน
217.092 -> เพราะว่าสังเกตดูว่าจะเป็นสีทูโทน
219.378 -> ครึ่งล่างจะเป็นสีเดียวกับตัวรถ
221.128 -> ในขณะที่ครึ่งบนจะเป็นสีดำเงาตรงนี้ก็เท่มาก
223.84 -> แล้วก็มีการออกแบบให้มีช่องว่างระหว่างกระจกมองข้างกับเสา A มากขึ้น
229.795 -> เพื่อที่จะลดมุมอับสายตา
231.31 -> เราว่าอันนี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากๆ เราขับรถเราจะค่อนข้างรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องสำคัญ
236.24 -> เพราะว่ามันจะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ถ้าหากว่าช่องตรงนี้ไม่มากพอ
240.866 -> ใช่ครับ เราจะเห็นไม่ครบนั่นเองนะครับ
242.406 -> ตรงนี้ถ้าเกิดเรานั่งอยู่ที่นั่งคนขับจะสังเกตชัดมากเลยว่ามันดีไซน์ที่แตกต่างออกไปเลย
247.387 -> ไม่ต้องขับรถท่านี้ใช่ป่ะ
249.6 -> นอกจากนี้ประตูรถคู่หน้าก็ยังเป็นแบบ Keyless นะคะ
253.073 -> ไม่ต้องหยิบกุญแจออกมากดก็สามารถที่จะสอดมือเข้าไปเปิดได้เลย
257.055 -> หรือว่ากดตรงนี้เพื่อที่จะกดล็อกรถค่ะ
259.89 -> อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่เราจะเห็นได้ใน Lexus ในรุ่นหลังๆ
263.281 -> ก็คือไฟท้ายรูปตัว L ที่ยาวต่อเนื่องเชื่อมจากด้านนี้ไปจนถึงด้านนู้นสีดำเงาสวยสปอร์ตมากๆ
270.836 -> ส่วนนี้เท่มากทำให้ IS รุ่นมันสวยงามมากๆ นะครับ
274.207 -> จากด้านท้ายที่เรามองเข้ามานะครับ
275.842 -> แล้วก็ยังไม่ละทิ้งความสปอร์ตด้วยก็คือเราเห็นว่าปลายท่อไอเสียออกคู่อย่างนี้เลยครับ
280.868 -> พร้อมกับชื่อรุ่นชัดเจนนะครับ
282.592 -> Lexus IS 300h
284.709 -> เราจะสังเกตว่าตรงเลข 300h จะเป็นสีน้ำเงินด้วยบ่งบอกว่าเป็น Hybrid นั่นเอง
290.191 -> มาดูพื้นที่สัมภาระบ้างนะครับ
292.554 -> อันนี้เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ IS 300h ก็คือนี่กว้างมาก
297.283 -> ลึกมากนะครับ
298.863 -> นี่คือเราเอื้อมไปแทบจะไม่ถึงเบาะหลังอ่ะ
301.726 -> เข้าไปอีกๆๆ
304.965 -> เข้าไปทั้งตัวยังได้
306.272 -> ลึกจริงนะครับ
307.259 -> แต่ว่าด้วยความที่เป็นรถไซส์ค่อนข้าง Compact หน่อย
309.927 -> ฝากระโปรงท้ายจริงๆ ก็เปิดขึ้นมันไม่ได้สูงมาก
312.226 -> ก็จะไม่ได้ปิดด้วยไฟฟ้าครับ
313.762 -> เราต้องใช้มือดึงลงมา
314.855 -> แต่ว่าฝากระโปรงท้ายเบาๆ เอง
321.272 -> เรามาดูภายในกันบ้างนะครับ
323.616 -> เป็นไงบ้างอ่ะ
325.253 -> เรารู้สึกว่ามันก็กว้างขวางสบายเลยนะ
328.337 -> แบบขนาดตัวเราอ่ะเราสูง 160 เซนติเมตรใช่ป่ะ
331.069 -> เรามานั่งแบบนี้เรารู้สึกว่ามันมีพื้นที่เหลือแบบเยอะแยะช่องวางขาก็สบาย
336.094 -> เธอสูงกว่าเรามากเธอรู้สึกยังไง
338.451 -> เรารู้สึกว่ารถคันนี้เป็นรถที่ Balance ความเป็นสปอร์ตกับพื้นที่ใช้สอยภายในได้ค่อนข้างดีเลย
345.192 -> คือมันอยู่ในจุดสมดุลมากๆ
347.133 -> คือรถบางคันน่ะที่เน้นพื้นที่ภายในเยอะๆ
350.073 -> ข้างนอกจะดูไม่ค่อยสปอร์ตหรอก
351.552 -> หลังคามันก็จะสูงกว่าหน่อยนะครับ
353.901 -> สโลปข้างนอกมันจะดูไม่ได้
355.247 -> ในขณะที่รถที่เน้นความสปอร์ตมากๆ ข้างหลังก็จะอึดอัดจนนั่งไม่ได้
359.137 -> แต่ไม่เกิดขึ้นกับรถคันนี้เพราะว่าเราเข้ามานั่ง Headroom เหลือนะ
363.062 -> เหลือแบบว่าถือว่าโอเคมากเลยนะ
365.304 -> แล้วก็ช่องวางขาก็เหลือมากพอสมควรเลย
368.318 -> นี่คือรถที่ Balance ได้ดีนี่คือเรายอมรับเลยว่าปกติแล้วเราก็จะมีปัญหาในการนั่งหลังพอสมควรเหมือนกัน
373.27 -> ใช่ ก็คือได้ทั้งความสปอร์ตแล้วก็ความสบายในการนั่งด้วยนะ
377.261 -> อีกอย่างหนึ่งที่สามารถสัมผัสได้ก็คือความเป็นพรีเมียมของวัสดุภายใน
381.669 -> อย่างเช่นเบาะหนังแท้สีดำขลับ
384.385 -> ก็จะตัดด้วยตะเข็บสีขาวให้ความรู้สึกแบบพรีเมียมมาก
388.316 -> เราสัมผัสได้ตั้งแต่เข้ามานั่งนะครับ
390.122 -> รวมถึงพรมนี่คือใส่ใจไปถึงพรมเลยนะ
392.635 -> เราเข้ามาเหยียบรู้เลยว่านี่เป็นรถที่มีพรมที่หนากว่าปกติ
396.916 -> ผู้หญิงสัมผัสได้แน่ๆ
398.372 -> ความพรมหนามันดียังไง
400.339 -> เรารู้สึกว่าเราชอบรถที่มีพรมหนาเพราะเวลาที่เรามานั่งอ่ะ
403.762 -> แล้วบางทีเราเหนื่อยๆ มาเราอาจจะไปทำงานมาใส่ส้นสูงมาทั้งวันนะ
407.401 -> การที่ถอดรองเท้าแล้วก็เท้าเราได้สัมผัสถึงความหนาของพรมความนุ่มของมันน่ะ
412.765 -> มันจะเหมือนแบบหายเหนื่อยเลยอ่ะ
414.406 -> ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ
415.376 -> นี่คือสิ่งที่ Lexus เก่งในเรื่องของ Craftsmanship มากๆ
417.953 -> อยากให้สังเกตเรื่องนี้เมื่อกี้ตอนที่เราเข้ามา
419.553 -> สังเกตเสียงปิดประตูนะ
422.364 -> คือมันแน่น
423.478 -> คือมันจะไม่เหมือนกับรถที่เราเข้ามาปุ๊บปิดประตูแล้วดังแชะ
427.494 -> อันนั้นพวกสิ่งต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้มันเสริมความแบบพรีเมียมของรถคันนี้ให้คนที่เข้ามาใช้งานรู้สึกได้เลย
435.557 -> โดยที่แทบจะไม่ต้องอธิบายกัน
437.331 -> นั่งอยู่ข้างหลัง 2 คนตรงนี้ก็จะมีที่วางแขนวางได้เลย
443.045 -> มี Cup Holder สำหรับผู้โดยสารแถวหลังซ้ายขวา
446.792 -> มีแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลังแยกซ้ายขวา
450.145 -> แต่ว่าสิ่งที่ขาดไปก็จะไม่มีตัวพอร์ต USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง
456.742 -> หลังคาจะบุเป็นผ้านะคะ
458.54 -> ในขณะที่แผงประตูก็จะเป็นงานไวนิลค่ะ
461.28 -> โดยรวมแล้วก็ให้ความรู้สึกที่ดีเลยแหละ
463.723 -> เรามาต่อที่ตำแหน่งคนขับกับผู้โดยสารด้านหน้ากันบ้างนะครับ
467.695 -> Lexus ไม่ได้ออกแบบด้านนอกใหม่เพียงอย่างเดียวสำหรับ IS รุ่นนี้นะครับ
472.083 -> แต่ว่าด้านในก็ถูกออกแบบไว้ใหม่ด้วยนะครับ
474.471 -> ทาง Lexus มีปัญญาที่เรียกว่า Human-Centered อยู่
477.897 -> นั่นก็คือเวลาที่เขาออกแบบมาเขาจะเน้นในการใช้งานที่สัมพันธ์กันกับดีไซน์มากๆ
483.756 -> ยกตัวอย่างเช่นในตำแหน่งของคนขับก็จะปรับสิ่งต่างๆ ได้อย่างถนัดมือมาก
488.99 -> นี่คือปรับด้วยไฟฟ้าทั้งหมดเลยนะครับ
490.339 -> พวงมาลัยปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทางอย่างนี้นะครับ
493.234 -> รวมถึงปุ่มต่างๆ ถ้าสังเกตดูนะครับ
495.436 -> ตำแหน่งของคอนโซลตำแหน่งของปุ่มปรับโหมดอะไรต่างๆ
499.288 -> มัน Within reach ของเราทั้งหมด
500.798 -> ก็คือเราสามารถที่จะควบคุมทุกอย่างได้
503.463 -> โดยที่ไม่ต้องเอื้อม
504.479 -> มีการปรับขนาดหน้าจอตรงนี้ให้ใหญ่ขึ้นอันนี้เป็น 8 นิ้วทัชสกรีนนะครับ
509.322 -> ขยับหน้าจอให้ใกล้เรามากขึ้น
511.335 -> เพราะว่าเวลาที่เราขับขี่อยู่เราสามารถที่จะแตะหน้าจอได้โดยที่ไม่ต้องเอื้อม
515.581 -> อันนี้คือมันเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาใส่เข้ามา
518.539 -> ให้คนขับรู้สึกว่านี่คือมันถูกออกแบบมาเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลแล้วก็ราบรื่นที่สุด
523.749 -> นอกจากการออกแบบที่เป็น Human-Centered แล้วนะคะ
526.259 -> ก็จะเห็นว่าดีไซน์ต่างๆ ที่อยู่ข้างในอย่างเช่นแอร์หรือว่า Dashboard
531.296 -> ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Lexus RC
533.597 -> ทำให้มีความสปอร์ตเลยแหละ
535.202 -> แต่ว่าคงความคลาสสิกเอาไว้ที่นาฬิกาหน้าปัดกลมอนาล็อก
539.829 -> เราชอบรถที่มีนาฬิกาอนาล็อกอยู่ตรงกลาง
542.992 -> มันมีลูกเล่นนะ
543.784 -> ในขณะที่อย่างอื่นๆ ก็ไฮเทคขึ้นไปแล้วนะครับ
546.755 -> หน้าจอทัชสกรีนตรงนี้รองรับ Apple CarPlay
549.224 -> นี่เราเสียบเชื่อมต่อไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ
551.68 -> ก็เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นสำหรับคนที่ใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน
555.025 -> และที่เราชอบมาก
556.641 -> ก็คือนี่แผง Touchpad สี่เหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ของรถ Lexus แทบจะทุกรุ่นในปัจจุบันเลย
561.61 -> ก็จะมีแผงตัวนี้อยู่นะครับ
562.991 -> ในกรณีที่เราวางพักแขนอยู่อย่างนี้
566.164 -> เราสามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนหน้าจอได้นะครับ
569.4 -> ผ่านปลายนิ้วสัมผัสของเรา
570.673 -> แล้วเธอก็เป็นคนที่ใช้ Touchpad แบบว่าคล่องแคล่วมากๆ ด้วยใช่ป่ะ
574.611 -> ใช่ เราชอบมาก
575.99 -> ช่องวางแก้วน้ำข้างหน้าก็จะมี 2 ช่องตรงนี้
578.6 -> แล้วก็พอร์ตเสียบสายต่างๆ ก็จะถูกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของที่วางแขนตรงนี้นะคะ
583.046 -> มี USB ให้ 2 พอร์ตเป็น USB-A ทั้ง 2 พอร์ตเลย
586.332 -> ใช่ครับ ส่วนพวงมาลัยสำหรับคนขับเป็นพวงมาลัยสปอร์ต Multi-Function
590.586 -> ที่บอกว่าสปอร์ต Multi-Function ก็คือเราจะเห็นว่าแบ่งปุ่มกดออกเป็นทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวานะครับ
595.732 -> ควบคุมความบันเทิงกับควบคุมโหมดการขับขี่
598.475 -> หรือว่าหน้าจอ Digital Display ด้านหลังตรงนี้ที่สามารถแสดงผลต่างๆ ได้ในระดับหนึ่งเลยนะครับ
603.53 -> ก็ควบคุมได้ง่ายๆ บนพวงมาลัยนี้
605.181 -> ส่วนความสปอร์ตของเขาก็คือมี Paddle Shift ด้วย
607.857 -> ในกรณีที่เราอยากจะซิ่งสักหน่อยนะครับ
609.946 -> หรือว่าอยากจะปรับเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองก็สามารถทำได้โดยสะดวกสบายมากๆ
621.274 -> โอเคครับ เราโดดขึ้นมาขับ Lexus IS 300h Luxury กันนะครับ
625.972 -> คันนี้ Lexus เขาเน้นหนักอย่างมากนะครับ
628.927 -> ให้เป็นรถสปอร์ตซีดานในไซส์ Compact
630.971 -> ซึ่งอย่างที่เห็นแหละตั้งแต่ภายนอกเขาเน้นให้คันนี้มีความรู้สึกสปอร์ตมากนะครับ
635.779 -> รวมถึงความรู้สึกในการขับขี่ด้วยครับ
637.973 -> ความได้เปรียบของเขาก็คือเขาใช้เครื่องยนต์ไซส์ใหญ่หน่อย
641.324 -> นั่นก็คือเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร
644.304 -> ถ้าเกิดไปชนกับคู่แข่งใน Segment เดียวกันอย่าง BMW 3 Series หรือว่า Mercedes-Benz C-Class
650.964 -> ส่วนมากเขาก็จะใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรกัน
653.441 -> คันนี้ได้ไซส์ใหญ่ขึ้นเป็น 2.5 ลิตรนะครับ
656.313 -> บวกกับเป็นเครื่องยนต์ Hybrid ด้วยที่ Lexus ถนัดอยู่แล้วนะครับ
660.305 -> หลายรุ่นของ Lexus ที่ผ่านมาก็ใช้เครื่องยนต์ Hybrid นี่แหละ
663.501 -> รวมถึงบริษัทแม่อย่าง Toyota
665.406 -> ก็มีประสบการณ์ในการทำเครื่องยนต์ Hybrid มาอย่างยาวนานหลากหลายรุ่นนะครับ
669.08 -> ก็จะมีความเสถียรอย่างมากอยู่แล้ว
670.55 -> รวมถึง Hybrid ของเขาก็ได้ 2 ประโยชน์ด้วยกัน
673.472 -> ก็คือได้ทั้งเรื่องความประหยัดกับได้เรื่องของพละกำลัง
677.161 -> ที่จะมาช่วยในยามที่เราต้องการพละกำลังในการขับขี่ค่อนข้างมากนะครับ
680.975 -> ดังนั้นพอ 2 ส่วนรวมกันเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 4 สูบ
684.486 -> บวกกับตัวมอเตอร์ไฟฟ้าคันนี้พละกำลังรวมสูงสุดถึง 223 แรงม้า
689.757 -> ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยนะครับ
691.62 -> สำหรับรถ Segment นี้แม้กระทั่งรุ่นเริ่มต้นแบบนี้
694.965 -> ได้พละกำลังขนาดนี้แล้วการขับขี่สนุกสนานแน่นอนครับ
698.23 -> ซึ่งความรู้สึกที่ได้ก็แน่นอนเลยคือเป็นไปตามคาดเลยนะครับ
701.526 -> คือเป็นรถที่ขับสนุกการตอบสนองต่อคันเร่งยอดเยี่ยมมาก
704.695 -> คือแทบจะไม่มีแล็กเลย
706.529 -> คือจังหวะที่เราต้องการแบบเร่งแซงหรือว่าต้องการความเร็วขึ้นมาหน่อย
711.35 -> กดคันเร่งไปปุ๊บค่อนข้างตามเท้าเลย
713.662 -> แม้กระทั่งนี่อยู่ในโหมดธรรมดานะ
716.172 -> ยังไม่ทันได้เข้าสู่โหมดสปอร์ตเลย
718.254 -> ปกติแล้วถ้าเกิดรถอยู่ในโหมด Default โหมด Normal อย่างนี้
721.174 -> มันจะมีแล็กนิดหนึ่ง
722.45 -> คือเขาจะเผื่อไว้สำหรับว่าอยากจะขับประหยัดน้ำมันหรือเปล่า
727.007 -> หรือว่าต้องการความนุ่มนวลในการขับขี่หรือเปล่า
729.233 -> แต่ว่าคันนี้ในโหมด Normal ปกติถือว่าให้ความสปอร์ตค่อนข้างมากเลยนะดูสิ
736.16 -> และยังไม่พอแค่นั้นก็คือในช่วงจังหวะที่เราต้องเข้าโค้งมันให้ความรู้สึกมั่นใจไหม
741.675 -> ช่วงล่างมันแน่น
744.8 -> มันก็จะมีรถที่เรารู้สึกว่าเราเข้าโค้งแล้วเรารู้สึกอุ่นใจว่าเราเอา
748.475 -> กับรถที่เราจะรู้สึกว่ามันใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ไหวป่ะ
752.137 -> คือนี่ถือว่าหนึบมาก
753.582 -> เรารู้สึกว่าโอเคเราไม่ได้ขับเองเรานั่งเรายังสบายใจเลย
757.297 -> เพราะถ้าเราไม่สบายใจเราจะบอกเธอว่าเธอๆๆๆ
760.445 -> นี่ Set up มาถือว่านี่โหมด Normal หรือโหมด Sport ยังต้องก้มดูว่าเราเข้าไปหมดหรือเปล่า
765.695 -> แล้วพูดถึงโหมดการขับขี่คันนี้ก็มีมาให้ 3 โหมดซึ่งก็อาจจะเหมือนกับรถยนต์ส่วนมากในตลาด
771.002 -> ก็โหมด Normal ที่เราพูดถึงเราสามารถที่จะหมุนปุ่มปรับโหมดตรงนี้ข้างขวา 1 ครั้ง
775.825 -> ให้กลายเป็นโหมด Sport ได้
777.7 -> โหมด Sport ปุ๊บบริเวณหน้าปัดดิจิทัลด้านหลังพวงมาลัยก็จะมีสีแดง
781.657 -> บอกเราพร้อมกับข้อความกำกับว่า Sport นะครับ
783.92 -> ความรู้สึกที่รับรู้ได้ก็คือการตอบสนองต่อคันเร่งเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก
788.147 -> กับตัวรถยนต์จะพยายามใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูง
792.06 -> ก็คือใช้เกียร์ที่ต่ำเพื่อที่เราพร้อมจะเร่งแซงได้ตลอดเวลานะครับ
796.252 -> ดังนั้นพอเข้าสู่โหมดนี้เราจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ในรอบที่สูงขึ้นมาหน่อย
801.44 -> แต่ว่ามันก็ได้ความเร้าใจในการขับขี่เพิ่มเติมขึ้นมา
804.884 -> แต่ว่ามันจะเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ
807.068 -> แต่ว่านี่เป็น 4 สูบแถวเรียงนะครับ
808.676 -> เสียงเครื่องยนต์ก็ค่อนข้างเพราะเลยทีเดียว
812.64 -> กับอีกหนึ่งโหมดก็คือโหมด Eco นะครับ
814.815 -> ถ้าเกิดเราผลักมาทางด้านซ้ายก็จะเข้าสู่โหมด Eco ครับ
818.577 -> ตัวหน้าปัดด้านหลังพวงมาลัยก็จะปรับเข้าสู่โหมด Eco นะครับ
821.726 -> เราก็จะเห็นว่ามีสีน้ำเงินมากำกับว่าตอนนี้ขับอยู่ประมาณนี้กดคันเร่งน้ำหนักประมาณนี้
826.959 -> ยังถือว่า Eco อยู่นะยังถือว่าประหยัดน้ำมันอยู่นะ
829.383 -> คอยบอกเรานะครับ
830.369 -> เพื่อให้เราขับขี่ได้อย่างประหยัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
833.225 -> เพราะฉะนั้นก็มีโหมดที่รองรับในความต้องการที่จะขับในหลายแบบ
837.482 -> จะขับชิลๆ Eco จะขับรถโหมดปกติหรือว่าอยากขับสนุกขึ้นมาก็ลุยไปที่ Sport เลย
843.249 -> ซึ่งก็จะมีรุ่นที่เป็น F SPORT อันนั้นจะมีโหมดเพิ่มขึ้นมาอีก 1 โหมด
846.685 -> ก็คือโหมด Sport+ อันนี้ก็จะยิ่งขับมันส์เข้าไปใหญ่เลย
850.027 -> ใช่ครับ แม้ว่าเราจะเห็นตัวเลขเครื่องยนต์สเปกเดียวกัน
853.522 -> แต่ว่าถ้าเกิดใครอยากจะขับขี่ด้วยความรู้สึกสปอร์ตเต็มที่
856.676 -> อาจจะต้องเลือกรุ่นท็อปเลือกรุ่น F SPORT ครับ
858.865 -> พูดถึงประสบการณ์ของการขับขี่
861.205 -> แฟนๆ ของ Lexus ก็อาจจะเคยได้ยินคำว่า Lexus Driving Signature
865.831 -> ที่ก็นี่แหละถือว่าเป็น Signature ของเขาเลยนะ
868.441 -> มันคือการออกแบบประสบการณ์ของการขับในแบบที่แม้ว่าทุกอย่างนี้จะตอบสนองดังใจเลยนะ
874.989 -> แต่ว่าก็จะยังคงความเงียบสงบเอาไว้
878.115 -> อย่างตอนนี้ที่เรากำลังนั่งอยู่ในตัวรถเราก็รู้สึกว่ามันก็เงียบนะ
881.867 -> มันมีความหนักแน่นอยู่อ่ะ
883.69 -> เรารู้สึกว่าเขามา Balance ดี
885.262 -> อย่างที่บอกว่าคันนี้เป็นคันที่ Lexus ตั้งใจออกแบบมากๆ นะครับ
889.775 -> คำว่าใน Driving Signature เป็นแนวคิดใหม่ของทาง Lexus
893.276 -> ซึ่งเขาเริ่มแนะนำกับ IS นี่แหละ
896.154 -> เขาบอกว่าเมื่อก่อนขึ้นชื่อว่าเป็นรถ Lexus เข้ามาขับขี่จะรู้สึกว่ามันนุ่มนวลนุ่มสบายนะครับ
902.782 -> แต่คันนี้เขาต้องการที่จะตอบสนองให้คนขับขี่สนุกสนานมากขึ้น
908.184 -> ดังนั้นอย่างที่ผมบอกเลยว่าแม้กระทั่งในโหมด Normal
911.359 -> เรายังรู้สึกว่าเขา Set up มาค่อนข้างสปอร์ตสำหรับ IS คันนี้
914.921 -> ไม่ได้เน้นแค่ความนุ่มสบายอย่างเดียวอีกต่อไปนะคะ
918.062 -> ส่วนเรื่องกับวัสดุตัวถังต่างๆ ก็มีความแข็งแรง
921.579 -> แต่ในขณะเดียวกันวัสดุก็น้ำหนักเบา
923.758 -> คือปัญญาที่เป็นหัวใจของเขาก็คือทำให้คนที่ขับมีความรู้สึกว่ารถกับคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
931.179 -> เมื่อไหร่ก็ตามที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถมันกลายเป็นส่วนของตัวเราว่ามันไม่แปลกแยก
935.987 -> เราสามารถบังคับมันได้ดั่งใจมันไปตามมือเรานี่แหละ
939.017 -> ก็เหมือนที่เธอเลยนะ
940.374 -> คือเราคิดว่านี่เป็นรถที่ทำให้คนที่ขึ้นมาทดลองขับประทับใจได้ไม่ยากเลย
944.727 -> เราพูดจริงๆ เลยว่าเราขึ้นมาขับแล้วเรารู้สึกว่านี่เป็นรถที่ทำให้รู้สึกว่ามันมั่นใจในการขับขี่มาก
950.214 -> ทีนี้มาถึงคำถามว่าแล้วทำไมต้องเป็นแบรนด์ Lexus
952.875 -> Lexus เราอยากเล่าให้ฟังเหมือนกันว่าเรามีเพื่อนเราหลายคนที่ใช้ Lexus แล้วเขาก็เป็นแฟนของ Lexus เลย
958.506 -> คือเรียกว่าถ้าเกิดจะเปลี่ยนรถอ่ะเขาก็จะยังเปลี่ยนเป็นยี่ห้อนี้อยู่
962.568 -> คือมันเป็นแบรนด์ที่มีเสน่ห์มากนะ
964.787 -> คือเราก็เชื่อว่าเราเองยังไม่เคยได้เป็นเจ้าของเหมือนกัน
967.778 -> แต่ว่าเท่าที่เราได้เคยทดลองขับ Lexus มาหลายรุ่นน่ะ
970.614 -> เราก็เชื่อว่านี่เป็นแบรนด์ที่จะทำให้คนที่ได้เป็นเจ้าของภาคภูมิใจ
975.825 -> เราว่ามันมีความเป็นเหมือนกับแสดงออกถึงตัวตนของตัวเองนะ
979.514 -> คือการเลือกรถของคนเรามันคือการแสดงออกตัวตนว่าฉันเป็นคนแบบนี้ฉันก็เลยเลือกรถแบบนี้
984.947 -> แล้วก็ Lexus มีความเป็นตรงนั้นน่ะสูงมาก
987.9 -> ก็คือคนที่เลือก Lexus แล้วเขาจะรู้สึกว่ามันนิยามความเป็นตัวเขาได้ดี
992.063 -> ใช่ อันนี้สำคัญมากต้องบอกว่ารถในกลุ่ม Luxury ในจำนวนเงินเท่ากัน
996.155 -> ตัวเลือกมีไม่น้อยเลยนะ
997.517 -> คือเขามีตัวเลือกเยอะมากเลยแต่ว่าทำไมจำนวนเงินเท่ากันถึงเลือกแบรนด์ Lexus
1002.082 -> อันนี้มันเป็นการที่จะบอกตัวตนได้หลากหลายอย่างเหมือนกัน
1005.456 -> ว่าเขาเลือกมาเป็นอย่างดีล่ะ
1007.442 -> หรือว่าเขาชอบความพรีเมียมในแบบสไตล์ญี่ปุ่น
1011.354 -> Lexus ตอบโจทย์ตรงนี้ได้
1013.137 -> ตอบคำถามได้แล้วว่าทำไมจะต้องเป็น Lexus
1016.201 -> ก็มาสู่อีกคำถามหนึ่งว่าแล้วเรื่องบริการหลังการขายล่ะ
1019.751 -> ถ้าซื้อรถ Lexus ไปแล้ว
1020.998 -> ก็คือนอกจากศูนย์ Service ที่จะมีอยู่ตามโชว์รูมของ Lexus แล้วใช่ป่ะ
1025.446 -> ก็จะยังมีเป็น Lexus Service Corner
1027.781 -> ที่จะอยู่ตามศูนย์ให้บริการของ Toyota ในหัวเมืองใหญ่ๆ หลายที่เลย
1032.197 -> ดังนั้นเวลาที่เราซื้อรถ Lexus ไปเราก็จะอุ่นใจได้
1035.733 -> ว่าศูนย์บริการเขาก็จะครอบคลุมเพราะว่าก็เข้าไปใน Toyota ก็ได้
1038.929 -> อีกส่วนหนึ่งที่ลูกค้า Lexus พูดถึงกันเยอะมาก
1041.945 -> ก็คือค่าอะไหล่หรือว่าค่าบริการหลังการขายมันไม่สูงเหมือนรถยุโรป
1047.24 -> อันนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์หนึ่งเหมือนกันสำหรับลูกค้า Lexus
1050.249 -> สิ่งที่สามารถซื้อได้หลังจากการซื้อรถยนต์ Lexus ไปแล้วนะคะ
1053.117 -> ก็คือ Lexus Exclusive Package หรือว่า LXP
1055.932 -> อันนี้เป็นการขยายระยะเวลาของการดูแลรถยนต์ของเราออกไปให้ยาวขึ้น
1060.76 -> ช่วยประกันเรื่องคุณภาพรถยนต์ทำให้เรารู้สึกว่าเรามั่นใจได้ในระยะยาว
1065.428 -> หรือว่าอีกทางเลือกหนึ่งนะคะ
1066.8 -> ก็คือสิ่งที่เรียกว่า KINTO One นั่นเอง
1068.992 -> ตัวนี้เป็นบริการใหม่ล่าสุดสำหรับลูกค้าบุคคลที่ต้องการจะใช้รถ Lexus ในระยะยาว
1076.237 -> แต่ว่าไม่ต้องการซื้อเป็นรูปแบบปกติ
1079.59 -> อันนี้จะเป็นการเช่าแบบ 3 ปีก็คือทำสัญญากับทาง KINTO One นะครับ
1084.206 -> มีค่าใช้จ่ายแน่นอนต่อเดือน
1086.532 -> นั่นก็คือไม่มีค่าใช้จ่ายให้เราตกใจเลย
1088.665 -> ตัวนี้ก็จะกำหนดอยู่แล้วว่าเดือนหนึ่งเราจ่ายเท่าไหร่
1091.977 -> แล้วเราก็จะได้ใช้รถซึ่งเป็นรถใหม่ป้ายแดงนะ
1094.459 -> คือเหมือนกับซื้อรถใหม่เลยแต่ว่าทาง KINTO One ดูแลให้
1098.889 -> ทั้งเรื่องบริการหลังการขายทั้งเรื่องอุบัติเหตุทั้งเรื่องประกันภัย
1102.568 -> ก็คือเรา Worry Free เลยเราก็ขับอย่างเดียวนะครับ
1106.224 -> แล้วก็ถ้าเกิดว่ามีปัญหาหรือว่าช่วงที่รถเข้าศูนย์บริการก็มีรถทดแทนให้ใช้ด้วย
1111.227 -> เพราะฉะนั้นก็เลือกได้เลยว่าจะซื้อเป็นเจ้าของรถยนต์ Lexus แบบซื้อขาดไปเลย
1115.999 -> หรือว่าจะเป็น KINTO One ก็ได้เอาที่แบบตอบโจทย์ความต้องการไลฟ์สไตล์ของเรา
1120.106 -> ได้เวลาให้เราขับหรือยัง
1122.166 -> เผลอคุยกันไปคุยกันมาลืม
1124.75 -> ขับสนุกอ่ะ
1132.661 -> เปลี่ยนซู่ชิงขึ้นมาขับแล้ว
1135.206 -> ในที่สุดกว่าจะแย่งพวงมาลัยมาจากอู๋ได้นะคะ
1138.114 -> คือแบบไม่ปล่อยเลยอ่ะ
1140.266 -> เป็นไงมั้ง
1141.254 -> ก็ประทับใจนะ
1142.745 -> คือพอเราขึ้นมานั่งปุ๊บ
1143.907 -> ความรู้สึกแรกที่เราได้คือความรู้สึกว่าสปอร์ต
1147.454 -> สปอร์ตมากเลยอ่ะ
1149.091 -> นั่งเสร็จปุ๊บแล้วความรู้สึกสปอร์ตพอสปอร์ตก็ตามมาด้วยความรู้สึกว่า
1152.7 -> หรือว่ามันจะขับยากหรือเปล่า
1154.845 -> แล้วพอเริ่มขับจริงๆ อ่ะมันกลับขับไม่ยากมันขับสบายๆ มากๆ
1159.228 -> อะไรที่ทำให้รู้สึกว่าคันนี้สปอร์ต
1161.274 -> มันเป็นความรู้สึกว่ามันเตี้ยด้วยแหละ
1163.433 -> แต่พอขับจริงเรารู้สึกว่าเราบังคับมันได้ทันทีเลย
1166.697 -> พอนั่งเสร็จปุ๊บคือพร้อมขับเลย
1168.602 -> ไม่ต้องมีการปรับตัว ไม่ต้องเรียนรู้อะไรก็ขับได้ก็ขับได้เลยที่เธอนั่งอยู่
1172.888 -> อันนี้มันเป็นคอมเมนต์ที่ตอนที่เราขับไม่มีในหัวเรา
1176.635 -> คือเราไม่ได้รู้สึกว่ามันเตี้ย
1178.557 -> แต่ความจริงแล้ว Driving Position คันนี้เมื่อเทียบกับสปอร์ตซีดานทั่วๆ ไปแล้วอ่ะ
1183.39 -> ถือว่าเตี้ยกว่าปกติเหมือนกันนะ
1185.619 -> ใช่ๆ
1186.552 -> อีกอย่างหนึ่งที่ชอบก็คือเราอาจจะมีความคาดหวังไว้ว่าให้พอขึ้นรถคันนี้ขึ้นมา
1191.641 -> มันจะเบาหรือเปล่ามันจะให้ความรู้สึกหวิวๆ ไหม
1195.475 -> แต่ไม่นะ ช่วงล่างแน่นขับแล้วก็รู้สึกว่าหนึบๆ ไปกับถนนได้อ่ะ
1201.254 -> จังหวะที่เราสัมผัสได้ชัดเจนมากก็คือรอยต่อบนทางด่วน
1206.364 -> แล้วตอนที่มันอยู่ในทางโค้งอ่ะ
1208.369 -> มันจะมีรถหลายคันเหมือนกันที่เจอรอยต่อแบบนี้แล้วอยู่บนทางโค้ง
1212.119 -> แล้วพวงมาลัยมันหวิว
1213.561 -> คือมันส่งต่อมาที่มือเราเลยรู้สึกว่ารถมันไม่ค่อยเกาะในช่วงนี้
1217.848 -> อันนี้ไม่เป็นจริงๆ
1219.861 -> แต่ก็ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าพวงมาลัยมันก็บังคับง่าย
1222.845 -> อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Lexus นี้เขามีสนามทดสอบรถที่ Shimoyama
1227.407 -> แล้วก็ออกแบบมาโดยเฉพาะเลยเพื่อการทดสอบรถ IS นี่แหละ
1231.083 -> คือออกแบบสภาพถนนมาให้หฤโหดมากๆ
1234.482 -> เพื่อที่จะทดสอบคุณภาพออกรถ
1236.645 -> โหดกว่าถนนเมืองไทยอีกหรอ
1237.764 -> เราว่าอาจจะโหดกว่า
1238.932 -> อันนี้เป็นคำถามที่ดี
1241.703 -> นี่ๆๆ เอามาทดสอบที่นี่มา
1243.619 -> เดี๋ยวขับพาไปส่งบ้าน
1246.786 -> ได้ เดี๋ยวขอย้ายไปนั่งหลังได้ไหม
1248.995 -> อยู่นี่แหละ
1258.998 -> คุณผู้ชมครับ และนี่คือรีวิวของ Lexus IS 300h Luxury นะครับ
1263.45 -> คุณผู้ชมจะเห็นจากในคลิปวิดีโอแล้วแหละ
1265.453 -> ว่านี่คือรถที่ให้ความรู้สึกการขับขี่ยอดเยี่ยมมากที่สุดคันหนึ่งของ Segment เลยนะครับ
1270.086 -> ขับขี่ได้สนุกสนานมากๆ นะครับ
1272.043 -> ทาง Lexus มั่นใจอย่างมากที่จะทำให้รถคันนี้
1275.372 -> ออกมาส่งต่อความเป็น Driving Signature ปรัชญาของเขานะครับ
1278.918 -> ให้กับคนขับรถรมถึงคนที่นั่งโดยสารกับรถคันนี้ด้วย
1281.573 -> เราชอบที่เวลาขับอ่ะรู้สึกเหมือนกับไม่ได้แปลกแยกออกจากตัวรถ
1285.476 -> คือรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันขับได้สนุกแล้วก็รู้สึกปลอดภัย
1289.603 -> ที่สำคัญมันสวยมากจะดูสิ
1291.924 -> สวยนะ อันนี้คือสิ่งที่ทุกคนจะเห็นพ้องต้องกันแน่ๆ
1295.042 -> นี่เป็นรถที่ดีไซน์สวยมากคันหนึ่งของทาง Lexus
1297.985 -> Lexus IS 300h มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกันครับ
1301.14 -> เริ่มต้นที่รุ่น Luxury ก็คือคันนี้นั่นเองครับ
1303.381 -> ขยับขึ้นไปเป็นรุ่น Premium แล้วก็ไปท็อปสุดคือรุ่น F SPORT
1306.732 -> ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.69 ล้านบาทนะครับ
1309.451 -> ถือว่าเป็น Lexus ที่มีราคาคุ้มค่าย่อมเยาที่สุดคันหนึ่งนับตั้งแต่ Lexus ทำตลาดในประเทศไทยมาครับ
1315.333 -> ใช่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Lexus Thailand นะคะ
1319.226 -> ใครที่สนใจทดลองขับก็ไปลงทะเบียนทดลองขับได้เลยค่ะ
1322.689 -> เขามีรถไปส่งให้ถึงบ้านเลยล่ะค่ะ
1324.607 -> หรือถ้าเกิดใครสะดวกไปชมคันจริงก็สามารถไปชมคันจริงได้ที่โชว์รูม Lexus นั่นเองครับ
1329.465 -> และนี่ก็คือรีวิวของ Lexus IS 300h Luxury จากเรา 2 คนครับ
1333.007 -> พบกันใหม่คลิปหน้า
1333.996 -> บ๊ายบายครับ/บ๊ายบายค่ะ

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=1MC2zMxC-jU