[PODCAST] Food Choice | EP.24 - รู้ทันโรคกระเพาะอาหาร และอาหารที่เหมาะสมสำหรับโรคกระเพาะอาหาร

[PODCAST] Food Choice | EP.24 - รู้ทันโรคกระเพาะอาหาร และอาหารที่เหมาะสมสำหรับโรคกระเพาะอาหาร


[PODCAST] Food Choice | EP.24 - รู้ทันโรคกระเพาะอาหาร และอาหารที่เหมาะสมสำหรับโรคกระเพาะอาหาร

โรคกระเพาะอาจเป็นโรคที่ดูไม่อันตรายจนถูกมองข้าม แม้จะมีสัญญาณเตือนด้วยอาการต่าง ๆ เช่น อาการปวดท้องหรือมีเลือดออก แล้วปล่อยทิ้งไว้ นำมาซึ่งโรคแทรกซ้อนที่สามารถกลายไปเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในอนาคตหากไม่ได้รับการรักษาที่ตรงกับสาเหตุ

วันนี้หมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร จากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล ใน Food Choice : กินดีสุขภาพดีเลือกได้ จะมาชวนทำความเข้าใจเพื่อรู้ทันโรคกระเพาะอาหาร พร้อมแนะนำพฤติกรรมการกินอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคกระเพาะ และอาหารแบบไหนที่ผู้ป่วยโรคกระเพาะควรกินหรือควรหลีกเลี่ยง
__________________
#ความรู้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้
#FoodChoices
#MahidolChannelPODCAST
#MahidolChannel
#คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหิดล #mura
––––––––––––––––––––
📌ช่องทางการฟัง Podcast
Apple Podcasts: https://apple.co/2Oxp5FN
Spotify: https://spoti.fi/31v1Rmx
Anchor: https://anchor.fm/mahidolchannel
––––––––––––––––––––
YouTube:    / mahidolchannel​​  
Facebook: http://www.facebook.com/mahidolchannel​​
Mahidol University มหาวิทยาลัยมหิดล: https://www.mahidol.ac.th/th​​
Website | https://channel.mahidol.ac.th/
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล | https://med.mahidol.ac.th


Content

0.001 -> [เสียงดนตรี]
3.282 -> You're listening to Mahidol Channel Podcast.
6.136 -> Listen for a better life.
8.953 -> ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
11.32 -> และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel
14.88 -> โดย มหาวิทยาลัยมหิดล
16.931 -> [เสียงดนตรี]
20.495 -> วันนี้คุณกินอะไร
22.447 -> อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร
27.052 -> วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย
29.202 -> เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา
33.272 -> กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋
38.062 -> แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
40.224 -> คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
44.409 -> [เสียงดนตรี]
47.706 -> สำหรับโรคกระเพาะเป็นโรคยอดฮิต ของคนเมืองในปัจจุบันนี้เลยทีเดียว
51.908 -> หลาย ๆ คนก็บอกว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะ
54.314 -> หลาย ๆ คนก็รู้สึกว่า เอ๊ะ ฉันน่าจะเป็นนะคะ
57.2 -> จริง ๆ โรคกระเพาะนี่ บางคนก็เป็นอยู่นานแล้ว
59.564 -> หรือว่าบางคนก็อาจจะบอกว่า
61.015 -> เฮ้ย มันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น่ะ ไม่ต้องไปหาหมอหรอก
63.33 -> เดี๋ยวไปซื้อยากินเองก็ได้
64.845 -> โรคกระเพาะเป็นเรื่องเล็กจริงหรือเปล่า
66.666 -> วันนี้เราจะมาคุยกันว่า โรคกระเพาะมันคืออะไร
71.803 -> แล้วมันเป็นโรคเล็ก ๆ จริงไหม
73.924 -> มันไม่เกิดอันตรายอะไรเลยหรือ
76.002 -> หรือว่าโรคกระเพาะสามารถจะนำไปสู่ โรคใหญ่ ๆ หลาย ๆ อย่างที่น่าอันตรายได้
81.572 -> โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีคนถามว่า โรคกระเพาะจะเปลี่ยนไปเป็นมะเร็งไหม
84.861 -> หรือโรคกระเพาะนี่ จะทำให้เราถึงกับชีวิตได้หรือเปล่า
88.088 -> วันนี้เราจะมาคุยกัน ว่าด้วยเรื่องของโรคกระเพาะ
91.392 -> ว่าเป็นโรคเล็ก ๆ จริงหรือเปล่า
93.299 -> แล้วมาดูกันว่าโรคกระเพาะนี่ มันมีอาการเป็นอย่างไร
97.369 -> มีภาวะแทรกซ้อนอะไรหรือเปล่า
99.16 -> จะเปลี่ยนไปเป็นโรคอื่น ที่มันมีอันตรายถึงชีวิตไหม
102.416 -> มีการปรับเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพฤติกรรม
105.556 -> การเลือกอาหารอย่างไรเพื่อจะให้เหมาะสม กับคนที่เป็นโรคกระเพาะ
109.635 -> และทำให้อาการของโรคดีขึ้นค่ะ
111.798 -> [เสียงดนตรี]
117.632 -> วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของอาหาร
120.35 -> ที่ผู้ป่วยโรคกระเพาะควรจะกิน และควรจะหลีกเลี่ยง
124.265 -> ตอนแรกเราก็คงจะต้องมาคุยกันก่อน ในเรื่องของโรคกระเพาะ
127.632 -> ถามว่าโรคกระเพาะเจอบ่อยไหม
128.913 -> หลาย ๆ คนก็บอกว่า เป็น
130.499 -> ถามว่าโรคกระเพาะคืออะไร
131.983 -> จริง ๆ นี่อาการทั้งหมด มันก็จะเกิดขึ้นที่กระเพาะอาหาร
137.116 -> กระเพาะอาหารเราจะเป็นเหมือนถุงค่ะ
138.733 -> จะมีหูรูดด้านบนที่ต่อกับหลอดอาหาร
141.233 -> แล้วก็หูรูดด้านล่าง ซึ่งต่อกับลำไส้เล็กส่วนต้น
144.413 -> เอาง่าย ๆ เลยก็คือ กระเพาะมีหน้าที่ของ การรับอาหารและเก็บเอาไว้
149.471 -> เพราะฉะนั้น ส่วนใหญ่เวลาที่เราพูดกัน ในเรื่องของโรคกระเพาะ
152.53 -> ก็คือมันมีการอักเสบนะคะ
155.106 -> หรือจะเป็นแผลก็ได้
156.585 -> ของบริเวณกระเพาะอาหาร แล้วก็ลำไส้เล็กส่วนต้น
160.061 -> เวลาที่มันเกิดแผลขึ้นมานี่ มันก็จะทำให้มีอาการ
163.569 -> ก็หลังจากนั้นนี่ แผลก็อาจจะหายเองก็ได้ค่ะ
166.64 -> หรือว่าอาจจะต้องการการรักษา
168.76 -> ทีนี้บางคนก็อาจจะมีการอักเสบเรื้อรัง
172.038 -> ถ้าไม่รักษา ก็อาจจะมีเรื่องของ ภาวะแทรกซ้อนอะไรตามมาได้
176.874 -> ถามว่าหายขาดไหม
178.296 -> จริง ๆ แล้วถ้าได้รับการรักษานี่ เรื่องของกระเพาะอาหารก็จะหายขาดได้ค่ะ
182.577 -> แต่ถ้าสมมุติว่าไม่ได้รับการรักษาที่ดีนะคะ
185.624 -> หรือว่าปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง
187.343 -> ก็จะทำให้เกิดอาการอักเสบเรื้อรัง
189.593 -> หรือว่ามีการปวดหรือเจ็บป่วยเรื้อรังได้
192.968 -> ทีนี้เวลาที่มันมีปัญหาขึ้นมา
195.202 -> สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ
196.84 -> กระเพาะมันทำงานไม่ได้ใช่ไหมคะ มีอืด แน่นท้องได้
199.821 -> อาจจะมีปวดท้องได้
201.611 -> โดยเฉพาะส่วนใหญ่มักจะสัมพันธ์กับการกิน เช่น
204.279 -> พอกินอาหารเข้าไปแล้ว มีอาการปวดนะคะ
207.29 -> อาจจะมีอาการแสบร้อนได้ เพราะว่ากระเพาะสร้างกรด
211.069 -> แล้วถ้าสมมุติว่า มันทำให้เกิดการอักเสบหรือมีแผล
214.612 -> ก็จะทำให้เลือดออกได้
216.218 -> เวลาที่เลือดออก ถ้าไหลลงไปข้างล่าง
219.185 -> มันก็จะทำให้มีการถ่ายเป็นเลือด หรือว่าถ่ายเป็นสีดำได้
223.445 -> ทำไมถึงเป็นสีดำ
225.232 -> เพราะว่าเลือดที่ออกนี่ มันไหล กว่าจะไปจนถึงลำไส้ใหญ่หรือว่าถ่ายออกมานี่
231.124 -> มันก็อาจจะโดนกรด โดนน้ำย่อย
233.15 -> แล้วก็เลยทำให้กลายเป็นสีดำ
234.835 -> แต่ถ้าเลือดมันออกมาสด ๆ เลยนี่
236.945 -> มีได้ 2 อย่างค่ะ
238.248 -> มันควรจะออกจากลำไส้ใหญ่ หรือลำไส้เล็กก็ได้
242.233 -> แต่ว่าเลือดมันต้องออกปริมาณมาก
243.897 -> แล้วทำให้มันไหลอย่างรวดเร็ว
245.655 -> จนกระทั่งกลายเป็นสีออก เป็นสีแดง ๆ ได้ค่ะ
248.577 -> สำหรับสาเหตุของการที่จะทำให้เกิด โรคกระเพาะอาหาร
251.483 -> ซึ่งในที่นี้เราจะหมายถึง พวกกระเพาะอักเสบนะคะ
254.08 -> สาเหตุของโรคกระเพาะนะคะ
255.718 -> อันแรกเลยก็จะเป็นเรื่องของ การติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง
259.554 -> ซึ่งมีชื่อเพราะ ๆ ว่า เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโรไล
263.428 -> หรือว่าบางคนจะเรียกว่าเป็น เอช ไพโรไล
266.015 -> แบคทีเรียนี่ทำไมมันยังอยู่ได้ ทั้ง ๆ ที่กระเพาะเรามีกรดอยู่
270.48 -> ซึ่งความเป็นกรดเยอะ ๆ อันนี้ค่ะ
272.48 -> มันไม่ควรที่จะมีแบคทีเรียอะไรเจริญเติบโตได้
275.327 -> แต่แบคทีเรียชนิดนี้ เป็นแบคทีเรียที่ทนกรดได้
278.36 -> แล้วการที่มันอยู่ตรงนั้น
280.343 -> มันทำให้เกิดการอักเสบขึ้นที่บริเวณ เยื่อบุกระเพาะอาหาร
284.015 -> แล้วทำให้เกิดอาการได้
285.663 -> ถ้าเราไม่กำจัดเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ออกไป
289.131 -> มันอาจจะทำให้เกิดอาการของโรคกระเพาะเรื้อรัง
292.819 -> เป็น ๆ หาย ๆ อยู่นั่นได้นะคะ
295.227 -> เพราะฉะนั้น อันนี้ก็เป็นสาเหตุหลักอันหนึ่งเลย
297.358 -> ที่จะเจอว่า ทำให้เกิดเรื่องของโรคกระเพาะอาหาร
300.584 -> แล้วแบคทีเรียชนิดนี้มันมาจากไหน
302.616 -> มันก็อาจจะมีการปนเปื้อนมากับ ในเรื่องของอาหาร
305.233 -> แล้วก็น้ำดื่มที่เรากินเข้าไปนะคะ
307.53 -> เพราะฉะนั้นอันนี้ก็จะเป็นอันหนึ่งที่ คุณหมอส่วนใหญ่จะมีการตรวจหา
311.96 -> ถ้าสมมุติว่าคนไข้มีอาการของโรคกระเพาะ
314.249 -> หรือว่าส่องกล้องเข้าไปแล้ว เจอแผลในกระเพาะ
317.194 -> เดี๋ยวเราจะไปคุยในรายละเอียดกันอีกทีหนึ่ง
319.327 -> อันที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องของ การที่มีกรดในกระเพาะมากจนเกินไป
323.746 -> การที่มีกรดในกระเพาะมากจนเกินไป อันที่หนึ่ง อาจจะเป็นตัวโรคจริง ๆ นะคะ
328.012 -> ซึ่งจะมีการสร้างกรดมากเกินไปนะคะ
331.613 -> ในส่วนของปัจจัยภายนอก ที่ทำให้มีการสร้างกรดเยอะ ๆ
335.254 -> ก็อย่างเช่นว่า ความเครียด
337.043 -> อันนี้ก็พยายามลดความเครียดลงหน่อยนะคะ
340.285 -> พวกชา กาแฟ แอลกอฮอล์ทั้งหลาย
342.29 -> พวกนี้ก็จะทำให้มีการสร้างกรดมากขึ้นนะคะ
345.54 -> การสูบบุหรี่ หรือแม้กระทั่ง การรับประทานอาหารที่ไม่เป็นเวลา
349.196 -> เพราะว่าเวลาที่เรากินอาหารนี่ ร่างกายเราก็จะจำเอาไว้
352.647 -> พอถึงเวลาที่เราควรจะกินแล้ว กรดก็จะเริ่มสร้างแล้ว
355.791 -> ทีนี้ถ้าสมมุติว่ากินไม่เป็นเวลาเลย
358.386 -> หรือว่าห่างมื้ออาหารจนเกินไป
360.699 -> บางทีช่วงเวลานั้น มันมีการสร้างกรดแล้ว
362.902 -> ก็อาจจะทำให้มีอาการปวดแสบ หรือว่ามีอาการเรื่องของแน่นท้องได้
367.37 -> อันที่ 3 ก็จะเป็นเรื่องของการที่เยื่อบุผิว หรือว่าเยื่อบุกระเพาะนี่
372.183 -> มันมีการบาดเจ็บ มีการทำลายไปนะคะ
375.445 -> อันนี้ก็อาจจะเป็นจากยาค่ะ
377.053 -> หรือว่าอาจจะเป็นจากเรื่องของสารเคมีบางอย่าง
380.528 -> ยกตัวอย่างเช่น คนบางคนอาจจะกินอะไรบางอย่าง
382.982 -> ที่ทำให้มีฤทธิ์ในแง่ของการกัดกร่อน
385.607 -> แล้วทำให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุ
388.09 -> อันที่ 2 ก็จะเป็นกลุ่มที่ใช้ยา ยกตัวอย่างเช่น
392.615 -> ยาที่มีฤทธิ์ในแง่ของการที่จะทำให้เกิด การระคายเคืองที่กระเพาะอาหาร
397.412 -> ซึ่งยากลุ่มนี้นี่ เวลาที่เราจะได้ยินบ่อย ๆ
399.74 -> เขาก็จะบอกว่าให้เรากินหลังอาหารทันที กินน้ำตามเยอะ ๆ
403.38 -> เพราะว่าด้วยฤทธิ์ของยาเองนี่
404.927 -> จะมีคุณสมบัติที่อาจจะไประคายเคือง เรื่องของกระเพาะอาหารได้
408.566 -> แล้วก็กลุ่มของอาหารบางอย่าง ที่เป็นอาหารรสจัด
411.972 -> มีความเผ็ดจัด อะไรอย่างนี้ค่ะ
413.488 -> ก็อาจจะทำให้เกิดเรื่องของการระคายเคือง ของเยื่อบุกระเพาะอาหารได้
417.636 -> โดยหลัก ๆ ก็จะเป็น 3 อย่างนี้
419.773 -> ที่จะอยู่รวมกัน แล้วทำให้เกิดปัญหา
422.703 -> หรือว่าทำให้เกิดเรื่องของกระเพาะอาหารอักเสบ
425.356 -> หรือว่าเป็นแผลได้ค่ะ
426.662 -> [เสียงดนตรี]
432.494 -> ถัดมาเราก็จะมาดูว่า ภาวะแทรกซ้อน ที่จะเกิดขึ้นจากกระเพาะอาหารคืออะไร
437.252 -> เอาง่าย ๆ เลย เขามีการอักเสบใช่ไหมคะ
439.68 -> ถ้าอักเสบ มันเป็นแผล
441.412 -> แล้วแผลมันเป็นมากขึ้นนี่
443.252 -> มันก็จะทำให้เกิดเลือดออก
444.637 -> พอเลือดออกเสร็จแล้วนี่
445.845 -> สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ อาจจะมีอาเจียนเป็นเลือดก็ได้
448.99 -> หรือว่าจะมีถ่ายออกมาเป็นสีดำ หรือว่าถ่ายเป็นเลือดได้
452.17 -> ส่วนใหญ่ถ้าเกิดเป็นแผลในกระเพาะนี่
454.74 -> มักจะถ่ายออกมาเป็นสีดำค่ะ
456.877 -> เพราะว่าเลือดมันจะออกน้อย ๆ
458.689 -> กว่าที่เลือดจะออกไปจนกระทั่งถึงลำไส้ใหญ่ แล้วถ่ายออกมานี่
462.746 -> อันนี้ก็จะทำให้มีลักษณะที่เป็นสีดำ ไปเรียบร้อยแล้ว
466.603 -> แต่ถ้าเกิดออกมาเป็นสีแดงนี่
468.555 -> ส่วนใหญ่ต้องบอกว่าแผลหรือร่องรอย มันน่าจะเกิดที่ลำไส้ใหญ่
472.963 -> แต่ถ้ามันจะเกิดที่กระเพาะ แสดงว่าเลือดมันต้องออกเยอะมาก
477.35 -> นอกเหนือจากการถ่ายดำ
479.15 -> เราเสียเลือดไปเรื่อย ๆ
480.87 -> ภาวะแทรกซ้อนอันหนึ่ง ของคนที่มีแผลในกระเพาะ
483.369 -> ก็คืออาจจะทำให้ซีดได้
485.133 -> อันที่ 2 เวลาที่มันเป็นแผลอยู่เรื้อรังนี่
488.607 -> ถามว่าแผลอันนี้ มันจะเปลี่ยนไปเป็นมะเร็งได้ไหม
492.58 -> ต้องบอกว่าส่วนใหญ่ที่เราเจอก็คือ
494.986 -> มันเป็นมะเร็ง
496.01 -> แล้วมะเร็งอันนั้นทำให้เกิดแผล แล้วทำให้เกิดเลือดออก
499.197 -> โดยทั่วไป แผลที่เกิดขึ้นของกระเพาะอาหาร ถ้าเป็นโรคกระเพาะนะคะ
503.252 -> มักจะหายได้
504.463 -> แต่ว่าถ้าสมมุติว่ามันเป็นซ้ำ ๆ
507.625 -> แล้วมานึกถึงว่าเป็นแผลเป็น
509.47 -> เป็นแล้วเป็นอีก เป็นแล้วเป็นอีก
511.102 -> หรือว่ามันเป็นในตำแหน่งที่ทางออกของลำไส้
515.705 -> จากกระเพาะไปเป็นลำไส้เล็ก
517.806 -> ซึ่งมันมีช่องทางเล็กนิดเดียว
519.912 -> อันนี้มันอาจจะทำให้เกิดลำไส้อุดตันได้
522.27 -> เวลาที่ทำให้เกิดลำไส้อุดตันนี่
523.939 -> หรือว่ากระเพาะตรงส่วนปลายอุดตัน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
527.82 -> กินอาหารเข้าไปแล้วมันก็จะอืดแน่นท้อง เพราะมันไหลไม่ได้
530.619 -> ก็จะมีคลื่นไส้อาเจียนได้
532.181 -> มีเรื่องของน้ำหนักลดได้
534.188 -> เวลาคลื่นไส้อาเจียน ส่วนใหญ่พวกนี้จะเป็นหลังกินไม่นานค่ะ
537.65 -> กินเข้าไปไม่เกินครึ่งชั่วโมง อาเจียนเลยนะคะ
540.943 -> แล้วเวลาอาเจียนนี่
541.877 -> ก็อาจจะรู้สึกว่ามันมีเหมือนความเป็นกรด เปรี้ยว ๆ เรอเปรี้ยวออกมาอะไรอย่างนี้ได้เลย
547.03 -> ส่วนใหญ่พวกนี้จะมีน้ำหนักลดได้ด้วย
548.924 -> อีกอันหนึ่ง ถ้าสมมุติว่ามันเป็นแผลเนอะ
551.189 -> แผลตอนแรกมีเลือดออก
552.54 -> ถ้าแผลมันลึกเข้าไปอีก ทะลุลึกเข้าไป ก็จะทำให้เกิดกระเพาะทะลุ
557.047 -> กระเพาะทะลุคราวนี้ค่ะ
558.705 -> จะทำให้เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบนะคะ
561.583 -> อันนี้เป็นภาวะที่ค่อนข้างอันตราย
563.478 -> จะปวดท้องอย่างรุนแรงนะคะ
565.404 -> อันนี้ก็เจอได้นะคะ
567.002 -> ที่จะเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เราเจอ สำหรับในกรณีที่เป็นโรคกระเพาะค่ะ
570.448 -> [เสียงดนตรี]
576.157 -> ถ้าเราจะถามว่ามันมีอาการอะไรหรือ ที่ทำให้เราต้องรีบไปหาหมอแล้ว
580.891 -> จากที่เราคิดว่าเราเป็นโรคกระเพาะ
582.761 -> บางคนก็บอกฉันเป็นมา 5 ปีแล้ว ฉันเป็นมา 2 ปีแล้ว
585.235 -> ฉันยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย
586.734 -> กรณีที่เราจะดูว่า อาการอันนี้นะ ควรจะต้องไปเจอคุณหมอแล้ว
591.608 -> ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
593.007 -> กินยาแล้วมันไม่ดีขึ้น
594.671 -> ไม่ดีขึ้นในที่นี้ โดยทั่วไปก็ดูประมาณ 1-2 อาทิตย์
597.304 -> เพราะว่าอาการมันจะเป็น ๆ หาย ๆ หลาย ๆ คนก็รู้เวลาที่เป็นกระเพาะ
600.43 -> บางทีวันนี้เป็นอยู่วันสองวันแล้วมันก็หายไป อะไรแบบนี้
604.091 -> ถ้ามันปวด แล้วต่อเนื่องกันยาวนาน
606.686 -> กินยาแล้วก็ไม่ดีขึ้น อันนี้มาพบแพทย์ได้เลยนะคะ
609.739 -> อันที่สอง ปกติมันจะสัมพันธ์กับ เรื่องของมื้ออาหาร
614.697 -> แต่ถ้าสมมุติว่ากลางคืนเรานอนหลับไปแล้ว
617.39 -> แล้วประเภทแบบว่าปวดมาก ต้องลุกขึ้นมาอย่างนี้
620.57 -> อันนี้เริ่มไม่โอเคแล้ว
621.836 -> สมมุติเรานอนหลับไปแล้ว แล้วอยู่ ๆ เรารู้สึกปวดท้องจังเลย
624.595 -> แล้วจนกระทั่งปลุกให้เราตื่นมาอย่างนี้ค่ะ
626.877 -> อันนี้มันไม่ค่อยสมเหตุสมผล กับการที่จะเป็นกระเพาะธรรมดาแล้ว
631.007 -> อันนี้ก็ควรจะมาพบแพทย์
632.586 -> อันที่สาม เราเสียเลือดไป
635.17 -> เริ่มต้นเราอาจจะยังไม่ทันเห็นถ่ายดำ เพราะมันค่อย ๆ เสียไปทีละนิด
638.71 -> เราอาจจะมีอาการของภาวะที่เราเรียกว่าซีด
641.31 -> อาจจะมีคนทักว่าเราซีดลง
643.25 -> หรือว่าซีดไปนะคะ
645.625 -> เรามองแล้ว เอ๊ะ ทำไมปลายมือปลายเท้าเรา ก็ดูแบบว่าซีด ๆ ไป
649.61 -> มีอาการวิงเวียน หรือว่ามีอาการที่จะเหนื่อยง่าย
653.742 -> อ่อนเพลียง่าย
655.117 -> พวกนี้ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่า อาจจะเกี่ยวข้องกัน
658.492 -> หรือถ้าใครเจาะเลือด แล้วพบว่า ความเข้มข้นในเลือดต่ำลง
662.397 -> หรือคนบางคน สมมุตินะคะ
664.515 -> บริจาคเลือดมาสม่ำเสมอเลย
666.344 -> ถึงเวลาจะต้องไปบริจาคเลือดแล้ว
668.187 -> ปรากฏว่าเลือดมันลอย
669.492 -> เพราะว่าความเข้มข้นในเลือดไม่พอ
671.505 -> อันนี้ก็อาจจะต้องไปเช็กดูด้วย
673.219 -> สุดท้ายค่ะ ถ้าถ่ายเป็นสีดำ หรือว่าถ่ายเป็นเลือด
677.122 -> อันนี้ก็ควรจะต้องมาตรวจด้วย
679.11 -> เบื้องต้นก็จะประมาณนี้
681.1 -> [เสียงดนตรี]
686.516 -> ต่อไปก็คือ สมมุติว่าสงสัยแล้ว หรือว่าไม่แน่ใจก็ตาม
690.322 -> ไปหาหมอดีไหม
691.5 -> ถ้าไปหาหมอแล้วหมอจะทำอย่างไร
693.227 -> โดยทั่วไปเราก็จะตรวจอย่างนี้เหมือนกันค่ะ
695.211 -> อันที่ 1 ก็คือเราจะตรวจร่างกาย
697.6 -> อันแรกเลยสมมุติว่าเราดูว่าซีดหรือเปล่า
699.917 -> อันที่ 2 ถ้าเรากดท้องหรือว่าตรวจท้องนี่
702.656 -> เราจะดูว่า มันมีตำแหน่งที่เขาเจ็บไหม
705.505 -> หรือว่าเราคลำก้อนอะไรได้หรือเปล่า
708.11 -> ซึ่งมันอาจจะเกี่ยวข้องกับ มีลำไส้อุดตันหรือเปล่า
710.352 -> หรือว่ามีก้อนอะไรอย่างอื่นเกิดขึ้น
712.016 -> เช่น เราสงสัยมะเร็ง หรืออะไรก็แล้วแต่
714.436 -> พอตรวจเสร็จแล้วปุ๊บ เราก็จะซักถามอาการ
716.492 -> แล้วดูว่าคนไข้มีอาการอะไร ที่ทำให้เราสงสัยว่า
720.258 -> เขาจะไม่ได้เป็นโรคกระเพาะธรรมดาหรือเปล่า
723.257 -> ถ้ามีพวกนั้น
724.557 -> สิ่งที่เราจะทำต่อ ก็อาจจะมีการเจาะเลือด หรือว่ามีการส่องกล้องเพื่อเข้าไปดู
728.695 -> แต่ว่าเบื้องต้น ถ้าคนไข้ไม่มีอาการอะไรเลย
730.719 -> ส่วนใหญ่คุณหมอก็มักจะสั่งยาให้นะคะ
733.35 -> ก็มักจะเป็นเรื่องของยาลดกรด
735.156 -> หรือว่าจะเป็นยาที่จะช่วยเรื่องของ การบีบตัวของกระเพาะลำไส้
739.039 -> ให้ปรับพฤติกรรมก่อน แล้วนัดมาดูอาการ
741.492 -> อันที่ 2 ถ้าสมมุติว่าเราสงสัยจริง ๆ
744.67 -> เราตรวจเลือดแล้วมีซีดด้วย
746.313 -> หรือว่ามีประวัติการกินยาบางอย่าง ที่ทำให้เราสงสัย
749.41 -> คุณหมอเขาก็จะนัดมาส่องกล้อง
751.826 -> ส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบน ก็ต้องงดน้ำงดอาหารก่อน
755.016 -> แล้วหลังจากนั้น คุณหมอก็จะส่องกล้องเข้าไป
757.335 -> ส่องกล้องแล้วดูว่ามีแผลไหม
759.156 -> หรืออาจจะตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ
760.57 -> เพื่อจะดูว่ามีเชื้อแบคทีเรีย ที่ชื่อ เอช ไพโลไร หรือเปล่า
764.078 -> หรือบางคนก็จะให้มีการทดสอบ โดยการที่ให้หายใจ
767.874 -> เพื่อจะดูว่ามันจะมีสารบางอย่าง ที่สร้างจากตัวแบคทีเรียออกมาหรือเปล่า
772.102 -> ถ้าสร้างจากแบคทีเรียปุ๊บ
773.195 -> เวลาที่เราหายใจปุ๊บนี่
774.594 -> สารตัวนั้นมันก็จะทำให้ มีการเปลี่ยนสีของชุดทดสอบ
779.102 -> ก็จะทำให้เราสงสัยว่าอันนี้ คนไข้น่าจะมีเรื่องของการติดเชื้อ
782.819 -> ในเรื่องของตัวเอช ไพโลไรหรือเปล่า
786.277 -> ถ้าสมมุติเราเจอสาเหตุแล้ว
787.828 -> ก็จะมีการรักษาให้ตรงกับสาเหตุ เช่น
790.352 -> ถ้ามันมี เอช ไพโลไร หรือมีการติดเชื้อแบคทีเรีย
792.983 -> เขาก็จะมียาฆ่าเชื้อให้กิน 7-14 วันแล้วแต่
796.467 -> แล้วทีนี้พอถ้าเกิดรักษาแล้ว หายแล้ว
798.789 -> อันนี้ก็จะได้ไม่ต้องเป็นซ้ำอีกค่ะ
801.132 -> [เสียงดนตรี]
807.111 -> ต่อกันที่เรื่องของการรักษา
809.58 -> ก็เหมือนเดิมค่ะ ถ้าเราเจอสาเหตุ เราก็รักษาสาเหตุ
812.752 -> เจอว่ามีเอช ไพโลไร เราก็ให้ยาฆ่าเชื้อ
815.22 -> ถ้าสมมุติเราไม่เจอสาเหตุ เราก็มาดูก่อน
817.954 -> ความเครียด ปรับพฤติกรรมอะไรทั้งหมด
819.603 -> ในแง่ของยาค่ะ
821.008 -> ลดกรดค่ะ
821.916 -> เพราะว่าปัจจัยหลัก ๆ ก็คือกรดใช่ไหมคะ
824.462 -> ถ้าสมมุติว่ากระเพาะอาหาร มันบีบตัวไม่ดี มีท้องอืด มีแน่นท้อง
827.892 -> ก็อาจจะมีเรื่องของยาที่จะช่วยในเรื่องของ การบีบตัวของกระเพาะลำไส้
831.955 -> หรือว่าจะมียาขับลม
833.674 -> อันนี้ก็จะมีที่คุณหมอจะสั่งให้
836.174 -> อันนี้คือส่วนใหญ่จะเป็นยามาตรฐาน
838.312 -> แต่ในบางรายก็อาจจะมียาพิเศษ ยาเฉพาะไป อันนี้เป็นราย ๆ ไป
842.391 -> แล้วก็ต้องดูเรื่องยาตัวอื่นที่ใช้ด้วยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
845.908 -> ถ้าคน ๆ นี้กินยาแก้ปวดนะคะ
848.032 -> มีแอสไพรินอยู่
849.46 -> หรือว่ามีพวกสเตียรอยด์อะไรหลาย ๆ อย่าง
851.635 -> ที่จะทำให้เกิดเรื่องของกระเพาะอาหาร หรือว่ากระเพาะเป็นแผล
855.274 -> หรือกระเพาะอักเสบใด ๆ
856.681 -> ถ้าไม่จำเป็น ยาบางตัวเราจะให้เลี่ยง
858.931 -> ยกตัวอย่างเช่น ยาแก้ปวด เราก็จะใช้ตัวอื่นที่มันไม่กัดกระเพาะ
862.869 -> หรือว่าไม่ระคายเคืองกระเพาะ
864.181 -> แต่ถ้าในกรณีของแอสไพริน แล้วคนไข้คนนั้นจำเป็น
867.35 -> เราก็ต้องมาดูอีกว่า
868.752 -> อันที่หนึ่ง โดสนี่จะใช้เป็น แอสไพรินโดสต่ำได้ไหม
871.713 -> หรือว่าจำเป็นจะต้องมียาตัวอื่น ที่เข้าไปควบคู่ด้วย
874.813 -> เพื่อลดโอกาสในการที่จะเกิด เรื่องของกระเพาะอักเสบ
877.9 -> การรักษาอื่น ๆ ก็จะดูตามรายไป เช่น
880.666 -> ถ้ามีภาวะแทรกซ้อน
882.215 -> ถ้าสมมุติว่าเลือดออก เลือดออกไม่มาก
884.188 -> ก็จะรักษากระเพาะ
885.955 -> หรือถ้าสมมุติว่าเลือดออกในตอนนั้น
887.713 -> ส่องกล้องเข้าไปแล้วเจอจุดเลือดออก
889.727 -> คุณหมอก็อาจจะจี้นะคะ หรืออาจจะคลิป
892.844 -> ด้วยวิธีใด หรือฉีดยาก็แล้วแต่ ที่ทำให้เลือดมันหยุด
895.55 -> ถ้าสมมุติว่ามันออกเยอะมาก ๆ นะคะ
898.075 -> มันก็จะมี 2 ทาง
899.415 -> อันที่ 1 ก็คือฉีดสีเข้าไปที่เส้นเลือด แล้วก็ไปอุดเส้นเลือดที่มันไหลเลย
903.799 -> มันก็จะได้หยุด
904.572 -> หรือถ้าเกิดทำไม่ได้ แล้วอยู่ในโรงพยาบาลที่มีคุณหมอศัลยกรรม
908.72 -> ถ้าเลือดมันออกมากจริง ๆ ก็อาจจะต้องมีการผ่าตัดนะคะ
912.254 -> ผ่าตัด 2 อย่างเลยค่ะ
913.289 -> ผ่าตัดกระเพาะ หรือว่าอาจจะเป็นเรื่องของ การเย็บหรืออะไรก็แล้วแต่
917.234 -> อันนี้ก็จะเป็นเรื่องของการผ่าตัดไป
918.906 -> เดี๋ยวนี้ก็ทำน้อยลงนะคะ ในเรื่องของกระเพาะอาหาร
921.64 -> ถ้าสมมุติว่ามันเป็นเรื่องของลำไส้อุดตัน
925.156 -> อันนี้ก็ต้องเข้าไปดู
926.5 -> ส่วนใหญ่ก็จะเป็น เรื่องของการผ่าตัดเป็นหลักแหละ
928.617 -> ถ้าเกิดมันอุดตัน
929.671 -> โดยสรุปก็คือ ในแง่ของการรักษาด้วยยา
932.203 -> ก็จะมีเรื่องของยา เรื่องของการผ่าตัด
934.023 -> เรื่องของการอุดเส้นเลือด ถ้าสมมุติว่า ในกรณีที่เลือดออกค่อนข้างรุนแรง
938.451 -> แล้วที่เหลือ ก็จะเป็นเรื่องของการปรับพฤติกรรม
940.773 -> ต้องบอกว่าภาพรวมโดยส่วนใหญ่ ของคนที่พูดว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะ
944.444 -> หรือสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะนี่
946.689 -> การปรับพฤติกรรมและการปรับเรื่องอาหาร จะช่วยได้มากเลยค่ะ
950.79 -> [เสียงดนตรี]
956.734 -> สุดท้ายเราก็จะมาคุยกันว่า
958.648 -> ตอนนี้เราน่าจะยังไม่ถึงจุดที่จะต้องไปผ่าตัด
961.656 -> เราน่าจะถึงจุดที่อาจจะยังไม่ต้องไปเจอคุณหมอ
964.742 -> เราจะปรับชีวิตเราอย่างไรดี
966.789 -> เราก็มาดูตั้งแต่ตอนแรกถ้าจำได้ว่า เราพูดถึงเรื่องของความเสี่ยงมีอะไรบ้าง
971.155 -> ยาค่ะ
972.221 -> ถ้าเลี่ยงได้ ตัวที่มันมีผลกับกระเพาะ กัดกระเพาะ ระคายเคืองกระเพาะ
977.046 -> ก็พยายามกินให้น้อยลง
978.836 -> กินเท่าที่จำเป็น
980.031 -> ยาไม่ใช่สิ่งสำคัญในชีวิตขนาดนั้น
982.57 -> ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องกิน
984.132 -> เรื่องของแอลกอฮอล์
985.83 -> อันนี้ก็จะช่วยทำให้ เรื่องของตัวกรดในกระเพาะเยอะขึ้น
989.242 -> เยื่อบุกระเพาะแย่ลง
990.66 -> เพราะฉะนั้น ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะคะ
992.866 -> แล้วก็สูบบุหรี่ค่ะ หยุดเหล้า หยุดบุหรี่ อันนี้ก็จะช่วยได้
996.945 -> แล้วก็ลดความเครียด
998.359 -> เพราะว่าทั้งหมดนี้ มันก็จะทำให้เรื่องของ ตัวโรคกระเพาะอาหารนี่มันเป็นมากขึ้น
1003.046 -> [เสียงดนตรี]
1008.869 -> สำหรับพฤติกรรมที่ควรทำ หรือพฤติกรรมที่ควรกิน
1012.259 -> สำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะนะคะ
1013.93 -> อันแรกเลยก็คือ กินอาหารปรุงสุก สะอาดใช่ไหมคะ
1017.477 -> กินอาหารที่ย่อยง่าย
1020.037 -> เป็นอาหารที่อาจจะอ่อนนุ่มก็ได้
1021.837 -> ไม่จำเป็นนะคะว่าคำว่าย่อยง่าย ในที่นี้หลายคนจะบอกว่าคือข้าวต้ม
1025.84 -> ไม่ใช่เลย ไม่มีความจำเป็นว่าจะต้องเป็นข้าวต้มเลย
1028.611 -> ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าก็ถือว่าเป็นอาหารอ่อนนะคะ
1030.952 -> ของที่มันนุ่ม ๆ เคี้ยวง่าย อะไรอย่างนี้
1033.58 -> อันนี้ได้หมดเลย
1034.97 -> ก็จะช่วยทำให้กระเพาะเราไม่ทำงานหนักขึ้น
1037.606 -> เป็นของที่มีไขมันต่ำพวกนี้นะคะ
1040.244 -> เป็นเนื้อสัตว์ เช่น จะเป็นปลา เป็นไก่ เป็นอะไรอย่างนี้ได้นะคะ
1043.864 -> ไม่ใช่ของมัน
1045.103 -> อันถัดมาก็จะเป็นการกิน
1046.978 -> ถ้าเรากินทีเดียวเยอะ ๆ
1048.542 -> กระเพาะเราก็จะต้องรับอาหารทีนึงครั้งละมาก ๆ
1051.635 -> ก็จะเปลี่ยนนิสัยการกินนิดนึง ให้กินน้อย ๆ
1054.478 -> กินบ่อย ๆ ได้นะคะ
1056.225 -> กินแค่พออิ่ม หรือว่าประมาณสัก 80% ก่อนที่จะอิ่ม
1059.751 -> ไม่ต้องกินจนอิ่มแน่นนะคะ
1061.664 -> ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะอืดแน่นท้อง แล้วก็อาจจะมีคลื่นไส้อาเจียนตามมาได้
1065.83 -> แล้วที่สำคัญนะคะ ก็ควรจะต้องกินอาหารให้ตรงเวลา
1068.963 -> ถ้าเกิดหลีกเลี่ยงการกินของจุกจิกได้ก็จะดี
1072.672 -> เพราะไม่งั้นมันจะทำให้กรดหรือน้ำย่อย มันหลั่งมาตลอดที่เรากินค่ะ
1077.384 -> แต่ถ้าเรากินให้มันเป็นเวลาอย่างนี้
1079.189 -> พอถึงเวลาปุ๊บ
1080.304 -> น้ำย่อยมันหลั่งออกมา มันก็จะได้ไม่มีปัญหา
1083.2 -> ในกรณีที่จะเลือกกินพวกผักผลไม้นะคะ
1086.283 -> จริง ๆ ก็ต้องบอกว่ากินได้
1088.251 -> แต่ว่าอาจจะต้องเลือกเป็น ผักผลไม้ที่มันย่อยง่ายนิดนึง
1091.58 -> ถ้าสมมุติว่ามันเป็นพวกของไฟเบอร์ หรือว่าพวกใยอาหาร
1094.814 -> มันจะมี 2 กลุ่ม
1096.064 -> กลุ่มแรกเราเรียกว่า ละลายน้ำได้
1098.11 -> กับกลุ่มที่ 2 เราเรียกว่า ละลายน้ำไม่ได้
1100.984 -> พวกละลายน้ำไม่ได้นี่ ช่วงแรกอาจจะต้องลดและเลี่ยงหน่อย
1104.595 -> เพราะว่าพวกนี้มันจะเป็นกากใย ที่ต้องการการย่อยเยอะ
1107.882 -> แต่ถ้าเป็นพวกที่ละลายน้ำได้
1109.955 -> พวกนี้จะอุ้มน้ำได้ค่อนข้างดี
1111.947 -> นึกภาพง่าย ๆ เลยค่ะ ถ้าเรากินคะน้าแล้วมันเป็นก้าน ๆ
1114.955 -> อันนี้ถือว่าเป็นเส้นใยที่ละลายน้ำไม่ได้นะคะ
1118.125 -> อันนี้อาจจะต้องเลี่ยงนิดนึง
1119.478 -> แต่ถ้าสมมุติเรามานึกถึงแอปเปิล เรานึกถึงกล้วยอย่างนี้ค่ะ
1123.68 -> หรือว่าเรานึกถึงส้มนะคะ
1125.736 -> ซึ่งมันจะมีแบบเป็นลักษณะของ ความนุ่ม ๆ หยุ่น ๆ ของมันอยู่อย่างนี้ค่ะ
1130.336 -> อันนี้มันจะเป็นเส้นใยที่ละลายน้ำได้
1132.599 -> พวกนี้สามารถจะกินได้นะคะ
1134.579 -> เพราะว่ามันจะไม่มีปัญหากับเรื่องของ การย่อยและการดูดซึมสักเท่าไหร่
1139.812 -> แล้วเมื่อเราบอกว่า เมื่อกี้เรามีพฤติกรรมที่เราควรจะทำ
1143.892 -> สำหรับคนไข้ที่เป็นโรคกระเพาะ
1145.603 -> กินตรงเวลา ไม่กินจุกจิกใช่ไหมคะ
1148.269 -> กินน้อย ๆ กินบ่อยๆ ไม่ให้กินให้อิ่มมาก
1151.08 -> กินพวกที่มีกากใย โดยเฉพาะในกลุ่ม ที่มันเป็นเรื่องของใยอาหารที่ละลายน้ำได้
1157.105 -> กินอาหารที่เป็นอาหารอ่อน ย่อยง่าย กินอาหารที่ปรุงสุก
1160.567 -> อันนี้คือฝั่งที่ควรจะทำ
1162.196 -> แล้วมีอะไรที่ควรจะหลีกเลี่ยงบ้าง
1164.173 -> ก็คือฝั่งตรงข้ามของเมื่อสักครู่นี้
1166.408 -> อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง สำหรับคนไข้ที่เป็นโรคกระเพาะ
1169.322 -> อันแรกก็จะเป็นพวกเครื่องดื่มบางอย่าง
1171.634 -> เช่น เป็นพวกของชา กาแฟ แล้วก็เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
1175.4 -> หรือแม้กระทั่งนมนะคะ หลายคนอาจจะบอกงงนิดนึง
1178.88 -> จริง ๆ บอกว่าถ้าเป็นโรคกระเพาะ ต้องกินนมไม่ใช่หรือ
1181.283 -> ต้องบอกว่าอย่างนี้ค่ะ ถ้าเป็นโรคกระเพาะแล้วนี่
1183.657 -> เวลาที่เรารับประทานนม โดยเฉพาะนมที่เป็นไขมันเต็มส่วน
1187.314 -> มันจะมีไขมันค่อนข้างเยอะนิดนึง
1188.955 -> แล้วเวลาที่เรารับประทานไปนี่ มันอาจจะทำให้มีอาการอืดท้องได้
1192.353 -> เพราะว่าในช่วงต้นนี่
1193.759 -> เวลาที่มีกระเพาะอักเสบค่ะ
1195.369 -> ถ้ากินอาหารที่มันมีไขมันเยอะ
1197.033 -> มันจะยิ่งทำให้การบีบตัวของกระเพาะ ทำงานลดลง
1199.797 -> แล้วเช่นกันค่ะ ของที่มันเป็นพวกของทอด
1202.994 -> ของที่มีไขมันสูง อันนี้เราควรจะต้องหลีกเลี่ยง
1205.837 -> อีกอันหนึ่งที่มันควรจะเลี่ยงก็คือ ของที่ย่อยยากนะคะ
1209.871 -> หรือว่าเป็นของที่มันแข็งมาก ๆ ก็อาจจะเรียกในช่วงต้นเนอะ
1213.983 -> ไม่ได้บอกว่าห้ามกินตลอดไป
1215.806 -> อันถัดไปก็จะเป็นพวกของผลไม้ ที่อาจจะเปรี้ยวจัด ๆ
1220.531 -> หรือว่าอาหารที่มีรสจัดมาก ๆ เผ็ดจัด
1224.689 -> รวมถึงพวกของหมักของดองด้วยค่ะ
1227.327 -> อันนี้เป็นของที่เราควรจะหลีกเลี่ยงนะคะ
1230.383 -> แล้วก็จะเป็นพวกของสูบบุหรี่
1232.931 -> จะเห็นว่าในเรื่องของโรคกระเพาะนะคะ
1235.126 -> จะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็ได้
1236.689 -> เพราะว่าหลายคนก็จะรู้สึกว่าฉันก็เป็น หรือว่ามีคนเป็นเยอะแยะนะคะ
1241 -> เพียงแต่ว่าโรคเล็ก ๆ ที่คนเป็นกันเยอะ ๆ นี่
1244.228 -> ถ้าเกิดเราไม่ใส่ใจ เราไม่ดูแลนี่ อาจจะนำไปสู่โรคที่มันใหญ่ขึ้น
1249.009 -> แล้วก็มีอันตรายถึงชีวิตได้
1250.939 -> เพราะฉะนั้น ดูแลตัวเองนะคะ
1252.517 -> ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเบื้องต้น
1254.58 -> แล้วดูซิว่ามันจะดีขึ้นหรือเปล่านะคะ
1257.19 -> ถ้าสมมุติเราทำทุกอย่างแล้วดีแล้ว
1259.603 -> แต่มันยังไม่ดีขึ้น
1260.618 -> ก็ควรจะไปพบแพทย์เพื่อจะดูว่า
1262.479 -> มันมีภาวะแทรกซ้อน หรือจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่แค่โรคกระเพาะ
1267.217 -> พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้
1271.787 -> ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.
1273.945 -> ที่ Mahidol Channel Podcast
1275.954 -> ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel
1278.373 -> YouTube Mahidol Channel
1280.314 -> Apple Podcasts
1281.525 -> Spotify
1282.823 -> Anchor
1283.848 -> Joox
1284.938 -> ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
1290.259 -> [เสียงดนตรี]
1294.042 -> Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=8n-vsUGiOIQ