[PODCAST] Food Choice | EP.17 - อาหารบำรุงตับ

[PODCAST] Food Choice | EP.17 - อาหารบำรุงตับ

[PODCAST] Food Choice | EP.17 - อาหารบำรุงตับ

โรคที่เกิดจากตับคือภัยเงียบอันตรายอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
เพราะตับคืออวัยวะสำคัญของร่างกายแม้ว่าตับจะสามารถฟื้นฟูได้ด้วยตนเอง แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราดูแลตับของเราตั้งแต่เบื้องต้น ซึ่งหลักการก็คือ แค่ไม่ใส่อะไรที่ไม่มีประโยชน์หรือทำลายตับเข้าไป และวิธีที่เริ่มทำได้ง่าย ๆ คือการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมต่อตับ

วันนี้หมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล ใน Food Choice : กินดี สุขภาพดี เลือกได้ จะมาพูดคุยเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงที่จะนำไปสู่โรคตับและวิธีการถนอมตับ พร้อมการดูแลตับด้วย 5 กลุ่มอาหารบำรุงตับให้แข็งแรง สุดท้ายผลิตภัณฑ์บำรุงตับต่าง ๆ แท้จริงแล้วเห็นผลจริงหรือไม่?
__________________
#FoodChoice
#MahidolChannelPODCAST
#MahidolChannel
#คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหิดล #MURA
––––––––––––––––––––
📌ช่องทางการฟัง Podcast
Apple Podcasts: https://apple.co/2Oxp5FN
Spotify: https://spoti.fi/31v1Rmx
Anchor: https://anchor.fm/mahidolchannel
––––––––––––––––––––
YouTube:    / mahidolchannel​​  
Facebook: http://www.facebook.com/mahidolchannel​​
Mahidol University มหาวิทยาลัยมหิดล: https://www.mahidol.ac.th/th​​
Website | https://channel.mahidol.ac.th/
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล | https://med.mahidol.ac.th


Content

0.001 -> [เสียงดนตรี]
3.282 -> You're listening to Mahidol Channel Podcast.
6.136 -> Listen for a better life.
8.953 -> ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
11.32 -> และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel
14.88 -> โดย มหาวิทยาลัยมหิดล
16.931 -> [เสียงดนตรี]
22.728 -> วันนี้คุณกินอะไร
24.752 -> อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร
29.44 -> วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย
31.59 -> เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา
35.581 -> กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋
40.371 -> แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
42.459 -> คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
46.644 -> [เสียงดนตรี]
49.54 -> วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของ อาหารบํารุงตับ
53.238 -> ได้ยินกันมาบ่อยเลยใช่ไหมคะ อาหารบํารุงตับ
55.944 -> หลาย ๆ คนก็กินยาเยอะ
57.7 -> หลาย ๆ คนก็กลัว อาจจะเคยมีปัญหาสุขภาพ
60.399 -> หรือไปตรวจร่างกายแล้วเจอว่า
62.372 -> ตับอักเสบบ้างล่ะ ไขมันพอกตับบ้างล่ะ
65.142 -> เอ๊ะ มันจะมีวิธีไหนไหม ที่จะทำให้ตับฉันดีขึ้น
68.359 -> มีการขายคอร์ส มีการทำโน่นนี่นั่น
71.021 -> ที่บอกว่าอันนี้เป็นอาหารบํารุงตับ หรือวิตามินบำรุงตับ
74.211 -> มันดีจริงหรือเปล่า มันช่วยได้หรือเปล่า
76.497 -> วันนี้เราจะมาคุยกันค่ะ ในเรื่องของอาหารบํารุงตับ
80.106 -> ตับนะคะ หลายคนก็รู้จักเนอะ
81.952 -> ถ้าไม่รู้จัก เราก็คงเคยกินกันเนอะ
84.129 -> ตับมีหน้าที่อะไรในร่างกาย
85.721 -> ตับมีความสำคัญมาก ๆ เลย
87.355 -> อาหารที่เรากินเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต
90.359 -> โปรตีน หรือไขมัน
91.577 -> ทุกอย่างจะต้องมีการจัดการที่ตับ
95.121 -> ตับจะเป็นเหมือนโรงงานขนาดใหญ่เลย
97.542 -> อาหารเข้ามาปุ๊บ แล้วตับจะเป็นคนที่จะเอามาใช้
101.924 -> เอามาใช้ไปเป็นพลังงาน เอามาเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาล
104.532 -> เอามาเปลี่ยนไปเป็นไขมัน
106.136 -> หรือว่าจะเปลี่ยนให้เป็นโปรตีน
108.306 -> แล้วถ้าเกิดเกินจากนั้น เขาก็จะจัดสรรให้เอาไปเก็บ
111.983 -> เพราะฉะนั้นการทำงานของตับ
113.497 -> อันที่หนึ่ง ในเรื่องของอาหาร
114.964 -> เขาจะมาจัดการกับอาหารเกือบทุกชนิดเลย
117.659 -> รวมถึงวิตามิน แล้วก็แร่ธาตุบางอย่างด้วย
120.578 -> อันที่สอง ตับมีหน้าที่คือ จัดการกับของเสียหรือสารพิษ
125.225 -> เวลาที่เรากินอาหาร กินยา หรือกินอะไรเข้าไป แล้วมันมีของเสีย มีสารพิษเกิดขึ้นนี่
129.914 -> สิ่งที่เกิดขึ้น ตับจะมีหน้าที่ทำให้สารพิษอันนั้น
132.833 -> มันหมดสภาพหรือหมดฤทธิ์ไป
134.65 -> ยาบางตัวกินเข้ามา อาจจะยังไม่ออกฤทธิ์
137.431 -> มาผ่านตับ แล้วทำให้มันออกฤทธิ์
139.482 -> ยาบางตัวออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว ตับมีหน้าที่ทำให้มันหมดฤทธิ์
143.668 -> เพื่อจะให้มันหมดสภาพ
145.241 -> แล้วไม่เกิดอันตรายกับร่างกาย แล้วเอาไปทิ้ง
147.689 -> เพราะฉะนั้นหน้าที่ของตับนี่ คอยจัดการกับ เรื่องของสารพิษที่อยู่ในร่างกายด้วย
152.345 -> นอกจากนี้ ตับยังมีหน้าที่คอยเสริมสร้างระบบ เรื่องของภูมิคุ้มกันในร่างกายด้วย
158.743 -> เพราะฉะนั้น ถ้าตับไม่ดี
159.958 -> สิ่งที่ตามมาก็คือ คน ๆ นั้นจะมีเรื่องของการติดเชื้อง่ายขึ้น
164.564 -> อันถัดมา ตับมีหน้าที่จัดการกับน้ำดี
168.585 -> เขาสร้างน้ำดีได้นะคะ
170.438 -> ช่วยในร่างกายในเรื่องของการจัดการกับ วิตามินบางอย่าง โดยเฉพาะวิตามินดี
175.042 -> ถ้าเกิดวิตามินดีเข้ามาปุ๊บ
176.69 -> ตับจะมีหน้าที่เปลี่ยนวิตามินดี
178.659 -> แล้วก็จะไปเปลี่ยนอีกครั้งหนึ่งที่ไต
180.446 -> เพื่อจะให้วิตามินดีอันนั้น ได้ออกฤทธิ์เต็มที่นะคะ
183.612 -> จะเห็นว่าตับมีหน้าที่สำคัญมากมายในร่างกาย
187.058 -> แล้วหลาย ๆ อย่างของตับคือ เขาทำได้คนเดียว
190.368 -> ไม่มีตัวแทนเลย
191.704 -> เพราะฉะนั้นนี่ เรามีตับอยู่แค่อันเดียวนะคะ
194.827 -> รักษาตับนี้เอาไว้
196.328 -> เพราะว่าถ้าเราใช้มันไปเยอะ ๆ
198.354 -> เราใส่สารพิษเข้าไปเยอะ ๆ หรือเราไปทำร้ายตับเราเยอะ ๆ
201.6 -> สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ในอนาคต ตับเราก็จะแย่ลงไปเรื่อย ๆ
205.005 -> แล้วเราไม่มีเปลี่ยนนะคะ
206.59 -> ถ้าสมมุติมันพังไปมาก ๆ
208.079 -> อย่างเดียวที่เราทำได้ก็คือ
209.835 -> เราจะต้องรอให้มีการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือว่าเปลี่ยนตับนั่นเองค่ะ
213.472 -> ทีนี้ถ้าสมมติว่าเราฟังมาแล้วว่า ตับมีความสำคัญนะคะ
217.049 -> แล้วตับนี่ มันใช้ไป หรือว่ามันทำงานไป แล้วมันพังไปเรื่อย ๆ หรือเปล่า
222.552 -> ไม่เลย ในร่างกายเรามีการซ่อมแซมนะคะ
225.278 -> ลองนึกภาพนะคะ เวลาที่เราเป็นแผลเห็นไหมคะ
227.91 -> ร่างกายเราก็จะมีการซ่อมแซม มีแผล แล้วก็มีการซ่อม แล้วแผลก็หาย
232.426 -> ตับเราก็เช่นกันค่ะ
233.773 -> ร่างกายก็จะมีการซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลานะคะ
237.101 -> แต่แน่นอนค่ะ เมื่ออายุเรามากขึ้น
239.113 -> คุณสมบัติในเรื่องของการซ่อมนี่ มันจะน้อยกว่า ซ่อมสร้างจะน้อย
244.268 -> ถ้าเรายังคงถูกทำลายต่อเนื่อง
246.159 -> สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การทำงานในภาพรวมของตับ
249.19 -> ก็จะลดลงไปตามอายุได้เช่นกัน
252.209 -> หลาย ๆ คนก็จะมีแพคเกจตรวจสุขภาพใช่ไหมคะ
255.332 -> อาจจะซื้อแพคเกจตรวจสุขภาพตอนลดราคาก็ตาม
258.123 -> หรือว่าที่ทำงานให้ตรวจสุขภาพก็ตาม
260.427 -> เสร็จแล้วนี่ ผลตรวจสุขภาพจะกลับมา
262.681 -> หลายคนเวลาที่ไปตรวจสุขภาพ ไม่ได้เจอคุณหมอ
265.174 -> แต่จะมีผลตรวจสุขภาพกลับมา แล้วก็บอกว่า
267.362 -> มีไขมันพอกตับบ้างล่ะ ตับอักเสบบ้างล่ะ หลายคนก็ตื่นเต้นตกใจ
271.027 -> แล้วในนั้นก็จะเขียนว่า ให้ไปพบคุณหมอใกล้ ๆ
273.895 -> อันที่หนึ่งก่อน
274.865 -> เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรามีไขมันพอกตับ
277.914 -> ส่วนใหญ่การที่จะรู้ว่ามีไขมันพอกตับนี่
280.146 -> มันมักจะต้องตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวด์
282.31 -> อันนี้เป็นการตรวจอย่างง่าย ไม่แพงนะคะ
285.438 -> แล้วก็สามารถรู้ผลได้นะคะ
287.706 -> โดยทั่วไปเขาก็จะดูว่า ตอนนี้มันมีลักษณะ ที่สงสัยว่าจะเป็นไขมันพอกตับ
292.69 -> เขาก็จะบอกมา
293.886 -> อันที่สองค่ะ จะพูดว่ามีตับอักเสบ
296.57 -> เวลาที่จะพูดว่ามีตับอักเสบนี่ ส่วนใหญ่จะโดนเจาะเลือด
299.818 -> ถ้าเจาะเลือดเสร็จปุ๊บนี่ จะมีค่าการอักเสบของตับที่สูงขึ้น
304.164 -> เขาก็จะบอกว่าตอนนี้มีตับอักเสบนะ
306.73 -> ทีนี้ถามว่าแล้วมันต่างกันอย่างไร มันจะรู้ได้อย่างไร มันจะอันตรายไหม
311.061 -> หลักการมีแค่นี้นะคะ อันแรกก็คือว่าในเซลล์ตับนี่
314.15 -> ให้เรามองภาพว่า เซลล์ 1 เซลล์นี่มันเหมือนถุง ซึ่งปิดสนิท
318.711 -> สารที่อยู่ข้างในถุงนี่ มีน้ำอยู่นี่
321.26 -> อันนี้ก็คือเอนไซม์ที่อยู่ในตับ
323.757 -> ถ้าสมมุติว่า ถุงมันแตกหรือถุงมันรั่ว
326.539 -> สารที่มันอยู่ข้างในนี่ มันก็จะรั่วออกมาจากนอกเซลล์ตับนึกออกไหมคะ
330.574 -> แล้วมันก็จะปนอยู่ในเลือด
332.13 -> เวลาเราเจาะเลือดปั๊บ
333.637 -> เราเห็นสารตัวนี้มันสูงขึ้น เราก็บอกว่า ต้องมีปัญหากับเซลล์ตับแน่ ๆ แล้ว
339.948 -> อันนี้คุณหมอจะพูดคำว่า ตับอักเสบ
342.829 -> ทีนี้ถ้าเกิดว่ามันมีการบาดเจ็บ หรือมีอะไรเกิดขึ้นกับเซลล์ตับ
346.6 -> ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด
348.984 -> เราก็เรียกว่าตับอักเสบ
350.644 -> ยกตัวอย่างเช่น
351.816 -> กินเหล้าเยอะ ๆ เห็นไหมคะ
353.208 -> ก็จะมีสารพิษเข้ามา ตับจัดการไม่ได้
355.695 -> ตอนนี้ตับได้รับการบาดเจ็บ
357.173 -> เพราะว่าได้รับตัวแอลกอฮอล์เยอะขึ้นใช่ไหมคะ
360.086 -> อันนี้ก็จะทำให้เกิดตับอักเสบ
361.931 -> คนไข้กินยาบางอย่างมากเกินไป
364.387 -> หรือยาตัวนี้มันทำอันตรายกับตับ
366.732 -> ยาตัวนี้มันจะไปออกฤทธิ์ที่ตับ
369.447 -> ก็จะทำให้ตับอักเสบได้
371.253 -> หรือมีการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นโควิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัสใด ๆ
376.004 -> หรือแม้กระทั่งพวกของไวรัสตับอักเสบ
378.341 -> พวกนี้ก็จะทำให้ตับอักเสบได้เหมือนกัน
380.6 -> จะเห็นว่าเวลาที่เราเจาะเลือด แล้วเจอว่ามีค่าตับอักเสบ
384.751 -> อันนี้มันเกิดได้จากหลายสาเหตุมาก ๆ เลย
388.073 -> วิธีการหนึ่งเวลาที่คุณหมอเห็น คุณหมอก็จะต้องไปหาสาเหตุก่อนว่า
391.959 -> อันนี้มันเกิดจากอะไรได้บ้าง ก็ซักประวัติ
394.529 -> กินเหล้าไหม กินยาไหม
396.407 -> หรือว่ามันมีอาการอย่างอื่นใดหรือเปล่า ที่จะสนับสนุน
400.474 -> แล้วถึงจะมาเป็นข้อสรุปว่า
402.497 -> ตับอักเสบอันนี้เกิดจากอะไร
405.198 -> อันที่สาม
406.305 -> เวลาทำอัลตราซาวด์ บางทีนอกเหนือจาก เราเห็นว่ามีไขมันพอกตับแล้วนี่
410.224 -> บางคน ในอัลตราซาวด์อาจจะบอกได้เลย ว่าตอนนี้เรามีตับแข็งแล้วหรือยัง
415.098 -> บางทีผลอัลตราซาวด์ออกมาปุ๊บ บอกว่าตับแข็ง
417.413 -> คนไข้ตื่นเต้นตกใจ แย่แล้ว ฉันแย่แน่ ๆ แล้ว ฉันจะตายแล้วอะไรอย่างนี้
421.95 -> มันจะมีลักษณะหน้าตาบางอย่างของตับ ที่จะทำให้รู้สึกว่า
426.348 -> อันนี้มันมีความผิดปกติที่เป็นมานานแล้ว
429.538 -> แล้วทำให้เกิดพังผืดเกิดขึ้น
432.061 -> อันนี้ก็เลยเรียกว่าเป็นตับแข็งนะคะ
435.161 -> ซึ่งอันนี้จะมองเห็นได้จากตัวอัลตราซาวด์
437.639 -> ในปัจจุบันนะคะ โรคตับที่ได้ยินบ่อย ๆ หรือว่าเป็นโรคยอดฮิต
441.449 -> เริ่มต้นจากไขมันพอกตับก่อน
443.794 -> อันนี้บอกเลยว่าไม่มีอาการค่ะ
445.857 -> อย่าถามว่ามีอาการอะไร ไม่มีเลย
448.131 -> มีข้อสังเกตว่า คนอ้วนมีความเสี่ยงที่จะเกิดไขมันพอกตับ
451.89 -> โดยเฉพาะกลุ่มที่อ้วนลงพุง
453.859 -> อันที่สองค่ะ ถ้าเกิดอ้วนมากขึ้น หรือไขมันพอกตับมากขึ้น
458.338 -> มันก็จะทำให้เกิดเรื่องของตับอักเสบ
461.767 -> อันนี้อาจจะยังไม่มีอาการ แต่ตรวจได้จากในเลือด
465.01 -> จะเห็นว่ามีค่าการอักเสบของตับสูงขึ้น
468.266 -> เวลาที่เราจะบอกว่าเป็นไขมันพอกตับ แล้วทำให้เกิดตับอักเสบนี่
471.926 -> มันจะต้องไม่มีสาเหตุอื่นนะคะ
473.949 -> เช่น ไม่ได้ดื่มเหล้าเลย ไม่ได้มียาสมุนไพร
477.065 -> ไม่ได้มีสารพิษใด ๆ
478.483 -> ไม่ได้มียาอะไรที่ทำให้ร่างกายเรา มีเรื่องของการอักเสบเกิดขึ้น
482.598 -> ระยะที่สามค่ะ เมื่อการอักเสบเกิดขึ้นซ้ำ ๆ
486.904 -> สิ่งที่ตามมาก็จะเป็นพังผืด
489.13 -> อันนี้ก็จะเริ่มเป็นตับแข็ง
491.56 -> ทีนี้ลองนึกภาพนะคะว่าเซลล์ตับนี่ จากตอนแรกเหมือนตับทั้งก้อนปกติ
496.938 -> แต่ถ้ามันมีพังผืดเป็นจุด ๆ หลาย ๆ ที่
499.862 -> สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผิวที่ตับ
502.792 -> มันก็จะเริ่มไม่เรียบแล้ว จะเริ่มมีความขรุขระแล้ว
505.809 -> ตับจะเริ่มเหี่ยวเล็กลงแล้ว
507.885 -> อันนี้ค่ะ เวลาที่เราตรวจอัลตราซาวด์ เราถึงจะมองเห็น
510.736 -> ถ้าถึงจุดที่มีตับแข็งแล้วนี่
513.312 -> โดยทั่วไป ถ้าตับแข็งเป็นมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ
517.63 -> จนกระทั่งการทำงานของตับในภาพรวมลดลง
521.471 -> อันนี้จะเริ่มมีอาการแล้ว
523.021 -> นอกจากนี้ เวลาที่เป็นพังผืด ถ้ามันเกิดซ้ำ ๆ
527.241 -> แล้วมันเป็นต่อเนื่อง
528.857 -> มันมีโอกาสที่เซลล์พวกนี้จะเปลี่ยนแปลงไป
531.646 -> แล้วกลายไปเป็นมะเร็งได้
533.734 -> ประมาณ 10% ของคนไข้ที่ตับแข็ง อาจจะเปลี่ยนไปเป็นมะเร็งตับได้
537.83 -> [เสียงดนตรี]
542.837 -> สำหรับในกรณีของคนไข้ที่กำลังสงสัยว่า ตัวเองจะเป็นโรคตับ
546.718 -> หรือไปตรวจสุขภาพแล้วเจอความผิดปกติ
548.855 -> แล้วถามว่า แล้วจะทำอย่างไร
550.41 -> ข้อแรกเลยก็คือ เราต้องดูก่อนว่าสาเหตุคืออะไร
553.469 -> ถ้าสาเหตุอันนั้นเราแก้ไขได้ เราก็จะไปจัดการ
557.038 -> เพราะฉะนั้น คุณหมอจะซักประวัติค่อนข้างเยอะนิดนึง
559.621 -> เพื่อจะดูว่ามันมีอะไรหรือเปล่า
561.526 -> บางอย่างที่แก้ไขได้ แล้วจัดการไป ที่บอกไปตอนต้น
565.078 -> เช่น บางคนถ้าหากว่ายังไม่เคยฉีดวัคซีน
567.977 -> ก็อาจจะให้ฉีดวัคซีนใช่ไหมคะ
569.99 -> ถ้าเกิดว่ามีปัญหาว่าตอนนี้กินยาเยอะเกินไป
573.228 -> หรือว่ายาตัวนี้มันมีปัญหากับตับ ก็จะให้หยุดยา
576.341 -> แอลกอฮอล์ก็จะให้หยุดเหล้า อันนี้เป็นต้น
579.125 -> ทีนี้ที่เจอบ่อย ๆ เลยก็คือ อ้วน แล้วก็ไขมันพอกตับ
582.851 -> ต้องบอกอย่างนี้นะคะ เวลาที่เราจะลดน้ำหนักนี่
585.537 -> ในกรณีของไขมันพอกตับนี่ เราขอประมาณสัก 10%
589.644 -> แต่ถ้าเกิดว่าตับอักเสบนี่ แค่ประมาณ 5% นี่
592.755 -> น้ำหนักลดลง ค่าการอักเสบของตับก็จะลดลงแล้วค่ะ
596.13 -> แต่ถ้าจะทำให้ไขมันพอกตับมันลดลงชัดเจนนี่
599.144 -> เราต้องขอลดน้ำหนักอย่างน้อย 10%
601.736 -> ถ้าในกรณีที่เป็นตับแข็งแล้ว หรือว่ามีพังผืดแล้วนี่
605.156 -> มันจะเปลี่ยนได้ไหม ในอดีตเราเชื่อว่ามันเปลี่ยนไม่ได้
607.939 -> แต่ปัจจุบัน เราเห็นว่าการลดน้ำหนัก หรือว่าการทำให้ตับเราดีขึ้นนี่
613.23 -> พังผืดมันก็อาจจะเปลี่ยน แล้วก็ลดลงได้
615.827 -> เพราะฉะนั้น ยังไงนี่ ในทุก ๆ ระยะนี่
618.625 -> เราก็ยังแนะนำนะคะ ถ้าสมมุติว่าอ้วน เราก็ยังแนะนำให้ลดน้ำหนัก
622.655 -> นอกจากนี้ เรื่องของตัวสูบบุหรี่
625.412 -> หลายคนจะบอกว่า สูบบุหรี่ก็ไม่ได้เกี่ยวกับตับโดยตรง
628.182 -> แต่ว่าในแง่ของการสูบบุหรี่
630.329 -> สารพิษที่เกิดขึ้นนี่
631.799 -> มันจะทำให้เรื่องของเส้นเลือดทำงานได้ไม่ดี
634.207 -> เพราะฉะนั้น เส้นเลือดเราแย่อยู่แล้วเนอะ
636.176 -> เราก็จะไม่ให้สูบบุหรี่ด้วย
638.169 -> อีกอันหนึ่งค่ะ ก็คือเรื่องของน้ำตาล
640.927 -> โดยเฉพาะพวกน้ำหวาน หรือว่าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอยู่
644.527 -> พวกนี้เวลาเรากินเข้าไปปุ๊บนี่
646.69 -> พลังงานทั้งหมดมันจะเข้าไปที่ตับ
648.811 -> แล้วมันก็จะสะสมง่าย ทำให้เกิดไขมันพอกตับได้อย่างรวดเร็ว
652.727 -> เพราะฉะนั้นถ้าเราตัดพวกน้ำหวาน หรือตัดพวกเครื่องดื่มพวกนี้นี่
656.14 -> น้ำหนักก็จะลดได้ค่อนข้างดี
658.168 -> แล้วทีนี้ในส่วนของอาหารหลาย ๆ อัน
660.4 -> ก็อย่างเช่นอาหารพวกที่เป็นพวกของปิ้งย่าง
663.525 -> อาหารที่มีการปนเปื้อนเชื้อรานะคะ
666.062 -> อาหารปิ้งย่างเกี่ยวอย่างไร
667.535 -> อาหารปิ้งย่าง ถ้าสมมุติว่า มันมีพวกของเนื้อที่มันดำ ๆ ไหม้ ๆ
671.558 -> พวกนี้มันก็จะมีพวกของไฮโดรคาร์บอน หรือสารก่อมะเร็ง
674.476 -> อันนี้เราก็ไม่อยากได้
676.028 -> พวกไขมันปริมาณมากหรือไขมันสูง ๆ
678.737 -> โดยเฉพาะเป็นกลุ่มของไขมันอิ่มตัว อันนี้เราก็ไม่ชอบ
681.661 -> เพราะว่ามันก็จะยิ่งทำให้ มีการทำร้ายตับมากขึ้น
685.579 -> การทำให้เกิดไขมันพอกตับเยอะขึ้น
688.302 -> เพราะฉะนั้นโดยทั่วไปก็คือ ลดในส่วนของไขมันอิ่มตัว
691.958 -> ลดอาหารปิ้งย่าง เพื่อจะช่วยลดเรื่องของไฮโดรคาร์บอน
694.959 -> ลดพวกของสารพิษท็อกซินทั้งหลาย พวกถั่วขึ้นราหรืออะไรอย่างนี้
699.187 -> ลดอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ใช่ไหมคะ
701.231 -> เพื่อจะให้ลดความเสี่ยง ในเรื่องของพยาธิบางชนิด
704.466 -> แล้วก็ลดพวกของน้ำตาลโดยเฉพาะพวกน้ำหวาน
707.434 -> จะได้ทำให้ไม่มีเรื่องของน้ำตาลไปสะสม หรือไปพอกที่ตับ
711.351 -> อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยดึงเอาไขมันที่ตับ ออกไปใช้ได้
714.521 -> ก็คือการออกกำลังกาย
716.602 -> หลายครั้งค่ะ การออกกำลังกาย ต่อให้น้ำหนักไม่ลดลง
720.67 -> แต่ไขมันพอกตับก็จะลดลงได้
722.514 -> เพราะว่าจะเป็นการดึงเอาไขมันที่อยู่ในตับนี่ ออกมาใช้
726.439 -> ฟังดูทั้งหมด บอกห้ามโน่นห้ามนี่มากมาย
729.49 -> เอ๊ะ มันมีไหมอาหารหรือวิตามิน ที่ช่วยบำรุงตับ
732.799 -> หลักการง่าย ๆ ก่อน อันแรกเลยก็คือ
735.044 -> ถ้าเรารู้ว่าตับเราอยู่กับเราได้อย่างยาวนาน
738.123 -> ตับของเรามีการซ่อมแซมตัวเองได้
741.235 -> หลักการข้อแรกเลยค่ะ
742.982 -> ห้ามใส่อะไรที่มันจะไปทำร้ายตับ
746.17 -> ในกรณีของยา คุยกับคุณหมอที่ดูแล
749.04 -> ว่ายาตัวนี้มันจำเป็นมากไหมนะคะ
752.218 -> ถ้ายามันจำเป็น
753.75 -> แล้วมีโอกาส ใช้คำนี้นะ มีโอกาส ที่อาจจะทำให้มีปัญหากับตับ
757.945 -> สิ่งที่คุณหมอเขาจะทำก็คือ เขาจะติดตามค่ะ
760.899 -> มอนิเตอร์หรือว่าเจาะเลือดดูเป็นระยะ
763.523 -> ว่าค่าตับเรามีการอักเสบหรือเปล่า มีอะไรหรือเปล่า
766.744 -> ในขณะเดียวกัน ถ้ามันจำเป็นต้องใช้ เราก็ต้องไปลดความเสี่ยงอื่น ๆ
770.899 -> ที่มันอาจจะทำให้ตับเราแย่ เช่น
772.854 -> เราจำเป็นต้องกินยาตัวนี้
774.623 -> เพราะว่ารักษาโรคเรา
776.039 -> แต่เราก็ไม่ควรจะไปดื่มเหล้า
778.098 -> เราก็ไม่ควรจะทำให้เราอ้วน
780.043 -> เพื่อที่จะทำให้ตับเราแย่ลงไปอีก
781.679 -> อันนี้นึกภาพออกใช่ไหมคะ
783.122 -> แล้วทีนี้ในแง่ของอาหารที่จะช่วยนี่
786.232 -> โดยหลัก ๆ จะเป็นอาหารกลุ่มที่มี เรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระ
791.576 -> เพราะเวลาที่มันมีการบาดเจ็บ
793.421 -> หรือเวลาที่มันมีการทำร้ายตับ
796.385 -> ตรงนั้นนี่ อนุมูลอิสระมันจะเยอะขึ้น
798.698 -> เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะแนะนำก็คือ
800.627 -> อาหารที่มันมีวิตามินเกลือแร่เพียงพอ
802.679 -> แล้วก็จะเสริมในกลุ่มที่จะเป็นเรื่องของ แอนติออกซิแดนท์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ
807.694 -> อันแรกเลยก็จะมีคนพูดถึงกาแฟ
809.924 -> กาแฟเองนี่ ก็มีรายงานเหมือนกันว่า ช่วยในเรื่องของไขมันพอกตับ
814.027 -> แต่เราพูดถึงกาแฟ เราไม่ได้พูดถึงกาแฟใส่นมหรือใส่น้ำตาล
819.457 -> เพราะฉะนั้นอันนี้ที่แนะนำคือเป็นกาแฟดำ
822.876 -> ไม่ใช่กาแฟที่เติมน้ำตาล
824.861 -> เพราะว่ากาแฟที่เติมน้ำตาล
826.371 -> หรือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ใส่นมข้น หรืออะไรพวกนี้ค่ะ
829.645 -> แคลอรีมันจะเยอะ
830.925 -> อันนี้จะยิ่งไปทำให้ไขมันพอกตับเป็นมากขึ้น
834.026 -> ชากาแฟก็จะมีทั้งกาเฟอีน แล้วก็จะมีแอนติออกซิแดนท์บางตัว
837.43 -> เพราะฉะนั้นชากาแฟนี่ไปด้วยกันได้เลย
840.115 -> ตัวที่สองก็จะเป็น กลุ่มที่เป็นพืชหรือว่าผักผลไม้ก็แล้วแต่
844.585 -> พวกนี้จะมีอะไรบ้าง มีวิตามินเอค่ะ
847.13 -> ในคนไข้โรคตับ ต้องบอกว่าวิตามินเอนี่
850.093 -> เราจะสะสมและเก็บเอาไว้ที่ตับ
852.537 -> ถ้าเมื่อไหร่ตับเราแย่ลง เซลล์ตับเราพัง
855.906 -> สิ่งที่เกิดขึ้นคือวิตามินเอเราจะดรอปลงด้วย
858.935 -> เพราะฉะนั้นเขาอาจจะให้เรากิน พวกที่มันมีวิตามินเอเยอะขึ้น
862.096 -> มีแอนติออกซิแดนท์เยอะขึ้น แคร์รอตอย่างนี้ใช้ได้
865.631 -> หรือว่าจะเป็นพวกของบรอกโคลี
869.006 -> กะหล่ำปลี องุ่น เมล็ดองุ่นนะคะ
871.517 -> พวกนี้จะช่วยในเรื่องของ การให้สารที่มีเรื่องของแอนติออกซิแดนท์
876.495 -> แล้วบางตัวจะไปเพิ่มตัวที่เราเรียกว่า กลูตาไธโอน
879.943 -> กลูตาไธโอน เมื่อกี๊เราได้ยินแล้ว
881.421 -> เอ๊ะ ตัวนี้ทำให้มันผิวขาวใช่ไหม มันดีหรืออะไรอย่างนี้
885.243 -> จริง ๆ แล้วตัวนี้ จะเป็นสารตัวหนึ่งที่เราเอาไว้ใช้
889.18 -> เวลาที่คนไข้รับประทานยา ที่เราเรียกว่าพาราเซตามอล
894.001 -> มากจนเกินขนาด
895.654 -> โดยทั่วไปเวลาที่เรากินพาราเซตามอลนี่
897.82 -> พาราเซตามอลจะถูกทำลายที่ตับ
900.177 -> ถ้าพาราเซตามอล เรากินโดสเยอะเกินไป
902.923 -> แล้วตับเราทำลายไม่ทัน
904.693 -> สิ่งที่เกิดขึ้น มันก็จะทำให้ตับมีการบาดเจ็บ
907.947 -> แล้วถ้ามันเยอะเกินไป
909.213 -> หลังจากนั้นนี่ มันอาจจะทำให้เกิด ภาวะที่เราเรียกว่าตับวายได้
912.539 -> ในช่วงต้น ถ้ามาเร็ว มาทัน แล้วยามันเยอะนี่
915.731 -> เราจะมียาตัวหนึ่งซึ่งจะไปทำให้ ฤทธิ์ของยาพวกนี้มันหมดฤทธิ์
920.367 -> แล้วก็ช่วยป้องกันตับนะคะ
921.986 -> ก็จะเป็นกลุ่มของกลูตาไธโอน
923.417 -> เพราะฉะนั้น เวลาที่เราไปกินอาหาร ที่มันมีพวกของกลูตาไธโอนเยอะขึ้น
927.615 -> มันก็อาจจะช่วยซ่อมแซม หรือว่าช่วยบำรุงตับได้เช่นกัน
931.37 -> ยกตัวอย่างเช่นกินกะหล่ำปลีพวกนี้
933.668 -> หรือว่าอาจจะเป็นพวกของบรอกโคลี
935.342 -> บรอกโคลีก็จะมีแอนติออกซิแดนท์ค่อนข้างเยอะ
937.584 -> อีกตัวหนึ่งที่มาด้วยกัน เวลาที่เราดูผลไม้ เราจะเห็นตลอดเวลา
941.133 -> ก็คือกลุ่มที่เป็นเบอร์รี
942.758 -> เบอร์รี นอกจากจะมีพวกของ แอนติออกซิแดนท์แล้วนี่
945.766 -> ก็จะมีพวกที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ
948.148 -> ซึ่งพวกนี้ก็จะช่วยในเรื่องของ เป็นแอนติออกซิแดนท์
950.802 -> แล้วก็ช่วยในเรื่องของการทำงานที่ตับ
953.27 -> แล้วก็ช่วยในส่วนที่จะ ลดการบาดเจ็บที่ตับได้ด้วย
957.584 -> ในส่วนของการเลือก ถ้าเป็นน้ำมัน
960.559 -> เมื่อกี้เราบอกแล้วว่า น้ำมันไขมันอิ่มตัว หรือว่าน้ำมันที่มันเป็นไขเป็นก้อนเราไม่ชอบ
965.771 -> เราก็มาเลือกน้ำมันที่ไม่อิ่มตัว หรือว่าเป็นกลุ่มของน้ำมันมะกอก
969.482 -> ช่วยลดเรื่องของความดื้ออินซูลินนะคะ
971.885 -> อันนี้ก็จะช่วยทำให้ตับทำงานได้ดีขึ้น
975.054 -> เลือกคาร์โบไฮเดรตที่เป็นพวกของถั่ว ธัญพืช
978.552 -> แต่ต้องระวังนิดนึงถ้าจะใช้ถั่ว
980.585 -> ควรจะกินถั่วที่ใหม่ ๆ นะคะ
982.943 -> อาจจะคั่วหรืออบเอง
984.628 -> ที่ไม่ได้เป็นถั่วบดซึ่งเรามองไม่ออกเลย ว่ามันจะมีเชื้อราปนอยู่หรือเปล่า
989.358 -> ถ้ามีเชื้อรา ไม่ต้องเสียดาย ทิ้งไปเลย
991.652 -> พวกถั่วพวกนี้ควรจะกิน ซื้อมาปริมาณน้อย ๆ แล้วก็อบกินทีละนิดเดียว
995.736 -> เพราะว่า ถือว่าเป็นสารที่มีน้ำมันค่อนข้างเยอะ
1000.227 -> ทิ้งเอาไว้แล้ว มันจะเกิดภาวะหืนได้ค่อนข้างง่าย
1003.802 -> บางทีเราเก็บถั่วไว้สักพักนึง เราจะรู้สึกว่ามันมีกลิ่นแล้ว มันหืนแล้ว
1006.977 -> อันนี้ก็คือกรดไขมันที่มีอยู่ในถั่ว ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ
1010.803 -> อันนี้ถ้าสมมุติว่าจะแก้ไข
1012.372 -> อันแรกลองไปอบซ้ำดูอีกทีหนึ่งเพื่อไล่อากาศ
1015.053 -> ถ้ามันช่วยไม่ได้ ก็ทิ้งไปเถอะค่ะ
1016.766 -> แล้วก็สุดท้ายค่ะ
1018.194 -> เราจะไปลดการอักเสบได้อย่างไร
1019.998 -> ก็จะเป็นพวกของโอเมกา 3 ซึ่งมีอยู่ในปลาที่มีน้ำมันเยอะ ๆ
1025.175 -> ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นปลาทะเลน้ำลึก
1027.458 -> ปลาน้ำจืดบ้านเราก็ถือว่ามีโอเมกา 3 หรือว่ามี Fish oil
1030.801 -> เรากินพวกนี้ได้
1032.224 -> ถามว่าปริมาณที่ควรกิน ก็ประมาณ 1 ฝ่ามือ อาจจะบวกไปอีกสักข้อนิ้วนึง
1037.248 -> อันนี้เรากินสักประมาณอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
1039.713 -> อันนี้ก็จะช่วยทำให้เราได้รับ พวกของ Fish oil เพียงพอค่ะ
1043.06 -> [เสียงดนตรี]
1048.141 -> อันสุดท้ายที่เราจะคุยกันก็คือ
1050.295 -> เราจะเห็นโดยภาพรวมในอินเทอร์เน็ต
1052.351 -> หรือว่าคำบอกกล่าว ไม่ว่าจะส่งต่อมาใน LINE หรืออะไรก็ตาม
1056.02 -> คำโฆษณาชวนเชื่อบอกว่า
1057.49 -> วิตามินอันนี้เป็นวิตามินบำรุงตับ ทั้งแบบที่ฉีดและแบบที่กิน
1060.978 -> เหมือนที่บอกเมื่อสักครู่ค่ะ
1062.294 -> อันนึงเลยที่อาจจะต้องระวังก็คือ
1065.225 -> การฉีดวิตามิน มันก็จะทำให้เราได้รับวิตามิน ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง
1070.574 -> ถ้าเราไปดู
1071.786 -> แล้วเราสามารถที่จะมีความรู้ หรือขอเขาดูได้ว่า
1074.589 -> วิตามินที่จะฉีดนี้คืออะไรนะคะ
1076.624 -> ส่วนใหญ่ที่เขาจะผสมให้ก็คือวิตามินซี วิตามินอี ซึ่งอันนี้จะเป็นอะไรคะ
1081.529 -> มีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์ หรือว่าสารต้านอนุมูลอิสระ
1084.423 -> อาจจะเพิ่มวิตามินบี
1086.005 -> เพราะว่าวิตามินบีเป็นตัวช่วยที่สำคัญ ในแง่ของการเผาผลาญสารอาหารทั้งหลาย
1092.002 -> ซึ่งเมื่อกี้บอกไปแล้วว่าตับมีหน้าที่หลัก ในการจัดการเรื่องของสารอาหารใช่ไหมคะ
1096.913 -> อีกตัวหนึ่งอาจจะเพิ่ม ในตัวของกลูตาไธโอนเข้าไป
1099.79 -> หรือว่าใส่อะมิโนแอซิด หรือใส่เพปไทด์บางอย่างเข้าไป
1103.162 -> อันนี้ก็จะบอกว่า แล้วมาเคลมว่าอันนี้จะช่วยเรื่องตับ
1107.017 -> อันหนึ่งเลยคือวิตามินเอ ระวังนะคะ
1110.072 -> ในกรณีของวิตามินเอเองนี่
1112.286 -> จริง ๆ แล้วในคนไข้โรคตับ วิตามินเออาจจะต่ำ
1115.323 -> เพราะฉะนั้นเติมวิตามินเอได้
1117.517 -> แต่ในบางรายที่กินวิตามินเอในโดสที่เยอะ ๆ หรือเมกะโดสนี่นะคะ
1122.18 -> สิ่งที่เกิดขึ้นเขาเรียกว่า ภาวะเป็นพิษจากวิตามินเอหรือกินมากเกินไป
1125.816 -> สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือจะทำให้ตับอักเสบได้
1128.936 -> อาจจะทำให้เกิดพังผืดที่ตับได้
1130.943 -> เพราะฉะนั้น จริง ๆ แล้วนี่ วิตามินเอในโดสต่ำ ๆ หรือวิตามินเอที่ขาด
1136.178 -> อันนี้ก็จะเกิดในคนไข้โรคตับได้
1138.375 -> แต่ว่าวิตามินเอที่เยอะจนเกินไป
1140.601 -> ก็ทำร้ายตับได้เหมือนกัน
1142.815 -> เพราะฉะนั้นวิตามินเอจะใช้นี่ อาจจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง
1147.104 -> ถามว่าปริมาณเท่าไหร่ อาจจะตอบยากนิดนึง
1149.886 -> แต่ว่าในคำแนะนำ เราจะบอกว่าวิตามินเอนี่
1152.777 -> ควรใช้ไม่เกินประมาณ 5000 IU
1155.437 -> แต่ถ้าใครที่เจาะเลือดแล้วบอกว่าวิตามินเอต่ำ
1158.248 -> อันนี้คุณหมอจะสั่งการรักษา คือจะให้มากกว่านั้น
1160.908 -> เพราะฉะนั้น จริง ๆ ถ้าเป็นคนทั่วไป
1163.412 -> ไม่ได้แนะนำว่า จะต้องไปเสริมวิตามินเอทีละเยอะ ๆ
1167.139 -> เพราะอาจจะมีอันตราย
1168.414 -> ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือคนไข้ที่รักษาสิว
1171.155 -> ใครเคยรักษาสิวบ้าง
1172.469 -> ก็จะมียาที่จะให้กินเพื่อรักษาสิว
1176.067 -> ที่จะทำให้หน้ามันแห้ง ๆ หน่อย
1177.95 -> กินแล้วปากจะแห้ง ๆ หน่อย
1179.651 -> กลุ่มนี้จะเป็น…เขาเรียกว่าเป็น อนุพันธ์ของวิตามินเอ
1182.54 -> กินมากเกินไป
1183.803 -> บางทีคุณหมอจะต้องตรวจเรื่องของ ระดับค่าตับเป็นระยะ ๆ
1187.687 -> เพราะว่าตัวนี้อาจจะมีผลกับตับได้
1190.499 -> ดังนั้น วิตามินเอหรือว่าวิตามินทั่ว ๆ ไป ไม่ได้หมายความว่าปลอดภัย 100%
1195.723 -> การกินวิตามินหรือว่าการฉีดวิตามิน ในปริมาณที่มากเกินไป
1199.481 -> ก็อาจจะเกิดผลเสียได้
1201.379 -> แล้วอวัยวะที่จะรับผลกระทบในตอนแรก ก็มักจะเป็นตับ
1205.964 -> เพราะว่าเราใส่อะไรเข้าไป ตับเรามีหน้าที่ทำให้มันหมดฤทธิ์
1209.914 -> หรือทำให้มันออกฤทธิ์เพิ่มขึ้น
1211.7 -> นอกเหนือจากกลุ่มวิตามินที่ฉีดหรือกิน ที่เราบอกว่าที่เราจะต้องระวังแล้วนี่
1216.725 -> มันก็จะมีอีกอันหนึ่งเมื่อกี้เราพูดกัน
1218.95 -> ก็คือกลุ่มของกลูตาใช่ไหมคะ หลายคนก็จะบอกว่า
1221.958 -> ถ้าฟังดูแล้วนี่
1223.139 -> เราไปฉีดกลูตาจะช่วยทำให้ตับเราดีขึ้นไหม
1226.159 -> ต้องบอกว่าอย่างนี้ค่ะ ในกรณีของกลูตานี่
1228.432 -> ถ้าตับไม่ได้มีปัญหาอะไร ฉีดไปนี่ เดี๋ยวสักพักมันก็หมดฤทธิ์เนอะ
1232.711 -> ที่อันตรายมากที่สุดก็คือ เรากลัวภาวะที่เราเรียกว่าแพ้กลูตา
1236.88 -> มันอาจจะทำให้เกิด Anaphylaxis ที่หายใจไม่ทัน
1240.716 -> หรือว่าอาจจะทำให้ความดันเลือดตกลง แล้วอาจจะเสียชีวิตได้เลย
1244.395 -> เพราะฉะนั้น ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้อง
1246.895 -> ถ้าจะเอาพวกนี้ เอาจากไหน
1248.734 -> จริง ๆ จากการกินค่ะ
1250.02 -> นอกเหนือจากเราจะได้สารพวกนี้ ได้แอนติออกซิแดนท์ ได้ไฟเบอร์
1253.972 -> อันนี้จะช่วยในเรื่องของการทำงานของลำไส้ เรื่องของการทำงานแบคทีเรีย
1258.841 -> แล้วก็ยังช่วยส่งผลดีกับตับในภาพรวมได้อีก
1261.834 -> เพราะฉะนั้นเราเปลี่ยนจากของพวกนี้ ที่เราจะต้องจ่ายตังค์แพง ๆ
1265.121 -> เป็นเรื่องอาหารที่ดี หรือว่าให้ได้รับสารอาหารที่ใกล้เคียงกัน
1268.598 -> อันนี้น่าจะดีกว่า
1270.189 -> อันสุดท้ายจะชอบมีคนพูดถึงเรื่องของสมุนไพร
1273.416 -> ต้องบอกอย่างนี้นะคะ
1274.481 -> สมุนไพรนี่ โดยทั่วไป เขาใช้หลักการคล้าย ๆ กันเลยก็คือว่า
1279.525 -> สารออกฤทธิ์ที่อยู่ในสมุนไพรนี่
1281.759 -> เราไปศึกษาอยู่ในสัตว์ทดลอง หรือว่าอยู่ในหลอดทดลอง
1284.969 -> แล้วบอกว่ามีคุณสมบัติ ไม่ว่าจะเป็นแอนติออกซิแดนท์
1288.392 -> หรือว่าจะมีคุณสมบัติในแง่ของการลดการอักเสบ
1291.126 -> อย่างไรก็ตาม เราไม่รู้โดสที่เหมาะสม ที่แน่ชัดสำหรับการใช้ในคน
1297.218 -> ข้อมูลอันหนึ่งก็คือว่า
1299.214 -> สมุนไพรในโดสต่ำ ๆ อาจจะไม่ได้ประโยชน์
1301.723 -> สมุนไพรในโดสตรงกลางหรือโดสที่เหมาะสม
1304.085 -> อันนี้จะช่วยลดเรื่องของการอักเสบ ช่วยทำให้ตับดีขึ้น
1307.685 -> แต่ถ้ามันมากเกินไป อันนี้มันอาจจะทำร้ายตับ
1310.853 -> คำถามคือ โดสที่เหมาะสมอยู่ตรงไหน
1312.737 -> อันนี้ค่ะ มันยังไม่มีข้อมูลที่ทำในคน มากสักเท่าไหร่นัก
1317.383 -> เพราะฉะนั้นยังไม่ได้มีคำแนะนำ ในเรื่องของการใช้สมุนไพร
1322.059 -> ที่เป็นแคปซูล เป็นเม็ด เพื่อจะช่วยบำรุงรักษาตับ
1325.854 -> แต่ถ้าเรารู้ว่าสมุนไพรนี้มีสารตัวนี้
1329.033 -> แล้วเราไปเอามาใช้ในเรื่องของการประกอบอาหาร
1332.25 -> ใช้ในสัดส่วนที่เรากินตามปกติ
1334.806 -> อันนี้มันจะไม่เกิดภาวะเป็นพิษแน่นอน
1337.07 -> แล้วเราก็จะได้รับสารอาหาร
1338.602 -> หรือว่าได้รับสารตัวที่มันช่วย ในเรื่องของสุขภาพด้วย
1342.399 -> เพราะฉะนั้นในส่วนของสมุนไพร ถ้ามันมีข้อมูลว่ามันช่วย
1345.7 -> แนะนำว่า เอามาใช้ในการที่จะเป็นส่วนหนึ่ง ของการประกอบอาหาร อันนี้น่าจะดีกว่า
1351.039 -> ไม่เพียงแค่นั้น บางทีเวลาที่เขาเอามาใส่แคปซูลให้เรา
1354.663 -> หลายครั้งหลายทีนี่
1356.201 -> เราไม่รู้เลยว่ามันจะมีสารปนเปื้อน หรือสารอะไรอย่างอื่นหรือเปล่า
1360.297 -> แล้วมันจะยิ่งทำให้เรา หรือตับเราทำงานหนักขึ้น
1365.284 -> เพราะฉะนั้นถ้าสมมุติว่าเราอยากจะเซฟตับ
1367.56 -> แค่เราไม่ต้องใส่อะไร ที่ทำให้ตับเราทำงานหนักขึ้น
1370.893 -> แล้วเราก็ไม่ต้องเปลืองเงินด้วย อันนี้น่าจะดีที่สุดค่ะ
1373.878 -> โดยสรุปนะคะ วันนี้เราคุยกันเรื่องของอาหารบำรุงตับ
1376.734 -> แต่จริง ๆ แล้วเราก็จะพูดว่า
1378.403 -> ในส่วนของโรคตับมีอะไรบ้าง เราจะสังเกตได้อย่างไร
1381.958 -> หลักการวันนี้ที่อยากจะให้ทุกท่านได้ไป ก็คือว่า ตับเรานี่ จริง ๆ มันดีอยู่แล้ว
1387.002 -> แล้วจะดีที่สุด ถ้าเราไม่พยายามใส่อะไร ที่ไม่จำเป็นให้ตับเราต้องทำงานหนักขึ้น
1393.344 -> แล้วที่สำคัญ ถ้าสมมุติว่า เราจะอยากได้อาหารอะไรที่จะไปบำรุงตับ
1397.936 -> เราควรจะเลือกจากที่เป็นอาหาร
1400.304 -> การที่เราใช้วิตามิน ไม่ว่าจะเสริมด้วยการกิน หรือเสริมด้วยการฉีดมากเกินไป
1405.732 -> ไม่ได้หมายความว่ามันจะปลอดภัย
1407.479 -> วิตามินไม่ได้เท่ากับคำว่าปลอดภัย หรือไม่ได้เท่ากับคำว่าไม่เป็นอันตราย
1411.826 -> อะไรที่มากเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับร่างกาย
1415.303 -> แล้วทุกอย่างที่เราใส่เข้าไป
1416.846 -> หมายความว่าเรากำลังตั้งใจทำให้ตับเรา ทำงานหนักขึ้น
1420.731 -> เพราะฉะนั้นถ้าสมมุติว่าทุกท่านกังวล ว่าตอนนี้ฉันกินยาเยอะไปหรือเปล่า
1424.672 -> ตับฉันมีปัญหาหรือเปล่า
1426.385 -> ถามตัวเองนิดเดียวว่าเราจำเป็นต้องกินไหม
1428.958 -> ถ้าเราไม่จำเป็นต้องกิน
1430.633 -> เราจะไม่ทำให้ตับเราทำงานมากขึ้น
1433.889 -> แล้วเราก็จะไม่ไปเสียตังค์ ด้วยของที่ไม่จำเป็นค่ะ
1437.235 -> พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้
1442.072 -> ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.
1444.259 -> ที่ Mahidol Channel Podcast
1446.181 -> ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel
1448.674 -> YouTube Mahidol Channel
1450.425 -> Apple Podcasts
1451.605 -> Spotify
1452.826 -> Anchor
1453.671 -> Joox
1457.114 -> ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
1463.483 -> [เสียงดนตรี]

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=JDGE19v2e0g