[PODCAST] Food Choice | EP.21 - อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคโลหิตจาง

[PODCAST] Food Choice | EP.21 - อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคโลหิตจาง


[PODCAST] Food Choice | EP.21 - อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคโลหิตจาง

โรคโลหิตจางพบได้บ่อยในประเทศไทยและสามารถเกิดได้ในทุกเพศทุกวัย จึงเป็นโรคที่ไม่ควรมองข้าม ที่สำคัญอาการของโรครบกวนการใช้ชีวิตประจำอย่างมาก อีกยังอาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ ดังนั้น หากไม่รีบดูแลตนเองหรือเข้ารับการรักษาให้ตรงกับสาเหตุของโรค อาจนำไปสู่อันตรายได้

ในวันนี้รายการ Food Choice : กินดีสุขภาพดีเลือกได้ กับหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล จึงจะมาชวนพูดคุยเกี่ยวกับโรคโลหิตจางสามารถเกิดได้จากสาเหตุอะไรบ้าง ดังนั้น จึงไม่ใช่ทุกคนที่เสริมธาตุเหล็กได้อย่างที่เคยเข้าใจ พร้อมวิธีการสังเกตความเสี่ยงโรคโลหิตจางเบื้องต้นด้วยตนเอง สุดท้ายนำไปสู่การแก้ไขด้วยการปรับอาหารอย่างไรให้เหมาะสมกับตนเอง เชิญรับฟังกันได้เลยค่ะ
__________________
#โลหิตจาง
#FoodChoice
#MahidolChannelPODCAST
#MahidolChannel
#คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหิดล #MURA
––––––––––––––––––––
📌ช่องทางการฟัง Podcast
Apple Podcasts: https://apple.co/2Oxp5FN
Spotify: https://spoti.fi/31v1Rmx
Anchor: https://anchor.fm/mahidolchannel
––––––––––––––––––––
YouTube:    / mahidolchannel​​  
Facebook: http://www.facebook.com/mahidolchannel​​
Mahidol University มหาวิทยาลัยมหิดล: https://www.mahidol.ac.th/th​​
Website | https://channel.mahidol.ac.th/
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล | https://med.mahidol.ac.th


Content

0.001 -> [เสียงดนตรี]
3.282 -> You're listening to Mahidol Channel Podcast.
6.136 -> Listen for a better life.
8.953 -> ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
11.32 -> และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel
14.88 -> โดย มหาวิทยาลัยมหิดล
16.931 -> [เสียงดนตรี]
22.728 -> วันนี้คุณกินอะไร
24.752 -> อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร
29.44 -> วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย
31.59 -> เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา
35.581 -> กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋
40.371 -> แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
42.459 -> คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
46.644 -> [เสียงดนตรี]
49.54 -> วันนี้ เราจะมาคุยกันในเรื่องของ อาหารสำหรับโรคโลหิตจาง
55.182 -> พอเราพูดถึงโรคโลหิตจางหรือว่าซีดนะคะ
57.895 -> หรือว่าขาดเลือดอย่างนี้
59.067 -> เราก็จะได้ยินบ่อย ๆ เลยนะคะ
61.002 -> อันแรกถามว่าเจอบ่อยไหม เจอบ่อยนะคะในเมืองไทยนี่
64.105 -> เจอในกลุ่มไหนได้บ้าง
65.52 -> อันแรกที่เจอเยอะ ๆ เลย ก็จะเป็นพวกของเด็กที่กำลังโตนะคะ
69.472 -> เพราะฉะนั้นนี่ กลุ่มนี้ก็อาจจะกินอาหารได้ไม่เพียงพอ
72.543 -> ก็จะทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
74.567 -> เด็กกำลังโตด้วย
75.761 -> ต้องการสร้างเม็ดเลือด
77.368 -> กลุ่มที่ 2 ก็จะเป็นกลุ่มของวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีประจำเดือน
81.582 -> เราจะมีการเสียเลือดไปใช่ไหมคะ
83.785 -> เอาง่าย ๆ เลย ถ้าใครเคยไปบริจาคเลือด
86.52 -> พอบริจาคเลือดเสร็จแล้วได้อะไรคะ
88.03 -> จะต้องได้ยาถุงเล็ก ๆ มา ที่มีเม็ดสีแดง ๆ
91.206 -> ถามว่าทำไม
92.176 -> เพราะว่าทุกครั้งที่เราเสียเลือดไปนี่
94.284 -> มันก็จะทำให้เราเสียธาตุเหล็กไป
96.152 -> เขาก็จะให้ธาตุเหล็กเรากลับมา
98.487 -> ทีนี้คำถามคือ เอ๊ะ มันมีแค่ธาตุเหล็กหรือเปล่า
101.504 -> ที่ทำให้เราเกิดโลหิตจาง หรือว่าทำให้เราซีดนะคะ
105.442 -> เดี๋ยววันนี้เราจะมาคุยกันนะคะว่า
107.848 -> อะไรทำให้เกิดเรื่องของภาวะโลหิตจาง
110.894 -> แล้วเราสามารถจะแก้ไข ด้วยการปรับอาหารอย่างไรบ้างค่ะ
114.947 -> เราจะมาพูดกันในเรื่องของภาวะโลหิตจาง หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า Anemia
120.644 -> หรือบางคนจะเรียกว่าซีด หรือบางคนจะบอกว่าเลือดน้อยอะไรก็แล้วแต่
124.613 -> สำหรับสาเหตุนะคะ เอาง่าย ๆ เลย
127.038 -> ร่างกายเรานี่ เม็ดเลือดถูกสร้างที่ไขกระดูก
129.957 -> เราจะแบ่งสาเหตุของคนที่จะเกิด เรื่องของโลหิตจางได้เป็น 3 กลุ่ม
134.284 -> กลุ่มแรกก็คือว่า การสร้างเม็ดเลือดนี่มันทำไม่ได้ทำไม่ดี
138.284 -> หรือทำไม่พอนะคะ
140.02 -> ในส่วนของวัตถุดิบ ที่จะเอามาสร้างเม็ดเลือดนะคะ
142.887 -> ก็จะมีอยู่ 3-4 ตัว
144.317 -> ก็จะเป็นธาตุเหล็กใช่ไหมคะ
145.848 -> โฟลิก, บี 12 นะคะ
148.192 -> หรือว่าพวกของโปรตีน แล้วก็คอปเปอร์ แล้วก็สังกะสีนะคะ
151.837 -> ทีนี้เวลาที่เราขาดสารอาหารพวกนี้
154.256 -> หรือว่าขาดวัตถุดิบนี่ มันขาดได้จากอะไรบ้าง
156.651 -> อันแรกเลยก็คือ กินไม่ได้ กินได้น้อย
159.724 -> หรืออันที่ 2 ก็จะเป็นกลุ่มที่กินเข้าไป แต่ว่าดูดซึมไม่ได้
164.561 -> ดูดซึมไม่ได้เช่นอะไร
166.232 -> เรากินไปร่วมกับอาหารบางอย่าง
168.076 -> แล้วมันไปยับยั้งการดูดซึมของสาร ตัวที่เราต้องการอันนั้น
171.893 -> หรือสอง ลำไส้เรามีปัญหา
174.662 -> เราอาจจะถูกตัดลำไส้ไปนะคะ ลำไส้เราสั้น
178.172 -> หรือว่าคนไข้ที่มีการผ่าตัดกระเพาะ ผ่าตัดลำไส้
181.717 -> ทำให้ลำไส้มันสั้น
182.881 -> แล้วก็การดูดซึมสารอาหารในบริเวณนั้น มันลดลง
186.178 -> หรือคนไข้คนนี้มีโรคของลำไส้
189.504 -> ทำให้การดูดซึมสารอาหารเสียไป
191.818 -> มีโรค อย่างเช่น คนไข้มีปัญหาเรื่องท้องเสียเรื้อรัง
195.179 -> กินอะไรเข้าไปก็ดูดซึมไม่ได้ อย่างนี้ค่ะ
197.672 -> อันนี้ก็อาจจะทำให้เกิดการขาดสารอาหาร
200.272 -> ซึ่งจะเป็นวัตถุดิบในการเอาไปสร้างเม็ดเลือด
202.751 -> และทำให้คน ๆ นั้นซีดได้ค่ะ
204.516 -> อันที่ 2 ก็คือ เม็ดเลือดสร้างออกมาได้ค่ะ
207.622 -> แต่ว่าเม็ดเลือดนี่มีอายุสั้นลง
209.764 -> พอเม็ดเลือดอายุสั้นลง ไม่ว่าจะถูกทำลายไปหรืออะไรก็แล้วแต่
214.025 -> อันนี้ก็จะทำให้มีภาวะโลหิตจางได้
217.1 -> แล้วอันสุดท้ายค่ะ
218.625 -> ก็คือไขกระดูกสร้างได้ เม็ดเลือดอายุปกติเลย
221.815 -> แต่เราเสียเลือดออกไปจากร่างกาย
224.061 -> อย่างเช่น ถ่ายดำ ถ่ายเป็นเลือด ใช่ไหมคะ
226.78 -> หรือบางคนมีริดสีดวงทวาร
228.568 -> ผู้หญิงมีประจำเดือนมาก
230.342 -> อันนี้ก็จะทำให้เกิดเรื่องของโลหิตจาง หรือว่าซีดลงได้เหมือนกันค่ะ
234.739 -> ในส่วนของโรคอะไรก็ตาม ที่บอกว่าเข้าไปที่ไขกระดูก
238.186 -> แล้วทำให้ไขกระดูกทำงานไม่ได้นี่
240.64 -> มันก็จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
242.14 -> กลุ่มแรกก็คือมันลุกลามเข้าไป เช่น มะเร็ง หรือว่าโรคติดเชื้อ หรือแม้กระทั่งยา
247.552 -> แต่มีอีกอันหนึ่งที่เจอบ่อยเหมือนกัน ก็คือ โรคไต
251.045 -> โดยเฉพาะไตวายหรือไตเสื่อมเรื้อรังนะคะ
254.375 -> กลุ่มนี้เหตุผลก็เพราะว่า ไตเรามีหน้าที่จะสร้างฮอร์โมนตัวหนึ่ง
259.029 -> แล้วฮอร์โมนอันนี้มีหน้าที่ไปกระตุ้น ให้ไขกระดูกเราสร้างเม็ดเลือด
263.508 -> ถ้าไตมันเสื่อม ฮอร์โมนก็จะสร้างน้อยลง
266.179 -> เมื่อฮอร์โมนสร้างน้อยลง ไขกระดูกเราก็จะสร้างเม็ดเลือดน้อยลงด้วย
270.035 -> เพราะฉะนั้นในคนไข้ไตวายหลาย ๆ คน หรือว่าไตเสื่อมระยะท้าย ๆ หน่อย
275.542 -> จะถูกฉีดยา
277.478 -> เพื่อจะไปกระตุ้นตัวการสร้างของเม็ดเลือด ที่ไขกระดูกนะคะ
281.335 -> อันนี้ก็จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่แบบ เอ๊ะ ทำไมคนไข้โรคไตแล้วถึงมีปัญหาซีดลง
286.074 -> ทีนี้พอเรามาสนใจว่า เอ๊ะ เราอาจจะมีปัญหา เรื่องของโลหิตจางหรือเปล่า
290.171 -> เราจะซีดหรือเปล่า เรามีอาการเพลียง่าย
292.413 -> เรามีอาการเยอะแยะเลย
293.957 -> แล้วเราก็ไม่แน่ใจ ถามว่าเราจะรู้ได้อย่างไร
295.905 -> อันแรก เราดูจากอาการเนอะ เราดูจากการตรวจร่างกาย
298.505 -> ก็จะดูบริเวณของเยื่อบุในตา ที่ตรงบริเวณของเปลือกตาล่าง
302.549 -> อันที่ 2 เราดูในบริเวณของริมฝีปากก็ได้
305.866 -> แต่ว่าบนผู้หญิงที่ไม่ได้ทาลิปสติกนะคะ
308.015 -> เพราะว่าถ้าทาลิปสติก ก็จะมองไม่เห็น
309.749 -> ริมฝีปาก ดูว่ามันมีความซีดอยู่หรือเปล่า
312.093 -> จริง ๆ แล้วมันควรจะต้องเป็นสีชมพูเนอะ
314.303 -> ถัดมาก็คือจะดูในบริเวณของเยื่อบุ ในกระพุ้งแก้มหรือว่าที่ลิ้นเรานะคะ
319.223 -> ว่าจะต้องไม่ซีดเนอะ
320.872 -> ถ้าสมมุติเราดูแล้วเรายังไม่แน่ใจ
322.943 -> วิธีการที่จะดูได้ชัดขึ้นก็คือ มีการเจาะเลือดเพื่อจะตรวจ
326.46 -> ถ้าใครเคยไปบริจาคเลือด
328.202 -> เคยไหมคะที่เขาเจาะเลือด แล้วเขาก็จุ่มแบบ...ใส่ลงไปในน้ำยาอันหนึ่ง
332.067 -> แล้วดูว่ามันเลือดลอยหรือว่าเลือดมันจม
334.626 -> อันนี้ก็เป็นอันหนึ่งที่ดูคร่าว ๆ ค่ะ ว่าซีดหรือเปล่า
337.89 -> ถ้าเลือดมันลอย หลายคนก็อาจจะต้องแบบ…ไปตรวจดูนิดนึงเนอะ
341.28 -> ว่ามีเรื่องของโลหิตจางหรือเปล่า
343.273 -> เวลาที่เราตรวจ เราจะเรียกว่าเป็นลักษณะของ การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
347.899 -> เวลาไปตรวจเสร็จแล้วนี่ มันจะดูได้หมดเลย
349.976 -> ทั้งเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือด
353.03 -> เวลาที่ดูนี่ เราจะดูความเข้มข้นของเลือด
356.476 -> ถ้าสมมุติว่าความเข้มข้นของเลือดมันต่ำ
358.785 -> เราก็จะบอกว่า คน ๆ นี้มีเรื่องของโลหิตจาง
362.405 -> ซึ่งหลาย ๆ ทีนี่ เวลาเราไปตรวจสุขภาพ คุณหมอก็จะบอกเรานะคะ
366.399 -> นอกเหนือจากนั้น ในกลุ่มของ การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดนี่
370.046 -> เราก็อาจจะดูขนาดของเม็ดเลือดได้ด้วยนะคะ
373.076 -> เวลาดูขนาดของเม็ดเลือดนี่
374.866 -> มันจะบอกอะไรได้บ้าง เช่น ถ้าเม็ดเลือดตัวเล็ก
377.82 -> เม็ดเลือดตัวเล็กเจอได้ในกรณีไหนบ้าง อันแรกเลยคือ ธาลัสซีเมีย
381.803 -> อันที่ 2 ก็คือ โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
385.357 -> เพราะว่าเราไม่มีวัตถุดิบ เม็ดเลือดเราก็เลยต้องตัวเล็กลง
388.334 -> อันที่ 2 ค่ะ ถ้าเม็ดเลือดตัวโตเกินไป
391.16 -> ตัวโตเกินไป บางทีก็อาจจะขาดวัตถุดิบเหมือนกัน
394.12 -> แต่จะเป็นกลุ่มของโฟเลต หรือว่า B12 นะคะ
397.587 -> เพราะฉะนั้นอันนี้ก็จะพอบอกได้คร่าว ๆ เวลาที่เราดูเริ่มต้น
401.45 -> แล้วสุดท้ายเราก็จะไปหาว่า
403.388 -> คน ๆ นี้เขามีเหตุผลที่จะทำให้ มีโลหิตจางหรือเปล่า
408.165 -> ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราสงสัยว่า เขาจะมีการเสียเลือด
411.654 -> เราอาจจะไปตรวจอุจจาระ
413.066 -> แล้วดูว่าเม็ดเลือดแดง มันมีปนในอุจจาระหรือเปล่า
415.821 -> ถ้ามี ก็แสดงว่าเขาอาจจะมีการเสียเลือดไปทาง ทางเดินอาหาร
420.039 -> โดยที่อาจจะเป็นการเสียเลือดเรื้อรัง โดยที่เขามองไม่เห็น
422.989 -> อาจจะปริมาณน้อย ๆ
424.558 -> ถามว่า ถ้ามันมีเยอะ จะทำให้เห็นอย่างไร
427.408 -> เวลาเลือดมันอยู่ในทางเดินอาหารนี่
429.755 -> เวลาที่ถ่ายออกมานะคะ
431.671 -> มันจะมีตั้งแต่ว่า ถ้าเกิดเลือดอยู่ในทางเดินอาหารนาน ๆ
434.99 -> จะถ่ายออกมาเป็นสีดำ
436.53 -> เพราะฉะนั้น ถ้าถ่ายออกมาเป็นสีดำ
437.802 -> เราจะสงสัยว่ามีเลือดออกในทางเดินอาหาร
439.998 -> โดยเฉพาะทางเดินอาหารส่วนต้น
442.424 -> แต่ถ้าสมมุติว่าเราถ่าย แล้วมันเป็นเลือดสดเลย
445.114 -> อันนี้แสดงว่า เลือดมันไม่ค่อยได้ค้างอยู่ในทางเดินอาหาร
447.935 -> มันน่าจะอยู่ปลาย ๆ
449.554 -> ถ้าถ่ายแล้วเป็นเลือดสดเลยนะคะ
451.865 -> ก็ให้สงสัยกลุ่มของริดสีดวงทวาร
453.867 -> หรือแผลที่ตรงบริเวณทางเดินทวารหนัก อย่างนี้นะคะ
456.884 -> ถ้าสมมุติเป็นแผลนี่จะเจ็บ
458.607 -> แต่ริดสีดวงทวาร ส่วนใหญ่ไม่เจ็บ
460.312 -> แล้วก็อาจจะคลำได้ก้อนด้วย อย่างนี้เป็นต้นค่ะ
462.873 -> [เสียงดนตรี]
467.966 -> การรักษาโลหิตจางนะคะ เรามาไล่ตามสาเหตุเลย
470.763 -> อันแรกนี่เป็นโรคของไขกระดูก
472.754 -> เราก็ไปดู แล้วก็รักษาสาเหตุนะคะ
475.246 -> ไขกระดูกฝ่อรักษายังไง
476.92 -> มีโรคหรือมีภาวะอะไร ที่ทำให้ไขกระดูกทำงานไม่ได้
480.205 -> เราก็จะรักษาไปตามนั้น
482.193 -> อันที่ 2 ก็คือว่า เอ๊ะ คนนี้ไขกระดูกโอเคเนอะ
485.802 -> แต่มันไม่มีวัตถุดิบ เช่น ขาดธาตุเหล็ก ขาด B12 ขาดโฟเลต
490.105 -> เราก็จะต้องให้โฟเลต B12 หรือว่าธาตุเหล็ก
493.504 -> จะให้ในรูปแบบไหน
494.685 -> จะให้เป็นอาหารก็ได้ หรือจะให้ในรูปแบบของยาเม็ดก็ได้ค่ะ
498.522 -> ทีนี้สมมุติว่าถ้าคน ๆ นั้นนี่
500.903 -> มันดูดซึมไม่ได้ใช่ไหมคะ
502.895 -> หรือว่ากินเข้าไปไม่ได้เลย
504.761 -> สิ่งที่เราจะทำก็คือ เราให้ค่ะ แต่เราให้ในรูปแบบที่เป็นยาฉีด
509.011 -> หรือสุดท้ายถ้าไม่ได้จริง ๆ เราก็จะเติมเลือดไป
512.177 -> เพราะฉะนั้นอันนี้คือเป็นวิธีการรักษา ที่จะไล่ไปตามแต่ละชนิด
516.458 -> ถ้าสมมุติเป็นคนไข้ที่เป็นธาลัสซีเมีย
518.545 -> เนื่องจากเขาเป็นโรคทางกรรมพันธุ์นะคะ
521.27 -> เม็ดเลือดแดงเขาแตก
522.562 -> เราไปดูนิดนึง ถ้าเม็ดเลือดแดงเขาแตก เนื่องจากว่าเขาติดเชื้อ
525.91 -> หรือเขาได้ยา หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วทำให้เม็ดเลือดแดงเขาแตก
529.146 -> กลุ่มนี้เราก็จะพยายามทำให้เขา ดูแลสุขภาพให้ดี อย่าให้มีการติดเชื้อ
535.099 -> แล้วถ้าเม็ดเลือดแดงเขาแตกมาก จนกระทั่งทำให้เขามีอาการ
538.277 -> เราค่อยมีพิจารณาเรื่องของการให้เลือด
540.718 -> เพื่อจะทำให้เขาไม่มีอาการ เนื่องมาจากการซีดค่ะ
544.254 -> ในแง่ของยาที่ใช้ ในเรื่องของการรักษาโลหิตจาง
547.779 -> จริง ๆ ก็คือเหมือนตามสาเหตุเลย
549.77 -> ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมมุติเรารู้ว่า
552.045 -> จริง ๆ การที่จะใช้ยารักษาโลหิตจางนี่
554.271 -> อันแรกต้องดูก่อนว่า ยาตัวนั้นทำให้โลหิตจางหรือเปล่า
556.99 -> ถ้ายาตัวนั้นไปกดไขกระดูก
558.67 -> เราจะหลีกเลี่ยง ก็คือหยุดยาตัวนั้นนะคะ
561.908 -> อันที่ 2 ก็คือยาที่จะให้
563.615 -> เหมือนที่บอกเมื่อสักครู่ค่ะ ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก เป็น B12 เป็นโฟเลต
568.091 -> อันนี้ก็จะสามารถให้ได้
570.011 -> โดยเฉพาะในกรณีที่คนไข้ อาจจะกินไม่ได้ กินไม่พอ เราก็จะให้เป็นยา
574.701 -> แล้วก็อันที่ 3 ก็คือจะเป็นการให้ฮอร์โมน
578.021 -> ยกตัวอย่างเช่น คนไข้โรคไตวาย หรือว่าไตเสื่อมเรื้อรัง
582.239 -> อันนี้นี่เขาจะสร้างฮอร์โมนตัวนึงไม่ได้ ชื่อว่า Erythropoietin
586.635 -> สิ่งที่เราทำก็คือ เราฉีดฮอร์โมนตัวนี้เข้าไป
589.176 -> พอฉีดเข้าไปปุ๊บนี่
590.334 -> มันก็จะไปกระตุ้น ทำให้ร่างกายมีการสร้างเม็ดเลือดได้ดีขึ้น
594.279 -> อันนี้การใช้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์นะคะ
597.495 -> ว่าจะใช้ในกรณีของผู้ป่วยคนไหนค่ะ
600.283 -> ในกรณีของธาลัสซีเมียนะคะ
602.474 -> ก็จะมีคนสับสนอยู่พอสมควรเลยว่า เอ๊ะ เราเป็นอะไรนะ
606.091 -> เคยได้ยินคำว่าธาลัสซีเมีย ได้ยินคำว่าโรคเลือด
609.631 -> จริง ๆ แล้วนี่ ธาลัสซีเมีย เป็นโรคที่มีการส่งผ่านทางกรรมพันธุ์
615.658 -> เพราะฉะนั้นนี่ เวลาที่เราจะเป็นโรคนี่
618.022 -> เอาง่าย ๆ เลย เราจะต้องได้มาจากคุณพ่อคุณแม่ ที่มีความผิดปกติอันนี้นะคะ
623.279 -> คุณหมอสมมุติง่าย ๆ เลยค่ะ
624.864 -> สมมุติว่าถ้าเรามีโครโมโซม เป็นเหมือนปาท่องโก๋สองข้าง
629.304 -> ทีนี้นี่ถ้าสมมุติว่าโครโมโซมเรามาจาก ทั้งคุณพ่อคุณแม่
632.904 -> ถ้าความผิดปกติอันนั้น เกิดขึ้นทั้งสองข้างของโครโมโซม
636.69 -> อันนี้เราจะเรียกว่าเป็นโรค
638.078 -> พอเป็นโรคปุ๊บนี่ หมายความว่าเม็ดเลือดที่สร้างออกมานี่
641.559 -> มันจะมีตัวเล็ก แล้วมันจะแตกง่าย
644.09 -> พอมันแตกง่ายปุ๊บ
645.419 -> ก็จะทำให้เขาซีดลง
647.114 -> อันนี้โอเคนะคะ
648.373 -> อันที่ 2 คือสมมุติว่า
650.299 -> ถ้าหากว่าโครโมโซมของเขานี่ ที่เป็นปาท่องโก๋นี่
653.724 -> เป็นคนปกติ ก็คือไม่มีความผิดปกติเลย
656.618 -> หรือมันมีความผิดปกติ แต่มันมีแค่ข้างเดียว
659.489 -> เอามาจากคุณพ่อก็ได้ เอามาจากคุณแม่ก็ได้ หรืออะไรก็แล้วแต่
663.236 -> สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ คน ๆ นี้เป็นแค่พาหะ
666.67 -> พาหะคืออะไร พาหะคือเขาไม่ซีดนะคะ
669.701 -> ความเข้มข้นเม็ดเลือดเขาปกติ
671.755 -> แต่ว่าเขาอาจจะส่งพันธุกรรมอันนี้
674.92 -> ส่งต่อไปยังรุ่นลูก รุ่นหลานได้
677.338 -> อันที่ 2 คือเวลาที่เราตรวจเลือด เราอาจจะเห็นว่าเม็ดเลือดเขาตัวเล็กค่ะ
681.757 -> เม็ดเลือดตัวเล็กก็จริง แต่ปริมาณเม็ดเลือดมีพอ
684.531 -> อันนี้เราจะเรียกว่า อาจจะเป็นพาหะ
686.674 -> อันนี้คือดูคร่าว ๆ เนอะ
688.181 -> ในรายละเอียด เราอาจจะต้องไปตรวจเพิ่มเติมว่า เขาเป็นพาหะธาลัสซีเมียหรือเปล่า
692.022 -> ทีนี้ในกรณีของธาลัสซีเมียนี่
694.355 -> ถ้าสมมุติว่าเขาเป็นโรคค่ะ
696.436 -> แล้วเขาซีดค่ะ
697.778 -> สิ่งที่เราอาจจะเห็นก็คือ เวลาเขาเจ็บป่วยไม่สบาย เขาจะซีดลงได้
701.871 -> อันที่ 2 เขาอาจจะมีประวัติว่า เขาต้องได้รับเลือด
705.287 -> ซึ่งถ้าอันนี้ค่ะ เราจะบอกว่าเป็นโรคธาลัสซีเมีย
708.515 -> นอกจากนี้นะคะ ถ้าสมมุติว่าเราสงสัย ว่าจะเป็นเรื่องของธาลัสซีเมีย
712.379 -> เราก็อาจจะเจาะดู
714.106 -> เช่น ดูซิว่าชนิดของฮีโมโกลบิน หรือว่าไป screening แล้วกันเนอะ
718.715 -> สงสัยว่าเป็นธาลัสซีเมียหรือเปล่า
720.914 -> ถ้าเราสงสัยว่าขาดเหล็ก
722.856 -> เราก็จะเจาะดูระดับของธาตุเหล็กได้
725.735 -> สงสัยว่า B12 หรือโฟเลตขาด เราก็ดูระดับ B12 หรือโฟเลตได้นะ
730.826 -> เพราะฉะนั้นขึ้นกับว่าคนนี้เขามีภาวะโลหิตจาง
733.801 -> อันแรกเราก็จะต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อนว่า
736.234 -> เขามีโลหิตจางจริงหรือเปล่า
737.84 -> พอโลหิตจางเสร็จปุ๊บ
738.96 -> เราก็จะมาสเต็ปที่สองว่า โลหิตจางอันนี้เกิดจากสาเหตุอะไรนะคะ
743.587 -> เราก็จะคอนเฟิร์ม เช่น เราสงสัยว่า ขาดธาตุเหล็กใช่ไหมคะ
746.426 -> เราก็จะเจาะเรื่องของธาตุเหล็ก
748.208 -> ถ้าสงสัยว่า B12 เราก็จะไปเจาะ B12 เจาะโฟเลต
751.68 -> แล้วถ้าสมมุติว่าเราสงสัยว่า
753.255 -> เอ๊ะ คนนี้ขาดธาตุเหล็กเนื่องจากการที่ มีการเสียเลือดไปจากทางไหนหรือเปล่า
757.653 -> ไปดูซิว่าประจำเดือนมาเยอะไหม
759.795 -> มีเลือดออกทางเดินอาหารหรือเปล่า มีการเสียเลือดที่ไหนหรือเปล่า
763.057 -> อันนี้ก็จะเป็นวิธีการวินิจฉัยในแต่ละรายไป
766.034 -> เพราะฉะนั้น การเกิดโลหิตจาง มันเกิดได้หลายสาเหตุ
769.057 -> เวลาที่เราจะหาสาเหตุ
770.323 -> เราก็จะหาตามข้อบ่งชี้จากประวัติ แล้วก็การตรวจร่างกาย รวมถึงผลแล็บค่ะ
775.334 -> แล้วสุดท้ายนะคะ ถ้าสมมุติว่าเราสงสัยว่า
778.959 -> คน ๆ นี้จะมีโรคหรือมีภาวะผิดปกติ ที่เกิดขึ้นที่ไขกระดูก
783.352 -> อันนี้ก็อาจจะมีการตรวจในแง่ที่เราเรียกว่า เป็นการเจาะตรวจเรื่องของไขกระดูก
788.104 -> ซึ่งอันนี้ก็จะมีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ
790.456 -> เช่น เป็นคุณหมอโรคเลือด หรือคุณหมออายุรกรรมเป็นคนดูแลอีกนะคะ
794.235 -> [เสียงดนตรี]
799.057 -> ทีนี้เราพูดกันมานี่
800.768 -> ลงรายละเอียดในเรื่องของการรักษา การวินิจฉัย หรืออะไรก็แล้วแต่
804.307 -> คำถามคือเราจะกินอะไรดี
806.315 -> หัวข้อเรื่องของวันนี้คือ อาหารสำหรับรักษาเรื่องของโลหิตจางใช่ไหมคะ
810.68 -> เราต้องมาแยกนะคะ
811.862 -> คงไม่ได้บอกว่า มีอะไรที่กินอันเดียว แล้วได้ทุกอย่างครอบจักรวาล
816.44 -> สมมุติว่าคน ๆ นี้นี่ เป็นลักษณะของคนไข้ที่มีภาวะขาดเหล็ก
820.317 -> ง่าย ๆ เลยก็คือ อาจจะมีถ่ายดำ
823.056 -> คนไข้อาจจะประจำเดือนมามาก
824.823 -> หรือว่าในเด็กเล็กที่กำลังโต ซึ่งอาจจะกินได้ไม่พอ
828.179 -> กลุ่มนี้เราจะแนะนำให้กินธาตุเหล็กเพิ่มนะคะ
830.918 -> ธาตุเหล็กมาจากอะไร
832.987 -> ง่าย ๆ เลยค่ะ ธาตุเหล็กแบ่งเป็น 2 กลุ่มนะ
835.299 -> กลุ่มแรกมาจากพืช กลุ่มที่ 2 มาจากสัตว์นะคะ
838.412 -> กลุ่มที่มาจากสัตว์ก่อน พวกนี้ดูดซึมได้ดี
840.841 -> อยู่ในไหนบ้าง
842.123 -> ง่าย ๆ เลยเนอะ ก็คือเราจะกินเลือด
844.698 -> ไม่ใช่บอกไปกินเลือดสัตว์นะคะ แต่ว่าหมายถึงว่า
847.127 -> อาจจะเป็นต้มเลือดหมูอย่างนี้ค่ะ เป็นเลือดของสัตว์นะคะ
850.536 -> อันที่ 2 เป็นพวกของตับ
852.323 -> อันที่ 3 จะเป็นพวกเนื้อแดง
854.435 -> แล้วก็ไข่แดง
855.559 -> กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีธาตุเหล็ก ค่อนข้างสูง
858.44 -> อาหารทะเลหลาย ๆ ตัว ก็จะมีธาตุเหล็กค่อนข้างสูง
861.492 -> เมนูอาหาร ยกตัวอย่างเช่น เราจะกินผัดตับ
864.347 -> ตับผัดใบกุยช่ายใช่ไหมคะ
866.171 -> หรือว่าจะกินเป็นต้มเลือดหมู
867.932 -> หรือจะเป็นพวกของไข่ก็ได้ค่ะ
870.145 -> กินไข่ทั้งฟองเนอะ ไม่ใช่แค่ไข่ขาว อันนี้ก็จะมีเรื่องของธาตุเหล็กพอนะคะ
875.084 -> อันที่ 2 ก็จะเป็นธาตุเหล็กที่ได้มาจากพืช
878.456 -> เมื่อกี้เราบอกมาจากสัตว์แล้วใช่ไหมคะ
880.401 -> อันที่ 2 ก็มาจากพืช
881.757 -> ในพืชเอง เวลาที่เรารับประทานนี่ ก็จะมีธาตุเหล็กเหมือนกันนะคะ
885.221 -> สังเกตง่าย ๆ เลยค่ะ ผักที่มีสีเขียวเข้ม ๆ
887.94 -> กลุ่มนี้จะมีธาตุเหล็กค่อนข้างสูง
890.226 -> มีข้อเสียนิดเดียว ก็คือกลุ่มที่มาจากพืชนี่
893.585 -> มันจะดูดซึมได้ไม่หมด ดูดซึมได้ไม่ 100%
897.182 -> แล้วที่สำคัญคือ ถ้าเรากินอาหารบางอย่าง
899.581 -> มันจะไปยับยั้งการดูดซึมของธาตุเหล็ก ที่อยู่ในอาหารด้วย
903.724 -> เพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะกินอาหาร ที่เป็นธาตุเหล็ก มาจากพืชนะคะ
907.885 -> เราควรจะต้องระวังด้วยว่า จะต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง
911.204 -> ซึ่งจะไปทำให้มีการยับยั้งการดูดซึม
914.12 -> ก็จะเป็นพวกผักสีเขียวเข้ม ๆ นะคะ
916.088 -> ยกตัวอย่างเช่น เป็นบรอกโคลีก็ได้
917.862 -> เป็นพวกผักโขม เป็นพวกหน่อไม้ฝรั่ง
919.799 -> กลุ่มนี้ก็จะเป็นผักที่มีสีเขียวเข้ม ๆ อันนี้ก็จะมีธาตุเหล็กค่อนข้างสูงค่ะ
924.408 -> สามารถที่จะเลือกรับประทานผักกลุ่มนี้ ในปริมาณที่มากขึ้นนะคะ
928.51 -> ก็จะช่วยทำให้ร่างกาย ได้รับธาตุเหล็กที่เพียงพอได้ค่ะ
931.276 -> กลุ่มที่ 2 ที่จะช่วยในเรื่องของ การสร้างเม็ดเลือด ก็จะเป็นกลุ่มของโฟลิก
935.901 -> โฟเลตอยู่ในไหนบ้าง
936.979 -> โฟเลตอยู่ในถั่วนะคะ อยู่ในไข่ได้ แล้วก็อยู่ในผักได้นะคะ
940.682 -> เพราะฉะนั้นนี่ ถ้าเราเลือกกินอาหารกลุ่มนี้
943.12 -> เราก็จะมีโฟเลตได้นะคะ
945.321 -> ก็อาจจะเป็นรูปแบบของสลัดก็ได้ค่ะ
947.221 -> หรือว่าใส่ไข่แดงลงไป
948.706 -> อันนี้ก็จะสามารถที่จะได้รับโฟเลต เพียงพอได้ในแต่ละวันนะคะ
953.304 -> นอกเหนือจากกลุ่มที่เป็นโฟเลต หรือว่าพวกของธาตุเหล็กแล้วนี่
958.005 -> ก็จะมี B12 เนอะ
959.409 -> B12 เอาง่าย ๆ เลย B12 มาจากเนื้อสัตว์
961.598 -> B12 นี่จะมีปัญหามากที่สุดก็คือ กลุ่มที่กินเป็นมังสวิรัติอย่างเคร่งครัด
967.268 -> หรือว่าเป็นกลุ่มวีแกน
968.682 -> กลุ่มนี้มีโอกาสที่จะขาด B12 นะคะ
970.956 -> เพราะฉะนั้น ถ้าเรากินกลุ่มที่มาจากเนื้อสัตว์นี่
973.12 -> พวกนี้ก็จะไม่ขาด B12 นะคะ
974.893 -> หรือว่าจะเป็นพวกของไข่แดงก็ได้ อันนี้ก็จะช่วยได้
977.831 -> เพราะฉะนั้นเวลาที่เรากิน
979.088 -> กลุ่มที่เป็นเนื้อสัตว์ ก็จะได้ทั้งธาตุเหล็ก แล้วก็จะได้ทั้ง B12 นะคะ
983.355 -> นอกเหนือจาก 3 แร่ธาตุหลัก ที่เราพูดมาเมื่อสักครู่นี้
987.018 -> ในเรื่องของการสร้างเม็ดเลือดนี่
989.184 -> ก็จะมีอีกตัวหนึ่งชื่อว่าคอปเปอร์นะคะ
991.516 -> ในส่วนของคอปเปอร์เจอในไหน คอปเปอร์เจอในอาหารทะเลนะคะ
995.252 -> เจอในกลุ่มของหอยนางรมก็ได้นะคะ
997.956 -> หรือว่าเจอในไข่แดงก็ยังได้นะคะ
1000.385 -> อีกอันหนึ่งที่จะเจอก็คือพวกของอัลมอนด์ ช็อกโกแลต
1003.846 -> อันนี้ก็จะมีพวกของคอปเปอร์นะคะ หรือว่าทองแดงอยู่
1006.714 -> เรากินในปริมาณไม่ต้องเยอะมากก็ได้ค่ะ
1009.251 -> ทีนี้คนที่จะขาดคอปเปอร์คืออะไร
1011.229 -> ก็คือดูดซึมได้ไม่ดี
1012.737 -> ตัดกระเพาะไปนะคะ
1014.493 -> หรืออีกกลุ่มหนึ่งค่ะ คือคนที่ได้รับสังกะสีเยอะ ๆ
1018.39 -> เหตุผลเพราะว่าร่างกายเรานี่
1019.713 -> สังกะสีกับคอปเปอร์นี่
1021.275 -> เขาจะดูดซึมไปด้วยกัน
1023.334 -> ทีนี้ถ้าสมมุติเราได้สังกะสีเยอะ ๆ ปุ๊บนี่
1025.736 -> มันจะไปปิดที่ ไปแย่งที่
1028.026 -> ทำให้การดูดซึมของคอปเปอร์ หรือทองแดงมันลดลงนะคะ
1031.159 -> เพราะฉะนั้น ถ้าใครที่ได้รับสังกะสีมากเกินไป
1034.789 -> ก็ต้องระวังที่จะมีเรื่องของ การขาดทองแดงด้วยเช่นกันค่ะ
1039.03 -> [เสียงดนตรี]
1044.275 -> ในกรณีที่ถามว่าเราควรจะกินอะไร แล้วเราควรจะเลี่ยงอะไร
1048.005 -> ทีนี้ต้องมาดูทีละอย่างเนอะ
1049.209 -> สมมุติในกรณีของคนที่กินธาตุเหล็กเมื่อกี้ค่ะ
1052.06 -> ที่บอกว่าเรากินอาหารที่มีแร่ธาตุ ธาตุเหล็กเนอะ
1054.632 -> แล้วพูดว่าการที่จะดูดซึมธาตุเหล็กนี่
1057.006 -> บางทีนี่มันจะถูกยับยั้งด้วยอาหารบางตัว
1060.064 -> โดยเฉพาะก็คือถ้าเรากินธาตุเหล็กที่มาจากพืช
1063.971 -> การกินพวกของชากาแฟนี่ จะยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็ก
1067.783 -> หรือพวกแคลเซียมก็ตาม
1069.367 -> พวกนี้จะทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กลดลง
1071.608 -> อันที่ 2 อาหารที่เราเรียกว่าไฟเตต แทนนิน ออกซาเลต ซึ่งมีอยู่ในผัก
1076.686 -> พวกนี้จะทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กลดลง
1079.468 -> ดังนั้น ในผักบางอย่างนี่
1081.628 -> ถึงแม้ว่าเขาจะมีธาตุเหล็กเยอะ
1084.101 -> แต่เขาดูดซึมไปใช้ได้นิดเดียว
1085.983 -> เนื่องจากว่ามันมีสารอาหารตัวอื่นร่วมด้วย
1088.8 -> เราก็เลยบอกว่า ถ้างั้นแปลว่า เราไม่ต้องกินหรือเปล่า หรืออะไรหรือเปล่า
1092.692 -> เปล่าค่ะ เราแค่รู้
1094.628 -> เสร็จแล้วนี่เวลาที่เราจะกิน แล้วเราคาดหวังว่าเราจะได้ธาตุเหล็กจากพวกผัก
1099.436 -> เราอาจจะคาดหวังได้ไม่ 100% ยกตัวอย่างเช่น
1102.582 -> เรากินเข้าไป 100 เราอาจจะดูดซึมได้แค่ประมาณ 50
1105.581 -> เพราะฉะนั้น วิธีการแก้ไขก็คือ กินให้เพิ่มขึ้นนะคะ
1109.353 -> แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยง
1110.634 -> ไม่ใช่กินชากาแฟร่วมไปด้วย หรือกินแคลเซียมร่วมไปด้วย
1113.759 -> อันนี้ก็จะดูดซึมน้อยลง
1115.204 -> มีอะไรไหมที่จะช่วยเพิ่ม การดูดซึมของธาตุเหล็ก
1118.494 -> ก็คือวิตามินซีค่ะ
1119.86 -> บางทีเวลาเรากินพวกนี้ แล้วเราอาจจะใส่เป็นพวกของผลไม้ร่วมด้วย
1123.452 -> ผลไม้อาจจะไม่ได้มีธาตุเหล็กเยอะ แต่ผลไม้มีวิตามินซี
1126.805 -> จะช่วยทำให้เพิ่มการดูดซึม ของตัวธาตุเหล็กได้ค่ะ
1130.506 -> นอกจากนี้นะคะ ธาตุเหล็กจะดูดซึมได้ดีนี่ จะต้องอยู่ในภาวะที่เป็นกรด
1134.79 -> เพราะฉะนั้นถ้าใครที่กินพวกยาลดกรดใช่ไหมคะ
1138.022 -> ก็อาจจะมีผลกับการดูดซึมธาตุเหล็กนะคะ
1141.132 -> แล้วก็ถ้าใครที่โดนตัดกระเพาะไป ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม
1145.983 -> อันนี้การดูดซึมธาตุเหล็กก็จะลดลงเช่นกันค่ะ
1148.728 -> ทีนี้ถามว่า เอ๊ะ เราฟังดูเหมือนกับ ธาตุเหล็กก็ดีเนอะ ควรจะกินเยอะ ๆ
1153.158 -> มีคนกลุ่มไหนไหมที่ห้าม หรือไม่ควรที่จะกินธาตุเหล็กนะคะ
1158.022 -> กลุ่มที่ไม่ควรจะกินธาตุเหล็ก คือกลุ่มคนไข้ที่เม็ดเลือดแดงแตกเยอะ ๆ
1161.876 -> ยกตัวอย่างเช่น โรคธาลัสซีเมีย
1164.79 -> ฟังดี ๆ นะคะ เราย้ำว่า “โรคธาลัสซีเมีย” ไม่ใช่พาหะธาลัสซีเมียนะ
1169.465 -> โรคธาลัสซีเมีย พอเม็ดเลือดแดงเขาแตก
1171.816 -> พอเม็ดเลือดแตกปุ๊บ
1172.923 -> ธาตุเหล็กที่อยู่ในเม็ดเลือดแดง มันออกมาเต็มเลยค่ะ
1176.079 -> เพราะฉะนั้นร่างกายไม่ได้ขาดธาตุเหล็ก นึกภาพออกนะคะ
1178.649 -> ถ้าเรายังเติมธาตุเหล็กลงไปเยอะ ๆ
1180.715 -> สิ่งที่เกิดขึ้น ร่างกายจะเอาธาตุเหล็ก ที่ออกมาจากเม็ดเลือดแดงไปสะสม
1185.891 -> ไปสะสมที่ไหน
1187.579 -> ไปสะสมที่ตับ ไปสะสมที่ตับอ่อน
1190.068 -> หรืออาจจะไปสะสมมากเกินไปที่บริเวณของสมอง
1193.19 -> แล้วทำให้เกิดความผิดปกติได้
1196.985 -> เพราะฉะนั้น กลุ่มของคนไข้ที่ได้เลือดเยอะ ๆ
1199.767 -> กลุ่มของคนไข้ที่เม็ดเลือดแดงแตกเยอะ ๆ
1202.154 -> กลุ่มนี้เราจะบอกว่า ไม่ให้เติมธาตุเหล็กลงไปอีกนะคะ
1206.189 -> เพราะถ้าเติมลงไปนี่ โอกาสที่จะเกิดผลเสีย
1208.929 -> สะสมที่ตับเยอะ ๆ เกิดอะไร ทำให้ตับแข็งได้
1211.946 -> สะสมที่สมองเยอะ ๆ เกิดอะไร
1213.844 -> ทำให้การทำงานของสมองผิดปกติ
1215.96 -> อาจจะทำให้มีมือสั่น
1217.274 -> อาจจะทำให้มีอาการ เหมือนคล้าย ๆ พาร์กินสันก็ได้
1220.574 -> แล้วถ้าสะสมที่ตับอ่อนเยอะ ๆ เกิดอะไรขึ้น
1223.623 -> ก็จะทำให้คน ๆ นั้นกลายเป็น เรื่องของเบาหวานได้
1226.938 -> เพราะฉะนั้นกลุ่มที่ห้ามนะคะ ก็คือกลุ่มที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย
1230.541 -> หรือว่าได้รับเลือดเยอะ ๆ
1232.367 -> กลุ่มนี้ไม่ควรที่จะได้รับธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น
1235.046 -> แล้วหลังจากที่เราบอกว่า คนกลุ่มนี้ไม่ควรที่จะได้รับธาตุเหล็กเยอะ ๆ
1239.352 -> ไม่ว่าจะเป็นจากอาหารก็ตามนะคะ
1241.112 -> ดังนั้นนี่ เวลาที่เรารู้สึกว่า เอ๊ะ เราอยากจะบำรุงเลือด
1244.557 -> เรารู้สึกว่ามันไม่ดี แล้วเราไปซื้อเอานี่
1247.25 -> บางทีนี่ค่ะ ในยาบำรุงเลือดซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นยาที่จะมีธาตุเหล็กเสริมอยู่
1252.02 -> กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ ไม่ควรจะไปซื้อมาเสริมกินเองนะคะ
1255.861 -> เพราะว่าจะได้รับธาตุเหล็กมากจนเกินไป
1258.458 -> ยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็กนี่
1260.525 -> ส่วนใหญ่เนอะ ก็จะเห็นเป็นเม็ดสีออกแดง ๆ อาจจะไม่ใช่ก็ได้
1264.288 -> ที่สังเกตง่าย ๆ ก็คือ เวลาที่เรากินยาบำรุงเลือดนี่
1267.531 -> มักจะถ่ายออกมาเป็นสีดำค่ะ
1269.368 -> แต่ว่าจะเป็นสีดำที่ออกจะค่อนข้างแข็ง ๆ
1271.772 -> แล้วสีดำมันจะออกแบบ...ดำเขียว ๆ ไม่ได้แบบดำเข้มค่ะ
1275.763 -> ถ้าสมมุติว่าถ่ายออกมานะคะ เป็นสีดำเหมือนยางมะตอยเลย
1279.26 -> หรือว่าถ่ายออกมาแล้วเหลว ๆ
1280.829 -> อันนี้ให้สงสัยไว้ก่อนว่า อาจจะมีเรื่องของเลือดออกในทางเดินอาหาร
1285.009 -> โดยเฉพาะทางเดินอาหารส่วนต้น
1287.009 -> แต่ถ้าถ่ายออกมาแล้วเป็นสีดำ ออกเขียว ๆ หน่อย ก้อนแข็ง ๆ
1291.374 -> อันนี้แล้วก็กินยาอยู่นะคะ ก็ให้สงสัยว่า ยาที่เรากินอยู่นี่มีธาตุเหล็กอยู่
1296.599 -> ยาหรือว่าแร่ธาตุเหล็กเสริมนี่
1298.703 -> ส่วนใหญ่เวลากินให้ระวังนิดนึง
1300.451 -> หลายคนจะทนไม่ค่อยไหว
1301.795 -> เพราะว่าอาจจะมีปัญหากับระบบทางเดินอาหาร
1304.828 -> ไม่ว่าจะเป็นท้องผูก หรือไม่ว่าจะเป็นท้องเสียนะคะ
1308.039 -> อันนี้เจอได้บ่อยนะคะ
1309.339 -> ถ้าสมมุติกินยาอยู่แล้วมีอาการพวกนี้
1311.743 -> แนะนำว่าไปปรึกษาคุณหมอนะคะ
1313.368 -> อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของยาค่ะ
1316.023 -> ดังนั้น เวลาที่เราพูดถึงเรื่องโลหิตจางนี่ จริง ๆ สาเหตุมันมีเยอะเนอะ
1319.914 -> แล้วเวลาที่เราจะเลือกกินหรือเราจะดูแลตัวเอง
1322.156 -> ก็ขึ้นกับว่าเราคิดว่าโลหิตจางของคน ๆ นั้น เป็นแบบไหน
1326.34 -> ถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้มีปัญหา เรื่องของธาลัสซีเมีย
1329.009 -> ไม่เคยต้องเติมเลือดเลย บ้านเราไม่มีประวัติกรรมพันธุ์เลย
1331.947 -> แล้วเราซีดลง หรือว่าประจำเดือนเรามาเยอะ
1334.205 -> อันนี้เราควรจะต้องไปเลือกอาหาร ที่มีธาตุเหล็กเยอะขึ้น
1337.19 -> อันที่สอง สมมุติว่าคน ๆ นี้ มีประวัติกรรมพันธุ์เรื่องของโรคเลือดเนอะ
1341.313 -> มีเลือดออกบ่อย ๆ หรือว่ามีเรื่องของต้องให้เลือดบ่อย ๆ
1345.298 -> อันนี้กลุ่มนี้ก็ควรจะต้องทานโฟเลตเพิ่มขึ้น
1347.766 -> แล้วก็ไม่ควรที่จะเติมพวกของธาตุเหล็ก
1349.986 -> ถ้าเตรียมตัวจะตั้งครรภ์ ตั้งแต่เตรียมตัวเลยนะ
1352.717 -> ก็ควรจะกินโฟเลตเพิ่มขึ้น
1354.842 -> แล้วถ้าสมมุติว่าท้องแล้ว
1356.297 -> ก็ควรจะต้องได้ทั้งโฟเลต B12 แล้วก็เรื่องของธาตุเหล็กนะคะ
1360.953 -> เพราะว่ามันจะต้องเพิ่มให้กับลูกด้วย
1363.189 -> ถ้าคน ๆ นั้นมีประวัติเรื่องของการผ่าตัด กระเพาะลำไส้
1367.493 -> การดูดซึมสารอาหารลดลง
1369.446 -> กลุ่มนี้อาจจะต้องได้หลายตัวร่วมกันเลย ไม่ใช่แค่ธาตุเหล็กตัวเดียว
1373.661 -> อาจจะต้องได้หลายอย่างร่วมกัน
1375.655 -> ถ้าคน ๆ นั้นเป็นมังสวิรัติเข้มข้น ผ่าตัดกระเพาะหรือผ่าตัดลำไส้
1380.414 -> อันนี้อาจจะต้องระวังว่าอาจจะขาดเรื่องของ วิตามินบี 12 ค่ะ
1384.347 -> ดังนั้น การเลือก ไม่ว่าจะเป็นอาหาร
1386.781 -> หรือรวมกระทั่งกลุ่มของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็ตาม
1390.798 -> ก็ควรจะต้องดูให้เหมาะสมเป็นราย ๆ ไปนะคะ
1393.907 -> ไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถที่จะกินธาตุเหล็ก หรือว่าสามารถที่จะกิน B12 ไปได้เลย
1399.315 -> พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้
1404.149 -> ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.
1406.355 -> ที่ Mahidol Channel Podcast
1408.292 -> ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel
1410.72 -> YouTube Mahidol Channel
1412.487 -> Apple Podcasts
1413.669 -> Spotify
1414.866 -> Anchor
1415.812 -> Joox
1419.144 -> ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
1424.465 -> [เสียงดนตรี]

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=iid1byoZwpQ