[PODCAST] Food Choice | EP.18 - 6 เครื่องดื่มสุดฮิต เสี่ยงโรคร้าย
[PODCAST] Food Choice | EP.18 - 6 เครื่องดื่มสุดฮิต เสี่ยงโรคร้าย
ปัจจุบันเครื่องดื่มมีให้เลือกดื่มมากมายไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม ครื่องดื่มชูกำลัง ชานมไข่มุกหรือน้ำหวานต่าง ๆ น้ำผลไม้บรรจุกล่อง น้ำดื่มวิตามินหรือเครื่องดื่มวิตามิน แอลกอฮอล์ จนทำให้ชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คนแทบจะไม่ดื่มน้ำเปล่าแล้ว เนื่องจากรสชาติที่อร่อยพร้อมสรรพคุณที่อ้างถึง ทำให้ยอมที่จะจ่ายเพื่อดื่มสิ่งเหล่านี้ แต่หารู้ไม่ว่าเครื่องดื่มเหล่านี้แฝงไปด้วยโรคร้ายจากส่วนผสมที่ใส่ลงไปอย่างคาดไม่ถึง
วันนี้หมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล ใน Food Choice : กินดีสุขภาพดีเลือกได้ จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงหรือถ้าดื่มได้ควรดื่มปริมาณเท่าไรถึงจะเหมาะสมพร้อมวิธีเลือกเครื่องดื่มอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพแบบไม่น่าเบื่อ อีกยังไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสรรพคุณของส่วนผสมต่าง ๆ ว่าดื่มแล้วดีจริงหรือไม่?
Timestamp
0:00 เปิดรายการ
1:50 1) น้ำอัดลม
4:45 2) เครื่องดื่มชูกำลัง
6:56 3) ชานมไข่มุก
10:06 4) น้ำผลไม้ และน้ำผลไม้สำเร็จรูป
12:45 5) น้ำดื่มวิตามิน หรือเครื่องดื่มวิตามิน
16:45 6) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
19:00 เครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ
__________________
#FoodChoice
#MahidolChannelPODCAST
#MahidolChannel
#คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหิดล #MURA
––––––––––––––––––––
📌ช่องทางการฟัง Podcast
Apple Podcasts: https://apple.co/2Oxp5FN
Spotify: https://spoti.fi/31v1Rmx
Anchor: https://anchor.fm/mahidolchannel
––––––––––––––––––––
YouTube: / mahidolchannel
Facebook: http://www.facebook.com/mahidolchannel
Mahidol University มหาวิทยาลัยมหิดล: https://www.mahidol.ac.th/th
Website | https://channel.mahidol.ac.th/
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล | https://med.mahidol.ac.th
Content
0.001 -> [เสียงดนตรี]
3.282 -> You're listening to
Mahidol Channel Podcast.
6.136 -> Listen for a better life.
8.953 -> ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
11.32 -> และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง
Mahidol Channel
14.88 -> โดย มหาวิทยาลัยมหิดล
16.931 -> [เสียงดนตรี]
22.728 -> วันนี้คุณกินอะไร
24.752 -> อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย
กับสุขภาพของคุณอย่างไร
29.44 -> วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย
31.59 -> เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร
ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา
35.581 -> กับรายการ Food Choice
กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋
40.371 -> แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
42.459 -> คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
46.644 -> [เสียงดนตรี]
49.54 -> วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของ
6 เครื่องดื่มสุดฮิต เสี่ยงโรคร้าย
54.845 -> ปัจจุบันนี้ทุกคนก็จะชอบดื่มเครื่องดื่ม
59.479 -> หลายคนไม่ดื่มน้ำเปล่าเลยด้วยซ้ำไปนะคะ
62.305 -> เวลาที่มันมีเครื่องดื่มมาใหม่ตามกระแส
มีเป็นระยะ ๆ
65.955 -> กินแล้วเป็นอย่างไรคะ สดชื่นใช่ไหมคะ
68.289 -> กินแล้วรู้สึกว่ามีพลัง
70.086 -> หรือบางอย่างอาจจะมีการเติมวิตามิน
เติมเกลือแร่อะไรเข้าไป
73.43 -> กินแล้วรู้สึกดี กินแล้วรู้สึกว่าสุขภาพดี
76.584 -> เสริมภูมิคุ้มกัน
78.085 -> เดี๋ยววันนี้เรามาดูกันว่า
มีเครื่องดื่มอะไรบ้าง
80.667 -> ที่มันอาจจะเกิดอันตรายกับร่างกายเรา
84.036 -> สำหรับเครื่องดื่มที่เราพูดกัน
หรือที่เราเกริ่นนำไปนี่
87.815 -> ก็จะมีตั้งแต่น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง
92.402 -> ชานมไข่มุก หรือว่าเครื่องดื่มต่าง ๆ
ที่เราเห็นขายกันอยู่ในท้องตลาด
97.429 -> น้ำผลไม้แบบที่บรรจุกล่อง บรรจุขวด
100.449 -> แล้วก็จะเป็นพวกของน้ำดื่มผสมวิตามิน
หรือว่าเครื่องดื่มที่มีวิตามินทั้งหลาย
105.45 -> แล้วก็สุดท้ายค่ะ
ก็จะเป็นเรื่องของตัวแอลกอฮอล์
109.322 -> เรามาเริ่มกันทีละอันแล้วกันนะคะ
อันแรกเลยค่ะ
112.344 -> เครื่องดื่มชนิดแรกที่เราจะคุยกัน
ก็คือน้ำอัดลม
115.092 -> น้ำอัดลมโดยเฉพาะพวกน้ำดำอย่างนี้ค่ะ
มันก็จะมีกรดอยู่เนอะ
119.229 -> กรดที่อยู่ในน้ำดำเราก็จะเรียกว่า
กรดฟอสฟอริก
121.932 -> หรือนอกจากนี้ มันก็จะมีการอัดแก๊สนะคะ
124.307 -> ทำให้เกิดพวกของกรดคาร์บอนิกเกิดขึ้นนะคะ
127.471 -> พวกนี้ถามว่ามีอะไร
128.805 -> จะมีการอัดแก๊สเข้าไปนะคะ
เพื่อจะเพิ่มความซ่า
132.063 -> จะมีการเติมน้ำตาลนะคะ
ปรุงแต่งในเรื่องของกลิ่น รส แล้วก็สี
136.898 -> ตามแต่ละรสชาติ แต่ละบริษัท แต่ละแบรนด์นะคะ
140.171 -> แต่ในภาพรวมนี่ ต้องบอกว่า
มันมีน้ำตาลค่อนข้างเยอะ
144.567 -> สมมุติถามว่าที่เราได้ยินมา
146.197 -> เราจะบอกว่าวันหนึ่ง
ไม่ให้กินน้ําตาลเกิน 6 ช้อนชา ถูกไหมคะ
149.593 -> 6 ช้อนชาหรือว่า น้ำตาลก้อนประมาณ 6 ก้อน
152.002 -> นี่คือที่เรามีโควตาจะกินทั้งวัน
154.405 -> ทั้งวันหมายถึงผสมในอาหารด้วย
แล้วก็ทุกสิ่งอย่าง
157.468 -> แต่ถ้าเราดื่มเครื่องดื่ม
ที่เป็นน้ำอัดลมเข้าไปโดยเฉลี่ย
160.795 -> 1 กระป๋องจะมีน้ำตาลก้อนอยู่ประมาณ 10 ก้อน
163.717 -> หรือว่าน้ำตาลประมาณ 10 ช้อนชา
165.375 -> ซึ่งมากกว่าที่เราแนะนำให้กินทั้งวันอีกค่ะ
168.408 -> เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
น้ำตาลในเลือดมันก็อาจจะสูงขึ้นได้
172.324 -> ไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้นได้
174.125 -> แคลอรีมากเกินไป แล้วก็อาจจะทำให้อ้วนได้
177.226 -> นอกจากนี้ค่ะ ในนั้นมันก็จะมีกรดใช่ไหมคะ
180.841 -> พวกนี้เวลาที่น้ำตาลเข้าไปปุ๊บ
โดนแบคทีเรียในร่างกาย
184.715 -> ทำปฏิกิริยากับแบคทีเรีย มีการย่อยน้ำตาล
187.407 -> ก็จะเกิดกรด
188.384 -> นอกจากนี้ยังมีกรดคาร์บอนิก
กรดฟอสฟอริก อะไรก็แล้วแต่
191.27 -> กรดพวกนี้ก็จะทำให้มีการกัดกร่อน
บริเวณของอีนาเมลของเคลือบฟัน
196.302 -> น้ำตาลที่เยอะขึ้น
แบคทีเรียในปากเราเจริญเติบโต
199.54 -> เพราะฉะนั้น มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องของฟันผุ
ฟันกร่อนได้นะคะ
204.655 -> นอกจากนี้ค่ะ ฟอสฟอรัสที่สูงขึ้น
207.19 -> ก็อาจจะทำให้มีการสลายในส่วนของกระดูก
เพื่อจะเอาแคลเซียมออกมาเนอะ
211.894 -> ก็อาจจะทำให้เพิ่มความเสี่ยง
เรื่องของกระดูกพรุนได้
214.989 -> อีกคำถามที่เจอบ่อย ๆ ก็คือถามว่า
217.287 -> ถ้าอย่างนั้นนี่ เรากินเป็นแบบ
พวกที่มันไม่มีน้ำตาลได้ไหม
221.016 -> เรายังอยากกินน้ำอัดลม
222.767 -> เรายังอยากได้รับความหวาน
เรายังอยากได้ซ่าอยู่
225.955 -> ถามว่าได้ไหม ตอบว่าได้ค่ะ
227.584 -> แต่ว่าได้ในที่นี้นี่ สิ่งที่ต่างไปก็คือ
230.499 -> ถ้าในเครื่องดื่มของเราไม่มีน้ำตาล
232.804 -> เวลาที่เรากินเข้าไป
น้ำตาลในเลือดก็จะไม่สูงขึ้น
235.64 -> แต่เรายังได้รับความหวาน หมายความว่า
รสชาติที่เราได้รับจากลิ้นยังเหมือนเดิม
239.741 -> ทีนี้พอน้ำตาลในเลือดไม่ขึ้นปั๊บ
241.448 -> ในสมองเราก็จะไม่มีน้ำตาลสูงขึ้น
243.724 -> มันก็จะไม่ไปกระตุ้นพวกของฮอร์โมน
หรือสารสื่อประสาทที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุข
248.363 -> สิ่งที่เกิดขึ้น เราได้ความซ่า
เราได้ความหวานติดลิ้น
251.563 -> แต่ว่ามันยังรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป
254.234 -> ใครที่กินพวกเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล
ก็จะรู้สึกแบบนั้น
257.678 -> สิ่งที่ตามมาก็คือ ในอาหารมื้อถัด ๆ ไป
260.979 -> เขามีแนวโน้มที่จะกินอาหารที่มี
พวกข้าวแป้งน้ำตาลสูงขึ้น
266.121 -> เพื่อจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
268.357 -> แล้วที่สำคัญคือเขาจะติดหวาน
270.62 -> ดังนั้น ในช่วงต้น ถ้าสมมุติว่าเราต้องการ
จะใช้เป็นเครื่องดื่มในช่วงเปลี่ยนผ่าน
277.124 -> เช่น เราอยากจะลด เราอยากจะหยุดน้ำอัดลม
280.15 -> แต่เรายังคงติดความรู้สึก
แล้วก็รสชาติแบบนี้อยู่
283.309 -> เราใช้ได้นะคะ
285.021 -> เครื่องดื่มชนิดที่สอง
ก็จะเป็นพวกเครื่องดื่มชูกำลัง
288.206 -> เราก็จะเห็นเครื่องดื่มชูกำลังนี่
มีคนใช้กันเยอะแยะเลย
291.677 -> เอ๊ะ เราเคยไปเปิดดูไหมคะ
ว่าในเครื่องดื่มชูกําลังคืออะไร
294.897 -> ถ้าเราไปเปิดในขวดเล็ก ๆ ที่เขาขายกันนี่นะคะ
297.773 -> มันก็จะมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก
300.109 -> อันที่ 2 จะมีวิตามินค่ะ โดยเฉพาะวิตามินบี
303.118 -> อันที่ 3 จะมีกาเฟอีนค่ะ
305.378 -> โดยทั่วไปขวดนึง
จะมีกาเฟอีนประมาณ 50 มิลลิกรัม
308.997 -> และจะมีคำเตือนเล็ก ๆ เขียนเอาไว้ว่า
ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด
312.849 -> แล้วก็มีการแต่งกลิ่น แต่งรสกันนิดหน่อย
315.78 -> ถ้าใครเคยชิมก็จะรู้สึกว่า
เปิดฝาแล้วกลิ่นมันหอมนะ
319.375 -> กินแล้วมันเหมือนเป็นน้ำหวานอะไรแบบนี้
321.476 -> อันนี้เคยมีคำถามสำหรับตัวเองเลยว่า
323.395 -> เอ๊ะ ทำไมต้องเขียนว่า
ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด
326.105 -> ในเมื่อถามว่า
ถ้าเราจะพูดถึงกาเฟอีนเนอะ
328.668 -> ระดับกาเฟอีนที่บอกว่า 50 มิลลิกรัมนี่
น้อยกว่ากาแฟที่เรากินอีก
332.348 -> ไม่เห็นมีใครเคยเตือนเลยว่า
ห้ามกินกาแฟเกินวันละ 2 แก้ว
335.978 -> แต่ว่าจะมาเตือนในเรื่องของ
เครื่องดื่มชูกำลัง
338.849 -> ก็เลยลองไปเปิดดู มันมีข้อมูลค่ะ
ด้วยความที่รสชาติมันหวาน ๆ
343.255 -> ขวดมันเล็ก ๆ
344.19 -> แล้วเขากังวลว่าในเด็ก
เคยมีข้อมูลว่าเด็กดื่ม
347.962 -> แล้วเด็กนี่ คือเขารู้สึกว่า
มันเป็นเครื่องดื่มที่หวาน ๆ
351.418 -> เป็นเหมือนน้ำหวานอะไรอย่างนี้
353.311 -> แล้วก็ดื่มเยอะ แล้วตัวเด็ก ตัวเล็กค่ะ
355.889 -> เพราะฉะนั้นมีโอกาสที่จะได้รับความเป็นพิษ
จากตัวกาเฟอีน
359.603 -> มันก็เลยมีคำเตือนขึ้นมา
361.276 -> ทีนี้ถามว่าแล้วถ้าเป็นเราล่ะ
362.651 -> ถ้าเรากินเยอะ จะเกิดอะไรขึ้น
364.311 -> กาเฟอีนที่เข้าไปค่ะ
จะกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว
367.684 -> ทีนี้เวลาที่เราได้รับกาเฟอีนเยอะ ๆ นี่
369.947 -> สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น
372.201 -> ชีพจรเต้นเร็วขึ้น แล้วก็จะมีเรื่องของ
ความดันโลหิตที่สูงขึ้น
376.179 -> เพราะฉะนั้นถ้าใครที่มีปัญหา
เรื่องหลอดเลือดหัวใจ
378.763 -> หรือมีความดันสูง
379.829 -> บางทีนี่เวลาที่เรากินพวกนี้เยอะ ๆ
381.822 -> ก็อาจจะทำให้ความดันเราสูงได้
383.761 -> อันที่ 2 เอฟเฟกต์โดยตรงของกาเฟอีนก็คือ
จะทำให้นอนไม่หลับ
386.995 -> ถ้าใครที่มีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ
หรือหลับยากอยู่แล้ว
389.711 -> อันนี้ก็จะเป็นเรื่องใหญ่
390.96 -> แต่อันนี้คือปัจจัยหลักเลยที่คนเอามาใช้
393.747 -> ก็คือใช้เพื่อที่จะทำให้เขานี่
สามารถตื่นตัว ขับรถได้ หรือทำงานต่อได้
398.872 -> ที่สำคัญค่ะ ขวดเล็กนิดเดียว
แต่ว่าปริมาณน้ำตาลมีไม่น้อยเลย
402.76 -> เพราะฉะนั้น ในกรณีของ
พวกเครื่องดื่มพวกนี้นี่
405.444 -> ก็จะมีน้ำตาลสูง
406.525 -> ถ้าเรากินมาก ก็อาจจะทำให้น้ำตาล
ในเลือดเราสูงขึ้นได้เหมือนกันค่ะ
410.899 -> [เสียงดนตรี]
415.6 -> อันที่ 3 เครื่องดื่มยอดฮิต
ของสาว ๆ ออฟฟิศเลย
419.622 -> ก็คือ ชานมไข่มุก
420.911 -> ชานมไข่มุกจริง ๆ แล้วนี่
มันมีพลังงานที่สูงกว่า 2 อันแรกที่เราพูดไป
425.498 -> เราจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มเนอะ
427.092 -> อันแรกก็คือ
ส่วนที่เป็นเครื่องดื่ม ก็คือชานม
429.61 -> กับอันที่สองก็คือส่วนที่เป็นไข่มุก
431.844 -> ในแง่ของชานม ชื่อบอกว่าเป็นชานม
434.383 -> แต่ในความเป็นจริง
เราไม่ได้ใส่นม หรือเราใส่นมน้อยมาก
437.427 -> ยี่ห้อทั่ว ๆ ไปที่ขายอยู่นี่
439.297 -> เขาจะใส่ส่วนของชาลงไป
441.068 -> มันจะเป็นชาดำเนอะ
442.332 -> เสร็จแล้วนี่ ก็จะใส่ส่วนที่เขาเรียกว่านม
445.15 -> แต่ในที่นี้ก็คือเหมือนนมข้นจืด
หรือว่าพวกครีมเทียมปรุงรส
448.823 -> เพราะฉะนั้นพวกนี้
จริง ๆ หลัก ๆ ก็คือน้ำมันดี ๆ นี่เอง
452.101 -> แล้วก็มีน้ำตาล
หรือบางคนอาจจะใส่เป็นนมข้นเนอะ
455.492 -> เพราะฉะนั้นตรงนี้ แคลอรีเต็ม ๆ
457.712 -> ถ้าสมมุติเขาใส่ชาเข้มแค่ไหน
459.929 -> ความหวานของน้ำตาลหรือว่าความมัน
ที่จะใส่เข้าไป มันก็จะเยอะขึ้น
464.28 -> อันที่ 2 คือส่วนของไข่มุก
465.944 -> เวลาทำไข่มุกคือเอาแป้งไปกวนเนอะ
468.072 -> เอามาปั้น แล้วก็ต้มขึ้นไป
470.003 -> พอสุกเสร็จปุ๊บนี่
เราก็จะเอาไปใส่ลงไปในคาราเมล
473 -> เพื่อให้มันดูดสีของคาราเมลเข้ามา
475.262 -> แล้วก็จะเป็นสีที่สวย ๆ
477.07 -> ทีนี้เวลาเราทำคาราเมลนี่ อยากจะบอกอันนึง
479.765 -> น้ำตาลที่เราใช้ทำคาราเมลค่ะ
481.951 -> ถ้าสมมุติว่าเราเคี่ยวคาราเมล
แล้วสีมันยังอ่อน ๆ นี่
485.671 -> ความหวานมันจะยังอยู่
487.053 -> แต่ถ้าเราเคี่ยวจนกระทั่งสีมัน
กลายไปเป็นสีน้ำตาลไหม้
490.884 -> มันจะมีกลิ่นที่หอม
ในขณะเดียวกันความหวานมันจะหายไป
494.32 -> ความหวานหายไป
คำถามคือแคลอรีหายไหม
496.595 -> บอก ไม่ได้หายนะคะ
497.809 -> แค่เปลี่ยนในแง่ของรสชาติเท่านั้นเอง
501.026 -> คือน้ำตาลมันไหม้
502.336 -> สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ แคลอรียังคงมีอยู่
แต่ว่าความหวานหายไป
506.207 -> คนกินจะรู้สึกไม่หวาน
ก็จะ เออ...โอเค กินได้
509.621 -> เพราะฉะนั้นนี่ จากเดิมที่เรากินชานมใช่ไหมคะ
512.483 -> แคลอรีก็เยอะอยู่แล้ว
513.961 -> เราเติมไข่มุกเข้าไปอีก
ก็คือใส่แป้งเข้าไป ใส่น้ำตาลเข้าไป
517.682 -> แล้วเวลากินก็กินเยอะด้วย
ไปเพิ่มโน่นนี่นั่น
520.501 -> เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็จะทำให้
เรื่องของพลังงานนี่เยอะมาก
524.626 -> ดังนั้น ง่าย ๆ เลยค่ะ ถามว่า
526.676 -> กินชานมไข่มุกมาก ๆ นี่ จะเกิดอะไรขึ้น
529.082 -> มันก็จะไปเพิ่มความเสี่ยง
ทำให้เกิดเรื่องของอ้วนนะคะ
532.212 -> เรื่องของหลอดเลือดหัวใจ เรื่องของเบาหวาน
535.534 -> นอกจากนี้ก็จะทำให้ไตรกลีเซอไรด์
แล้วก็คอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้นได้ด้วยค่ะ
539.629 -> ถามว่า แล้วถ้ายังอยากกินล่ะ
541.766 -> ยังเป็นคนที่ติดชานมไข่มุก
แล้วจะกินยังไงดี
545.169 -> อันแรกเราก็จะลดความหวานก่อน
547.445 -> เดี๋ยวนี้เกือบทุกร้านแล้วนะคะ
549.565 -> เขาจะสามารถให้เราสั่งความหวานได้
เอากี่เปอร์เซ็นต์
552.64 -> เราจะค่อย ๆ ลดค่ะ
553.752 -> อันแรกก่อนนะ เราทำให้เป็นแก้วเล็กก่อน
556.186 -> อย่าเพิ่งเสียดายของ ทำเป็นแก้วเล็กก่อน
558.6 -> พอสั่งแก้วเล็กเสร็จแล้วนี่ เราลดน้ำตาล
560.87 -> เทคนิคแรก ลดแค่ประมาณ 25-50%
563.862 -> ถ้าใครคิดว่าไหว ลด 50% เลย
566.111 -> อันถัดมาก็คือ แทนที่เราจะสั่งเป็นไข่มุก
568.898 -> แต่เรายังอยากได้อะไร
ที่มันมีความกรุบ ๆ หนึบ ๆ อยู่
572.081 -> ให้เราสั่งเป็นบุกแทนค่ะ
573.942 -> สั่งเป็นบุกแทน หรือบางคนใช้เป็นเฉาก๊วย
576.115 -> อันนี้ก็จะแคลอรีลดลงได้
ในการที่จะเติมลงไป
579.286 -> ด้วยเทคนิคนี้นะคะ
580.255 -> ก็จะสามารถทำให้เราสามารถกิน
ชานมไข่มุกได้ในแคลอรีที่ต่ำลง
584.665 -> ก็จะสามารถทำให้เราอ้วนน้อยลงได้
586.652 -> แล้วอีกอันหนึ่งก็คือ เราอาจจะไป
ออกกำลังกายเพิ่มขึ้นในวันที่เรากิน
590.416 -> หรือเราไปควบคุม
หรือจำกัดอาหารชนิดอื่นในวันนั้น
595.042 -> ลดพวกข้าวแป้ง แล้วก็น้ำมัน
ให้ลดลงไปอีก
597.79 -> จะได้ทำให้มันไปบาลานซ์กับชานมไข่มุก
ที่เรากินเพิ่มขึ้นค่ะ
601.322 -> [เสียงดนตรี]
606.211 -> อันถัดมาก็คือน้ำผลไม้
608.328 -> เราพูดมาตลอดเลยว่า
เราอยากจะให้คนกินผักผลไม้เพิ่มขึ้น
612.528 -> มันมีวิตามิน มีแร่ธาตุ มีไฟเบอร์
มีอะไรทุกสิ่งอย่างที่ดี
616.896 -> จะช่วยในเรื่องของสุขภาพ
619.255 -> ทีนี้หลายคนก็จะแบบ
เลือกที่จะมากินเป็นน้ำผลไม้แทน
622.846 -> ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้คั้นสด
น้ำผลไม้กล่อง หรือน้ำผลไม้ขวด
626.435 -> ถามว่ามันโอเคไหม ประเด็นมีนิดเดียวค่ะ
629.162 -> เวลาที่เราคั้น
ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้หรือน้ำผักก็ตาม
631.967 -> ส่วนใหญ่เราจะต้องทิ้งกากเป็นส่วนหนึ่ง
634.136 -> พอเราทิ้งกากใยไปส่วนหนึ่ง
ที่เราทิ้งไปคืออะไรคะ คือไฟเบอร์
637.393 -> หรือที่เราเรียกว่าเป็นพรีไบโอติกส์
639.183 -> จะเป็นอาหารให้ลำไส้เรา
640.778 -> สิ่งที่เรากินคืออะไร เรากินน้ำตาลทั้งหมด
643.302 -> เรากินวิตามิน แล้วก็มีแร่ธาตุ
645.919 -> ถามว่าถ้าเราคั้น แล้วเรากินเลย
อันนี้โอเคค่ะ
648.596 -> เราได้ทุกอย่าง
649.567 -> แต่ถ้าเราวางทิ้งเอาไว้
โดยเฉพาะกลุ่มของวิตามินซี
653.23 -> วิตามินซีเป็นวิตามินที่ถูกสลายง่ายมาก
เมื่อเจอความร้อน เมื่อเจอแสงแดด
658.84 -> สังเกตง่าย ๆ เลย
660.175 -> เวลาที่เราซื้อวิตามินซีนี่
ขวดหรือบรรจุภัณฑ์นี่
663.127 -> มันจะเป็นสีชาหรือว่าเป็นสีที่ทึบ ๆ
665.32 -> เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้โดนแสง
667.152 -> ขวดปิดสนิท หรืออาจจะมีพลาสติก 2 ชั้น
669.43 -> หรือเทคนิคอะไรก็ได้
ที่ทำให้อากาศมันเข้าไปได้น้อย
672.41 -> ทีนี้เวลาที่เราไปซื้อ
674.333 -> ของทั้งหมดนี้ มันคั้นแล้วมันวางทิ้งเอาไว้
นานแค่ไหนแล้ว เราก็ไม่รู้
678.349 -> อันที่ 2 มันถูกเติมน้ำตาล
ลงไปอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้
681.387 -> เพราะว่าส้มในแต่ละช่วงเวลาของปีนี่
683.984 -> รสชาติก็จะไม่เหมือนกัน
685.68 -> อาจจะมีการปรุง
โดยการเติมน้ำตาล เติมเกลือ
688.696 -> เติมมะนาว แล้วแต่
690.109 -> อันสุดท้ายค่ะ เมื่อวันก่อนนี่
692.373 -> เพิ่งจะลองคั้นส้มที่บ้านนะคะ
เกือบกิโลเลยค่ะ
695.995 -> เอามาคั้นดูให้มันเป็นน้ำส้ม
697.97 -> ได้น้ำส้มแค่ประมาณแก้วเดียวเองค่ะ
699.908 -> แบบแก้วใหญ่ ๆ แก้วมัก ได้แค่แก้วเดียวเอง
703.103 -> เพราะฉะนั้นนี่
ถามว่าเวลาเรากินน้ำส้มแก้วนึง
706.515 -> มันก็เหมือนเรากินน้ำเนอะ
เราจะไม่รู้สึกอิ่มเลย
709.491 -> ในขณะที่ถ้าเรากินส้มกิโลนึง
712.363 -> กว่าจะกินหมด
713.834 -> มันจะรู้สึกอิ่มแล้ว
715.465 -> อันนี้นึกภาพออกใช่ไหมคะ
แคลอรีที่เราได้เข้าไปนี่
718.487 -> มันจะเป็นแคลอรีที่เยอะเกินความจําเป็น
721.204 -> ในขณะเดียวกันส่วนที่มันเป็นไฟเบอร์
เรากำลังกำจัดมันทิ้ง
724.687 -> เพราะฉะนั้น โดยส่วนตัวจะบอกว่า
726.514 -> การกินน้ำผลไม้ที่เป็นกล่อง
729.077 -> น้ำผลไม้คั้นเป็นขวดหรืออะไรก็ตาม
731.549 -> สิ่งที่เราจะได้ เราจะได้น้ำตาล
733.64 -> เราจะได้วิตามินบ้าง
735.453 -> หายไปแล้วบางส่วน
736.753 -> แล้วก็ได้แร่ธาตุบ้าง
738.521 -> แต่ว่าสิ่งที่เป็นไฟเบอร์จะไม่ได้เลย
741.526 -> และที่สำคัญ เราจะได้แคลอรี
ที่มากเกินความจำเป็น
744.705 -> เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากิน
โดยที่ไม่ผ่านการเคี้ยว
747.237 -> อาหารผ่านลงไปอย่างรวดเร็ว
ความอิ่มจะยังไม่ถูกกระตุ้นเลยค่ะ
751.04 -> น้ำตาลในเลือดขึ้นเรียบร้อยแล้ว
752.828 -> ดังนั้น กินน้ำผลไม้กล่อง
น้ำผลไม้ที่คั้นสดเป็นขวดก็ตาม
756.887 -> ก็จะทำให้แคลอรีเพิ่มขึ้น
758.738 -> เสี่ยงกับเรื่องของอ้วน เบาหวาน
761.456 -> น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
762.917 -> แล้วก็จะมีเรื่องของ
โรคหัวใจและหลอดเลือดได้เช่นกันค่ะ
765.68 -> เครื่องดื่มตัวที่ 5 ก็จะเป็นพวกของ
น้ำดื่มผสมวิตามินหรือเครื่องดื่มวิตามิน
771.488 -> ซึ่งตอนนี้เทรนด์กำลังมามากเลย
ในคนที่สนใจสุขภาพ
775.391 -> ก็อยากจะได้รับวิตามิน
776.869 -> ก็เลย…อุ๊ย แทนที่เราจะกินน้ำ
เรากินน้ำดื่มผสมวิตามินดีกว่า
780.553 -> มันก็จะได้ทำให้เราได้รับวิตามินด้วย
783.062 -> ส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่นะคะ
785.237 -> น้ำดื่มที่ผสมวิตามินปัจจุบันนี้
787.529 -> ถามว่าเขาผสมวิตามินอะไรลงไป
789.48 -> มักจะเป็นวิตามินบีกับวิตามินซี
791.732 -> บีกับซีเป็นวิตามินที่ละลายน้ำ
794.848 -> แล้วเขาก็เลยเอามาผสมในน้ำไงคะ
796.754 -> ทีนี้ข้อเสียของวิตามินที่ละลายน้ำก็คือ
799.601 -> สลายตัวง่าย สลายตัวเร็ว
801.601 -> มันถูกสลายตัวในกรณีที่เจอแสง
แล้วก็เจอความร้อน
805.525 -> เพราะฉะนั้นตอนเขาทำค่ะ เขาผสมลงไปจริง
808.995 -> แต่คำถามคือกว่าจะมาถึงเรา
811.231 -> ในแง่ของการเก็บนะคะ
813.695 -> การสต๊อกเอาไว้
815.497 -> ระยะเวลากว่าที่อยู่ในที่ต่าง ๆ
การขนส่งทั้งหมด
818.818 -> จนกระทั่งมาถึงผู้บริโภค
แล้วเปิดขวด แล้วกิน
821.685 -> คำถามคือ ณ ตอนนั้น
เราจะเหลือวิตามินบีและวิตามินซีเท่าไหร่
825.511 -> อาจจะไม่เยอะแล้วนะคะ
826.652 -> เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะได้
829.167 -> กับสิ่งที่คุณดื่มเข้าไป อาจจะไม่เหมือนกัน
832.381 -> อันที่ 2 ปริมาณวิตามินที่ผสมลงไปนี่
835.238 -> มันไม่ได้เยอะมากหรอกค่ะ
836.646 -> เพราะว่ามันจะถูกบังคับด้วยเรื่องของกฎหมาย
839.203 -> แล้วราคาที่มันเพิ่มขึ้น
842 -> ลองนึกภาพว่าถ้าเราซื้อน้ำดื่มปกติเท่าไหร่
844.884 -> เราซื้อน้ำดื่มที่ผสมวิตามินเท่าไหร่
847.379 -> ราคาที่เพิ่มขึ้นอันนั้น
849.373 -> คิดว่ามันคุ้มค่าไหมกับวิตามินที่เขาเติมลงไป
853.24 -> ถามว่าสมมุติเราซื้อน้ำดื่มธรรมดา
855.008 -> แล้วเราไปกินวิตามินบีรวม
หรือวิตามินซีกับวิตามินซี
858.008 -> ซึ่งเม็ดนึงไม่กี่สตางค์
859.83 -> แล้วมาบวกราคาเสร็จ
861.4 -> ถามว่าราคาเครื่องดื่ม
หรือน้ำดื่มที่ผสมวิตามิน
865.103 -> มันแพงกว่าอันนี้กี่เท่า
867.522 -> จะกินแบบไหน อันนี้เลือกเอา
869.982 -> แต่ถามว่าถ้าไม่ได้เดือดร้อน
ราคานี้รับได้ กินแล้วสบายใจ
873.795 -> อันนี้กินไปเลย
874.94 -> ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่ามันมีความจำเป็น
877.79 -> รวมถึงบางอย่างตอนนี้ที่จะพยายามเสริม เช่น
880.76 -> เขียนว่ามันเป็นวิตามิน
882.399 -> เขียนบอกไปเลยว่า
ใส่วิตามินเข้าไปในเครื่องดื่ม
886.04 -> อันนี้จะต่างกับพวกที่เป็นเครื่องดื่ม
ที่เป็นน้ำดื่มผสมวิตามิน
890.175 -> น้ำดื่มผสมวิตามินมันจะไม่ค่อยมีแคลอรี
เพราะมันคือน้ำดื่มปกติ
893.919 -> แล้วเติมวิตามินลงไป
895.32 -> แต่ถ้าเป็นเครื่องดื่มที่มีวิตามิน
898.08 -> พวกนี้จะมีการปรับแต่งรส
900.046 -> แล้วก็เติมวิตามินที่เพิ่มกว่าความต้องการ
ที่เรากำหนดไว้
904.92 -> แต่จะไม่เกินสองเท่า
906.428 -> ยกตัวอย่างเช่น วิตามินซี
908.296 -> ถ้าเป็นเครื่องดื่มวิตามินซี
ที่ขายกันอยู่ในท้องตลาด
911.029 -> ส่วนใหญ่จะใส่ประมาณ 2 เท่า
ของความต้องการในแต่ละวัน
914.6 -> เราก็นั่งคิดว่า ถ้าเขาใส่ไป 2 เท่าแล้ว
917.212 -> โอเค มันอาจจะหายไประหว่างทาง
มาถึงเรา น่าจะพอเนอะ
920.279 -> มันก็มีงานวิจัยที่เขาเอามาสุ่มตรวจค่ะ
922.92 -> ในบางยี่ห้อนี่แทบไม่เหลือแล้ว
924.989 -> เพราะฉะนั้น ตอนนี้มันขึ้นกับเทคนิค วิธีการ
แล้วก็วิตามินซีที่เขาเอามาใช้
929.572 -> แล้วเทคนิคที่เขาใช้ว่า
มันจะสามารถคงตัววิตามินได้ดีแค่ไหน
934.552 -> อันสุดท้ายที่ให้ระวังค่ะ
936.44 -> ก็คือว่าเครื่องดื่มพวกนี้
ก็จะต้องเติมรสชาติเนอะ
940.049 -> ส่วนใหญ่จะมีน้ำตาล มีเกลืออยู่
941.897 -> ถ้าเรากินเข้าไป แล้วเรากินหลายขวด
944.597 -> สิ่งที่จะเกิดขึ้น
ก็คือเราจะได้น้ำตาล และได้เกลือเยอะขึ้น
948.28 -> มันก็อาจจะเพิ่มโอกาสที่เราจะอ้วนขึ้น
950.831 -> แล้วก็เสี่ยงกับเรื่องของเบาหวาน ความดัน
953.393 -> เรื่องของหลอดเลือดหัวใจ
เหมือนที่เป็นจากทุก ๆ อย่าง
956.118 -> ที่เรากินน้ำตาลเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
958.4 -> เพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะจ่ายเงินไปแล้วนี่
960.219 -> เราควรจะมีความฉลาดในการซื้อของว่า
962.507 -> มันคุ้มค่ากับเงินที่เราจะเสียไปหรือเปล่าค่ะ
965.28 -> อันสุดท้ายนะคะ ก็จะเป็นแอลกอฮอล์
968.114 -> ถามว่าดีหรือไม่ดี
969.642 -> หลายคนก็จะบอกว่า ดื่มไวน์เพื่อสุขภาพ
972.635 -> คำว่า “เพื่อสุขภาพ”
แลดู เอ๊ะ กินแอลกอฮอล์มันมีข้อดีด้วยหรือ
976.75 -> ข้อดีข้อที่ 1 ของแอลกอฮอล์ค่ะ
978.84 -> ในกรณีของไวน์ อาจจะเป็นไวน์แดงก็ได้ค่ะ
981.676 -> เพราะว่าในเปลือกองุ่นนี่
983.283 -> มันจะมีสารสกัดตัวหนึ่งชื่อ Resveratrol
986.44 -> ซึ่งตัวนี้จะเป็นแอนติออกซิแดนท์
988.183 -> มีคุณสมบัติบางอย่างที่เราบอกว่า
มันอาจจะช่วยชะลอความแก่ได้ด้วย
993.127 -> โอ้โฮ หลายคนก็แบบแฮปปี้มากเลยอะไรอย่างนี้
995.615 -> อันที่ 2 ค่ะ ในกรณีของตัวไวน์นะคะ
999.56 -> หรือว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สามารถจะเพิ่มไขมันตัวดีในเลือดได้
1003.2 -> ประเด็นคือเรากินนิดเดียว มันก็เพิ่มนะคะ
1006.383 -> การกินปริมาณแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น
1008.467 -> ไม่ได้ทำให้ไขมันตัวดีเพิ่มขึ้นไปอีก
1011.716 -> แต่ว่าการกินแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น
อาจจะทำให้ตับเราพังได้
1016.296 -> แล้วได้แคลอรีเพิ่มขึ้น
1018.029 -> ในกรณีของแอลกอฮอล์ค่ะ
1019.763 -> เราอาจจะคุ้นเคยตอนเราเรียนมาว่า
1021.837 -> คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน
เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย
1026.837 -> จริง ๆ แอลกอฮอล์เป็นตัวหนึ่ง
ที่ให้พลังงานนะคะ
1029.799 -> 1 กรัมของแอลกอฮอล์
ให้พลังงานอยู่ประมาณสัก 7-8 แคลอรี
1033.967 -> เพราะฉะนั้น มันเกือบ ๆ จะเท่ากับไขมัน
1037.692 -> 1 กรัมให้พลังงานมากกว่า
คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีนเสียอีก
1041.074 -> แต่ไม่ใช่แค่แอลกอฮอล์ค่ะ
1043.881 -> การกินเบียร์หรือไวน์
1045.401 -> เวลาที่เขาสกัดมานี่
1047.271 -> มันจะมี…อย่างเช่นถ้าเป็นไวน์
ก็จะมีองุ่นใช่ไหมคะ
1050.08 -> ก็จะมีน้ำตาลจากองุ่นอีก
1051.56 -> ถ้าเป็นเบียร์ เป็นมอลต์ เป็นข้าว
เป็นบาร์เลย์ เป็นอะไรก็แล้วแต่
1055.741 -> เราก็จะมีพลังงานจากพวกแป้ง
หรือธัญพืชพวกนั้นอีก
1058.946 -> เพราะฉะนั้นจริง ๆ แล้วนี่
มันจะมีน้ำตาลอยู่ในเบียร์หรือในไวน์
1062.769 -> แต่ถ้าเป็นเหล้า อันนี้ไม่มีน้ำตาล
อันนี้แอลกอฮอล์เพียว
1066.323 -> นึกภาพออกใช่ไหมคะ
1067.571 -> สิ่งที่เกิดขึ้น HDL เพิ่มขึ้นนิดนึง
1070.442 -> แต่ว่าตับจะพังมากขึ้นเรื่อย ๆ
ถ้าคุณกินเบียร์เยอะขึ้นเรื่อย ๆ
1075.732 -> เพราะฉะนั้นถามว่าจะกินยังไง
อันนี้เลือกกัน
1078.345 -> ถามว่าในกรณีของคนที่ไม่เคยกินเลย
ไม่ได้แนะนำให้ดื่มแอลกอฮอล์
1082.448 -> แต่ถ้าคนที่กินอยู่แล้ว
ให้ลดปริมาณลงมาในระดับที่เหมาะสม
1086.629 -> เหมาะสมในที่นี้เราจะพูดถึงคำว่า Drink
1089.006 -> คำว่า Drink ในที่นี้
ผู้ชายไม่ควรจะเกิน 2 Drink
1091.499 -> ผู้หญิงไม่ควรจะเกิน 1 Drink
1093.247 -> ถ้ามีโรคตับไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่แนะนำให้ดื่มแอลกอฮอล์นะคะ
1097.485 -> ทีนี้ถามว่าถ้าเรารู้อยู่แล้วว่า แอลกอฮอล์
อาจจะไม่ได้ดีกับสุขภาพขนาดนั้น
1102.839 -> แล้วเราอยากจะลด
1103.614 -> คือมันไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพอย่างเดียว
1105.816 -> แต่ว่าบางครั้งบางทีเวลาเราเมาแล้วเสร็จ
1108.017 -> เราดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วเราไปขับรถ
1110.249 -> มันก็อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยง
กับคนอื่นได้ด้วย
1112.924 -> แล้วไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของโรคตับ
1114.935 -> โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด
หรือว่าเรื่องของเบาหวาน น้ำตาล ความอ้วน
1118.746 -> แต่ว่าการดื่มเหล้านี่
1120.18 -> ก็เพิ่มความเสี่ยงกับเรื่องของมะเร็ง
หลาย ๆ อย่าง
1122.834 -> นอกเหนือจากมะเร็งตับ
ที่เรารู้กันเป็นปกติอยู่แล้ว
1126.014 -> เพราะฉะนั้นยังไม่เคยดื่ม ไม่ให้ดื่ม
1128.124 -> ถ้าดื่มอยู่แล้ว ลดลงก่อน
1129.581 -> [เสียงดนตรี]
1134.574 -> เมื่อเราพูดถึง 6 เครื่องดื่ม
ที่เราไม่ชอบใจไปแล้ว
1138.064 -> อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
หรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ
1141.08 -> แล้วถามว่าเราจะกินอะไรล่ะ
1142.639 -> ก็เสนอ 5 เครื่องดื่มที่ดีกับสุขภาพ
1145.953 -> อันแรกเลยนำมาเบอร์หนึ่งในทุก ๆ งานวิจัย
1148.79 -> ก็คือน้ำเปล่าค่ะ
1150.2 -> น้ำเปล่าดีที่สุด กินได้ ราคาไม่แพง
1152.914 -> แล้วก็มีประโยชน์กับร่างกาย
1154.255 -> วันหนึ่งควรจะกินประมาณ 6-8 แก้ว
1156.502 -> อันนี้ใช้น้ำเปล่านะคะ
1157.967 -> น้ำเปล่ายังสามารถที่จะช่วยลดเรื่องของ
ความอยากกินเรื่องของเครื่องดื่มต่าง ๆ ด้วย
1163.066 -> เวลาที่เราจะเริ่ม
ที่จะเลิกเครื่องดื่มทั้งหลาย
1166.175 -> เราใช้วิธีลดลงก่อนก็ได้
1167.793 -> เวลาที่เราลดลงปุ๊บ เราก็จะเพิ่มเครื่องดื่ม
ที่เป็นน้ำเปล่าเข้าไปเพิ่มขึ้น
1171.582 -> ลดโดยการที่จะไปลดปริมาณไซส์
หรือว่าขนาดให้แก้วเล็กลง
1175.811 -> ลดความหวานที่เติมลงไป
1177.771 -> แล้วก็ลดระยะห่าง
1179.41 -> เช่น จากเดิมกินทุกวัน ให้มันห่างขึ้น
1182.16 -> กินทุก 2 วัน กินทุก 3 วันอะไรอย่างนี้
1184.535 -> ในระหว่างที่เราลดนั้นน่ะ
เราก็เติมน้ำเปล่าลงไป
1187.328 -> ดื่มน้ำเปล่าไปเรื่อย ๆ ช่วยทำให้เราอิ่มนะคะ
1189.902 -> แล้วก็ช่วยทำให้
ระบบการไหลเวียนในร่างกายดีขึ้น
1192.867 -> ไม่เสี่ยงกับโรคต่าง ๆ ด้วยค่ะ
1194.844 -> อันที่ 2 ก็จะเป็นกลุ่มของชาเขียว
1197.919 -> หลายคนอาจจะรู้สึกว่า
1199.531 -> อาจจะไม่ใช่ชาเขียวก็ได้ค่ะ เป็นชาก็ได้
1202.248 -> หลายคน ตัวเองก็เคยเป็น
ชอบดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
1206.063 -> ไม่ค่อยจะชอบดื่มน้ำเปล่าเลย
1208.026 -> ตอนนั้นที่เปลี่ยนได้นี่ก็คือ
ใช้วิธีการกินน้ำเปล่าไหม
1212.543 -> ไม่ค่ะ
1213.104 -> คนที่ไม่กินน้ำเปล่าก็จะไม่กินน้ำเปล่า
1215.249 -> ตอนนั้นที่กินคือใช้เป็นชาค่ะ
1217.676 -> แต่ว่าใช้เป็นชาดำที่มีกลิ่นเป็นผลไม้
แล้วอาจจะบีบมะนาวลงไปนิดนึง
1222.453 -> เพิ่มกลิ่น เพิ่มรสชาติ
1224.084 -> อาจจะเป็นชาร้อน หรือว่าจะเป็นชาเย็นก็ได้
1226.71 -> ตอนนั้นใช้อย่างนี้ค่ะ
1227.993 -> กินไปสักพักหนึ่ง
1228.924 -> พอมันเริ่มมีความขมติดลิ้นขึ้นนี่
1231.013 -> เราก็จะไม่ค่อยอยากกินของหวาน
1232.624 -> แล้วหลังจากนั้นเราก็ค่อยเพิ่มน้ำเปล่า
เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
1235.572 -> อันนี้ก็จะเป็นวิธีหนึ่ง
1236.985 -> นอกจากนี้ค่ะในชา
ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวหรือชาดำก็ตาม
1240.558 -> จะมีสารสกัดพวกที่ชื่อว่าคาเทชิน
1243.404 -> แล้วก็มีส่วนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
1246.075 -> ซึ่งอันนี้จะช่วยลดเรื่องของ
คอเลสเตอรอลได้ด้วย
1248.672 -> แล้วก็จะช่วยเรื่องของเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
แล้วก็ดีกับสุขภาพได้ด้วยค่ะ
1252.795 -> อันที่ 3 ก็จะเป็นพวกของกาแฟ
1255.927 -> กาแฟโอเคไหม
กาแฟได้ค่ะ
1257.848 -> กาแฟมีกาเฟอีน ลืมบอกไป
จริง ๆ ชาเมื่อสักครู่ก็มีกาเฟอีนเหมือนกัน
1262.1 -> ก็จะช่วยให้เราตื่นตัว
1263.378 -> ถ้าใครมีปัญหานอนไม่หลับ
1264.736 -> ก็ไม่ควรจะกินพวกของชาหรือกาแฟ
1267.198 -> ทีนี้ชากาแฟมีอีกอันหนึ่งก็คือ
มันอาจจะไปกระตุ้นเรื่องของการสร้างกรด
1271.001 -> หลาย ๆ คนที่มีปัญหาเรื่องกรดไหลย้อน
1273.522 -> เช็กนิดนึง ถ้าสมมุติว่ากินเข้าไป
แล้วอาการมันกำเริบเป็นมากขึ้น
1277.065 ->
1278.639 -> ที่สำคัญเวลาที่เราจะให้กินชากาแฟ
1280.73 -> มันจะต้องไม่ผสมน้ำตาล
ไม่ผสมสารตัวอื่นที่มันมีแคลอรีเยอะขึ้น
1284.47 -> ในกรณีของกาแฟเองนี่
เราแนะนำกาแฟดำเนอะ
1287.267 -> ในกาแฟเองก็มีสารที่จะเรียกว่า
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่
1291.325 -> เพราะฉะนั้นมันก็จะช่วย
ในเรื่องของสุขภาพได้ส่วนหนึ่งค่ะ
1294.885 -> อันถัดมา ถ้าสมมุติว่าเราบอกว่า
เรากินชา กินกาแฟไม่ได้
1298.493 -> เพราะว่าเราอาจจะท้องอืด
เราอาจจะมีอาการกรดไหลย้อน
1301.347 -> ถามว่าถ้าอย่างนั้นใช้อะไรดี
1302.976 -> เราอาจจะลองเปลี่ยนมาเป็น
พวกของน้ำขิงก็ได้นะคะ น้ำขิงอุ่น ๆ
1306.515 -> แต่ว่าในกรณีของน้ำขิงอุ่น ๆ นี่
1308.266 -> เราจะซื้อก็ได้หรือว่าเราจะทำเองก็ได้
1310.222 -> เอาขิงแก่มาทุบมาบุบ แล้วก็ต้มในน้ำ
แล้วก็กินได้
1314.12 -> น้ำขิงช่วยอะไร
ช่วยเรื่องของท้องอืด ขับลม
1317.523 -> ในคนที่มีปัญหาเรื่องของท้องอืด
มีแก๊สในท้องเยอะ ๆ นะคะ
1321.363 -> อันนี้ก็จะช่วยได้นะคะ
1323.029 -> อุ่นท้อง สบายท้อง กินแล้วช่วยขับลมได้ค่ะ
1326.165 -> นอกจากนี้ ในกลุ่มของน้ำขิง
1328.386 -> ก็อาจจะไปกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน
เพิ่มขึ้นได้อีกนิดนึง
1331.396 -> ซึ่งมันก็คงช่วยทางอ้อมเนอะ
อาจจะไม่ได้ช่วยทำให้ผอมลง
1334.88 -> แต่ว่าอย่างน้อยที่สุด
ก็ทำให้การเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นได้นิดนึง
1338.64 -> อันสุดท้ายค่ะ ก็จะเป็นกลุ่มนม
1340.986 -> ทีนี้ในกรณีของนมนี่ ถามว่าดีอย่างไร
1343.512 -> อันที่หนึ่ง มีโปรตีนสูง
มีแคลเซียม มีฟอสฟอรัส
1347.223 -> แล้วก็สามารถจะช่วยทำให้อิ่มท้องได้นะคะ
1350.21 -> ถ้าเกิดจะลดแคลอรีลง
ก็ให้เลือกนมที่เป็นนมไขมันต่ำ
1353.774 -> ถ้าไม่ใช่นม อาจจะเป็นกลุ่มของโยเกิร์ตก็ได้
1356.031 -> อีกอันหนึ่ง ถ้าสมมุติว่าคน ๆ นั้นแพ้นม
1358.771 -> แพ้นม ให้สังเกตนิดนึง
เวลาคนพูดว่าแพ้นมนี่ ดูว่าเขาแพ้อะไร
1363.391 -> ถ้าแพ้โปรตีนในนมวัว
1365.912 -> อันนี้เขาจะกินนมไม่ได้ กินโยเกิร์ตไม่ได้
กินพวกชีสไม่ได้
1370.444 -> แต่ถ้าสมมุติว่าเขาแพ้น้ำตาลในนม
1373.974 -> ก็คือไม่มีเอนไซม์ช่วยย่อยน้ำตาล
1376.236 -> กินนมทีไรแล้วท้องอืด กินนมทีไรแล้วท้องเสีย
1379.655 -> อันนี้เขายังสามารถจะกินนม
ที่เราเรียกว่าเป็นแลคโตสฟรีได้
1383.343 -> เขายังสามารถที่จะกินโยเกิร์ตได้นะคะ
1386.309 -> ถ้าไม่แน่ใจ เลี่ยงไปกินกรีกโยเกิร์ต
อันนี้ก็จะช่วยได้
1389.822 -> อันที่ 3 เขากินเป็นลักษณะของนมถั่วเหลือง
1392.942 -> คือนมที่ไม่ได้มาจากนมวัว
ซึ่งจะไม่มีน้ำตาลแลคโตส
1395.9 -> นมถั่วเหลืองได้ นมอัลมอนด์ได้
นมข้าวโพดได้ หรือนมข้าวได้
1399.722 -> อันนี้ก็จะเป็นทางเลือก
สำหรับคนที่อยากจะได้เครื่องดื่ม
1402.829 -> ที่อาจจะดีกับสุขภาพ
และไม่ทำให้เสี่ยงในการเกิดโรคค่ะ
1406.647 -> โดยสรุปนะคะ สำหรับเครื่องดื่ม
ที่จะเสี่ยงกับโรคทั้งหลาย
1410.663 -> ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครื่องดื่ม
ที่มีน้ำตาลในปริมาณมาก
1414.407 -> หรือว่าจะเป็นกลุ่มของแอลกอฮอล์
1416.92 -> ทีนี้ถ้าสมมติว่าจะเลี่ยงมา
เราก็จะแนะนำว่า
1420.098 -> เครื่องดื่มที่ดีกับสุขภาพ
ก็จะเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล
1424.287 -> อันแรกที่เราแนะนำเลย
ก็ควรจะเป็นน้ำเปล่านะคะ
1427.798 -> รองลงมาก็จะเป็นพวกของชา น้ำขิง
1430.498 -> หรืออาจจะเป็นกาแฟหรือว่าจะเป็นพวกนม
1432.791 -> อันนี้ก็จะช่วยได้ในกรณีที่
เราอยากจะได้เครื่องดื่ม
1436.109 -> แต่เราก็ไม่อยากจะทำให้สุขภาพเราแย่ลง
1439.113 -> ที่สำคัญดูนิดนึงค่ะ
ปริมาณน้ำตาลจะต้องไม่เยอะ
1441.954 -> ถ้าเราเลือกดื่มนม
คงไม่ใช่นมช็อกโกแลตหรือนมกาแฟ
1445.168 -> นมโกโก้ที่มันจะมีน้ำตาลเยอะขึ้นนะคะ
1448.09 -> เพราะไม่งั้นมันก็จะกลับไปสู่อันเดิมเลยก็คือ
น้ำตาลมากเกินไป
1451.529 -> วิธีการมอง อ่านฉลากโภชนาการค่ะ
1453.805 -> วันหนึ่งเราไม่ควรจะกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา
1456.763 -> หรือว่าไม่ควรจะเกิน 24 กรัมค่ะ
1459.663 -> พบกับรายการ Food Choice
กินดี สุขภาพดีเลือกได้
1464.5 -> ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.
1466.775 -> ที่ Mahidol Channel Podcast
1468.642 -> ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel
1471.094 -> YouTube Mahidol Channel
1472.869 -> Apple Podcasts
1474.089 -> Spotify
1475.27 -> Anchor
1476.139 -> Joox
1479.533 -> ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋
ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
1484.854 -> [เสียงดนตรี]
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=E45F3L-3Gv8