ฟังธรรมะก่อนนอน  เทคนิคชะลอความแก่  | ธรรมะก่อนนอน Ep: 9

ฟังธรรมะก่อนนอน เทคนิคชะลอความแก่ | ธรรมะก่อนนอน Ep: 9


ฟังธรรมะก่อนนอน เทคนิคชะลอความแก่ | ธรรมะก่อนนอน Ep: 9

ฟังธรรมะก่อนนอน “เทคนิคชะลอความแก่” | ธรรมะก่อนนอน Ep: 9
ท่านผู้ฟัง รู้ไหมว่าบางครั้งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้ากับเทวดา บ้างก็คุยกันถึง “สูตรแห่งความงาม” หรือ “เทคนิคชะลอความแก่” ท่านที่รู้สึกว่ากำลังจะหนุ่มน้อยสาวน้อยลงไปทุกที คงจะสนใจอยู่ไม่น้อยว่า พระพุทธองค์ตรัสอย่างไร


------------------------------------------
ฟังธรรมะก่อนนอน:    • ฟังธรรมะก่อนนอน “…  
กด “แชร์คลิป” เพื่อเป็นธรรมทานแก่บุคคลที่คุณรัก
ส่ง “บุญ” ให้กับบุคคลที่เราหวังดี และเพื่อนร่วมโลก

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมครับ
คืนนี้ขอให้ท่านหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์.

#ธรรมะก่อนนอน #ฟังธรรมะก่อนนอน #เทคนิคชะลอความแก่
#คติธรรมสอนใจ #ธรรมะสอนใจ #ข้อคิดดีดี #กฏแห่งกรรม


Content

4.184 -> สวัสดีครับท่านผู้ฟัง ธรรมะก่อนนอนวันนี้
7.283 -> ข้าพเจ้าขอน้อมนําเอาธรรมะมาบอกกล่าว เพื่อเสริมสร้างศรัทธาคือความเชื่อ
13.883 -> ปะสาทะความเลื่อมใส พร้อมทั้งวิริยะความพากเพียร
18.043 -> ในการทําความดี เพื่อสั่งสมบุญบารมีให้เกิดขึ้นมีขึ้น
23.423 -> ในดวงจิตดวงใจของท่านผู้ฟัง ก่อนที่จะหลับนอนในค่ำคืนนี้ครับ
29.663 -> ท่านผู้ฟังรู้ไหมว่า บางครั้งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับเทวดา
35.903 -> บางครั้งก็คุยกันถึงเรื่องสูตรแห่งความงาม หรือเทคนิคชะลอความแก่
42.023 -> ท่านที่รู้สึกว่ากําลังจะหนุ่มน้อยสาวน้อยลงไปทุกที คงจะสนใจอยู่ไม่น้อยว่า
48.083 -> พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าอย่างไร ปฐมเหตุของเรื่องนี้ก็คือว่า
53.616 -> เทวดาองค์หนึ่ง สังเกตเห็นภิกษุหนุ่มและสามเณรน้อย
57.923 -> สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย
63.263 -> ตามป่าตามถ้ำ อาหารก็ฉันมื้อเดียว
66.983 -> ไม่ได้อยู่ดีกินดีเหมือนอย่างในปัจจุบัน หรืออย่างชาวบ้าน ชาวเมืองเขา
72.443 -> แต่ทําไมแต่ละรูปมีผิวพรรณผ่องใส ใบหน้าอิ่มเอิบ
76.943 -> ยิ่งอายุมากก็ยิ่งหนุ่มขึ้น ไม่รู้จักแก่ไปตามวัย
81.983 -> เทวดาเมื่อเกิดความสงสัย จึงเข้าไปเฝ้าเพื่อฟังธรรมจากพระพุทธองค์
87.526 -> และเมื่อได้จังหวะก็ทูลถามเคล็ดลับชะลอความแก่
92.344 -> ว่าพระพุทธองค์มีเคล็ดลับอะไร
94.299 -> สอนพวกภิกษุสามเณรเหล่านั้น
96.679 -> องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
98.943 -> พระองค์ทรงตรัสสั้นๆ ว่า อตีตํ นานุโสจนฺติ นปฺปชฺชนฺติ อนาคตํ
106.254 -> ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ เตน วณฺโณ ปสีทติ
111.488 -> แปลว่า
112.563 -> ไม่อาลัยอาวรณ์สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่พะวักพะวงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
118.503 -> ทําเรื่องเฉพาะหน้าให้เป็นไปด้วยดี ปฏิบัติได้เช่นนี้ผิวพรรณก็จะผ่องใส
124.794 -> ถ้าจะพูดสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ อย่าได้ทุกข์หรืออย่าได้เครียด
129.023 -> เพราะความทุกข์ความเครียด ทําให้คนเราแก่เร็วนั่นเอง
133.474 -> ท่านผู้ฟังการอาลัยอาวรณ์ทุกคนต้องมี
137.119 -> จะมีมากหรือน้อย
138.695 -> ปุถุชนคนธรรมคนดาล้วนต้องมี และมักจะเป็นตัวทําให้ทุกข์ทั้งสิ้น
143.903 -> สองตัวนี้เป็นตัวอันตรายของชีวิตมนุษย์ ไม่มีใครอยากให้ประสบพบเจอ
149.35 -> แต่มันเป็นธรรมชาติที่เราหลีกหนีมันไม่พ้น
152.358 -> แต่เราทําให้มันไม่ทุกข์กับมันได้
154.555 -> หากรู้วิธีจัดการที่ดีพอ
157.571 -> แต่ต้องใช้เวลาในฝึกฝน
160.291 -> เมื่อใดที่ความอาลัยอาวรณ์เกิดขึ้นแก่เรา
163.197 -> เหตุที่เกิดและเหตุที่ทําให้เราทุกข์ใจ
166.153 -> ก็เพราะเรานี่แหละ ไปให้ความสําคัญกับมันโดยไม่รู้ตัว
170.436 -> เมื่อมันเกิด
171.855 -> เราไม่รู้จักวิธีเลิกให้ความสําคัญกับมัน
174.523 -> จึงไปปรุงแต่ง ไปขยายความไปสืบต่อ
178.422 -> ดังนั้น
179.263 -> เมื่อความอาลัยอาวรณ์ ไม่ว่าเรื่องใดๆ เกิดขึ้นมาก็ตาม
183.583 -> จงรีบระลึกทันทีว่า มันเป็นเรื่องอดีต ไม่มีความสำคัญ
189.548 -> ไร้สาระที่จะไปคิดถึงมัน ไร้แก่นสาร
193.663 -> ที่จะมัวพะวงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว และสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
198.643 -> ระลึกทุกทุกครั้ง
200.18 -> ระลึกให้เร็ว
201.628 -> อย่าปล่อยให้ความอาลัยอาวรณ์มันก่อตัว
203.784 -> จนเกิดความทุกข์
205.213 -> เราจัดการมันได้เร็วเท่าไร
207.161 -> การสลัดความอาลัยอาวรณ์ของเรา
209.623 -> ก็จะมีกําลังเก่งกล้าก็จะถูกระงับ
212.589 -> จัดการลงได้ง่าย
214.273 -> แต่หากเผลอใจปล่อยให้เกิดการปรุงแต่ง มีความอาลัยอาวรณ์สืบต่อ
219.51 -> ไม่คิดหยุดมัน พอมันปรุงจนทุกข์ เลยกลายเป็นคิดแต่งเรื่องทุกข์
224.483 -> และเมื่อคิดบ่อยบ่อยก็กลายเป็นคนอมทุกข์ในที่สุด
228.444 -> เหตุนี้พระองค์จึงทรงตรัสสอนว่า
231.023 -> เมื่ออาลัยอาวรณ์เกิดขึ้นคราใดอย่าประมาท
235.163 -> อย่าไปให้ความสําคัญกับมัน
237.752 -> อย่าปรุงต่อ
239.827 -> เพราะมันคือตัวทุกข์
241.823 -> ไร้สาระที่จะคิดถึงระลึกถึง เรื่องอดีตเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้ว
247.875 -> ไม่ว่าจะ เรื่องดี หรือเรื่องร้ายก็ตาม
252.523 -> สิ่งที่ได้ทําลงไปแล้ว ทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจ
258.463 -> เราไม่สามารถย้อนอดีตให้กลับคืนมาได้
262.012 -> สิ่งที่ล่วงไปแล้ว
263.444 -> ก็ต้องผ่านเลยไป
265.483 -> เหมือนสายน้ำไหลไปไม่มีวันย้อนกลับ
269.083 -> นักปราชญ์ท่านจึงได้แต่งเป็นบทประพันธ์เอาไว้ว่า
272.636 -> ไม่มีสายน้ำใดไหลย้อนกลับ
275.503 -> ดั่งเวลามิอาจปรับหมุนย้อนหา
278.73 -> ข้ามอดีต แก้ไขวันเวลา
281.363 -> ให้ได้มาดั่งใจคิดจินตนาการ
284.821 -> ปล่อยให้จิตเลิกคิดกะหนึ่งหา
287.525 -> หยุดลุ่มหลงภาพดวงตาที่หล่นหาย
290.896 -> ปล่อยห่วงรัดพันธนาการที่พันกาย
294.376 -> ให้กิเลสเสื่อมคายทุเลาลง
296.969 -> หรือเหมือนชีวิตของเราของคนอื่น
300.479 -> ที่ย่างก้าวไปสู่ความเสื่อมสลายทุกวินาที
304.163 -> กระทั่งอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เราก็ไม่ควรไปมุ่งหวังมากเกินไป
308.623 -> ว่าจะได้ราบ ยศ สรรเสริญสุข ดั่งใจปรารถนา
314.363 -> การประกอบคุณงามความดี สั่งสมบุญบารมีอยู่เป็นนิจเท่านั้น
319.103 -> ที่จะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า เราจะมีอนาคตอันสดใส
323.363 -> ชีวิตจะก้าวไปสู่ความเต็มเปี่ยมสมบูรณ์พร้อมยิ่งขึ้น
327.96 -> องค์สมเด็จพระบรมศาสดา
329.75 -> จึงตรัสสอนให้เรามีชีวิตอยู่กับปัจจุบันธรรมเท่านั้น
334.463 -> ดั่งเรื่องในสมัยปัจฉิมโพธิกาล
337.475 -> ตอนเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
339.732 -> ทําการปลงอายุสังขาร
342.17 -> คือประกาศให้เหล่าสาวกสาวิกาได้ทราบว่า
345.663 -> อีกสี่เดือนข้างหน้าต่อจากนี้ไป พระพุทธองค์จะทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน
352.743 -> ใครที่ยังปฏิบัติธรรม ยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์
356.643 -> ก็ให้รีบเร่งทําความเพียร อย่าประมาท ถึงอย่างนั้นตอนนั้น
362.043 -> ก็ยังมีพระภิกษุผู้ยังเป็นปุถุชนจํานวนไม่น้อย
365.908 -> ที่มัวเที่ยวติดตามพระพุทธองค์ไปในทุกหนทุกแห่ง
369.651 -> เพียงเพื่อจะดูพระองค์ โดยไม่ได้ทําความเพียรเลย
373.346 -> เพราะการได้พบเห็นพระพุทธองค์
374.837 -> ถือว่าเป็นทัศนานุตริยะ คือการเห็นอันยอดเยี่ยม
378.723 -> เป็นการพบเห็นที่ประเสริฐ
381.282 -> แต่ส่วนพระอรหันต์ขีณาสพ
382.995 -> ต่างก็บังเกิดธรรมสังเวชว่า
385.391 -> แม้พระผู้มีพระภาคเจ้า
387.183 -> ผู้สมบูรณ์ด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ
390.606 -> สุดท้ายก็ต้องถูกความเสื่อมครอบงํา
393.723 -> นําไปสู่ชะราและมรณะ ในขณะเดียวกันท่านผู้ฟัง
398.703 -> ยังมีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อว่า ธรรมาราม
401.741 -> ท่านได้ฟังโอวาทขของ
403.603 -> พระบรมศาสดาแล้ว รู้ตัวว่ายังเป็นผู้มีกิเลสอยู่
408.023 -> จึงไม่ประมาทในชีวิต มุ่งทําความเพียรทั้งวันทั้งคืน
412.403 -> เพื่อที่จะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ตอนที่พระพุทธองค์ยังทรงมีชีวิตอยู่
416.963 -> พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะได้ชื่นชมอนุโมทนากับตน
420.983 -> ก่อนที่ตนจะไม่ได้พบเห็นพระพุทธองค์อีกต่อไป
424.025 -> ท่านจึงปลีกตัววิเวกไปปฏิบัติธรรมตามลําพัง
427.643 -> คือไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ
429.52 -> แม้จะอยู่ห่างไกลจากพระผู้มีพระภาคเจ้า
432.386 -> ไม่ได้เห็นพระพุทธองค์ด้วยตาเนื้อ
434.919 -> แต่ใจของท่านเจริญพุทธานุสสติ
437.283 -> มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์อยู่ตลอดเวลา
439.957 -> ธรรมอันใดที่พระพุทธองค์ได้แนะนําสั่งสอนไว้
443.163 -> ท่านธรรมารามก็หมั่นพิจารณาธรรมนั้น
446.244 -> แล้วน้อมนํามาปฏิบัติ
447.963 -> การกระทําของพระธรรมารามนั้น เป็นที่ยกย่องของเหล่าอริยสาวกยิ่งนัก
453 -> ส่วนภิกษุอื่นผู้ไม่รู้
454.83 -> ก็นึกว่าท่านไม่มีความเยื่อใยในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
458.546 -> เพราะไม่เห็นพระธรรมารามโศกเศร้า
460.224 -> อาลัยอาวรณ์ในพุทธองค์
462.606 -> จึงพากันไปกราบทูลพระพุทธองค์ให้ทรงทราบ
465.404 -> ตามปกติแล้ว
466.963 -> องค์สมเด็จพระบรมศาสดา
468.591 -> พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น
470.882 -> พระองค์ทรงรู้ด้วยพุทธญาณอยู่แล้วว่า
473.803 -> พระธรรมรามรูปนี้ มีความเคารพรักในพระพุทธองค์อย่างแรงกล้า
478.903 -> แต่กําลังทําความเพียร เพื่อเป็นของขวัญอันล้ำค่าแด่พระพุทธองค์อยู่
483.463 -> จึงไม่ยอมคลุกคลีด้วยหมู่คณะ พระผู้มีพระภาคเจ้า
487.023 -> จึงมีพุทธประสงค์ที่จะให้ภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย
489.823 -> ได้อนุโมทนาในคุณความดีของพระธรรมาราม
493.043 -> จึงรับสั่งให้พระธรรมรามเข้าเฝ้า แล้วตรัสถามว่า
496.823 -> ทําไมเธอถึงไม่ได้มีความ อาลัยอาวรณ์กับเรื่องที่เราตถาคต
501.043 -> จะปรินิพพานเล่า พระธรรมารามนั้น กราบทูลด้วยความจริงว่า
506.303 -> ข้าพระองค์รู้สึกมีความโศกเศร้ายิ่งนัก ที่พระบรมศาสดาจะต้องจากไป
511.523 -> แต่เมื่อมาพิจารณาดูตัวเองแล้ว พบว่าตนยังเป็นผู้มากไปด้วยราคะ
516.143 -> โทสะ โมหะ การจะทําให้พระพุทธองค์ทรงยืน
520.583 -> อนุโมทนาได้ ก็ต้องตั้งใจปฏิบัติธรรม
523.743 -> ให้บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์ แม้กายอยู่ห่าง
527.343 -> แต่ใจของข้าพระองค์นั้น ไม่เคยห่างเหิน
529.923 -> จากพระผู้มีพระภาคเจ้าเลย คิดอย่างเดียวว่า ทําอย่างไร
533.903 -> จะได้บรรลุธรรม ตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนไว้
537.963 -> จากนั้นพระพุทธเจ้าทรงให้ภิกษุ
540.143 -> ที่นั่งอยู่ในที่นั้นได้อนุโมทนาสาธุการ
543.743 -> กับพระธรรมารามว่า ท่านได้ประพฤติดีแล้ว
546.863 -> ภิกษุรูปอื่น ๆ ควรเอาพระธรรมารามนี้
550.002 -> เป็นต้นแบบของการประพฤติปฏิบัติ
552.197 -> เพราะผู้มีความรักในพระพุทธองค์
554.503 -> หากมัวเศร้าโศกเสียใจในเรื่องที่ยังไม่มาถึง
558 -> หรือแม้ว่าจะบูชาพระองค์ด้วยระเบียบของหอม
561.163 -> กราบไหว้นอบน้อมเป็นประจํา ก็ยังไม่ชื่อว่า
564.403 -> มีความเคารพในพระตถาคตอย่างแท้จริง
567.581 -> ผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
569.623 -> ย่อมได้บรรลุอรหันต์จึงได้ชื่อว่า
572.023 -> บูชาพระตถาคตโดยแท้
574.37 -> ท่านผู้ฟังเรื่องของพระธรรมรามนี้
576.913 -> พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้พวกเรา
579.742 -> ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน คือทําปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุด
582.983 -> ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์ถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว
586.655 -> ไม่ต้องไปคํานึงถึงอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
590.102 -> คิดอย่างเดียวว่า ทําอย่างไร
591.803 -> จึงจะหลุดพ้นจากกิเลส ปัสสาวะ
594.323 -> ทําอย่างไร
595.523 -> จึงจะเข้าถึงความสิ้นไปแห่งกิเลสทั้งหลาย
598.366 -> จะได้ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
600.784 -> เพราะการที่เรายังต้องเวียนว่าย อยู่ในวัฏสงสารนี้มันทุกข์
605.158 -> พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสสอนให้เราเห็นตามความเป็นจริงอีกว่า
609.663 -> ชีวิตของเรานั้นตกอยู่ในกฎของไตรลักษณ์
612.903 -> คือมีลักษณะไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา
617 -> ทุกชีวิตล้วนตกอยู่ในกฎของไตรรักษ์ทั้งสิ้น
620.349 -> มีการเกิดขึ้นในเบื้องต้น
622.803 -> ดํารงอยู่ในท่ามกลาง แปรเปลี่ยนในระหว่าง
626.283 -> และสุดท้ายก็แตกย่อยยับสลายไปในที่สุด
629.866 -> และไม่ว่าจะตกอยู่ในกามภพ รูปภพ
633.663 -> หรืออรูปภพก็ดี
635.873 -> สุดท้ายก็ต้องเสื่อมสลายไป
639.42 -> ฉะนั้น
640.975 -> เมื่อมาพิจารณาเห็นโทษของ
642.617 -> การเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้
644.796 -> เราท่านทั้งหลายก็พึงรีบเร่ง รีบสร้างประโยชน์ตน
649.003 -> ประโยชน์ในชาตินี้ เพื่อให้มีชีวิตเป็นอยู่ที่ดีมีความสุข
653.443 -> ประโยชน์ในชาติหน้า จะได้เกิดในภพภูมิที่ดีไม่ทุกข์ร้อน
657.763 -> และประโยชน์อย่างยิ่ง เพื่อพ้นจากวัฏเวียนว่ายตายเกิด
662.023 -> ท่านให้ดําเนินไปอย่างนี้
665.115 -> ท่านผู้ฟัง เรื่องของอดีต
667.783 -> ท่านให้เรามองในมุมของการเป็นบทเรียน
670.803 -> หรือมองเพื่อให้เห็นถึงการพัฒนาจากอดีตถึงปัจจุบัน
674.563 -> อันนี้มีประโยชน์อยู่ ท่านไม่ได้ห้าม
677.179 -> เช่น ถ้าเรามองอดีตในแง่ที่ว่า
679.659 -> เมื่อก่อนนี้เราไม่ดี
681.657 -> เราไม่เคยให้ทาน เราไม่เคยมีศีล
685.005 -> เราไม่เคยเข้าวัด ฟังธรรม
687.269 -> หรือไม่เคยประพฤติปฏิบัติธรรมเลย
690.087 -> แต่มาบัดนี้ เดี๋ยวนี้เราเป็นผู้รู้จักให้ทานแล้ว
694.623 -> รู้จักรักษาศีลแล้ว รู้จักประพฤติปฏิบัติธรรมแล้ว
699.003 -> แบบนี้ท่านได้คิดอยู่ เพราะคิดแล้วมีการพัฒนาตนเอง
703.191 -> หรือเมื่อก่อนจิตใจเราไม่เคยสงบเลย
705.683 -> แต่เดี๋ยวนี้จิตใจเราสงบมากขึ้น คิดถึงอดีตอย่างนี้ถือว่าคิดดี
710.303 -> คิดได้ คิดถูก คิดแล้วมีการประเมินผล
714.323 -> หรือเมื่อก่อนนี้เราเคยผิดพลาดเคยเป็นโจร
717.443 -> ตอนนี้เราเห็นแล้วว่ามันไม่ดี ทําความเดือดร้อนให้คนอื่น
721.403 -> ทําความเดือดร้อนให้ตนเอง คิดสรุปบทเรียนแล้ว ก็คิดว่า
726.383 -> ต่อไปเราจะไม่ทําอีก อันนี้ดี ท่านให้คิดเป็นบทเรียนอย่างนี้
731.11 -> และที่ท่านสอนไม่ให้กังวลถึงอนาคต
733.574 -> อย่าไปตีความเพี้ยนถึงขนาดว่า
735.903 -> เราจะไม่วางแผนอนาคตอะไรเลย ไม่ใช่
739.053 -> เพราะหากว่าเรากังวลคิดถึงอนาคตแบบไม่มีสาระ
742.807 -> ไม่มีแก่นสาร
744.383 -> อันนี้ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าเราคิดถึงอนาคตแล้ว
747.563 -> ก็วางแผนว่าอนาคตเราจะต้องทําอะไร
751.744 -> ช่วงไหนเราจะทําอะไร แล้วจะทําอย่างไร
754.703 -> การวางแผนแบบนี้ เป็นสิ่งที่ดี ท่านไม่ได้ทรงห้าม
758.943 -> ไม่ใช่ให้มีชีวิตอยู่ ล่องลอยอยู่วันหนึ่งวันหนึ่ง
761.903 -> อนาคต ไม่ต้องนึกถึง อดีตก็ไม่นึกถึง อยู่เฉยเฉย
766.143 -> อยู่เฉยเฉย แบบนั้นมันคล้ายกับสัตว์ที่เราเลี้ยงไว้
770.923 -> เพราะสัตว์มันอยู่กับปัจจุบันจริงจริง เช่น มันไม่ต้องคิดถึง
775.123 -> มันไม่ต้องห่วงกังวลว่าเย็นนี้ มันอย่ากินอะไร
778.443 -> เพราะว่ามันรู้ว่า เดี๋ยวก็มีคนเอาอาหารมาให้กิน
782.023 -> อันนี้อยู่กับปัจจุบันแบบสัตว์นะ ไม่ได้อยู่แบบมนุษย์
786.043 -> ฉะนั้นการประเมินผลในอดีตเราต้องทํา การวางแผนสําหรับอนาคตเรายิ่งต้องทํา
792 -> ยิ่งปัจจุบันทุกวันนี้
793.668 -> ท่านผู้ฟังจําเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้อง
795.417 -> วางแผนอนาคตให้ดี
797.483 -> ในอนาคตเราจะอยู่อย่างไร ทําอย่างไรเราจะสามารถพึ่งตัวเองได้ยาวนานที่สุด
802.763 -> คนเราถ้าไม่มีโรคภัยไข้เจ็บประจําตัว ก็จะสามารถพึ่งตัวเองได้จนแก่เฒ่า
808.043 -> หรืออาจถึงเก้าสิบปีกันเลยทีเดียว
810.666 -> แต่หลังจากนั้น
811.884 -> ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ก็คงต้องพึ่งพาลูกพาหลานในการเลี้ยงดู
816.215 -> เพราะเรี่ยวแรงที่จะพึ่งตนเองมันหมดแล้ว
819.091 -> ทางที่ดีเราต้องวางแผน
820.572 -> ให้สามารถพึ่งตัวเองได้ยาวที่สุด
823.577 -> เพราะฉะนั้นตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่
826.203 -> มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีเรี่ยวมีแรงนี่แหละ
829.815 -> จะพึ่งตัวเองได้ดีที่สุด
831.902 -> อันนี้ท่านกล่าวว่า
832.923 -> คือการพึ่งตนเองให้มีชีวิตที่ดี มีความสุขในมนุษย์โลกเท่านั้นนะ
837.483 -> ส่วนการพึ่งตนเอง เพื่อที่จะให้ได้มีชีวิตที่ดีในภพหน้าล่ะ
841.983 -> จําเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องพึ่งตนเอง เพื่อสร้างที่พึ่งให้ได้รับความสุข
846.543 -> ความสบาย ไม่เดือดร้อนในภพหน้า
849.704 -> คือเราต้องหมั่นสร้างบุญสร้าง ศล
852.678 -> ทําคุณงามความดีไว้เยอะๆ
854.89 -> เช่น จะให้ทานก็ดี จะรักษาศีล
857.683 -> จะเจริญภาวนาก็ดี
860.213 -> หรือจะทําคุณประโยชน์ต่อสังคม
862.259 -> ต่อประเทศชาติ
863.723 -> ต่อโลกนี้ก็ดีหมด
865.367 -> เพราะคุณความดีเหล่านี้แหละ
867.086 -> ที่จะเป็นหลักประกันเป็นกอบเป็นที่พึ่ง
870.163 -> ที่เราจะสามารถพึ่งได้ในภพหน้า
872.751 -> ส่งเสริมดลบันดาลให้เราพบกับความสุข
875.241 -> ความเจริญในโลกหน้า
877.694 -> ส่วนคําว่า ทําเรื่องเฉพาะหน้าให้เป็นไปด้วยดี
880.783 -> คือท่านให้เราอยู่กับปัจจุบันมีสติรู้สึกตัว
883.963 -> รู้ว่าเราควรจะทําอะไร เรากําลังทําอะไรอยู่
887.563 -> ไปเพื่ออะไร รู้ทันตัวเอง แล้วชีวิตมันจะร่มเย็น
891.913 -> ส่วนชีวิตที่โหยหาอดีตไม่ร่มเย็น
894.162 -> และไม่สงบ การเพ้อฝันถึงอดีต
896.703 -> แม้ว่ารู้สึกมีความสุข แต่มันมีความสุขซึ่งจับต้องไม่ได้
901.512 -> ไม่มีจริง
902.569 -> เหมือนมีความสุขอยู่กับความฝัน
904.663 -> เพราะมันผ่านไปหมดแล้ว ถ้าเรามีสติอยู่กับปัจจุบัน
908.575 -> และเห็นชีวิตนี้ล่วงไป แต่ละขณะ
911.309 -> นั่นไม่ประมาท
912.42 -> ถ้าขาดสติเมื่อไหร่ก็คือประมาทเมื่อนั้น
914.82 -> แต่ถ้ามีสติก็ไม่ประมาท
916.969 -> นี้คือธรรมะสําคัญ
918.379 -> ที่พระพุทธเจ้าของเราทรงสั่งสอน
920.683 -> นาทีสุดท้ายที่พระองค์จะทรงปรินิพพาน
923.597 -> ช่วงเวลาสุดท้ายนั้น
925.775 -> พระองค์ทรงบอกกับพวกเรา
927.481 -> ให้ทําประโยชน์ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท
930.251 -> คําว่าไม่ประมาทคือเราต้องมีสติอยู่กับปัจจุบัน
933.677 -> ถ้าเราทิ้งปัจจุบันก็เรียกว่าเราประมาท
936.556 -> คือเราไปเพ้อฝันถึงอดีต
938.723 -> ตรงนี้ท่านเรียกว่าประมาท
940.77 -> เพราะว่าเราทําลายเวลาให้ล่วงเลยไปเปล่าประโยชน์
944.333 -> และถ้าเราไปห่วง ไปกังวลถึงอนาค
947.337 -> เครียดทั้งทั้งที่ปัญหายังไม่เกิดขึ้น
950.108 -> บางคนกลุ้มใจตั้งแต่ปัญหายังไม่เกิดขึ้นเลย
953.853 -> พอปัญหาเกิดแล้วก็ตีโพยตีพาย
956.479 -> จะให้คนโน้นช่วย จะให้คนนี้ช่วย
959.416 -> พอใครเขาไม่ช่วย หรือช่วยไม่ได้
962.201 -> ก็เกิดโมโหอีกอะไรอย่างนี้
965.03 -> ฉะนั้นหากมีสติอยู่กับปัจจุบัน
967.517 -> ใช้อดีตเป็นบทเรียน
969.363 -> วางแผนถึงอนาคต
971.284 -> มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันธรรมนั้น
973.523 -> ทําเรื่องเฉพาะหน้า แต่ละเรื่องๆ ให้เป็นไปด้วยดี
977.833 -> มีสติอยู่ทุกขณะ ๆ หายใจออกรู้สึกตัว
981.99 -> หายใจเข้ารู้สึกตัว
983.918 -> ยืนเดินนั่งนอนรู้สึกตัว
985.996 -> เคลื่อนไหว หยุดนิ่งรู้สึกตัว
988.577 -> มีความสุขก็รู้สึกตัว
990.726 -> มีความทุกข์ก็รู้สึกตัว
993.418 -> ไม่สุขไม่ทุกข์ ก็รู้สึกตัว
996.283 -> จิตเป็นกุศลก็รู้สึกตัว จิตมีความโลภ โกรธ หลงก็รู้สึกตัว
1002.2 -> สรุปก็คือให้อยู่กับปัจจุบันไว้
1004.983 -> ส่วนอดีตเป็นบทเรียน
1007.422 -> เพื่อนํามาพนำพัฒนาตนเองในทางที่ดี
1010.163 -> อนาคตต้องรู้จักวางแผน ให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน
1014.243 -> ทําเรื่องเฉพาะหน้าให้เป็นไปด้วยดี สุจริตยุติธรรม
1017.543 -> ก็จะทําให้เราพบกับความสุขในชีวิต เพราะการจมปักอยู่กับความทุกข์
1022.903 -> หรือความเครียด นอกจากจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพแล้ว
1027.263 -> ยังทําให้ขาดโอกาสที่จะพึงได้พึงถึง
1029.902 -> ประโยชน์ในชาตินี้
1031.723 -> ประโยชน์ในภพหน้า
1033.466 -> และประโยชน์อย่างยิ่งอีกด้วย
1036.298 -> สุดท้ายขอให้ท่านผู้ฟังจงเป็นผู้มีความสุขกายสุขใจ
1039.809 -> มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง
1042.124 -> สําหรับคืนนี้
1043.306 -> ราตรีสวัสดิ์ทุกคนทุกท่านครับ

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=k2mM7uO9f-Q