[spin9] รีวิวอภิมหารถตู้สุดหรู Lexus LM 300h - 6,500,000 บาท

[spin9] รีวิวอภิมหารถตู้สุดหรู Lexus LM 300h - 6,500,000 บาท


[spin9] รีวิวอภิมหารถตู้สุดหรู Lexus LM 300h - 6,500,000 บาท

รีวิวใหม่วันนี้ ผมพาไปสัมผัสกับรถตู้สุดหรูจาก Lexus ที่ถือเป็นครั้งแรกที่ Lexus กระโดดมาทำตลาดรถตู้หรู และก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ด้วยรุ่น LM 300h ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรถตู้ที่หรูและแพงที่สุดในตลาดปัจจุบัน ที่ราคาค่าตัว 6.5 ล้านบาท

อะไรที่ทำให้รถตู้คันนี้พรีเมียมที่สุดในตลาดปัจจุบัน และอะไรที่ทำให้รถตู้รุ่นนี้ได้รับความสนใจจนต้องต่อคิวรอรับรถกันยาวถึงปีหน้า ไปหาคำตอบกันในคลิปนี้ครับ


Content

13.32 -> สวัสดีครับ อู๋ Spin9 ครับ
14.42 -> รีวิววันนี้เราอยู่กับรถตู้คันนี้ครับ
17.12 -> ใช่แล้วครับ
17.68 -> วันนี้ผมมารีวิวรถตู้หรูๆ คันนี้เลยนะครับ
20.7 -> ต้องบอกว่าเมืองไทยตลาดรถตู้หรูน่าสนใจมากๆครับ
24.32 -> เพราะว่ากลุ่มผู้ใช้งานหลักเป็นกลุ่มระดับ VIP ทั้งนั้นเลยนะครับ
28.18 -> นักการเมืองต่างๆ ผู้บริหารระดับสูง
30.56 -> ดารานักแสดง เซเลบรีตี้ต่างๆนะครับ
33.02 -> เลือกใช้รถตู้ในการโดยสารไปไหนมาไหน
35.24 -> ในชีวิตประจำวันของตัวเองครับ
36.9 -> เพราะว่าเป็นรถที่ไม่ต้องขับเองนะครับ
39.04 -> ด้านหลังมีพื้นที่กว้างขวางให้เก็บของต่างๆได้นะครับ
42.4 -> ดาราสามารถเปลี่ยนชุดต่างๆ ในรถตู้ได้ครับ
45.28 -> ทำให้ตลาดรถตู้เมืองไทยใหญ่มากๆ เลยนะครับ
48.08 -> รุ่นยอดนิยมก็อย่างที่เราเห็นกันบนท้องถนนนี่แหละครับ
51.02 -> Toyota Alphard & Vellfire นะครับ
52.88 -> Volkswagen Caravelle
54.26 -> Hyundai H1
55.36 -> รวมไปถึง Mercedes Benz นะครับ
56.98 -> V-Class Vito ต่างๆครับ
58.82 -> แต่ว่าวันนี้ต้องเจอกับคันนี้แล้วผมต้องมารีวิวจริงๆนะครับ
61.84 -> เพราะว่านี่คือ Lexus LM 300h
64.64 -> รถตู้หรูครั้งแรกของ Lexus นะครับ
67.08 -> แล้วก็เปิดราคาสูงที่สุด แพงที่สุด
69.86 -> ในบรรดาตลาดรถตู้เมืองไทยด้วยนะครับ
72.04 -> คันนี้เปิดราคาอยู่ที่ 6,500,000 บาทนะครับ
75.44 -> ที่เปิดราคาสูงขนาดนี้
77.14 -> พอฟังรายละเอียดครบทั้งคลิปนี้แล้ว
79.28 -> หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเขาไม่ได้เปิดแพงเกินไปเลยนะครับ
81.98 -> เริ่มจากห้องโดยสารด้านหลังนะครับ
84.6 -> รถตู้คันใหญ่ขนาดนี้แต่ว่าด้านหลังมีเพียงแค่ 2 ที่นั่งเท่านั้นครับ
98.2 -> ต้องบอกว่าปกติผมรีวิวรถยนต์
100.66 -> ต้องเริ่มรีวิวจากที่นั่งคนขับนะครับ
102.86 -> นี่เป็นรถรุ่นแรกเลยนะครับ
104.16 -> ที่ต้องมารีวิวจากที่นั่งของผู้โดยสารกันก่อนนะครับ
107.64 -> แน่นอนว่าเป็นรถตู้ก็จะเป็นประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้ง 2 ด้านนะครับ
112.42 -> ที่ให้ความสะดวกสบายในการขึ้นลงนะครับ
114.38 -> ไม่ว่าเราจะเดินทางไปที่ไหนก็ตามจอดตรงไหนก็ตามนะครับ
117.7 -> ขึ้นมาความพิเศษของรถคันนี้นะครับ
119.62 -> แน่นอนเลยมันอยู่ที่เบาะที่นั่งนะครับ
121.46 -> ที่ผมบอกแล้วว่าคันนี้มีแค่ 4 ที่นั่งจริงๆนะครับ
124.52 -> ก็คือ 2 ที่นั่งด้านหน้าแล้วก็ 2 ที่นั่งตอนท้ายนะครับ
127.88 -> แต่ว่าเป็นรถขนาดใหญ่มากๆครับ
129.62 -> เบาะตรงนี้เขาก็เลยจัดเต็มมากๆเลยนะครับ
132.22 -> เริ่มจากตัววัสดุของเบาะก่อนนะครับ
134.16 -> เขาใช้หนังแท้นะครับ
135.28 -> เพื่อความสบายในการที่จะนั่งโดยสาร
137.82 -> ที่ผมบอกเลยว่าทุกคนเลยนะครับ
139.8 -> ถ้าเกิดมีโอกาสได้เข้ามาลองนั่งในที่นั่งตัวนี้
142.66 -> จะรับรู้ถึงความแตกต่างจากเบาะที่นั่งรถยนต์ทุกๆคัน
145.84 -> ที่เคยนั่งมาอย่างแน่นอนนะครับ
147.34 -> ให้ความสบายได้เต็มที่จริงๆนะครับ
149.32 -> ที่เดี๋ยวผมจะค่อยๆไล่ฟีเจอร์ให้ฟังนะครับ
151.22 -> มันเยอะมากๆ แน่นมากๆ นะครับ
153.78 -> แล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับเรา
155.38 -> โดยสารอยู่บนเครื่องบิน First Class
157.16 -> เพราะว่าที่นั่งมันโอบรับตัวเรานะครับ
160.08 -> แล้วก็มีพื้นที่รอบๆ ตัวเต็มไปหมดนะครับ
162.24 -> มีหน้าจอที่มีปุ่มต่างๆให้กดได้นะครับ
164.9 -> ตรงนี้เป็นช่องวางแก้วน้ำนะครับ
166.84 -> ส่วนกลางคอนโทรลที่นั่งทั้งหมด
168.66 -> จะอยู่บนหน้าจอสัมผัสตรงนี้นะครับ
170.54 -> ที่เราสามารถเลือกได้ครับ
171.68 -> ว่านี่เป็นที่นั่งฝั่งซ้ายก็กด Seat L นะครับ
175.4 -> แล้วก็ปรับได้ 6 จุดเลยนะครับ
177.64 -> ในการที่จะเอนตรงนี้นะครับ
179.18 -> ไปด้านหลังหรือว่าด้านหน้าขึ้นมานะครับ
181.38 -> แล้วก็บริเวณที่รองน่องปรับได้ 4 ตำแหน่งครับ
184.54 -> ผมจะลองปรับเอนให้สุดดูนะครับ
186.3 -> ว่าถ้าเกิดเราต้องการพักผ่อนในรถคันนี้นะครับ
189 -> เหนื่อยมากๆ ขึ้นมา รถก็ติดมากๆ
191.26 -> อยากนอนนะครับ
192.32 -> ปรับเอนไปสุดได้ขนาดไหนลองดูครับ
194.64 -> ค่อยๆ ปรับเอนไปลงแล้วนะครับ
196.18 -> นี่คือตำแหน่งที่เอนลงไปสุดแล้วนะครับ
198.38 -> ยังไม่ได้รวมตรงที่รองน่องนะครับ
200.38 -> ก็จะเอนได้ประมาณนี้ครับ
202.22 -> อยากให้สังเกตนะครับ
203.08 -> ว่าทำไมรถยนต์ถึงไม่ทำเบาะที่นั่งเอนนอนราบ 180 องศาครับ
208.64 -> เพราะว่ามันจะไม่เกิดความปลอดภัยขณะที่เราโดยสารรถยนต์
212.14 -> แม้ว่าเบาะปรับเอนอย่างนี้แล้วนะครับ
214.14 -> รถคันนี้ถูกออกแบบมาให้โดยสารแบบเอนนอนอย่างนี้ได้
217.58 -> เพราะว่าตำแหน่งที่ยึดเข็มขัดนิรภัยจะอยู่ด้านหลังสุดตรงนี้ครับ
221.54 -> นั่นก็คือแม้ว่าปรับเอนเบาะสุดแล้วก็ตามนะครับ
224.84 -> ตัวเข็มขัดนิรภัยก็ยังอยู่ในตำแหน่งที่สามารถรั้งเราได้นะครับ
228.26 -> ในตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุด
229.72 -> ที่จะยึดติดกับที่นั่งตรงนี้แม้ว่ารถเกิดอุบัติเหตุก็ตามครับ
232.96 -> อันนี้เป็นเหตุผลหลักๆ เลยนะครับ
234.5 -> ว่าทำไมรถยนต์ถึงไม่ออกแบบมาให้เบาะเอนนอน 180 องศา
239.18 -> มาดูในส่วนของชิ้นนี้บ้างนะครับ
240.98 -> หรือว่าชิ้นรองน่องครับ
242.34 -> ถ้าเกิดเราปรับขึ้นมานะครับ
243.4 -> เพื่อรองรับสรีระของเราครับ
245.38 -> ปรับสุดจะได้ประมาณนี้ครับ
246.6 -> แล้วก็ชิ้นนี้สามารถยื่นต่อลงไปได้เลยครับ
249.2 -> โอ้โฮ
249.86 -> พร้อมนอนมากๆ สบายมากๆ
251.68 -> อันนี้น่าจะเป็นตำแหน่งที่นั่งในฝันของหลายๆคนนะครับ
254.04 -> ในการที่โดยสารไปในสภาพการจราจรของกรุงเทพในบางวัน
259.06 -> ไม่ใช่แค่ปรับนอนได้อย่างสบายนะครับ
261.5 -> ตำแหน่งท่าทางต่างๆ ถูกออกแบบมานะครับ
264.04 -> เข้ากับสรีระของเราเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
266.18 -> ตัว Seat ที่นั่งทุกตำแหน่งเลยนะครับ
268.28 -> สามารถที่จะปรับนวดได้ด้วยนะครับ
270.84 -> โดยโปรแกรมของ Relaxation ตัวนี้นะครับ
273.08 -> ก็จะมี 7 โปรแกรมด้วยกันครับ
274.68 -> จะเป็น Full Body ก็ได้นะครับ
276 -> เป็น Upper Body เฉพาะส่วนบนและส่วนล่าง
278.18 -> เฉพาะส่วนไหล่หรือว่า Lumbar นะครับ
280.16 -> แล้วก็เลือกปรับระดับความแรงของการนวดได้ด้วยครับ
283.28 -> อันนี้ไม่ธรรมดามากๆเลยนะครับ
284.66 -> แล้วก็สามารถที่จะเลือกเป่าลมเย็นนะครับ
287.54 -> หรือว่าเป่าแอร์นะครับ
288.66 -> ให้ออกมาจากที่นั่งนะครับ
290.14 -> เพื่อที่เราจะได้ไม่รู้สึกร้อนหลังนะครับ
291.78 -> บางทีเราเพิ่งขึ้นรถมาจากสภาพแดดร้อนข้างนอกนะครับ
295.4 -> เราก็อยากได้ความเย็นรอบตัวนะครับ
297.12 -> ทั้งแอร์ที่เป่าเข้ามาหาเรา
298.7 -> กับบริเวณที่หลังเราแนบชิดกับเบาะก็ได้ความเย็นเต็มที่ครับ
302.52 -> อันนี้คือสามารถที่จะเลือกจากเมนูในหน้าจอสัมผัสตรงนี้
305.12 -> ได้เช่นเดียวกันครับ
306.06 -> ปรับเสร็จเรียบร้อยนะครับ
307.14 -> อันนี้มันอาจจะเป็นตำแหน่งที่ผมชื่นชอบมากๆนะครับ
309.6 -> อยากจะใช้ตำแหน่งนี้ทุกวันเลยนะครับ
311.72 -> ก็เลือกที่จะกดเซตแล้วก็จำตำแหน่งที่นั่งของเราเอาไว้ได้
317.54 -> ในกรณีที่เราขึ้นรถมาครั้งต่อไป
319.6 -> ไม่ต้องมาปรับอีกแล้วนะครับ
320.9 -> แค่แตะตรงนี้ง่ายๆปุ๊บ
322.58 -> ตัวเบาะก็จะปรับเข้าสู่ตำแหน่งที่มันจดจำเอาไว้จากคราวที่แล้ว
326.72 -> โครงสร้างของเบาะตัวนี้
328.04 -> ยังเสริมด้วยโครงสร้างกันสะเทือนด้วยนะครับ
330.3 -> ซึ่งเสริมจากระบบกันสะเทือนของช่วงล่างขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง
333.68 -> เพราะว่าช่วงล่างของรถคันนี้
335.38 -> เป็นช่วงล่างกันสะเทือนแบบ Swing Valve อยู่แล้วด้วยครับ
337.58 -> ทำให้เวลาเราโดยสารนั่งอยู่บนเบาะตัวนี้
340.56 -> แม้ว่าจะเจอพื้นผิวขรุขระบ้างนะครับ
342.66 -> ก็ผู้โดยสารจะไม่รู้สึกสะเทือนมากเท่ากับรถยนต์ปกติครับ
345.76 -> เรามาดูอุปกรณ์อำนวยความสะดวกรอบๆ ตัวกันบ้างนะครับ
348.4 -> เมื่อกี้พูดถึงแอร์ไปนะครับ
349.82 -> แอร์ของรถคันนี้แบ่งออกเป็น 3 โซนครับ
352.06 -> ก็คือโซนของคนขับ คนนั่งหน้า
354.32 -> แล้วก็โซนของห้องโดยสารด้านหลังตรงนี้ครับ
356.76 -> สามารถเลือกปรับได้อย่างอิสระเลยนะครับ
359.24 -> รวมถึงสามารถเลือกที่จะปรับลมเย็น ลมร้อนนะครับ
361.82 -> ออกจากเบาะที่นั่งได้อย่างที่บอกไปแล้วครับ
364.1 -> สำหรับเรื่องระบบความบันเทิงนะครับ
365.9 -> ต้องบอกว่าสะดุดตามากๆ
367.2 -> เพราะว่าหน้าจอความบันเทิงขนาดใหญ่ 26 นิ้วนะครับ
371.02 -> มาอยู่ด้านหน้าตรงนี้เลยนะครับ
372.76 -> อยู่ใกล้กับระดับสายตาเรานะครับ
374.7 -> ที่จะให้เราเสพคอนเทนต์ได้อย่างเต็มตาจริงๆนะครับ
377.56 -> สำหรับผู้โดยสารแค่ 2 คนนี้แหละครับ
379.72 -> ตัวหน้าจอ 26 นิ้วนี้นะครับ
381.28 -> สามารถที่จะเปิด Source ต่างๆ
383.54 -> จากทั้งวิทยุ จากแผ่นที่เราจะมีเครื่องเล่นแผ่นอยู่ตรงนี้นะครับ
387.8 -> รองรับทั้งแผ่น DVD แผ่น Blu-Ray ต่างๆนะครับ
390.4 -> รองรับ SD Card นะครับ
391.96 -> รวมถึงตอนนี้ใครอยากที่จะสตรีมคอนเทนต์ Netflix
394.68 -> มาออกจอใหญ่นะครับ
395.84 -> บริเวณที่รองแขนตรงนี้นะครับ
398.34 -> เปิดมาปุ๊บเราก็จะเจอกับพอร์ต HDMI นะครับ
401.16 -> ให้เราเสียบคอนเทนต์ HDMI จากเครื่องสมาร์ทโฟนของเรา
403.92 -> จากเครื่องแท็บเล็ตของเรานะครับ
405.38 -> เอามาออกหน้าจอใหญ่นะครับ
407 -> แล้วก็ที่สำคัญก็คือเครื่องเสียงที่ใช้ในรถคันนี้นะครับ
410.44 -> เป็น Mark Levinson นะครับ
412.14 -> ในรุ่น 4 ที่นั่งแบบนี้มีลำโพงมากถึง 19 ตัวนะครับ
415.84 -> รอบทิศทางเรียกได้ว่าเพลิดเพลินแน่นอนนะครับ
418.44 -> แม้ว่ารถจะติดแค่ไหนก็ตาม
419.98 -> แม้ว่าทุกอย่างจะอยู่ใกล้แค่นี้นะครับ
421.76 -> แต่เขาก็ให้รีโมทมาด้วยนะครับ
423.92 -> บางทีปรับเอนนอน
424.88 -> นี่เราจะเอื้อมมาแตะจอนี้ค่อนข้างลำบากนิดหนึ่งนะครับ
427.6 -> ก็จะมีรีโมทในการควบคุมหน้าจอตรงนี้มาให้ครับ
430.4 -> ในช่องนี้นอกจาก HDMI ยังมีพอร์ต USB นะครับ
433.62 -> ให้ชาร์จไฟอีก 2 ตำแหน่ง
435.38 -> ตรงนี้ 2 แล้วนะครับ
436.78 -> ด้านข้างตรงนี้มีพอร์ต USB ให้ชาร์จไฟอีก 2 นะครับ
440.44 -> แล้วก็ด้านริมสุดตรงนั้นอีก 2 นะครับ
442.54 -> สามารถที่จะชาร์จ USB ต่างๆได้ 6 อุปกรณ์พร้อมกันครับ
446.12 -> ให้มาแบบเต็มที่ไม่มีกั๊กเลยนะครับ
448.24 -> อีก 1 ไฮไลท์ต้องบอกว่าทุกอย่างแทบจะเป็นไฮไลท์จริงๆ
451.22 -> กับ Lexus LM 300h คันนี้ครับ
452.9 -> ก็คือช่องเก็บของด้านหน้าตรงนี้ครับ
455.12 -> ที่หลายคนคิดว่าเป็นช่องเก็บของใช่ไหมครับ
457.64 -> แต่ว่ามันคือตู้เย็นครับ
460 -> เราสามารถที่จะแช่ชาเขียว น้ำเต้าหู้ต่างๆ นะครับ
463.26 -> คาดหวังว่าเปิดมาจะเจอแชมเปญใช่ไหมครับ
465.5 -> ตู้เย็นนี้ขนาด 14 ลิตรนะครับ
467.06 -> ถัดจากตู้เย็นขนาด 14 นิ้วตรงนี้นะครับ
469.42 -> ด้านข้างซ้ายขวาที่ดูเป็นช่องเก็บของ
472.18 -> เป็นส่วนที่ผมชอบมากๆ อีกส่วนหนึ่งนะครับ
474.12 -> เพราะว่าสร้างมาจาก Inside จริงของผู้ใช้งานครับ
477.28 -> บริเวณตรงนี้เอาไว้วางกระเป๋าถือของคุณผู้หญิง
480.5 -> โดยเฉพาะเลยนะครับ
481.74 -> เพราะว่าถ้าเกิดมานั่งในที่นั่งแบบนี้
484.08 -> มันจะไม่มีที่วางกระเป๋าครับ
485.52 -> จะวางที่พื้นก็อาจจะ กลิ้งไป กลิ้งมานะครับ
487.38 -> วางตรงนี้ก็อาจจะไหลตกไปข้างหลังนะครับ
489.2 -> เพราะฉะนั้นการเตรียมพื้นที่
490.68 -> สำหรับวางกระเป๋าถือของผู้หญิงในรถแบบนี้
493.46 -> ถือว่าคิดมาดี แล้วก็ทำมาจาก Inside ของผู้ใช้งานจริงครับ
496.7 -> กลุ่มผู้ใช้งานรถตู้ VIP แบบนี้นะครับ
498.92 -> ก็ต้องการความเป็นส่วนตัวนะครับ
500.82 -> กลุ่มนักการเมือง กลุ่มผู้บริหารระดับสูงนะครับ
503.04 -> บางทีนั่งคุยงานกันข้างหลัง
505.02 -> ก็ต้องการความเป็นส่วนตัวจากคนขับรถนะครับ
507.32 -> หรือว่าคนที่อาจจะนั่งโดยสารอยู่ด้านหน้าครับ
509.48 -> คันนี้ก็ถูกออกแบบมาเรื่องนี้โดยเฉพาะเช่นเดียวกันนะครับ
512.2 -> มีสิ่งที่เรียกว่า Privacy Partition มาให้เป็นที่เรียบร้อยครับ
515.72 -> สามารถที่จะกดขึ้นได้ด้วยระบบไฟฟ้าอย่างนี้นะครับ
518.4 -> ใกล้ๆ มือเลยนะครับ
519.7 -> ก็จะเป็นแผงกั้นกระจกนะครับ
521.62 -> ซึ่งเป็นกระจก Acoustic ด้วยกันเสียงรบกวนนะครับ
524.28 -> ไม่ให้ฝั่งคนขับได้ยินบทสนทนาที่เกิดขึ้นจากฝั่งผู้โดยสาร
528.92 -> กั้นแค่นี้หลายคนบอกว่าไม่พอนะครับ
531.24 -> เพราะว่ากลุ่มดารานักแสดงต่างๆบางคน
533.58 -> อาจจะต้องเปลี่ยนชุดในรถนะครับ
535.74 -> ก็มีปุ่มหนึ่งที่กดเพียงครั้งเดียวเช่นเดียวกันนะครับ
538.82 -> กระจกแผงกั้น Privacy Partition ตัวนี้
541.2 -> ก็จะเป็นฝ้าด้วยระบบไฟฟ้า
543.1 -> เท่านี้ก็ให้ความเป็นส่วนตัวได้มากๆแล้วครับ
545.8 -> นอกจากนี้ในการควบคุมแผง Privacy Partition นะครับ
549.18 -> เราสามารถควบคุมได้ทั้ง 2 ทางนะครับ
551.08 -> คือทั้งทางฝั่งผู้โดยสารแล้วก็ฝั่งคนขับครับ
553.56 -> แต่ว่าการล็อค Partition ตรงนี้
555.84 -> จะอยู่ในฝั่งผู้โดยสารเท่านั้นนะครับ
557.42 -> นั่นก็คือถ้าเกิดผมกดปุ่มนี้ล็อคเอาไว้นะครับ
560.26 -> ทางฝั่งคนขับก็จะไม่สามารถเอาแผงกั้นนี้ลงได้นะครับ
563.78 -> ก็เรียกว่าให้ความเป็นส่วนตัวแล้วก็ให้ความสะดวกสบายด้วย
566.92 -> พูดถึงการเปลี่ยนชุดในห้องโดยสารนะครับ
568.98 -> เขาก็ออกแบบมาให้แต่งหน้าในห้องโดยสารนี้ได้เช่นเดียวกัน
572.32 -> ก็จะมีกระจกที่ออกแบบมาสำหรับการแต่งหน้าโดยเฉพาะ
575.26 -> กดตรงนี้ก็จะเป็นกระจกที่สามารถปรับมุมได้นะครับ
578.2 -> ถ้าเกิดเรานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้
579.66 -> จะเห็นเลยว่าเป็นกระจกที่เข้ากับการแต่งหน้าโดยเฉพาะเลย
583.94 -> ก็คือใบหน้าของเราถูกออกแบบมาให้พอดีเข้ากับกระจกอันนี้
587.44 -> แล้วก็มีไฟนวลๆ สำหรับแต่งหน้าโดยเฉพาะครับ
590.8 -> อันนี้มีให้ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวานะครับ
593.32 -> บริเวณเพดานของตัวรถเราจะเห็นไฟหลายตำแหน่งมากๆ
596.54 -> มีทั้งไฟอ่านหนังสือนะครับ
597.86 -> มีของไฟห้องโดยสารโดยรวมนะครับ
599.78 -> แล้วก็มีหลอดไฟแถบสีอันนี้นะครับ
601.8 -> ที่สามารถเปลี่ยนสีได้มากถึง 16 สีจากปุ่ม Color ตรงนี้ครับ
606.1 -> กดเปลี่ยนเอาตามใจชอบเลยนะครับ
608.04 -> จะสร้างมูดตอนกลางคืน
609.34 -> จะว่าเป็นสีที่โปรดปรานของแต่ละคน
611.88 -> ก็เลือกเปลี่ยนได้ตามใจชอบครับ
613.54 -> ถัดมาตรงนี้ยังไม่หมดมันเยอะจริงๆเลยนะครับ
616.32 -> มีอีกช่องหนึ่งที่เราสามารถเปิดออกมาได้ครับ
618.74 -> ตรงนี้เขาออกแบบมาให้เราสามารถใส่นิตยสารได้นะครับ
622.26 -> ที่เราชื่นชอบหรือว่าอาจจะมีการเปลี่ยนฉบับใหม่ๆเข้ามานะครับ
626.46 -> แล้วก็เก็บอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยนะครับ
628.62 -> ซึ่งใหญ่มากพอที่จะใส่ iPad Pro ได้เครื่องหนึ่งเลยนะครับ
631.78 -> กับหน้าจอความบันเทิงที่ผมชื่นชอบมากๆ
634.52 -> คือพอร์ต HDMI นี่แหละครับ
636.28 -> ถ้าเกิดเราเอาสาย HDMI มานะครับ
638.18 -> เสียบปุ๊บแล้วก็ปลายอีกข้างหนึ่ง
640.62 -> ก็มาเสียบเข้าโทรศัพท์มือถือหรือว่าแท็บเล็ตของเรานะครับ
643.62 -> เท่านี้เองครับ
644.48 -> แล้วก็กดเลือก Source ให้เป็น HDMI
647.34 -> แล้วก็สามารถที่จะเอาหน้าจอความบันเทิงของเรานะครับ
650.72 -> ที่อยู่ในโทรศัพท์มือถืออะไรก็ตามมาออกหน้าจอใหญ่ครับ
654.36 -> แล้วก็ดู Netflix กันไปนะครับ
656.54 -> จอใหญ่สะใจ
657.34 -> แล้วก็ออกเครื่องเสียง Mark Levinson อย่างดีเลยนะครับ
660.88 -> เพลินมากๆ แน่ๆ งานนี้
662.94 -> อันนี้ก็คือห้องโดยสารที่บอกเลยว่าสบายมากๆ VIP มากๆเลย
667.86 -> และจะทำให้หลายๆคนชื่นชอบอย่างแน่นอนนะครับ
670.9 -> มีส่วนที่ชื่นชอบเต็มไปหมดเลยนะครับ
672.9 -> แต่ว่าก็ต้องมีส่วนที่ไม่ชอบเช่นเดียวกันนะครับ
675.84 -> ข้อด้อยจริงๆ ของห้องโดยสารตัวนี้
678.34 -> ก็คือไม่มีโต๊ะครับ
679.64 -> ถ้าจะกินอะไรจริงจังหน่อยครับ
681.68 -> หรือว่าจะเอาแล็ปท็อปขึ้นมานั่งทำงาน
683.76 -> ตัวนี้จะไม่มีโต๊ะที่เราสามารถกางได้ครับ
686.24 -> แล็ปท็อปจะต้องวางบนตักแทนนะครับ
688.58 -> หรือว่าอาจจะต้องมาวางเฉียงๆ แทนครับ
690.62 -> อันนี้เป็นข้อด้อยหลักๆเลยที่ผมเจอครับ
693.7 -> อย่างที่ 2 ก็คือถ้าเกิดเราเป็นผู้โดยสารนะครับ
696.48 -> จะเปิดประตูออกไปโดยที่ไม่มีคนเปิดให้
699.02 -> ก็จะต้องเอื้อมพอสมควรครับ
700.46 -> เพราะว่าตัวสลักเปิดประตูอยู่ค่อนข้างไกลครับ
703.12 -> ก็จะต้องขยับตัวเข้ามาเยอะเหมือนกันครับ
704.88 -> แต่ว่าคนใช้รถตู้ระดับนี้ก็จะมีคนขับรถที่คอยกดให้นะครับ
709.78 -> คือสามารถที่จะเลือกเปิด-ปิดประตูจากที่นั่งคนขับได้นะครับ
713.18 -> รวมถึงคนข้างนอกมาถึงที่หมายก็น่าจะมีคนเปิดประตูให้อยู่แล้ว
716.9 -> และอย่างสุดท้ายก็คือม่านบังแดดนะครับ
719.82 -> ซ้ายขวายังเป็นระบบมือนะครับ
722.76 -> ที่จะต้องยกขึ้นมาเกี่ยวด้วยตัวเองอยู่ครับ
724.48 -> ไม่ใช่ระบบไฟฟ้าครับ
729.52 -> เราดูห้องโดยสารภายในไปแล้วนะครับ
731.68 -> ต่อไปมาดูรถรอบคันกันบ้างครับ
733.66 -> ก็จะสลับนิดหนึ่งเพราะว่าเราพาดูข้างในก่อนนะครับ
736.2 -> ด้านนอกของ Lexus LM 300h นะครับ
738.62 -> จริงๆแล้วถ้าเกิดใครคุ้นเคย
740.54 -> นี่คือใช้ตัวถังเดียวกันกับ Toyota Alphard นั่นแหละครับ
743.32 -> แต่ว่าเอามาใส่ความเป็น Lexus เข้าไปนะครับ
745.96 -> เริ่มจากไฟหน้าแบบ Lexus เลยนะครับ
748.02 -> เราจะเห็นไฟหน้าแบบ 3 ตานะครับ
749.96 -> หรือว่า 3-eye LED แล้วนะครับ
751.82 -> แล้วก็จะมีไฟ Day Time ที่เป็นรูปทรงตัว L แหลมๆ อย่างนี้
755.7 -> ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาครับ
757.04 -> ตัวที่โดดเด่นมากๆ กับ LM 300h นี้
759.34 -> ก็คือน่าจะเป็นกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่มากๆนะครับ
762.42 -> เรียกว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่ Lexus เคยทำมาเลยนะครับ
764.98 -> กับโลโก้ Lexus ขนาดใหญ่ที่สุดที่เราเคยเห็นเช่นเดียวกันครับ
768.52 -> มีความพิเศษอยู่ที่บริเวณโลโก้ตรงนี้ด้วยนะครับ
770.74 -> ไม่ใช่โลโก้ธรรมดา
771.76 -> แต่ว่าเขาฝังเอาเซนเซอร์ที่เป็นเรดาร์ต่างๆนะครับ
774.92 -> อยู่ใต้โลโก้ตรงนี้เลยนะครับ
776.72 -> เพื่อใช้ในการคำนวณระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่นะครับ
779.5 -> ที่เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนะครับ
781.34 -> ตอนที่เราเข้าไปนั่งตรงที่นั่งคนขับแล้วนะครับ
783.72 -> ด้านใต้โลโก้ตรงนี้ก็จะมีกล้องหน้ารถด้วยนะครับ
786.42 -> ที่ในรถคันนี้มีระบบกล้อง 360 องศาให้เราดูกันครับ
790.14 -> ถัดมาบริเวณด้านข้างตัวรถนะครับ
792.2 -> ถ้าจะดูจากด้านนี้ก็ไม่ได้เห็นความพิเศษอะไรขนาดนั้นนะครับ
796.02 -> ก็ยังคงเป็นรูปทรงคล้ายๆ กับ Toyota Alphard ทั่วๆไป
799.52 -> จะมีโลโก้ Hybrid ของ Lexus ปรากฏอยู่เท่านั้นเองครับ
804.06 -> แต่ว่าพออ้อมมาถึงด้านท้ายรถนะครับ
805.82 -> เราจะเห็นความโดดเด่นของไฟท้ายนะครับ
808.48 -> ที่เป็นเส้นเดียวกันอย่างนี้นะครับ
810.74 -> เป็นดีไซน์ใหม่ของเขาพร้อมกับชื่อรุ่น LM 300h นะครับ
813.98 -> ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดด้วยครับ
815.74 -> มาดูที่เก็บสัมภาระท้ายรถบ้างนะครับ
818 -> ฝาท้ายเปิดด้วยระบบไฟฟ้านะครับ
819.92 -> ถ้าเกิดกดด้วยรีโมท
821.06 -> ก็จะสามารถที่จะกดเปิดจนสุดได้ด้วยระบบไฟฟ้าเลย
824.4 -> แต่ถ้าเกิดกดด้วยมือก็จะต้องยกขึ้นมาเองแบบนี้ครับ
827.54 -> สังเกตว่าด้วยความที่ห้องโดยสารตรงนี้มีแค่ 2 ที่นั่งครับ
831.56 -> ทำให้เรามีพื้นที่เก็บกระเป๋าค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะครับ
835.4 -> แม้ว่าตัวเบาะจะเอนลงมาสุดนะครับ
837.36 -> ก็ยังเหลือพื้นที่ให้เราวางกระเป๋าใบใหญ่ๆนะครับ
839.9 -> เพื่อวางนอนได้
840.82 -> หรือถ้าเกิดเรารู้อยู่แล้วว่าวันนี้มีกระเป๋าสัมภาระต่างๆนะครับ
844.52 -> ผู้โดยสารด้านในก็อาจจะเอนนอนลงมาเยอะมากขนาดนี้ไม่ได้
848.44 -> แต่ว่าโดยรวมแล้วถือว่าเก็บของได้เพียงพอแน่ๆนะครับ
851.3 -> เพราะว่ามีอยู่แค่ 4 ที่นั่งเองนะครับ
853.28 -> คงไม่ได้มีใครมีของเยอะแยะมากมายขนาดนั้นนะครับ
856.1 -> ในการที่จะไปเที่ยว 4 คนครับ
858.52 -> การปิดของฝากระโปรงท้ายปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้านะครับ
862.6 -> สามารถที่จะกดปุ่มตรงนี้เพื่อปิดได้เลยครับ
864.78 -> แล้วก็แน่นอนว่ารถระดับนี้แล้วก็มีระบบกันหนีบนะครับ
868.42 -> สมมุติว่ามีคนขว้างอยู่แล้วก็กดปิดฝากระโปรงลงมานะครับ
872.46 -> มันจะชนเราเบาๆ นุ่มนวลๆ นะครับ
874.74 -> แล้วก็ดีดกลับเข้าไป ไม่ได้น่ากลัวอะไรครับ
883.92 -> แม้ว่าดีไซน์ภายนอกจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายนะครับ
887.66 -> นอกเหนือจากบริเวณของด้านหน้ากับด้านท้ายนะครับ
890.52 -> ที่ให้ความ Lexus แล้วก็ให้ความโฉบเฉี่ยวขึ้นมากับรถตู้ครับ
894.08 -> แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างมากกับ Lexus LM 300h
897.46 -> ก็คือบริเวณที่นั่งคนขับตรงนี้แหละครับ
900.08 -> ตรงนี้ทาง Lexus คิดมาแล้วนะครับ
902.14 -> เพราะว่าในรุ่น LM 300h
904.02 -> เขาแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อยด้วยกันครับ
906.22 -> รุ่นที่เราเห็นเป็นรุ่นท็อปก็คือมีแค่ 4 ที่นั่งครับ
909.32 -> แต่ยังมีอีกรุ่นหนึ่งที่เปิดราคา 5,500,000 บาท
912.16 -> ตัวนั้นจะเป็น 7 ที่นั่งครับ
914.08 -> กลุ่มนั้นอาจจะเป็นกลุ่มที่เอาไปใช้เป็นรถครอบครัวนะครับ
917 -> เพราะฉะนั้นเจ้าของรถก็อาจจะมีโอกาสได้มาขับเองบ้างนะครับ
920.82 -> แตกต่างจากรุ่นนี้นะครับ
922.12 -> ที่ส่วนมากเจ้าของรถ
923.52 -> ได้นั่งอยู่ด้านหลังแทบจะ100 เปอร์เซ็นต์แน่ๆครับ
926.26 -> ทาง Lexus พอคิดมาแบบนี้
927.98 -> ก็เลยต้องให้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ
930.38 -> สำหรับผู้ขับขี่เช่นเดียวกันนะครับ
932.46 -> แล้วก็ให้มาแบบจัดเต็มไม่แพ้กับ Lexus รุ่นซีดานทั่วๆไปเลย
936.52 -> เราจะมาสตาร์ทรถคันนี้พร้อมกันนะครับ
938.9 -> Lexus LM 300h นี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนะครับ
943.38 -> 2.5 ลิตรครับ
944.7 -> พละกำลังของเครื่องยนต์อย่างเดียวอยู่ที่ 150 แรงม้านะครับ
947.98 -> แต่ว่าพอรวมเข้ากับมอเตอร์ไฮบริดนะครับ
950.52 -> ซึ่งทาง Lexus กับค่าย Toyota
952.64 -> เก่งเรื่องของเครื่องยนต์ไฮบริดอยู่แล้วนะครับ
954.9 -> ตัวนี้มีมอเตอร์ไฮบริดที่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวด้วยกันนะครับ
958.86 -> สำหรับล้อคู่หน้า
960.04 -> แล้วก็ล้อคู่หลังครับ
961.64 -> พอรวมพละกำลังกับเครื่องยนต์เข้าไปแล้ว
963.94 -> ให้กำลังสูงสุดที่ 197 แรงม้านะครับ
966.58 -> ก็เรียกว่าแรงเพียงพอสำหรับรถไซส์นี้
969.38 -> ในการที่จะใช้โดยสารไปไหนมาไหนได้นะครับ
971.74 -> บวกกับระบบไฮบริดก็ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้นะครับ
974.76 -> ตัวเลขที่ทาง Lexus เคลมไว้
976.24 -> อยู่ที่ประมาณ 15.4 กิโลเมตรต่อลิตรนะครับ
979.5 -> ใช้งานจริงๆ อาจจะได้ประมาณ 11 12 13 นะครับ
981.98 -> แล้วแต่สภาพการใช้งานของแต่ละคนครับ
983.98 -> ก่อนจะพาดูระบบต่างๆ
985.64 -> ผมให้ดูปุ่มต่างๆรอบตัวคนขับรถกันก่อนนะครับ
989.14 -> บอกเลยว่านี่คือรถที่ Option แน่นมากที่สุดคันหนึ่ง
992.3 -> แม้ว่าคนอื่นๆ ดูแล้วจะเหมือนกับคนขับรถตู้ทั่วๆไปก็ตาม
996.6 -> เริ่มจากการเซฟตำแหน่งที่นั่งของเบาะนะครับ
999.56 -> เซฟได้ถึง 3 ตำแหน่งนะครับ
1001.54 -> เบาะปรับได้อย่างละเอียดมากๆ
1003.06 -> ด้วยระบบไฟฟ้าทุกอย่างเลยนะครับ
1005.22 -> ก็พวงมาลัยนะครับ
1006.22 -> ปุ่มต่างๆ ให้มาเต็มจริงๆ นะครับ
1008.44 -> เรียกได้ว่าไม่ได้กั๊ก Option เลยกับรถคันนี้ครับ
1011.5 -> เพราะเราหันมาดูด้านนี้นะครับ
1013.28 -> ก็จะมีตัวของเบรกมือไฟฟ้านะครับ
1015.08 -> มีปุ่ม Auto Hold Brake นะครับ
1016.86 -> ผมเข้าโหมด EV ครับ
1018.16 -> ปุ่มปิดระบบ DSC นะครับ
1019.62 -> แล้วก็หมวด Eco ครับ
1020.92 -> แผงคอนโซลต่างๆ ปุ่มต่างๆ เป็น Soft Close ทั้งหมดเลย
1024.02 -> ลายไม้หรูหราไม่แพ้กับข้างหลังเลยครับ
1026.28 -> แล้วก็มีตัวแทร็คแพดตรงนี้นะครับ
1028.42 -> ที่เอาไว้ควบคุมหน้าจอใหญ่ตรงนี้ครับ
1030.84 -> บอกเลยว่านี้เป็นหน้าจอที่ใหญ่มากๆเลยนะครับ
1034.02 -> ที่หลายคนดูแล้วน่าจะชื่นชอบครับ
1036.02 -> เปิดแผนที่ก็เต็มตาเลยนะครับ
1037.68 -> แล้วก็ควบคุมผ่านตัวแทร็คแพดของ Lexus ตัวนี้
1040.08 -> หรือว่าจะกดปุ่มเมนู
1041.8 -> หรือว่าจะใช้นิ้วของเราแตะเป็นทัชสกรีนก็ได้ครับ
1045.16 -> ควบคุมได้หลากหลายมากๆนะครับ
1046.76 -> ตัวหน้าจอความบันเทิงตรงนี้นะครับ
1048.34 -> รองรับระบบ Apple CarPlay
1050.22 -> รองรับ Android Auto นะครับ
1051.82 -> เสร็จสิ้นออกมาจากโรงงานเลยนะครับ
1053.48 -> เราเสียบสายเข้ากับโทรศัพท์มือถือของเราปุ๊บ
1055.58 -> หน้าจอตรงนี้ก็จะโชว์เป็นจอใหญ่เลยนะครับ
1057.9 -> ในส่วนของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่นะครับ
1059.7 -> ทาง Lexus ใช้ชื่อว่า Lexus Safety System+ นะครับ
1063.8 -> ให้มาเต็มที่กับรถคันนี้เช่นเดียวกันนะครับ
1066.4 -> มาครบเลยนะครับ
1067.34 -> ทั้งระบบการรักษารถอยู่ในเลนนะครับ
1069.18 -> มีระบบ Cruise Control แบบ Dynamic นะครับ
1071.48 -> มีระบบป้องกันการชนหรือว่า Pre-Collision System
1074.04 -> สามารถปรับไฟสูงต่ำอัจฉริยะ
1075.74 -> หรือว่า Adaptive High-Beam System นะครับ
1077.76 -> ระบบช่วยเบรกขณะถอยจอดนะครับ
1079.66 -> หรือว่า Parking Support Brake
1081.1 -> มีระบบกล้องแสดงภาพจากมุมสูงหรือว่า 360 องศานะครับ
1084.72 -> ในกรณีที่เราขับรถคันใหญ่ๆ หลายคนไม่ถนัดนะครับ
1087.7 -> มีกล้องตัวนี้ก็จะช่วยได้เยอะมากๆเลยนะครับ
1090.48 -> แต่ที่สำคัญก็คือพอด้านหลังเป็นกระจก Privacy แบบนี้นะครับ
1094 -> กระจกมองหลังตรงนี้ก็อาจจะไม่มีความหมายใช่ไหมครับ
1096.7 -> ทาง Lexus เขาคิดมาแล้วครับ
1098.08 -> เป็นกระจกมองหลังที่ใช้กล้องนะครับ
1101.02 -> ตรงนี้ที่เราเห็นเป็นระบบดิจิตอล 100 เปอร์เซ็นต์ครับ
1104.36 -> สามารถที่จะเลือกได้เลยว่าเอาความสว่างเท่าไหร่นะครับ
1108 -> หรือว่าปรับมุมต่างๆนะครับ
1109.94 -> ที่จะให้กล้องด้านหลังสามารถเงยขึ้นหรือว่าเงยลง
1113.22 -> ปรับซ้ายปรับขวานะครับ
1114.28 -> หรือแม้กระทั่งปรับซูมนะครับ
1115.56 -> สามารถกดได้จากเมนูตรงนี้
1117.54 -> หรือถ้าเกิดใครไม่ถนัดจริงๆ ไม่ชื่นชอบระบบกล้องจริงๆนะครับ
1120.88 -> ก็สามารถที่จะผลักตรงนี้ครับ
1122.52 -> ออกมาเพื่อแปลงร่างตัวนี้ให้เป็นกระจกปกติได้ครับ
1124.9 -> แต่พอเป็นกระจกปกตินะครับ
1126.48 -> เราก็จะมองอะไรไม่เห็นอยู่ดีนะครับ
1127.92 -> เพราะว่าแผงกั้นตัวนี้ส่วนมากก็จะถูกปิดไว้นะครับ
1130.66 -> หรือต่อให้เปิดก็จะโดนเบาะที่นั่งด้านหลังที่ขนาดค่อนข้างใหญ่
1134.46 -> บังทัศนวิสัยอยู่ดี
1135.74 -> ก็แนะนำให้เปิดเป็นกล้องครับ
1137.42 -> ตัวนี้เวิร์คแม้กระทั่งเราขับขี่ที่ความเร็วสูงด้วยนะครับ
1140.28 -> ให้ความรู้สึกคล้ายๆ กับเรามองกระจกหลังจริงๆ เลยครับ
1143.2 -> ถัดมาบริเวณที่วางแขนตรงนี้
1145.34 -> สามารถเปิดขึ้นมาได้ด้วยนะครับ
1146.96 -> ถ้าเกิดเป็นที่นั่งคนขับนะครับ
1148.54 -> คนขับเปิดก็เปิดด้านนี้ครับ
1150.1 -> ถ้าจะเป็นคนนั่งเปิดก็เปิดด้านนี้นะครับ
1152.96 -> เปิดได้ทั้ง 2 ด้านครับ
1153.88 -> อันนี้ออกแบบมาค่อนข้างดีเลยนะครับ
1155.56 -> มีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบ Wireless นะครับ
1157.32 -> หรือว่าแท่นชาร์จไร้สายครับ
1158.76 -> ที่เราวางโทรศัพท์ลงไปปุ๊บ
1160.24 -> ก็จะทำการเริ่มชาร์จโดยอัตโนมัติอย่างนี้เลยนะครับ
1163.66 -> ก็จะมีการเริ่มชาร์จขึ้นนะครับ
1164.9 -> มีสถานะบนโทรศัพท์มือถือขึ้นอย่างนี้ครับ
1167.12 -> แต่ว่าช่องที่ออกแบบมา
1169.04 -> มีขนาดเล็กไปนิดหนึ่งนะครับ
1170.44 -> สำหรับมือถือรุ่น Max หรือว่ารุ่น Plus
1173.36 -> ก็จะวางได้ไม่พอดีช่องครับ
1175.24 -> ก็จะยังกลิ้งๆหน่อยนะครับ
1176.62 -> แล้วก็พอยกตัวแท่นชาร์จนี้ขึ้นมาปุ๊บ
1178.7 -> ก็จะเจอกับช่องเก็บของลึกทีเดียวครับ
1180.92 -> ในโซนของคนขับกับผู้โดยสารที่นั่งหน้านี้นะครับ
1183.7 -> ยังมีพื้นที่ของกระจกซันรูฟเล็กๆ ด้านบนครับ
1187.78 -> แล้วก็แผงควบคุมด้านบนตรงนี้นะครับ
1189.86 -> ตรงนี้จะเป็นช่องเก็บของ
1191.12 -> ที่ส่วนมากคนเอาไว้ใส่แว่นตากันแดดกันใช่ไหมครับ
1193.8 -> แล้วก็ปุ่มต่างๆตรงนี้นะครับ
1195.26 -> ควบคุมทุกส่วนของตัวรถครับ
1196.96 -> ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายนะครับ
1199.16 -> เปิด-ปิดประตูสไลด์ทางด้านซ้ายและด้านขวานะครับ
1201.86 -> ควบคุมจากตรงนี้ได้ครับ
1203.16 -> แล้วก็เปิด-ปิดตัวซันรูฟนี้ด้วยระบบไฟฟ้าครับ
1206 -> และก็จะมีตำแหน่งของการเปิด-ปิดไฟต่างๆ ครบถ้วน
1209.02 -> ก็อย่างที่เห็นนะครับ
1210.3 -> ว่าไม่ได้ออกแบบมาให้เรานั่งเฉพาะข้างหลังอย่างเดียวครับ
1213.82 -> แต่ว่าใครที่จะซื้อคันนี้มาเพื่อขับเองในบางช่วงเวลา
1217.46 -> ก็สามารถขับได้แบบสบายๆ เลยนะครับ
1219.48 -> อุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ครบถ้วนจริงๆ
1221.74 -> Option ให้มาแน่นจริงๆครับ
1223.4 -> ที่เดี๋ยวเราจะพาคันนี้ออกไปขับข้างนอกกันครับ
1231.82 -> ผมเอาตัว Lexus LM 300h คันนี้มาลองขับนะครับ
1235.9 -> อย่างที่บอกว่าจริงๆ แล้วเจ้าของรถ
1238.78 -> อาจจะไม่ค่อยได้ขับเองสักเท่าไหร่นะครับ
1240.76 -> สำหรับรุ่นท็อป 6.5 ล้านบาท
1243.02 -> แต่ว่าที่ออกมาขับให้ดู
1245.04 -> อยากจะพิสูจน์ให้เห็นว่ามันเป็นรถที่ขับได้ง่ายนะครับ
1248.3 -> แม้กระทั่งเจ้าของรถที่อาจจะไม่ได้มีไลฟ์สไตล์
1250.86 -> ในการขับรถบ่อยมากนักนะครับ
1252.72 -> ขึ้นมาขับทำความคุ้นเคยได้ง่ายมากๆนะครับ
1255.48 -> ก็อาจจะต้องแค่กะเรื่องระยะ
1257.66 -> เพราะว่าตัวรถมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่ารถซีดานโดยทั่วๆไป
1261.62 -> แต่โดยภาพรวมแล้วนะครับ
1263.16 -> ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่นะครับ
1264.78 -> น้ำหนักพวงมาลัย ความสบายในการขับสบาย
1267.2 -> ความในการนั่งต่างๆ
1268.98 -> ทำได้เพอร์เฟคมากๆครับ
1270.62 -> แล้วก็ทำได้ใกล้เคียงกับรถโดยสารทั่วๆไปมากๆ
1273.26 -> ต้องบอกว่าเป็นรถตู้ที่ขับง่ายมากที่สุดคันหนึ่ง
1276.14 -> เท่าที่ผมเคยขับมาเลยครับ
1277.74 -> ส่วนผมอยากลองเองมากๆ กับรถคันนี้นะครับ
1280.42 -> ก็คือบริเวณกระจกมองหลัง
1281.92 -> ที่มันเป็นหน้าจอ 100 เปอร์เซ็นต์ตัวนี้แหละครับ
1284.54 -> พอมาใช้ดูก็ค้นพบว่ามันให้ความรู้สึกใกล้เคียง
1287.9 -> กับกระจกมองหลังที่ทำมาจากกระจกจริงๆ เหมือนกันนะครับ
1290.84 -> จะเหลือแค่ว่า
1291.88 -> เราไม่สามารถที่จะส่องเพื่อเช็คหน้าตัวเองได้เท่านั้นเองนะครับ
1295.62 -> มีบางทีเผลอเหมือนกัน
1296.98 -> มองไปทำไมไม่เห็นหน้าเรานะครับ
1298.64 -> เพราะจริงๆ แล้วตัวนี้เป็นกล้องนะครับ
1300.12 -> แล้วก็เป็นหน้าจอบวกกับว่าจะเป็นรถตู้แบบนี้
1303.28 -> ปิดตัวแผงกั้นตรงนี้เรียบร้อยนะครับ
1305.3 -> ถ้าเกิดเราปรับเข้าโหมดกระจก
1306.98 -> ก็เท่ากับว่าเราจะไม่มีกระจกมองหลังเลยนะครับ
1309.46 -> ตัวนี้ให้ความสะดวกมากๆครับ
1311.26 -> แม้ว่ารถใช้ความเร็วอยู่พอสมควรนะครับ
1313.76 -> ภาพที่ได้ก็ยังชัดเจนอยู่นะครับ
1316.04 -> ชัดแม้กระทั่งสามารถอ่านป้ายทะเบียนของรถ
1318.8 -> คันที่ตามมาอยู่ออกได้อย่างชัดเจนเลยละครับ
1321.34 -> เรื่องของช่วงล่างต้องบอกว่านุ่มนวลในระดับหนึ่งนะครับ
1325.1 -> ด้วยความที่ทรงตัวถังเป็นรถตู้แบบนี้
1327.06 -> เราจะคาดหวังให้มันนุ่มนวลเป็นรถซีดาน
1330.08 -> ที่ใช้ช่วงล่างถุงลมก็คงเป็นไปไม่ได้นะครับ
1332.74 -> แต่ตัวนี้ Lexus เสริมช่วงล่างเป็น Swing Valve มาให้แล้ว
1336.44 -> ก็เรียกว่าซับแรงสะเทือนได้ดีในระดับหนึ่งครับ
1339.78 -> แต่ว่าอาจจะไม่ได้เทียบเท่ากับรถซีดานนะครับ
1342.02 -> ในแง่ของพละกำลังบ้างนะครับ
1343.86 -> ตัว Lexus LM 300h ตัวนี้นะครับ
1346.24 -> เครื่องยนต์รหัส 300h ของทาง Lexus นะครับ
1348.82 -> ปัจจุบันนี้เขาก็ใช้ตัวเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร
1353.02 -> 150 แรงม้า
1354.48 -> ร่วมกับตัวมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวเลยนะครับ
1356.76 -> มีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้ากับคู่หลังครับ
1359.16 -> ทำให้พละกำลังโดยรวมได้สูงสุดที่ 197 แรงม้า
1363.02 -> ทรงของรถตู้มันไม่ใช่รถซิ่งอยู่แล้วนะครับ
1365.36 -> พละกำลังขนาดนี้
1366.84 -> เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแบบเหลือเฟือนะครับ
1369.76 -> แบบสบายๆเลยครับ
1371.14 -> รวมถึงว่าการรีวิววันนี้ของผมไม่ได้มาโฟกัสกันที่การขับด้วย
1375.56 -> รถคันนี้โฟกัสไปที่การโดยสารครับ
1378.36 -> ที่เดี๋ยวผมจะสลับไปเป็นผู้โดยสารบ้างนะครับ
1381.16 -> และเดี๋ยวไปดูกันว่าความสบายจากผู้โดยสารแถวหลัง
1383.92 -> เป็นยังไงบ้างครับ
1388.26 -> ย้ายมาเป็นผู้โดยสารแถวหลังต้องนี้นะครับ
1390.66 -> ต้องบอกว่านี่คือความสบาย
1392.44 -> ในการโดยสารบนรถยนต์ที่แท้จริงเลยนะครับ
1395.2 -> ให้ฟีลผู้บริหารนะครับ
1396.6 -> ให้ฟีลดารานักแสดงมากๆ เลยนะครับ
1399.04 -> เวลาที่คนอื่นรถติดๆ กันเขาก็จะมีพื้นที่กว้างๆ นะครับ
1402.98 -> ด้านหลังรถตู้ตรงนี้ในการที่จะพักผ่อนครับ
1405.52 -> มีเบาะที่นั่งที่สบายมากๆเลยนะครับ
1407.54 -> ต้องบอกว่าเบาะที่นั่งตัวนี้ที่ Lexus ใช้นะครับ
1410.12 -> เป็นเบาะ AdaptiPedic นะครับ
1411.62 -> โดย Woodbridge เป็นครั้งแรกของโลกเลยนะครับ
1414.38 -> พอเรานั่งปุ๊บเราจะรับรู้เลยว่าตัวเบาะเข้ากับสรีระของเรานะครับ
1418.56 -> เพื่อให้ความสบายกับเราได้อย่างเต็มที่นะครับ
1420.86 -> กดปล่อยแอร์ให้ออกมาจากด้านหลังเบาะนะครับ
1424.04 -> ให้ความรู้สึกเย็นสบายครับ
1425.32 -> แล้วก็กดเอนได้อย่างเต็มที่ครับ
1427.68 -> พอเรากดเอนจากหน้าจอสัมผัสถึงระดับหนึ่ง
1429.98 -> เรารู้สึกว่าเราเริ่มเอื้อมไม่ถึงนะครับ
1432.04 -> ทาง Lexus เขาก็คิดเป็นอย่างดีแล้วนะครับ
1434.08 -> มีปุ่มอีกตำแหน่งหนึ่งในการปรับเอนอยู่ด้านข้างตรงนี้ครับ
1437.24 -> ให้เรากดปรับเอนต่อได้ง่ายๆอย่างนี้ครับ
1439.78 -> หรือว่าจะกดเอนขึ้นมาก็ทำได้สบายๆ อย่างนี้ครับ
1443.38 -> นี่ยังไม่นับรวมว่ามีหน้าจอความบันเทิงขนาด 26 นิ้ว
1446.68 -> อยู่ข้างหน้าเรานะครับ
1447.76 -> ตอนนี้ผมต่อ Netflix ในมือถือนะครับ
1450.12 -> ออกหน้าจอตรงนี้ครับ
1451.4 -> และก็สุดยอดเครื่องเสียง Mark Levinson 19 ลำโพง
1455.38 -> รวมทั้งคันแล้วนะครับ
1456.9 -> Surround เต็มที่นะครับ
1458.38 -> พักผ่อนหย่อนใจสบายๆครับ
1460.36 -> ปิดแผงกั้น Privacy ตรงนี้นะครับ
1462.46 -> ก็สามารถกดให้มันเป็นกระจกฝ้าๆ ด้วยระบบไฟฟ้า
1466.44 -> เป็นส่วนตัวสุดๆ ไปเลยครับ
1474.16 -> และนี่ก็คือรีวิวของรถตู้สุดหรูคันนี้นะครับ
1476.82 -> Lexus LM 300h ครับ
1478.88 -> มาเฉลยกันในตอนท้ายว่าชื่อรุ่น LM เขา
1481.44 -> ย่อมาจาก Luxury Mover นะครับ
1483.48 -> สุดหรูสมชื่อจริงๆครับ
1485.12 -> LM 300h ในประเทศไทยมี 2 รุ่นนะครับ
1487.5 -> รุ่นท็อปแบบตัวนี้ที่มี 4 ที่นั่งนะครับ
1489.62 -> เปิดราคา 6,500,000 บาท
1491.34 -> และรุ่นรองลงมาจะมี 7 ที่นั่งนะครับ
1493.34 -> เปิดราคา 5,500,000 บาท
1495.38 -> ราคานี้ทาง Lexus ประเทศไทย
1497.38 -> รับประกันตัวรถพร้อมกับระบบไฮบริด 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
1501.04 -> แล้วก็รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทางด้วย
1504.26 -> ผม อู๋ Spin9 ครับ
1505.1 -> พบกันใหม่คลิปหน้า
1505.8 -> สวัสดีครับ

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=gQCwiud1t2Q