
ตอนที่ 6 พัฒนาการของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ 1/2
ตอนที่ 6 พัฒนาการของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ 1/2
สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์
ตอนที่ 6 พัฒนาการของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ 1/2
Content
15.763 -> ตอนที่ 6 พัฒนาการของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ 1/2
22.298 -> การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์
27.507 -> ในตอนปลายสมัยธนบุรี เกิดกบฎพระยาสรรค์
30.803 -> สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้ยกทัพเข้ามาปราบปรามจนสำเร็จ
37.259 -> จากนั้นทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์
39.756 -> เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 เมื่อพระชนมายุได้ 46 พรรษา
46.016 -> ทรงพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี
50.172 -> ศรีสินทรมหาจักรีบรมนาถ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
57.195 -> เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว
59.825 -> พระองค์ทรงตั้งเมืองหลวงใหม่ขึ้นบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา
63.671 -> ตรงข้ามกับกรุงธนบุรี
68.28 -> พระราชทานนามว่า กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์
72.765 -> มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบุรีรมย์
77.57 -> อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต
81.079 -> สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์
85.803 -> พัฒนาการด้านต่าง ๆ ของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
91.74 -> พัฒนาการในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
94.787 -> สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นอยู่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 1
98.686 -> จนถึงสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งอยู่ในช่วงฟื้นฟูประเทศในด้านต่าง ๆ
106.189 -> 1) การเมืองการปกครอง
111.396 -> ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีการจัดการปกครอง
114.603 -> ตามแบบสมัยอยุธยาตอนปลาย ดังนี้
120.721 -> (1) การปกครองส่วนกลาง (ราชธานี)
124.035 -> บริหารราชการแผ่นดิน แบบจตุสดมภ์ มี 4 ตำแหน่ง
132.195 -> กรมเวียง (นครบาล)
135.403 -> มีหน้าที่ปกครองดูแลประชาชน
138.681 -> ในเขตเมืองที่ตนรับผิดชอบปราบปรามโจรผู้ร้าย
141.64 -> และรักษาความสงบ ในเขตพระนคร
147.048 -> กรมวัง (ธรรมาธิกรณ์)
150.646 -> มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย และกิจการเกี่ยวกับพระราชสำนัก
154.723 -> และพิจารณาคดีต่าง ๆ ที่มีฎีกาขึ้นสู่องค์พระมหากษัตริย์
160.895 -> กรมคลัง (โกษาธิบดี)
164.297 -> มีหน้าที่ดูแลรายได้ส่วนพระราชทรัพย์ และรายได้แผ่นดิน เช่น
169.386 -> เก็บ ส่วย ภาษี อากร ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
172.061 -> และติดต่อค้าขายระหว่างต่างประเทศกับต่างประเทศ
175.729 -> เรียกว่า งานกรมท่า ได้แก่ หัวเมืองชายฝั่งทะเลรอบอ่าวไทย
183.125 -> กรมนา (เกษตราธิการ)
186.598 -> มีหน้าที่จัดทำนาหลวง
188.9 -> ดูแลการทำไร่นาของราษฎรและจัดเก็บภาษีเป็นข้าว
193.012 -> เรียกว่า เก็บหางข้าว ไว้ใช้ในยามศึกสงคราม
198.349 -> การบริการราชการแผ่นดินนอกจากมีจตุสดมภ์แล้ว
202.692 -> ยังมีอัครมหาเสนาบดี 2 ตำแหน่ง เป็นการแบ่งข้าราชการเป็น 2 ฝ่าย คือ
210.958 -> ฝ่ายทหาร (สมุหพระกลาโหม)
215 -> ทำหน้าที่บังคับการกลาโหมรับผิดชอบดูแลกิจการทหารทั้งประเทศ
219.521 -> และหัวเมืองปักษ์ใต้ทั้งหมด
221.751 -> ซึ่งคล้ายคลึงกับกระทรวงกลาโหมในปัจจุบัน
226.342 -> ฝ่ายพลเรือน (สมุหนายก)
229.911 -> ทำหน้าที่บังคับบัญชาการงานมหาดไทย
232.834 -> รับผิดชอบและดูแลฝ่ายพลเรือนทั้งประเทศ
235.331 -> และหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมด
237.704 -> โดยมีจตุสดมภ์ 4 ตำแหน่งดังกล่าว
240.201 -> ทำหน้าที่บริหารขึ้นตรงต่อสมุหนายก
242.964 -> ซึ่งคล้ายคลึงกับกระทรวงมหาดไทยในปัจจุบัน
247.272 -> (2) การปกครองส่วนภูมิภาค (หัวเมืองภายในพระราชอาณาจักร)
252.823 -> มีการแบ่งการปกครองหัวเมืองออกเป็น 3 ส่วน เหมือนสมัยอยุธยา คือ
260.095 -> เมืองที่อยู่รายรอบราชธานี จัดเป็นเมืองจัตวามีหัวหน้าปกครอง
265.414 -> เรียกว่าผู้รั้งเมือง หรือจ่าเมือง
270 -> เมืองพระยามหานคร ได้แก่ เมืองซึ่งอยู่ห่างจากราชธานีออกไป คือ
275.639 -> หัวเมืองชั้นเอก ชั้นโท ชั้นตรี ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของเมืองหลวง
282.113 -> พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งพระราชวงศ์
284.646 -> หรือขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไปเป็นเจ้าเมืองปกครอง
289.575 -> เป็นเมืองชายแดนของคนต่างชาติ ต่างภาษา
293.049 -> มีฐานะเป็นเมืองประเทศราช เช่น
295.653 -> ญวน เขมร เวียงจันทน์ หลวงพระบาง เป็นต้น
298.984 -> สำหรับเจ้าเมืองนั้นได้รับการแต่งตั้งจากเมืองหลวง
302.049 -> เรียกว่า เจ้าประเทศราช
304.049 -> ซึ่งอาจแต่งตั้งไปจากเมืองหลวงหรือเชื้อพระวงศ์ในหัวเมืองนั้นๆ เอง
308.197 -> โดยให้สิทธิในการจัดการ ปกครองภายในแก่เจ้าประเทศราช
312.541 -> ยกเว้นหากเกิดความไม่สงบ
314.114 -> ภายในทางเมืองหลวงอาจเข้าแทรกแซงได้
319.505 -> 2) ด้านสังคมและวัฒนธรรม
325.227 -> สังคมไทยในสมัยนี้ยังคงเป็นไปตามแบบแผนของสมัยอยุธยา
330.156 -> ซึ่งอาจแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ
334.162 -> ระดับชนชั้นปกครอง ได้แก่
336.677 -> พระมหากษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ ขุนนาง และข้าราชการระดับต่างๆ
343.186 -> ระดับชนชั้นที่ถูกปกครอง ได้แก่ ไพร่ และทาส
348.961 -> สภาพสังคมสมัยนี้ยังเป็นไปตามระบบศักดินาอยู่
353.055 -> โดยที่พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจสูงสุด
356.599 -> ตามความเชื่อว่า กษัตริย์ทรงเป็น สมมติเทพ
359.167 -> ตามแนวคิดของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
362.233 -> มีการซื้อขายทาส แต่มีนายเป็นจำนวนมากที่เลี้ยงดูทาสเหมือนญาติ
366.772 -> ส่วนประชาชนทั่วไปมีการโยกย้ายถิ่นที่อยู่
370.512 -> ไม่ค่อยแน่นอน เพราะเป็นสภาพหลังศึกสงคราม อีกทั้งมีคนต่างด้าว
377.376 -> ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนเข้ามาพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
382.997 -> รัชกาลที่ 1 ทรงแก้ปัญหาความสับสนของบ้านเมืองดังกล่าว
386.79 -> ให้อยู่ในความสงบ เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยการนํากฎหมาย
390.246 -> ในสมัยอยุธยามารวบรวมสอบใหม่ให้ถูกต้อง
393.453 -> เรียกชื่อใหม่ว่า กฎหมายตราสามดวง
396.713 -> ซึ่งประทับตราด้วย ราชสีห์ คชสีห์ และบัวแก้ว
400.813 -> ใช้เป็นหลักในการปกครองประเทศมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 4
407.304 -> ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
410.121 -> ได้มีการฟื้นฟูและสร้างสรรค์ผลงานทางด้านศิลปวัฒนธรรมไว้มากมาย
415.76 -> เช่น
417.991 -> รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้มีการสังคายนาพระไตรปิฎก
424.429 -> โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์ วัดต่างๆ เช่น
427.991 -> วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
434.801 -> - ทรงพระราชนิพนธ์วรรณกรรม เช่น
437.138 -> บทละครรามเกียรติ์ นิราศรบพม่าที่ท่าดินแดง
442.6 -> รัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้มีการสร้างวัด
446.411 -> และบูรณะปฏิสังขรณ์วัดต่างๆ เช่น วัดอรุณราชวราราม
452.689 -> ทรงพระราชนิพนธ์วรรณกรรม เช่น อิเหนา สังข์ทอง เป็นต้น
459.624 -> ทรงอุปถัมภ์กวีที่มีชื่อเสียง เช่น สุนทรภู่
465.387 -> รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้มีการสร้างวัดและบูรณปฏิสังขรณ์วัดต่าง ๆ
472.872 -> ทรงโปรดให้จารึกความรู้ต่างๆ ไว้บนแผ่นศิลา
476.345 -> และนําไปประดับไว้ ที่รอบพระอุโบสถวัดต่าง ๆ
480.284 -> เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
485.775 -> 3) ด้านเศรษฐกิจ
490 -> ประชาชนส่วนใหญ่ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
493.97 -> มีอาชีพหลัก คือ การทำกสิกรรม เป็นเศรษฐกิจแบบเลี้ยงตนเอง
499.041 -> และมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ เช่น
502.266 -> ประเทศจีน ชวา มลายู และประเทศตะวันตก
508.26 -> การค้ากับต่างประเทศนั้นส่วนใหญ่ค้าขายทางทะเลโดยเรือสำเภา
513.1 -> มีพระคลังสินค้าทำหน้าที่ผูกขาดการซื้อขายสินค้า
517.532 -> รายได้ของแผ่นดินนั้นจะได้จากการเก็บภาษี 4 ประเภท
521.893 -> เช่นเดียวกับในสมัยอยุธยา คือ จังกอบ อากร ส่วย และฤชา
529.449 -> สินค้าที่ส่งออกขายต่างประเทศส่วนใหญ่ ได้แก่ ข้าว
533.171 -> น้ำตาล พริกไทย ดีบุก รังนก ฝาง และของอื่น ๆ ในพระคลังสินค้า
542.361 -> โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการทำสัญญาทางการค้า
546.988 -> ระหว่างไทยกับอังกฤษเมื่อ พ.ศ. 2369
551.775 -> เรียกว่า สัญญาเบอร์นี
553.775 -> และได้ทำสัญญากับสหรัฐอเมริกาในทํานองเดียวกัน
557.409 -> จึงทำให้พ่อค้าต่างประเทศเข้ามาค้าขายในกรุงเทพฯ มากขึ้น
561.823 -> ทำให้ไทยมีโอกาสส่งสินค้าออกได้มากขึ้น
566.965 -> ดังนั้นรายได้ของแผ่นดินในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
570.438 -> ได้จาก กิจการ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ภาษีอากรที่เก็บในประเทศ
575 -> และภาษีขาเข้า และรายได้จากการค้ากับต่างประเทศด้วย
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=1NWJpnr6P7A