
การเลี้ยงหมูหลุมเศรษฐกิจ ตอนที่ 5: คอกหมูแนวใหม่ไร้กลิ่น
การเลี้ยงหมูหลุมเศรษฐกิจ ตอนที่ 5: คอกหมูแนวใหม่ไร้กลิ่น
สื่อเรียนรู้เพื่อการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรภายใต้โครงการบูรณาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินด้านการเกษตร (What2Grow)
Content
0.119 -> [เสียงดนตรี]
33.646 -> (ผู้ให้สัมภาษณ์ชาย 1)
เลี้ยงหมู แมลงวันเยอะนะ
34.959 -> (ผู้ให้สัมภาษณ์ชาย 2) กลิ่นเหม็น
36.052 -> (ผู้ให้สัมภาษณ์หญิง 1)
บ้านไหนที่เลี้ยงหมู ชาวบ้านไม่ชอบไม่ใช่หรือคะ
39.292 -> (ผู้ให้สัมภาษณ์หญิง 2)
เลี้ยงหมู ก็มีขี้หมูเหม็น
40.932 -> แมลงวันมันเยอะ ไม่อยากเลี้ยง
45.944 -> (บรรยาย) แหม ๆ
ทำไมทัศนคติของคนที่มีต่อการเลี้ยงหมู
50.79 -> มันช่างดูแย่ไปเสียหมดเลยล่ะครับ
53.282 -> อาจจะเป็นเพราะติดภาพเดิม ๆ
55.298 -> แต่ก่อน บ้านใครเลี้ยงหมู
หรือตั้งฟาร์มเลี้ยงหมูที่ไหน
58.611 -> ก็มักจะโดนชาวบ้านรอบข้างบ่นว่าเหม็นบ้าง
ทำให้น้ำเน่าเสียบ้าง
63.187 -> มีแมลงวันเป็นพาหะนำโรคบ้าง
65.917 -> ทำให้การเลี้ยงน้องหมู
ไม่เป็นที่ถูกใจของใครหลาย ๆ คนเลยล่ะครับ
70.424 -> แต่การเลี้ยงหมูหลุม
ปัญหาต่าง ๆ นี่จะหมดไป
73.321 -> ทั้งเรื่องน้ำเสีย แมลงวัน กลิ่นเหม็น
ไม่มากวนใจชาวบ้านแน่นอนครับ
81.095 -> (คุณชาติชาย) มาตรฐานการเลี้ยงหมูหลุม
เริ่มต้นจากคุณสุพจน์เป็นคนกำหนด
85.582 -> คือ เลี้ยงเป็นตัวอย่าง
87.281 -> มาตรฐาน ก็คือเราใช้ง่าย ๆ นะครับ
90.289 -> การเลี้ยงโดยทั่วไป
ถ้าเรามีการจัดการที่ดี การดูแลที่ดี
95.303 -> ผมว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ตามมา ก็คือหมูสุขภาพดี
98.446 -> ไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องใช้วัคซีน
100.572 -> มันก็สามารถอยู่ของมันยังมีความสุขได้
อย่างที่เห็น
103.076 -> มาตรฐานการเลี้ยง ก็แล้วแต่พื้นที่
106.128 -> อย่างเรื่องของการใช้วัตถุดิบ
108.445 -> วัตถุดิบในการที่จะมาเป็นวัสดุรองพื้น
วัตถุดิบที่จะมาเป็นอาหารหมัก
112.484 -> ก็แล้วแต่พื้นที่
113.841 -> เพียงแต่ว่าสิ่งต่าง ๆ พวกนี้
ต้องผ่านการตรวจนะครับ
117.46 -> ผ่านการตรวจว่าปลอดเชื้อจริงนะครับ
120.786 -> ค่าโปรตีนถึงไหม
122.413 -> เก็บตัวอย่างไปตรวจนะครับ
124.072 -> ส่งตรวจที่กำแพงแสนนะครับ
ม. เกษตรฯ กำแพงแสน
127.849 -> อาจจะผ่านหน่วยราชการ
หรือไปตรวจเองก็ได้นะครับ
130.976 -> เป็นที่ยอมรับของทั่วไป
133.087 -> ค่ามาตรฐานตรงนี้นะครับ
เทียบเท่ากับการเลี้ยงหมูฟาร์ม
137.025 -> เทียบเท่ากับการเลี้ยงหมูในของกรมปศุสัตว์
สถานีบำรุงพันธุ์
142.15 -> การเลี้ยงหมูหลุมในมาตรฐานชุมชนนี่
144.683 -> ก็คือหมูเมื่อเลี้ยงแล้วนี่ มันมีกลิ่น
147.681 -> ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน
ชาวบ้านก็จะมีเรื่องร้องเรียน
150.467 -> โดยหมูปกติโดยทั่วไป
เพราะขี้หมูกลิ่นมันแรงมาก
153.625 -> แต่คุณสุพจน์มาเลี้ยงหมูหลุมนะครับ
มันเข้ากับชุมชนได้
157.908 -> ก็คือไม่มีกลิ่นรบกวน ไม่มีแมลงวัน
161.538 -> ถึงจะทำประชาพิจารณ์ ชุมชนก็ผ่าน
163.674 -> เพราะเราพูดว่า "การเลี้ยงหมู"
164.852 -> แต่พอเราบอกปุ๊บว่าเป็นเลี้ยงหมูหลุม
ชุมชนจะแฮปปี
168.987 -> ว่าหมูหลุมไม่มีกลิ่น
171.106 -> ไม่มีน้ำออกจากฟาร์ม
173.36 -> เพราะว่าจะมีของที่ออกจากฟาร์ม
ก็คือเป็นปุ๋ยออกไป
176.125 -> เนื้อหมูที่มีคุณภาพ บริโภคภายในชุมชน
178.875 -> ตอนนี้ที่ได้มาตรฐานหมูหลุมจริง ๆ แล้วนี่
182.443 -> ของคุณสุพจน์นี่ เขาเจริญเติบโตมานาน
185.57 -> ถ้าไปเทียบกับที่อื่น ก็คือที่อื่นเพิ่งจะเริ่มต้น
187.776 -> บางทีนี่
เพิ่งจะเริ่มเอาแบบอย่างตรงนี้ไปสร้าง
191.205 -> ซึ่งตรงนี้สำคัญ
192.292 -> เราก็จะต้องไปส่งเสริมให้เขา
ให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน
195.86 -> ทั้งเรื่องอาหารนะครับ
เรื่องการจัดการ เรื่องการดูแลต่าง ๆ
200.863 -> แม่พันธุ์, สายเลือด, การผสมเทียม
ทุกอย่างต้องเป็นลักษณะเดียวกัน
205.212 -> เราถึงจะเรียกว่าเป็นมาตรฐานหมูหลุม
209.69 -> (บรรยาย) ว่าแต่พี่สุพจน์ครับ
211.18 -> การเลี้ยงหมูหลุมก็เลี้ยงหมูเหมือนกัน
ทำไม๊ ทำไม มันถึงไม่มีกลิ่นเหม็นล่ะครับ
220.52 -> (คุณสุพจน์) ครับ หลายคนสงสัย
ว่าฟาร์มหมูหลุมทำไมมันไม่มีกลิ่นนะครับ
224.87 -> ซึ่งองค์ประกอบของฟาร์มหมูหลุมนี่นะครับ
มีหลายอย่างนะครับ
228.02 -> อย่างแรก ก็คือเรื่องคอกนะครับ
องค์ประกอบของคอกนี่มีอะไรบ้างนะครับ
232.26 -> การสร้างคอกของฟาร์มหมูหลุมนี่ครับ
ก็ประกอบด้วยผนังคอกนะครับ
236.19 -> สูงประมาณ 80 เซน (ติเมตร) นะครับ
238.16 -> ต้องมีพื้นที่โปร่ง
เป็นไม้หรือเป็นเหล็กก็ได้นะครับ
241.6 -> พื้นที่โปร่งประมาณ 50 เซนฯ
243.14 -> รวมแล้ว 1 เมตร 30 เซนฯ
245.6 -> ฟาร์มหมูหลุมจะมีลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่ง
ก็คือนะครับ
248.8 -> ตัวของการให้น้ำนะครับ ต้องไม่หก
251.48 -> สูงจากพื้นนี่นะครับ
ประมาณสัก 60 เซนฯ
254.66 -> อีกตัวหนึ่งก็จะเป็นรางอาหารนะครับ
ซึ่งอยู่ด้านหน้านะครับ
258.08 -> ซึ่งรางอาหารนี่นะครับ
จะแบ่งเป็น 2 ส่วนนะครับ
260.5 -> ส่วนแรกจะอยู่ข้างนอก
เพื่อที่จะให้อาหารได้สะดวก
263.47 -> ส่วนที่ 2 ก็จะอยู่ข้างใน
เพื่อให้หมูนี่ได้กิน แล้วก็ไม่ยื่นหัวออกไป
268.44 -> รางอาหารก็สูงจากพื้นนี่
ประมาณ 60 เซนฯ
270.94 -> ส่วนสำคัญที่สุดนะครับ
ก็คือวัสดุรองพื้น
273.65 -> เราจะใช้เศษใบไม้ กิ่งไม้ต่าง ๆ
ที่เรามีอยู่ในบ้านเราก็ได้นะครับ
279.46 -> อาจจะเป็นหญ้าแห้ง ฟางแห้งก็ได้นะครับ
เอามารองพื้นคอกก่อน
282.94 -> ไม่จำเป็นต้องเทพื้นปูนนะครับ
284.98 -> เราจะรองพวกนี้ไว้ก่อนนะครับ
ซับอยู่ใต้ล่างนะครับ
288.53 -> แล้วก็จะใช้แกลบนะครับ
เป็นวัสดุรองพื้นอีกตัวหนึ่งนะครับ
292.95 -> รองสูงขึ้นมา
ประมาณสัก 60 เซนฯ เลยนะครับ
297.6 -> เพื่อให้น้องหมูนี่ขุดคุ้ยได้ไม่ถึงพื้นดิน
304.82 -> (บรรยาย) พวกเราตามพี่สุพจน์ไปดู
ให้เห็นกันจะจะกับตา
308.05 -> ว่าเขาเลี้ยงกันแบบไหนถึงไม่มีกลิ่น
310.27 -> อยากรู้จริง ๆ เลยครับ
314.07 -> (คุณสุพจน์)
แล้วตอนนี้ถึงเวลาการทำคอกแล้วครับ
316.67 -> ก่อนอื่นที่จะมาเทนี่นะ
เราต้องไปตากแดดก่อนนะครับ
319.76 -> ไปตากแดดให้มันคลายความคันนะครับ
ตากแดดไว้สักอาทิตย์หนึ่งนะครับ
324.4 -> เมื่อเราเทพื้นแกลบนี่นะครับ
ได้สูง 60 เซนติเมตรแล้วนะครับ
328.86 -> ซึ่งคอกขนาดนี้ ขนาด 4 x 4 เมตรนะครับ
ได้ 16 ตารางเมตรนะครับ
333.97 -> ใช้เลี้ยงหมูได้ 8 ตัวนะครับ
336.33 -> พื้นที่ที่เลี้ยง
ก็คือ 2 ตารางเมตรต่อตัวนะครับ
338.73 -> เราจะใช้จุลินทรีย์ประมาณ 40 ลิตรนะครับ
342.53 -> จุลินทรีย์ที่เราใช้ก็มี 2 ตัวนะครับ
ก็คือน้ำหมักผลไม้กับเชื้อราขาว
347.55 -> เทไว้ที่นี่นะครับ ประมาณ 1 สัปดาห์
ถึงจะปล่อยหมูลงได้นะครับ
351.83 -> หมูนี่นะครับ เขาก็จะอยู่ในนี้นะครับ
ถ้าเป็นหมูอนุบาลจะอยู่ 4 เดือนนะครับ
356.42 -> แต่ถ้าหมูที่หย่านม 1 เดือน
ก็จะอยู่ที่นี่ 5 เดือน
358.94 -> เขาก็จะถ่ายนะครับ
ถ่ายลงที่นี่ทุกวันนะครับ
362.33 -> พร้อมกับฉี่ทุกวันนะครับ
363.79 -> ไอ้ตัวมูลหมูนี่ครับ
ก็มันจะมีกลิ่นเหม็นนะครับ
368.4 -> จุลินทรีย์ก็จะช่วยย่อยไม่ให้มีกลิ่นนะครับ
371.09 -> คอกนี้ คือ คอกที่เราพ่นจุลินทรีย์
ราดจุลินทรีย์แล้วนะครับ ครบ 7 วันนะครับ
375.94 -> พร้อมที่จะปล่อยน้องหมูลงได้นะครับ
379.53 -> เราก็จะ... คอกนี้เราก็จะปล่อยนะครับ
ปล่อยหมูแค่ 8 ตัวนะครับ
388.95 -> (บรรยาย) สำหรับการเลี้ยงหมูหลุมนั้น
390.61 -> พี่สุพจน์บอกว่า
เทคนิคอยู่ที่การใช้จุลินทรีย์ท้องถิ่น
393.92 -> ที่มาช่วยในการบำบัดกลิ่น
395.72 -> โดยอาศัยการหมักมูลสุกร
และเทคนิคหลายอย่าง
399.48 -> ซึ่งแตกต่างจากการเลี้ยงสุกรทั่วไป
402.15 -> เราไปดูกันนะครับ
ว่าจุลินทรีย์ท้องถิ่นได้มาจากไหน
405.48 -> และมีวิธีการทำอย่างไร
407.59 -> ให้พี่สุพจน์เล่าให้ฟังกันต่อเลยครับ
411.9 -> (คุณสุพจน์) ก็ตอนนี้
เราก็จะมาดูวิธีการทำจุลินทรีย์ท้องถิ่นนะครับ
415.54 -> จะมีอุปกรณ์นะครับ
ก็มีกระบะไม้แล้วก็ข้าวนะครับ
420.82 -> ข้าวสาร 1 กิโล (กรัม) หุงให้สุกนะครับ
422.65 -> ทัพพีไว้ตักข้าวนะครับ
424.13 -> กระดาษขาวนะครับ
425.18 -> เชือกฟาง
425.91 -> พลาสติกนะครับ
426.64 -> แล้วก็น้ำตาลทรายแดง
427.7 -> วิธีการทำเราต้องทำความสะอาดนะครับ
430.58 -> กระบะไม้นะครับ
ให้ปราศจากจุลินทรีย์นะครับ
433.31 -> ข้าวสารนะครับที่หุงสุกแล้วนะครับ
436.6 -> 1 กิโลฯ นะครับ เทใส่
438.13 -> ครับแล้วก็เราก็เกลี่ยให้ทั่วนะครับ
441.26 -> ข้าวสารนี่เป็นข้าวที่เราทานก็ได้นะครับ
443.81 -> ขั้นตอนการหุงนี่
เราต้องใส่น้ำน้อยนิดหนึ่งนะครับ
446.48 -> ก็เพื่อที่จะไม่ให้มันแฉะนะครับ
448.72 -> เมื่อเราเกลี่ยทั่วแล้ว
เราก็ใช้กระดาษปิดไปนะครับ
452.09 -> แล้วก็นำเชือกฟางมารัดให้แน่นนะครับ
454.86 -> เดี๋ยวเราเดินไปตามหาจุลินทรีย์กันครับ
468.92 -> (คุณสุพจน์) ครับ
อันนี้เป็นจุลินทรีย์ท้องถิ่นนะครับ
471.96 -> เป็นเชื้อราขาวนะครับ
473.49 -> ตัวนี้จะมีคุณสมบัติพิเศษ คือว่าช่วยย่อยนะครับ
กิ่งไม้ ใบไม้ให้เป็นอินทรีย์วัตถุนะครับ
479.5 -> ซึ่งคุณสมบัติของมัน คือ ถ้าอยู่ในตัวหมู
เขาจะย่อยอาหารนะครับ ย่อยอาหาร
484.52 -> และทำให้หมู่นี่ กลิ่นไม่เหม็นนะครับ
487.24 -> ถ่ายออกมากลิ่นไม่เหม็น
ฉี่ออกมากลิ่นไม่เหม็นนะครับ
490.04 -> ขั้นตอนต่อไป
เราก็จะนำกระบะที่ใส่ข้าวเรียบร้อยนี่ครับ
493.34 -> เอามาวางวางนะครับ
494.83 -> วางทับเชื้อราเลยนะครับ
496.22 -> วางเฉย ๆ นะครับ ไม่ต้องทำอะไรนะครับ
498.23 -> แล้วก็เอาใบไม้นะครับ ข้าง ๆ
ที่มีจุลินทรีย์เชื้อราอยู่บ้างแล้วนะครับ
503.57 -> เอาไว้ข้าง ๆ นะครับ
504.92 -> และถุงพลาสติกนะครับ
ก็เผื่อกันฝนตกแล้วทำให้กระดาษมันยุ่ยนะครับ
509.34 -> นะครับแล้วก็นะครับ
ใช้ไม้นะครับทับไว้นะครับ
514.24 -> หลังจาก 3 คืนนะครับ 3 วันนะครับ
516.02 -> เราก็จะมาเปิดดู
ว่ามีเชื้อราที่เข้ามาในกล่องไม้เราหรือเปล่า
524.63 -> ตัวที่เห็นนี่นะครับ
ก็จะเป็นเส้นใยของเชื้อรานะครับ
528.83 -> เชื้อราที่มาที่ข้าว
533.71 -> หลังจากที่เราได้ตัวจุลินทรีย์นะครับ
เชื้อราขาวมาแล้วนะครับ
538.09 -> เราก็นำน้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัมนะครับ
มาผสมเลยนะครับ
542.06 -> คลุกเคล้าให้ทั่วเลยนะครับ
543.35 -> น้ำตาลทรายแดงนะครับ
จะช่วยรักษาจุลินทรีย์ให้อยู่ได้นานขึ้นนะครับ
547.31 -> อยู่ได้เป็นปีเลยนะครับ
548.38 -> เมื่อเราคลุกเคล้าได้ทั่วแล้วนะครับ
ก็นำทั้งหมดนะครับ ใส่ไว้ในโหลไว้นะครับ
553.21 -> นะครับซึ่งโหลนี่
554.76 -> เราก็สามารถให้น้องหมู
ได้กินไว้เป็นปี ๆ ได้เลยนะครับ
558.23 -> จุลินทรีย์ตัวนี้จะมีหน้าที่ช่วยย่อยนะครับ
สามารถทดแทนยาปฏิชีวนะได้นะครับ
563.95 -> หลังจากเราใส่ไว้ในโหลแล้วนะครับ
เราก็ปิดฝานะครับ ปิดฝาซึ่งการปิดฝานี่
569.12 -> ให้ปิดทองหลวงนะครับ
570.47 -> หลังจากนี้ 7 วันนะครับ
572.22 -> 7 วันนะครับ
572.96 -> ก็จุลินทรีย์นะครับ บวกกับน้ำตาลนะครับ
ก็จะเติบโตแข็งแรงนะครับ
578.42 -> สามารถที่จะใช้ได้นะครับ ใช้ประโยชน์ได้นะครับ
583.16 -> (บรรยาย) นอกจากนี้พี่สุพจน์
ยังจะทำน้ำหมักผลไม้ที่ไว้ฉีดพ่นในคอก
587.58 -> และสามารถให้หมูกินเป็นอาหารได้
589.99 -> ไปดูวิธีการทำเลยครับ
595.78 -> (คุณสุพจน์) แล้วตอนนี้
เราก็มาทำน้ำหมักผลไม้สำหรับน้องหมูนะครับ
599.04 -> ขั้นตอนการทำนะครับ
เราก็จะหั่นกล้วยนะครับ ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ
603.1 -> เอาทั้งเปลือกเลยนะครับ
ใช้ประมาณ 1 กิโลกรัม
605.47 -> กับน้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัมนะครับ
607.82 -> ผลไม้เมื่อเราหันได้ครบ 1 กิโลกรัมครับ
611.04 -> เราก็จะนำมาใส่โหลนะครับ
614.26 -> จุลินทรีย์ที่อยู่ในอากาศนะครับ
ก็จะไปผสมในผลไม้ด้วยนะครับ
618.8 -> ขั้นตอนต่อไปเราก็ใช้น้ำตาลทรายแดง
1 กิโลฯ นะครับ
622.99 -> แบ่งเป็น 2 ส่วนเราก็มาเขย่า
เขย่าให้เข้ากันครับ
628.17 -> เมื่อเขย่าเข้ากันดีแล้วเราก็นำส่วน
น้ำตาลส่วนที่เหลือครึ่งหนึ่งนะครับ เทโปะเข้าไปเลยครับ
634.14 -> เราก็นำฝามาปิดไว้พอหลวม
637.61 -> นี่คือน้ำหนักผลไม้
หลังจาก 7 วัน แล้วนะครับ
640.21 -> ก็ได้เป็นน้ำแบบนี้เลยนะครับ
642.58 -> เราจะให้น้องหมูนี่นะครับฉีดพ่นนะครับ
กินด้วยนะครับ
647.11 -> ซึ่งมีคุณลักษณะพิเศษนะครับ
ว่าลดกลิ่นทันทีทันใดนะครับ
651.16 -> แล้วก็ทำให้เจริญอาหารนะครับ
653.5 -> มีสารอาหารที่ทำให้น้องหมูเจริญเติบโตได้เร็วนะครับ
656.69 -> เราไม่ได้ใช้ยาปฏิชีวนะเลยนะครับ
658.89 -> ทำให้น้องหมูกินและจะปลอดโรคปลอดภัยนะครับ
664.8 -> (บรรยาย) เรียกว่าการเลี้ยงหมูหลุมนี่
เป็นการเลี้ยงแบบธรรมชาติจริง ๆ เลยครับ
668.95 -> เน้นการใช้วัสดุจากท้องถิ่นตามธรรมชาติที่หาง่าย
672.57 -> ซึ่งทำให้หมูมีความต้านทานโรค
674.83 -> ไม่มีกลิ่นเหม็นมารบกวน
และยังลดต้นทุนการผลิตด้วย
678.87 -> นอกจากนี้เมื่อจับหมูออกไปขายแล้ว
681.52 -> มูลจากคอกหมูก็ยังจะจำหน่ายเป็นปุ๋ย
สร้างรายได้ได้อีกด้วยล่ะครับ
690.81 -> (คุณสุพจน์) สำหรับคอกหมู
ที่ใช้เลี้ยงหมูหลุมแล้วนะครับ
693.21 -> ก็ยังมีประโยชน์สำหรับการผลิตปุ๋ยนะครับ
696.05 -> คอกหมูที่จับหมูออกไปแล้วนะครับ
698.8 -> เราจะทิ้งไว้ประมาณสัก 1-2 สัปดาห์
701.66 -> เพื่อที่จะให้ปุ๋ยในนี้นะครับ
มันแห้งนะครับ
704.5 -> แล้วก็เกิดการหมักอย่างสมบูรณ์
706.55 -> ในนี้นะครับก็จะมีอยู่ประมาณ 5-6 ตันนะครับ
711.13 -> โดยใช้วัสดุรองพื้น 1 ตัน
หลังจากนั้นเราก็จะบรรจุใส่ถุงต่อไปนะครับ
716.51 -> หลังจาก 1-2 สัปดาห์นะครับ
เราก็จะมาทำการขุดปุ๋ยนะครับ
720.66 -> แล้วก็บรรจุใส่กระสอบอีกครั้งหนึ่งนะครับ
723.37 -> ในกรณีถ้าเกิดว่ามันเยอะนะครับ
เราก็อาจจะดัดแปลงนะครับ เครื่องโม่น้ำแข็ง
728.43 -> เราจะใส่ขนาด 25 กิโลฯ
แล้วก็ไว้รอจำหน่ายต่อไปนะครับ
734.98 -> (บรรยาย) อู๊ด ๆ ๆ เจ้าหมูเอ้ย
737.81 -> ถ้าเลี้ยงแบบหมูหลุม
ก็จะไม่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนเพื่อนบ้าน
741.55 -> คอกก็จะไม่เฉอะแฉะไม่ต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ
744.91 -> เพราะพื้นคอกจะถูกจุลินทรีย์สลาย
กลายเป็นอาหารของหมูไปได้อีก
749.35 -> อีกทั้งยังสามารถนำพื้นคอกหมูหลุม
751.86 -> มาทำปุ๋ยชีวภาพสร้างรายได้เพิ่ม
ให้เกษตรกรได้อีกด้วย
755.91 -> พูดเลยว่าถ้าเลี้ยงแบบหมูหลุม
มีแต่ได้กับได้ครับสุดยอด
761.46 -> ในตอนหน้าห้ามพลาดเลยนะครับ
763.39 -> เพราะพี่สุพจน์นี่จะมาบอกถึงการสร้างมูลค่าเพิ่ม
ให้หมูหลุมขายได้กำไรดีงามกันนะครับ อู๊ด ๆ
772.43 -> (คุณสุพจน์) การสร้างความมั่นใจ
ให้แก่ลูกค้านะครับ
775.37 -> ส่วนหนึ่งนี่เราต้องมีความซื่อสัตย์นะครับ
ซื่อสัตย์ ซื่อตรงนะครับ
779.48 -> ให้ความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าได้นะครับ
782.02 -> [เสียงดนตรี]
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=ihusnUQknZ8