คู่แข่ง Toyota Fortuner ไหม ถ้าเข้าไทย?? รีวิวรถยนต์ไฟฟ้าจีน BYD Tang EV 2022 - Build Your Dreams!!
คู่แข่ง Toyota Fortuner ไหม ถ้าเข้าไทย?? รีวิวรถยนต์ไฟฟ้าจีน BYD Tang EV 2022 - Build Your Dreams!!
คู่แข่ง Toyota Fortuner ไหม ถ้าเข้าไทย??
ริวิวรถยนต์ไฟฟ้าจีน BYD Tang EV รุ่นปี 2022 ใหม่ล่าสุด ตัวท็อปสุดโหด จากค่าย Build Your Dreams !!
BYD Tang EV รุ่นใหม่ล่าสุด ปี 2022 ตัวขับ4 สุดโหดในรถมิตินี้
00:27 - 2022 BYD Tang BEV \u0026 PHEV (DM-p, DM-i)
01:45 - 2022 BYD Tang EV สเปคและรายละเอียด
05:26 - สีตัวถัง และสีภายใน
05:49 - ราคาในจีน
08:20 - รีโมทคอนโทรล Bluetooth
09:10 - HUD
09:20 - DVR ข้างนอกรถ
10:00 - DVR ข้างในรถ
10:20 - DMS
10:30 - ทดสอบระยะสั้นๆ 2022 BYD Tang EV บนวงแหวน 5
14:57 - ทดสอบช่วงล่าง 2022 BYD Tang EV แบบสั้นๆ
16:20 - ทดสอบอัตราเร่ง 2022 BYD Tang EV 0-100 แรงจริงหรือเปล่า
17:20 - ทดสอบการชาร์จ 2022 BYD Tang EV เบรครีเจ้นท์โหดจริงหรือเปล่า
19:19 - ทดสอบการจอดรถอัตโนมัติ
21:16 - จอควบคุมตรงกลางขนาด 15.6 นิ้ว
22:03 - แสงสีและฝ่ายภายใน ผมคิดยังไง
23:00 - ชั่วโมงนี้ต้อง ป้ายยากันหน่อยครับ
และต้องขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่สนับสนุนด้วย ปุ่ม Super Thanks / Super chats นะครับ เงินสนับสนุนส่วนนี้ จะนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆในการทำช่องนะครับ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ซอฟท์แวร์ ค่าชาร์จไฟ และค่าจอดรถนะครับ ถือซะว่าเลี้ยงกาแฟผมก็แล้วกันนะครับ
(ตอนนี้ติดลบครับ 😂😂 ช่องเราทำเองไม่มีสปอนเซอร์ ดูแลค่าใช้จ่าย แต่ก็ไม่อยากให้ ผบ. บ่นครับ 55555)
ชอบรีวิวง่ายๆ สไตล์ TiNG TiY หรือ รีวิวรถยนต์ไฟฟ้า หรือรีวิวรถยนต์ไฟฟ้าจีน ผมจะพาไปลองขับรถยนต์ไฟฟ้ากันครับ
รถติดวันอาทิตย์ EP.24.1
คอมเมนต์ มาเสริมกันได้ ครับ
ถ้าชอบคอนเทนท์รีวิวรถยนต์ไฟฟ้าจีน ลองขับรถยนต์ไฟฟ้าจีนหรือรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปก็
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดกระดิ่ง 🔔 จะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆ นะครับผม 🙏
#รถยนต์ไฟฟ้าจีน
#BYD
#Tang
Content
27.067 -> สวัสดีครับ ติ่ง TiY ครับ วันนี้นะครับ ผมพาทุกคนมานั่งใน
32.187 -> BYD Tang รุ่นปี2022นะครับ
36.107 -> ซึ่ง BYD Tang เนี่ย ก็จะเป็น SUV เรือธง จากทางค่าย BYD นะครับ
43.107 -> BYD Tangเองเนี่ย จะมีทั้งรุ่นไฟฟ้า 100%
45.987 -> ซึ่งก็จะเป็นเจ้าตัวนี้นะครับ แล้วก็จะมีแบ่งเป็น 6 ที่นั่ง
50.067 -> แล้วก็ 7 ที่นั่งนะฮะ ตัวรถเองเนี่ยก็จะมาพร้อมกับ
53.487 -> Roof Racks นะฮะ ซึ่งสามารถที่จะติดตั้ง
56.807 -> เต็นท์ได้ น่ะ เผื่อใครที่ชอบไป ก็สามารถที่จะติดตั้งเต็นท์ได้บนหลังคานะครับ
64.307 -> นอกเหนือจากรุ่นไฟฟ้าล้วนแล้วเนี่ย ก็ยังจะมีรุ่นที่เป็น PHEV
68.087 -> นะครับ ซึ่ง PHEV เนี่ย จะมี 2 แบบ แบบแรกคือ DM-p
74.027 -> นะฮะ DM-p เนี่ย จะสามารถ DC ได้ด้วย นะฮะ ชาร์จไวได้ด้วย
79.267 -> อีกรุ่นหนึ่ง จะเป็น DM-i นะฮะ DM-i นี่ก็จะเป็น
82.487 -> รุ่นที่ ไฟบ้านได้อย่างเดียว หรือ ชาร์จ AC ได้อย่างเดียว นะฮะ
86.747 -> และ DM-p จะมีสมรรถนะดีกว่านะครับ
90.607 -> อย่างเช่น 0 - 100 เนี่ย ตาม เขาจะเขียนไว้ที่ 4.3 วิ
95.647 -> นะครับ รองลงมาก็จะเป็นเจ้าตัวนี้
98.247 -> ถ้าเป็นมอเตอร์คู่นะครับ ก็จะมีสมรรถนะที่แรงใช้ได้เลยนะฮะ
107.807 -> เรามาสรุปสเปค และรายละเอียดของ BYD Tang EV
111.587 -> รุ่นปี2022กันก่อนนะครับ ตัวรถมีความยาว 4,900มม.
117.467 -> กว้าง1,950มม. สูง1,725มม.
122.507 -> ฐานล้อยาว2,820มม. แกนล้อหน้ากว้าง1,650มม.
128.207 -> แกนล้อหลังกว้าง1,630มม. มีให้เลือกสามรุ่นหลักคือรุ่น Basic
133.427 -> รุ่นระยะไกล (LR) และรุ่นขับสี่ (AWD)
โดยที่แต่ละรุ่นสามารถเลือกได้ว่าจะเอา 6 หรือ 7 ที่นั่งนะครับ
139.687 -> ซึ่ง 6 ที่นั่งก็จะ พร้อมที่นั่งสุดหรู ปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบนวด
143.407 -> ระบายอากาศ และทําความร้อนและมีช่อง USB เพิ่มให้
146.887 -> ถือเป็น SUV ขนาดกลางที่ค่อนข้างใหญ่เหมือนกันครับ
151.027 -> รุ่น Basic มีน้ําหนักตัวรถ 2,360 กิโลกรัม
155.407 -> รุ่นระยะไกลมีน้ําหนักตัวรถ2,440 กิโลกรัม
และรุ่นขับสี่มีน้ําหนักมากสุดที่2,560 กิโลกรัม
162.967 -> ทุกรุ่นรองรับน้ําหนักเพิ่มได้525 กิโลกรัม
ส่วนความจุเก็บสัมภาระด้านหลัง
168.427 -> จะอยู่ที่ 940 ลิตร ไปจนถึง 1,655 ลิตร
172.207 -> เมื่อพับที่นั่งแถวหลังลงทั้งหมด รุ่น Basic ใช้ LFP Blade แบตเตอรี่
176.527 -> ขนาด 90.3 kWh วิ่งได้ระยะทาง 600 กิโลเมตร
180.807 -> ต่อหนึ่งการชาร์จ ตามมาตรฐาน C.L.T.C. ชาร์จไวสุดที่
184.567 -> 110 kW รุ่นอื่นใช้ LFP Blade แบตเตอรี่
188.407 -> ขนาด 108.8 kWh โดยรุ่นระยะไกลวิ่งได้
192.247 -> 730 กิโลเมตร และรุ่นขับสี่
195.427 -> วิ่งได้635 กิโลเมตร ต่อหนึ่งการชาร์จ ตามมาตรฐาน C.L.T.C.
198.727 -> ทั้งสองรุ่นชาร์จไวสุดที่ 170 kW
202.147 -> ทุกรุ่นรองรับ VTOL 2.2 kW ภายในรถ
207.347 -> โดยไม่ต้องใช้ตัวแปลง หรือจากช่อง GB/T AC
210.467 -> ด้านนอกที่กําลัง 6 kW รุ่น Basic
213.467 -> ใช้มอเตอร์เดี่ยวแบบแม่เหล็กถาวรขับหน้า
กําลังรวม168 kW หรือ 228 แรงม้า
220.247 -> แรงบิดสูงสุดรวม 350 N.m
ทําความเร็วสูงสุดที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
226.967 -> และเร่งจาก 0 - 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.9 วินาที
รุ่นระยะไกลใช้มอเตอร์เดี่ยวแบบแม่เหล็กถาวรขับหน้า
234.727 -> กําลังรวม 180 kW หรือ 245 แรงม้า
239.067 -> แรงบิดสูงสุดรวม350 N.m
ทําความเร็วสูงสุดที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
245.667 -> และเร่งจาก 0- 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในส 3.9 วินาทีเช่นกัน
รุ่นขับสี่ใช้มอเตอร์คู่แบบแม่เหล็กถาวรกําลัง 380 kW หรือ 517 แรงม้า
256.947 -> แรงบิดสูงสุดรวม 700 นิวตันเมตร
ทําความเร็วสูงสุดที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
263.367 -> และเร่งจาก 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 1.98 วินาที
267.547 -> และ 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.4 วินาที
ท้องรถต่ําสุดสูงจากพื้นประมาณ 155 มม.
275.167 -> ใช้ช่วงล่างด้านหน้าของ McPherson
277.567 -> ด้านหลังแบบมัลติลิงก์อิสระ
และในรุ่นขับสี่สามารถปรับระดับความนุ่มความแข็งได้
283.207 -> รุ่นเบสิกและรุ่นระยะไกลมาพร้อมล้ออลูมิเนียมขนาด 20 นิ้ว
และยาง 255/50 R20
290.287 -> ส่วนรุ่นขับสี่มาพร้อมล้ออลูมิเนียมขนาด 21 นิ้ว
295.067 -> และยาง 265/45 R21
ฟีเจอร์ความปลอดภัยจัดเต็มทั้งสามรุ่น
299.267 -> รุ่นขับสี่จะพิเศษกว่ารุ่นอื่น
เพราะมาพร้อมระบบเบรกของ brembo
304.007 -> ส่วนฟีเจอร์การขับขี่
รุ่นเบสิคจะไม่มีระบบเตือนการชนด้านหน้าและหลัง
308.807 -> และไม่มีระบบช่วยการขับขี่อัตโนมัติอื่นนอกเหนือไปจาก Cruise Control (Stop & Go) ส่วนการจอดอัตโนมัตินั้น
315.287 -> จะมีในรุ่นขับสี่เท่านั้น ส่วนฟีเจอร์ความสะดวกสบาย
319.427 -> เฉพาะรุ่นขับสี่ที่จะมาพร้อมพวงมาลัยปรับไฟฟ้าพร้อมทําความอุ่นได้
324.034 -> และมีระบบน้ําหอม ซึ่งรุ่นอื่นจะไม่มี สีตัวถังมีให้เลือก 5 สี
สีที่ไม่ต้องเพิ่มเงินมี 3 สีคือสีขาว
330.147 -> สีดํา สีเทา ส่วนสีแดงเพิ่มเงิน 2,000 หยวน
335.707 -> หรือประมาณ 10,500 บาท (USD 297) และสีน้ําเงินเพิ่มเงิน 3,000 หยวน
339.667 -> หรือประมาณ17,750 บาท (USD 445) สีภายใน
343.927 -> ในรุ่น 7 ที่นั่งมีสีเดียวคือสีน้ําตาลตัดดํา ส่วน 6 ที่นั่งมีสีขาวตัดเทาให้เลือก
349.507 -> ส่วนราคารุ่น 7 ที่นั่งนั้นเฉพาะรุ่น Basic
จะได้รับเงินสนับสนุนเพราะต่ํากว่า 300,000 หยวน
355.287 -> ราคาก่อนรับเงิน นับสนุนอยู่ที่ 291,140 หยวน
360.047 -> หรือประมาณ 1,540,000 บาท รุ่นระยะไกลราคา 309,800 หยวน
365.987 -> หรือประมาณ 1,640,000 บาท และรุ่นขับสี่ราคา 339,800 หยวน
372.467 -> หรือประมาณ 1,800,000 บาท และหากเปลี่ยนเป็น 6 ที่นั่ง
376.567 -> ราคาจะบวกเพิ่มอีก 10,000 หยวน
378.827 -> หรือประมาณ 53,000 บาท ลูกค้าได้สิทธิ์รับประกันแบตเตอรี่
383.327 -> ระบบขับเคลื่อนและระบบควบคุมไฟฟ้าตลอดอายุการใช้งาน
แต่จํากัดระยะไม่
388.267 -> 30,000 กิโลเมตรต่อปี ส่วนการรับประกันตัวรถ
391.567 -> จะอยู่ที่ 6 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตรครับ
395.507 -> ซึ่งรอบที่แล้วเราได้ไปชมพรีวิวภายในและรอบตัวรถไปแล้วนะครับ
ใครที่ยังไม่ได้ชมก็ไปชมกันได้นะครับ
403.067 -> และหากใครชอบดูแบบ VR ก็ไปชมพรีวิวแบบ VR กันได้เลยนะครับ
ตัวนี้จะใหญ่กว่า Song Plus EV ที่เราไปลองมาก่อนหน้านี้
411.467 -> ในรอบนี้พวกเราได้โอกาสมาทดสอบการขับเพิ่มเติม
หลักๆ ก็เรื่องระยะการวิ่ง
416.627 -> อัตราเร่ง การชาร์จและอื่นๆ
422.027 -> ไปดูรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่
และเก็บตกอื่นๆ
424.887 -> เพิ่มเติมจากตอนที่เราไป
พรีวิวกันนะครับ
427.887 -> หลายคนที่อยากจะมีใบปัดน้ําฝนหลัง TangEV จัดให้ครับ
432.087 -> พร้อมฉีดน้ําล้างได้ด้วย ตัวใบปัดจะยึดด้านบนของฝากระโปรงหลังนะครับ
437.607 -> กระโปรงหน้าไม่มีพื้นที่เก็บของ จะเป็นพื้นที่เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
442.587 -> มีการจัดระยะห่างของอุปกรณ์ค่อนข้างดี
ซึ่งน่าจะสามารถระบายความร้อนได้ดีครับ
448.707 -> ในจีนจะไม่มีกล่อง EVCC เหมือนในไทยนะครับ
คนละมาตรฐานการชาร์จ
453.287 -> มีระบบกระจังหน้าดูดอากาศอัจฉริยะ
เพื่อควบคุมอุณหภูมิในระบบ
457.747 -> มาดูไฟเตือนต่างๆนะครับ ไฟฉุกเฉิน
464.067 -> ไฟเลี้ยวซ้าย
470.147 -> ไฟเลี้ยวขวา
479.067 -> ไฟเบรก
490.927 -> และรอบนี้ทางศูนย์ให้ลองใช้กุญแจ NFC และ Bluetooth
ไม่ได้ให้กุญแจหลักมาให้ครับ
494.707 -> กุญแจหลักก็จะมีกุญแจที่เป็นดอกในการไขเปิดรถได้
เวลารถไม่มีไฟนะครับ
500.527 -> ซึ่งข้อดีของการใช้กุญแจ Bluetooth ผ่านแอปบนมือถือนั้น
ยกตัวอย่าง หากมีรถมาจอดติดกัน
507.127 -> หรือเปิดประตูไม่ได้แบบนี้ ก็สามารถทําการควบคุมรถ
ให้เคลื่อนที่ออกมาได้ผ่านการเชื่อมต่อโดยใช้ Bluetooth
514.447 -> โดยที่เราต้องอยู่ในระยะเชื่อมต่อได้
520.227 -> และต้องระมัดระวังสภาพรอบข้างนะครับ
528.227 -> และหากไม่ได้ทําการควบคุมต่อเนื่อง
เพื่อความปลอดภัยระบบจะให้ยืนยันการควบคุมอีกครั้งครับ
553.487 -> HUD ก็ยังมองเห็นได้ชัดเจนทั้งตอนกลางวันและกลางคืน
ปรับตําแหน่งความสูงได้
557.267 -> เหมือนกันกับ BYD Han ตัวใหม่นะครับ
DVR ที่มากับรถจะบอกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ด้วยนะครับ
564.247 -> เช่นความเร็ว การแจ้งเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
569.647 -> สถานะของเกียร์ ระดับการเหยียบคันเร่ง
575.167 -> การเหยียบเบรก
578.947 -> และสถานะไฟต่างๆ รวมถึงหมายเลขตัวถัง
582.727 -> และเวลาที่ทําการขับขี่อยู่
แต่เราจะดูกันแค่สถานะที่เกี่ยวกับการขับขี่นะครับ
587.667 -> เช่นในตัวอย่างนี้ หากเรากําลังใช้การจอดอัตโนมัติ
591.067 -> จะเห็นได้ว่า ไม่มีการเหยียบคันเร่งนะครับ
600.747 -> ไม่รู้ได้ยินเสียงไหมนะฮะ ไม่รู้ว่ามันอัดเสียงหรือเปล่า
605.387 -> ตรงนี้จะมีฝาปิดนะฮะ ผมปิดอย่างงี้ก็ได้ ปิดอย่างงี้
608.367 -> มองไม่เห็นล่ะ นะครับ หรือเปิดก็ได้ นะครับ และกล้อง
613.707 -> DVR ด้านใน จะมีการอัดเสียงด้วยครับ
616.527 -> แต่ไม่ได้บอกสถานะต่างๆ ตอนที่เราขับขี่
621.867 -> กล้องตรวจจับสภาวะของคนขับ หรือ DMS นั้น
625.407 -> ก็จะมีฝาปิดมาให้นะครับ เหมือนกันกับ Han ตัวใหม่
629.487 -> เราก็นํามาทดสอบในเส้นทางประจําที่เรา นํามาทดสอบนะครับ คือ
635.247 -> เอาไปวิ่งบนวงแหวน 5 ซึ่งผมก็กะเวลาว่า
639.227 -> นอนแต่หัวค่ําหน่อย แล้วตื่นมาแต่เช้าตรู่เลย
642.507 -> วิ่งประมาณสักตี 4 ห้ามเกิน 6 โมง
646.107 -> จะได้วิ่งสัก 2 รอบก่อนที่รถจะติดอ่ะนะครับ
649.647 -> ก็เลยไปทําการทดสอบตั้งแต่ ประมาณตี 4 กว่า
652.707 -> นอนแต่หัวค่ําเลยนะครับ จะวิ่งได้ไกลแค่ไหน
656.287 -> จะใช้พลังงานเยอะหรือน้อยยังไง ไปชมกันเลยครับ
660.307 -> คราวนี้เรามาตั้งค่าเล็กน้อยก่อนการทดสอบระยะสั้นๆ
โดยเริ่มจากการ Reset Trip A
666.307 -> ให้เป็น 0
672.287 -> และ Reset อัตราการใช้พลังงานและความเร็วเฉลี่ยของการขับ
ให้เป็น 0 เช่นกันก่อนเริ่มนะครับ
681.127 -> โดยที่เราเริ่มต้นสิบกันที่แบตเตอรี่ 82%
และระยะวิ่งที่เหลือแสดงค่าบนจอ 521 กิโลเมตรนะครับ
688.387 -> เราทดสอบวิ่งในโหมดสปอร์ต เปิดแอร์ 24 องศาแบบออโต้
692.467 -> ตั้งค่าเบรกกู้คืนพลังงานในระดับสูงสุด
และวิ่งในความเร็วในช่วง 90 - 100กิโลเมตรต่อชั่วโมง
698.167 -> โดยใช้งาน Intelligence Cruise Control เป็นหลักนะครับ
702.307 -> จอแสดงผลหลังพวงมาลัยขนาด 12.3 นิ้ว
จะแสดงตําแหน่งของรถเลนข้างเคียงด้วยนะครับ
708.007 -> เหมือนกันกับ BYD Han ตัวใหม่
ถ้าทุกคน จากกล้อง DVR
711.987 -> ก็จะเห็นได้ว่า ไม่มีการเหยียบคันเร่งนะครับ
715.687 -> รถจะวิ่งตามรถคันหน้าและจะวิ่งไม่เกินความเร็วที่ตั้งไว้ที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในบางกรณีที่ความเร็วขึ้นเกินระดับจะเกิดขึ้นในช่วงที่ไม่มีรถอยู่ข้างหน้า
726.187 -> และกําลังวิ่งลงเนินนะครับ
แต่ระบบจะปรับความเร็วให้ภายในไม่กี่วินาที
731.347 -> ในกรณีเดียวกันหากมีการวิ่งขึ้นทางที่ชัน
ความเร็วจะลดลงเล็กน้อยก่อนที่ระบบจะทําการปรับความเร็วให้ครับ
738.087 -> ภายในไม่กี่วินาที ซึ่งเท่าที่ลอง
742.167 -> มายังไม่มีโหมดการขับขี่แบบ One Paddle นะครับ
745.387 -> ส่วนเบรกกู้คืนพลังงานปิดการทํางานไม่ได้
แต่สามารถปรับได้ 2 ระดับคือระดับปกติ
750.627 -> และระดับมากสุด ตรงนี้แล้วแต่ความเคยชินนะครับ
753.967 -> ตอนขับช่วงแรกอาจจะเลือกระดับปกติ
แต่ระดับมากสุดเองก็ไม่ได้หน่วงมากครับ
758.887 -> อาจจะเพราะชินไปแล้วนะครับ
หลายคําถามสอบถามมาเรื่องไฟหน้า
763.027 -> ซึ่งช่วงเวลาที่เราทดสอบเป็นช่วงที่ใกล้สว่าง
และถนนที่นี่ก็ไฟสว่างพอควร
768.307 -> จึงยังไม่สามารถตอบได้นะครับ เราวิ่งไป 10% แรก
772.427 -> แบตเตอรี่เหลือ 72% และระยะวิ่งใช้ไป 64 กิโลเมตรบนจอแสดงผล
777.947 -> แต่ระยะวิ่งจริง 50.4 กิโลเมตร ซึ่งเทียบได้ประมาณ 78.8% จากระยะที่แสดงบนจอนะครับ
785.327 -> บางช่วงเราก็มีการขับแบบปกติทดสอบอัตราตอบสนองและเบรก
ซึ่งตัวขับสี่ตัวนี้ทําออกมาได้ดีครับ
792.347 -> ต่อมาเราวิ่งไปอีก 20% รวมเป็น 30% แบตเตอรี่เหลือ 52%
797.987 -> และระยะวิ่งใช้ไป 190 กิโลเมตรบนจอแสดงผล
แต่ระยะวิ่งจริง 161.5 กิโลเมตร
803.147 -> ซึ่งเทียบได้ประมาณแปดสิบห้าเปอร์เซ็นต์
806.787 -> จากระยะที่แสดงบนจอนะครับ และเมื่อครบ 2 รอบ
810.687 -> แบตเตอรี่เหลือ 46% และระยะวิ่งใช้ไป 227 กิโลเมตร
814.907 -> บนจอแสดงผล แต่ระยะวิ่งจริง 199.4 กิโลเมตร
819.747 -> ซึ่งเทียบได้ประมาณ 87.8% จากระยะที่แสดงบนจอนะครับ
ซึ่งถ้ามาดูอัตราการใช้พลังงานทั้งหมด
827.247 -> ตั้งแต่รถคันนี้วิ่งมา รวม 600 กว่ากิโลเมตร (Odometer)
830.787 -> จะอยู่ที่ 24.5 kWh/100 กิโลเมตร
834.327 -> ซึ่งรถคันนี้เป็นรถทดลองขับ โดยปกติก็จะมีการให้ลูกค้าทดสอบอัตราเร่ง
839.987 -> 0 - 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่า
ซึ่งการขับขี่แบบนี้จะค่อนข้างสิ้นเปลืองการใช้พลังงานครับ
845.687 -> เราใช้เวลาขับในทริป นี้ 2.4 ชั่วโมง
848.547 -> ความเร็วเฉลี่ย 81 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และหากดูเฉพาะ 50 กิโลเมตรสุดท้าย
854.307 -> อัตราการใช้พลังงาน จะอยู่ที่ 17.1 kWh/100 กิโลเมตร
857.987 -> ซึ่งในรถมิตินี้
860.807 -> ถือว่าไม่แย่เลยนะครับ เนื่องด้วยมีการปั่นไฟกลับทุกครั้งที่ลดความเร็ว
864.807 -> และมี ในการกู้คืนพลังงานดีมาก จึงทําให้
869.487 -> ลดอัตราการสิ้นเปลืองได้ดีพอควรเลยครับ ซึ่งหากตั้งสมมุติฐานว่า
872.887 -> แบตเตอรี่ขนาด 108.8 kWh สามารถใช้ได้จริง
876.327 -> 90% หรือ 97.9 kWh
880.807 -> หากใช้อัตราการใช้พลังงาน 17.1 kWh/100 กิโลเมตร
883.827 -> มาคํานวณ ก็จะได้ระยะที่ประมาณ
887.167 -> 573 กิโลเมตร ตามลักษณะการขับขี่ที่เรา
890.227 -> ไปทดสอบ มาที่ความเร็วเฉลี่ย 81 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนะครับ
907.367 -> ช่วงล่างทําได้ดีนะฮะ สามารถปรับความนุ่มแข็งได้
911.407 -> เหมือนกับ BYD Han นะฮะ
จะปรับแบบ Sport หรือ Comfort ก็ได้นะฮะ
918.407 -> แต่ว่าตัวนี้จะปรับระดับความสูงของช่วงล่างไม่ได้นะ
จะเป็นแค่การปรับความนุ่มความแข็งเท่านั้นนะครับ
926.567 -> ถึงจะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่
แต่ก็มีระยะห่างจากพื้นไม่ได้สูงมากนะครับ
931.787 -> โดยที่จุดที่ต่ําสุดสูงจากพื้นประมาณ 155 มิลลิเมตร
ดังนั้นการ ขับลุย Off-Road
937.807 -> อาจจะเป็นข้อจํากัด และไม่แนะนํานะครับ
940.847 -> หากระดับของพื้นมีความต่างเกินระดับดังกล่าวมากเกินไป
ซึ่งอาจจะต้องดูว่ารุ่นที่ใช้แบตเตอรี่ 90.3 kWh
948.247 -> จะสูงกว่าไหมนะครับ และในรุ่นก่อนนั้น
951.227 -> ระดับจะสูงกว่าประมาณ 30 มิลลิเมตรครับ
เป็นรถใหญ่ฉะนั้น
955.847 -> ความรู้สึกเวลาขับเนี่ย เราจะรู้สึกเหมือนกับเราขับ
959.147 -> SUV คันใหญ่ๆ เลย นะฮะ ให้ความรู้สึกว่า ใหญ่กว่า Song Plus EV
964.327 -> ใหญ่กว่า Yuan Plus (Atto 3) เยอะพอสมควรเลยนะฮะ
970.567 -> ให้ความรู้สึกที่มั่นคงกว่า นะฮะ เพราะว่ามันค่อนข้างใหญ่
974.627 -> แล้วทุกคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ ถ้ามันใหญ่อย่างงี้เนี่ย
978.287 -> ความแรงของมันจะแรงจริงหรือเปล่านะฮะ ก็เดี๋ยวไปชมกันเลยแล้วกันนะครับว่า
982.727 -> จาก 0 - 100 เนี่ย ใช้เวลากี่วินาที ไปชมเลยครับ
1008.447 -> เร็วแรงมากเลยนะครับ มาดูกันทีละเฟรมนะครับ เฟรมแรก
1013.247 -> เริ่มต้นเวลาและความเร็ว เฟรมถัดมา
1016.367 -> แตะ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 1.8 วินาที และเฟรมนี้
1021.167 -> 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.51 วินาที
ซึ่งไม่ห่างจากสเปกที่ 4.4 วินาทีมากนักนะครับ
1028.007 -> เพียงแต่ว่าซอฟต์แวร์จับเวลาของตัวรถเอง
เวลาจะเดินช้ากว่าปกตินะครับ
1032.807 -> ตรงนี้อาจจะต้องรอซอฟต์แวร์อัปเดต ยังไงก็ดี
1036.287 -> ตัวนี้แรงพอพอกันกับรถซุปเปอร์คาร์ช่วงออกตัวเลยครับ มาดู นะครับ
1041.527 -> ช่วงเย็นของเมื่อวานนะครับ ผมก็ ได้เอารถไป ที่สถานี ใหม่
1046.507 -> ใกล้บ้านนะครับ เพิ่งเปิดใกล้บ้าน
1049.207 -> มันสามารถที่จะจ่ายไฟได้มากสุดที่ 175 A
ในบางกรณีก็อาจจะจ่ายไฟได้ถึงส 200 A นะครับ
1057.547 -> และช่วงของแรงดันเนี่ย 1,000 V เลย นะฮะ
1061.147 -> ก็คือเป็นตู้ที่รองรับ ระบบ 800 V นั่นเอง
1064.647 -> เดี๋ยวเรามาดูกันว่า มันได้เร็วจริง
1067.447 -> อย่างที่เขาโฆษณาหรือเปล่านะครับ เหมือนกันกับ BYD รุ่นอื่น
1071.847 -> ต้องปลดล็อกก่อน
จึงจะเปิดฝาช่องชาร์จได้นะครับ
1075.847 -> ซึ่งตู้ชาร์จชุดนี้เป็นของสตาร์ชาร์จครับ
หนึ่งตู้มีสองหัวจ่าย
1080.287 -> โดยที่ระดับของแบตเตอรี่ตอนที่เริ่มชาร์จ
ไม่ได้ต่ํามาก อยู่ที่ 75%
1085.207 -> และได้กําลังที่ 86.3 kW
และหากมีรถมาชาร์จที่ตู้เดียวกัน
1090.147 -> ก็จะแบ่งไฟกันครับ อย่างที่เห็นนี้ก็จะแบ่งไฟกัน
1094.207 -> และเราก็ชาร์จได้ที่ 54.9 kW ครับ
ทีนี้หลายคนก็อาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ
1100.107 -> แต่ในโฆษณา เขาบอกว่า BYD Tang
สามารถ ชาร์ทได้
1105.167 -> 170 kW นี่ ผมก็ต้องบอกว่า ตู้
1108.967 -> ที่เราไปเนี่ย มันจ่ายไม่ถึง 170 kW นะครับ
1113.207 -> มันจ่ายได้มากสุดที่ 120 kW
1116.227 -> ต่อหนึ่งตู้ แล้วหนึ่งตู้เนี่ย มีสองหัวนะฮะ
1119.167 -> มันก็จะจ่ายแบ่งกันน่ะ
ถ้าเกิดมีรถสองคันไปจอดเทียบกันแล้ว
1122.567 -> เนี่ย มันจะแบ่งไฟกัน นะครับ
แต่ผมคิดว่า ยังไง เจ้า BYD Tang
1128.107 -> คันนี้เนี่ย มันก็ ได้ที่ 170 kW
ผมรู้ได้ไง
1132.247 -> ผมรู้ก็ตอนที่ผมทดสอบเจ้า เบรคกู้คืนพลังงาน
1137.647 -> หรือว่าเวลาเราเบรกแล้วมันปั่นไฟ กลับเข้าไปในแบตนะครับ
1143.827 -> มันสามารถปั่น ไฟกลับไปได้มากถึง 176 kW ครับ
1151.027 -> ซึ่งผมเห็นแล้วผมก็ช็อก
เพราะถือว่าเป็นรถไฟฟ้าคันแรกที่ผมทดสอบ
1156.627 -> แล้วมีการ ไฟกลับมากขนาดนี้นะฮะ
สําหรับการจอดรถอัตโนมัติ
1161.787 -> ก็จะคล้ายกับ BYD Han นะครับ
สามารถเลือกการจอดให้รถหาตําแหน่งจอดเอง
1166.647 -> หรือเราสามารถ เลือกว่าจะจอดขนาน
ถอยเข้าซอง หรือจอดแบบทแยงนะครับ
1175.847 -> มาดูตัวอย่างการจอดแบบที่รถหาช่องจอดเข้าซองเองกันนะครับ
1270.527 -> ซึ่งในตัวอย่างนี้
ใช้เวลาถอยเข้าซองประมาณนาทีครึ่งครับ
1275.867 -> หน้าจอควบคุมที่หมุนได้
ทั้งแนวตั้งและแนวนอนขนาด 15.6 นิ้ว
1280.447 -> หลายคนสงสัยว่า จะหมุนไปทําไม
ส่วนใหญ่ที่นี่เขาไว้ดู TikTok
1284.567 -> ช่วงที่รอชาร์จครับ
หรือการดูแผนที่แนวตั้งขณะขับขี่
1288.887 -> หน้าจอจะบอกระดับ PM 2.5 ทั้งนอกรถ
และภายในรถครับ
1293.507 -> และยังบอกสถานการณ์เชื่อมต่อต่างๆ
รวมถึงความสูงจากระดับน้ําทะเล
1297.947 -> และมุมลาดเอียงของตัวรถด้วยครับ
และซอฟต์แวร์บน
1302.887 -> ก็ใช้งานได้ลื่นไหลและตอบโจทย์การใช้งานในจีนนะครับ
ตัวที่ส่งออก หากมีการเพิ่ม
1306.107 -> Google Services และอื่นๆ ก็ต้องมาดูว่า
จะยังทํางานได้ดีเหมือนในจีนใหม่นะครับ
1311.507 -> ในจีนจะไม่มีบริการของ Google
แต่ตัวจอควบคุมก็สามารถลง APK เพิ่มเติมได้
1317.147 -> และสามารถเพิ่มฮาร์ดแว็กซ์เพื่อทําการเชื่อมต่อกับ
Apple CarPlay หรือ Android AUTO ได้ครับ
1321.287 -> แสงสีของไฟ ภายในรถเนี่ย
ก็ถือว่าทําได้ดีเลย นะฮะ
1328.567 -> โดยรวมเนี่ย ผมถือว่าตอบโจทย์
ใครที่กําลังมองหา SUV
1333.227 -> คันใหญ่ๆ แล้วเป็นไฟฟ้าล้วนนะครับ
1335.347 -> ก็ต้องมาดูว่า เข้ามาที่เมืองไทยเนี่ย
1337.907 -> เขาจะทําราคาได้ที่เท่าไร นะฮะ แล้วเข้ามาที่เมืองไทย เนี่ย
1342.627 -> จะเอารุ่นไหน เข้ามาทําตลาด นะครับ จะเป็น PHEV
1346.047 -> หรือว่า จะเป็น ไฟฟ้า ล้วน นะครับ เดี๋ยวเราต้องมาดูกัน
1349.007 -> ครับ สําหรับวันนี้ ก็ ทดสอบ เพียงเท่านี้ นะครับ หวังว่า
1353.547 -> คลิปนี้ คงจะถูกใจ แฟนแฟน BYD
โดยเฉพาะ แฟนแฟน BYD Tang นะครับ
1358.227 -> หรือ รถถัง ครับ หลายคนจะเรียกว่า รถถัง นะฮะ
1362.327 -> ถ้าชอบนะครับ ยังไงก็ช่วย ฝากกด กดแชร์
1365.387 -> ไปให้เพื่อนๆ ที่สนใจนะครับ แล้วก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ
1369.407 -> สับกระดิ่ง จะได้ไม่พลาด คลิปใหม่ๆ ที่จะออกมานะครับ
1373.327 -> ขอบคุณมากเลยครับที่รับชม แล้วพบกันใหม่ในคลิปหน้านะครับ
1376.267 -> สวัสดีครับ
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=KmxRPstmI3I