ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 29 ตุลาคม 2565
ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 29 ตุลาคม 2565
ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 29 ตุลาคม 2565
งานสุดท้ายของพวกเรา คือปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม
ตั้งอกตั้งใจเข้าไป วันหนึ่งเราก็จะได้ของดีของวิเศษ
เราจะรู้เลยสิ่งที่คนในโลกเขาแย่งชิงกันนั้น โง่ที่สุดเลย
อย่างสมมติว่าแย่งสาวงาม มันแย่งอะไร
มันแย่งหนังหุ้มกระดูก ข้างในเต็มไปด้วยของสกปรก
แย่งกันแทบเป็นแทบตาย
หรือพยายามหลอกลวงตัวเอง
หน้าเหี่ยวก็ไปฉีด Botox หนังหน้ายานไปก็ดึงให้ตึง
จมูกไม่โด่งก็ไปผ่าตัด ไปทำอย่างโน้นทำอย่างนี้
มันหลอกตัวเองได้ แต่มันหลอกความแก่ไม่ได้
รูปร่างยังดูเป็นสาวอยู่ แต่เครื่องในมันทรุดโทรม
หลอกไม่ได้จริง
ฉะนั้นคนในโลกเขาก็หลงๆ ไป
เราลูกหลานพระพุทธเจ้า อย่าไปหลงกับมัน
ทรัพย์สินเงินทองมีพออยู่พอกินได้ดีที่สุดแล้ว
วางแผนเผื่ออนาคตด้วย
ไม่ใช่บอกปล่อยวาง
อนาคตเป็นอย่างไรช่างมัน นั้นไม่ใช่
เป็นฆราวาสต้องรู้จัก
พระพุทธเจ้ายังสอนให้รู้จักอดออม รู้จักลงทุน
ฉะนั้นเราก็ทำตามหน้าที่ของเรา แล้วพัฒนาตัวเองไป
เราอยู่ในโลกนี้ชั่วคราว
เรามาอยู่ในโลกนี้เพื่อพัฒนาจิตใจตนเอง
ให้พ้นจากวงเวียนวัฏฏะของความทุกข์ทั้งหลาย
เรามีงานที่ยิ่งใหญ่ที่เราจะต้องทำ
เราผ่านความยากลำบากมามากมายแล้ว
จนกระทั่งได้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีศรัทธา
ได้เข้าใกล้ครูบาอาจารย์ ได้ฟังธรรม
ทำชิ้นสุดท้ายของเราให้ดี
ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม
อย่างที่ว่ามาทั้งวันตั้งแต่เช้านี้ ฟังไม่ทันก็ไปดู YouTube เอา
สักประเดี๋ยวเขาก็จะเอาไปขึ้นให้ฟังแล้ว ฟังแล้วฟังอีก
ปกติสิ่งที่หลวงพ่อสอนแต่ละครั้ง
เกือบทั้งหมด ธรรมะแต่ละกัณฑ์เกือบๆ ทุกๆ กัณฑ์
เกือบ ไม่ทั้งหมดหรอก
กัณฑ์เดียวเรื่องเดียว พอจะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
เพราะสิ่งที่สอนไม่ได้มีการเก็บออม ซ่อนเร้น
ไม่ได้ซ่อนเคล็ดวิชาชั้นสูงเอาไว้ ให้หมดแล้ว
อยู่ที่เรารับได้แค่ไหนต่างหาก
ไปทำเอา ชีวิตจะได้ร่มเย็นเป็นสุข
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
29 ตุลาคม 2565
Content
4.511 -> วันนี้เข้าฤดูหนาวแล้ว
7.041 -> เริ่มหนาวแล้ว
12.162 -> เวลาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เป็นเครื่องหมาย
16.892 -> ฤดูกาลมันเป็นเครื่องบอกเรา
20.24 -> วันเวลาล่วงไปๆ
26.024 -> นี่ใกล้ลอยกระทง
28.904 -> ลอยกระทงเราก็สนุกสนานกัน
33.174 -> ที่จริงวันลอยกระทง
35.554 -> มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา
อยู่อย่างหนึ่ง
41.84 -> ไม่ใช่เรื่องนางนพมาศ
44.11 -> แต่เป็นวันที่พระสารีบุตรปรินิพพาน
52.622 -> 6 เดือนก่อนพระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน
57.302 -> พระอัครสาวกท่านจะต้องนิพพานก่อน
62.192 -> เป็นประเพณีอย่างนั้น
66.432 -> หลังจากนั้นอีก 15 วัน
พระมหาโมคคัลลานะนิพพาน
80.193 -> การที่พระอัครสาวกมีธรรมเนียม
85.373 -> ที่จะนิพพานก่อนพระพุทธเจ้า
89.253 -> มองดูมันก็มีเหตุผล
94.554 -> คือถ้าพระอัครสาวกยังอยู่
99.524 -> พระพุทธเจ้านิพพาน
101.634 -> มันก็จะมีคนรับช่วงเป็นศาสดาต่อ
109.524 -> พระพุทธเจ้าท่านต้องการ
114.804 -> ให้ธรรมวินัยเป็นศาสดาของพวกเรา
118.984 -> ของชาวพุทธ ภายหลังจากท่านปรินิพพาน
128.308 -> เมื่อสิ้นพระสารีบุตร
131.258 -> สิ้นพระมหาโมคคัลลานะแล้ว
135.058 -> พระผู้ใหญ่ที่สุดก็คือพระมหากัสสปะ
140.818 -> ท่านก็เลยเป็นผู้นำสังคายนา
144.818 -> สังคายนาครั้งแรก
151.66 -> มีพระวินัย กับพระสูตร พระธรรมะ ธรรมวินัย
162.234 -> ส่วนของพระวินัยพระอุบาลีท่านเก่ง
167.014 -> ส่วนของธรรมะที่อธิบายจัดหมวดหมู่
พระอานนท์
175.798 -> คนอินเดียไม่รู้จักพระอานนท์
178.128 -> คนสมัยพุทธกาลท่านชื่อพระอานันทะ
182.825 -> คนไทยมาเรียกว่าพระอานนท์
188.355 -> ฉะนั้นธรรมะก็ค่อยๆ ฝัง
191.295 -> ค่อยๆ หยั่งรากลง แข็งแรงขึ้น
195.675 -> กระจายตัวออกไป
202.49 -> ผ่านไปประมาณ 200 ปี
207.731 -> ธรรมะแท้ๆ ก็เริ่มลบเลือน
211.731 -> พวกอลัชชีมากมาย
215.731 -> เพราะคนจำนวนมากนับถือพระพุทธศาสนา
220.281 -> พากันปรนเปรอพระ
223.271 -> พวกชั่วๆ มันก็เข้ามาบวช
226.191 -> ก็มาทำความเสียหาย
229.561 -> พระดีๆ ท่านก็หลบเร้นออกไป
234.731 -> จนพระเจ้าอโศกทำสังคายนาครั้งที่ 2
240.449 -> จัดสังคายนา
243.209 -> เที่ยวไปหาว่าจะหาพระองค์ไหน
246.749 -> มาเป็นประธานในการสังคายนา
251.789 -> ไปได้พระโมคคัลลีบุตรติสสะ มาเป็นประธาน
258.158 -> มันเป็นเรื่องประหลาดอย่างหนึ่ง
260.598 -> องค์ที่เป็นประธานสังคายนาครั้งที่ 2
264.228 -> คือพระโมคคัลลีบุตรติสสะ คนไม่รู้จัก
269.238 -> คนรู้จักแต่พระอุปคุต
274.308 -> ธรรมะจริงๆ มันอยู่ยากจริงๆ
284.295 -> เราไปสร้างตำนานพระอุปคุตขึ้นมา
294.658 -> ธรรมะแท้ๆ อยู่ยาก เข้าใจยาก
299.198 -> มันเป็นธรรมะเพื่อการลดละกิเลส
302.158 -> ลดละความเห็นแก่ตัว
306.558 -> ในขณะที่สัตว์ทั้งหลาย
309.608 -> มันยืนพื้นด้วยความมีตัวมีตน
314.248 -> มันก็รักตัวเอง
318.748 -> ก็เบียดเบียนกระทบกระทั่งซึ่งกันและกัน
325.078 -> เพราะรักตัวเอง
326.698 -> รักใคร่หวงแหนผลประโยชน์ของตัวเอง
330.288 -> ก็แย่งชิงกัน
332.288 -> ในที่สุดกระทบกระทั่งกัน
335.268 -> ก็เกิดสงครามขึ้น
337.788 -> สงครามย่อยๆ
339.308 -> ตั้งแต่สงครามในครอบครัว ในบ้าน ญาติพี่น้อง
344.207 -> จนเป็นสงครามระหว่างประเทศ
346.577 -> สงครามโลก
349.517 -> ก็เกิดจากรากเหง้าอันเดียวกัน
คือความเห็นแก่ตัว
355.483 -> ก็พยายามพัฒนาอาวุธทำลายล้างให้รวดเร็ว
362 -> จะได้ชนะ
365.25 -> ไม่มีใครคิดที่จะเอาชนะตัวเองเลย
369.52 -> มันคิดแต่จะเอาชนะคนอื่น
371.82 -> แล้วก็ช่วงชิงผลประโยชน์มา
376.73 -> ธรรมชาติของสัตว์มันเป็นอย่างนั้น
380.73 -> ไม่เฉพาะมนุษย์
381.989 -> สัตว์อื่นมันก็แย่งพื้นที่ทำมาหากินกัน
388.109 -> มีอาณาเขต
389.529 -> กระทั่งไก่ป่าก็มีอาณาเขตเป็นกลุ่มๆ
393.909 -> ล้ำเขตกันก็ตีกัน
396.659 -> ช้างป่าก็มีอาณาเขตของตัวเอง
399.399 -> อยู่กันเป็นโขลงๆ
404.219 -> สัตว์โลกเป็นอย่างนั้น
408.219 -> พระพุทธเจ้าท่านสอนธรรมะ
410.579 -> ที่ยกระดับของเราให้พ้นจากความเป็นสัตว์
414.749 -> เป็นมนุษย์ผู้มีใจสูง
420.049 -> ฉะนั้นมันฝืนกิเลสอย่างรุนแรงเลย
425.179 -> ในโลกก็มีตัวมีตน
427.249 -> พระพุทธเจ้าบอกไม่มีตัวตน
430.719 -> ในโลกเขาแย่งชิงให้มากที่สุด
434.719 -> พระพุทธเจ้าสอนให้ปล่อยวาง
437.959 -> มันสวนกระแส
441.359 -> สวนกับธรรมชาติจิตใจของมนุษย์
และสัตว์ทั้งหลาย
449.359 -> เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธ
452.779 -> มันอยู่ได้ไม่ค่อยนานเท่าไร
455.849 -> มีคนมีบุญบารมีรวมกันมาเกิดเป็นชุดๆ ไป
461.779 -> ชุดนี้เกิดมาสะสมบุญบารมีมากพอ
466.94 -> ก็บรรลุมรรคผลนิพพานหมดไปชุดหนึ่ง
470.29 -> ชุดอื่นก็เข้ามาต่อเป็นกลุ่มๆ ไป
476.085 -> ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอก
478.355 -> เมื่อหลายสิบปีมาแล้วท่านบอกว่า
482.955 -> “สัตว์นรกมันขึ้นมามากแล้ว
486.125 -> ต่อไปพวกเราคนมีศีล มีธรรม จะอยู่กับเขายาก
491.419 -> ให้พวกเราเร่งภาวนา
494.459 -> ต้องหนีมันต่อไป อย่าไปอยู่กับมันเลย”
497.599 -> จะไปต่อสู้เอาชนะมัน
500.539 -> มันก็เยอะเหลือเกิน
502.549 -> สัตว์ที่มันตามใจกิเลส
504.839 -> สู้กับมันไม่ไหวหรอก
507.689 -> เราก็ถอยไป
509.629 -> ภาวนาพ้นไปได้ก็พ้นไปเลย
513.399 -> พ้นไม่ได้ท่านบอกว่าให้ไปต่อในเทวโลก
516.609 -> ในพรหมโลก
518.969 -> แต่ถ้าไปเป็นพรหม
ให้เป็นพรหมที่เป็นรูปพรหม
522.969 -> อย่าไปเป็นอรูปพรหม
526.129 -> แล้วเวลามีการแสดงธรรม
530.129 -> ในสวรรค์เขาก็แสดงธรรมกันอยู่เรื่อยๆ
533.029 -> พระอริยะมีอยู่
535.079 -> หรือเวลาพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้
538.239 -> ก็จะได้มาฟังธรรมต่อ
541.769 -> ท่านบอกไว้อย่างนี้นานแล้ว
544.729 -> ว่าท่านมองว่า
546.779 -> สัตว์ในนรกมันถึงวาระที่ขึ้นมามากมาย
550.419 -> เต็มไปหมดเลย
552.519 -> อันนี้ท่านเล่า
554.499 -> จริงหรือเปล่า
หลวงพ่อไม่มีญาณพิเศษอะไรจะรู้หรอก
559.279 -> แต่มาดูสังคมเราทุกวันนี้
562.209 -> มันโหดร้ายทารุณขึ้นเรื่อยๆ
565.699 -> อย่างเมื่อก่อนเราไม่เคยเจอ
568.129 -> อยู่ๆ ก็ไปไล่ฆ่าเด็ก
570.689 -> ไม่ได้โกรธได้แค้นกับเด็ก
574.129 -> อยากทำอะไรแปลกๆ ขึ้นมา
577.899 -> สิ่งเหล่านี้คนทำไม่ได้
580.599 -> มนุษย์ทำไม่ได้
582.749 -> มนุษย์แปลว่าผู้มีใจที่สูง
584.899 -> อย่างพวกเราให้ไปฆ่าหมาสักตัว
587.809 -> เรายังทำไม่ได้เลย
589.669 -> ฆ่าแมวสักตัวเราก็ทำไม่ได้
593.209 -> จิตใจมันไม่เสมอกัน
595.209 -> มันมาอยู่ด้วยกัน มันอึดอัด อยู่ยาก
599.719 -> ฉะนั้นให้พวกเราตั้งอกตั้งใจภาวนา
603.549 -> มันเป็นทางที่เราจะพ้นไป
605.669 -> จากวังวนของสัตว์ทั้งหลาย
609.669 -> เหมือนของสัตว์ทั้งหลาย
612.439 -> จะได้พ้นจากวังวนอันนี้ไป
615.589 -> พ้นความเป็นสัตว์มาเป็นมนุษย์
619.589 -> มนุษย์แปลว่าผู้มีใจสูง
622.739 -> คือใจที่มันมีศีลมีธรรม
627.419 -> แต่เดิมเราก็เป็นสัตว์ตัวหนึ่ง
630.669 -> มีกิเลสหนาปัญญาหยาบเหมือนคนอื่นเขา
634.339 -> ไม่ต้องไปเกลียดเขาหรอก
636.549 -> เมื่อก่อนเราก็เลวอย่างนั้น
639.699 -> แต่อาศัยที่เรามีความตั้งใจดี
644.419 -> เข้ามาศึกษาปฏิบัติ
647.949 -> รู้จักทำทาน รู้จักรักษาศีล รู้จักภาวนา
652.679 -> ใจของเราก็สูงขึ้นๆ
654.959 -> เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ
659.449 -> จิตของมนุษย์เป็นจิตที่เหมาะสมที่สุด
ที่จะปฏิบัติธรรม
667.532 -> จิตในภพภูมิอื่นปฏิบัติธรรมลำบาก
672.852 -> อย่างสูงสุดเลยมันภพของพรหม
676.272 -> พรหมอายุยืนยาวมาก
678.482 -> ชีวิตมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข
682.022 -> เพราะฉะนั้นมักจะติดในความสุข
สบาย เพลินๆ ไป
686.572 -> มีอายุยืนมาก
689.772 -> พวกเทพเขาก็ติดในกามกัน
693.272 -> ทั้งมีรูป มีเสียง มีกลิ่น มีรส มีสัมผัส
697.64 -> ที่น่าเพลิดเพลิน น่าพอใจ
700.16 -> มีความสุขมากไป
702.59 -> ก็เหมือนพวกคนบางคน
704.69 -> เขามีความสุข เขาไม่ภาวนา
707.35 -> ไม่รู้จะภาวนาทำไม
708.74 -> ชีวิตมีความสุขอยู่แล้ว
711.82 -> อย่างพรหมอายุยืนยาวไปจนประมาท
715.72 -> พวกเทพมีความสุขมากไปจนประมาท
722.21 -> สัตว์นรกมีความทุกข์เกินไป
725.55 -> จนไม่มีกำลังที่จะปฏิบัติ
729.88 -> อสุรกายมันมีมิจฉาทิฏฐิ
733.88 -> ความเห็นผิดต่างๆ นานา
737.23 -> ก็ปฏิบัติไม่ได้
740.173 -> เปรตมีแต่ความอดอยาก หิวโหย
744.413 -> มันก็ปฏิบัติไม่ได้
747.093 -> ใจมันเต็มไปด้วยโลภะ
749.543 -> ต้องการ ขาดแคลนทุกสิ่งทุกอย่าง
753.203 -> ใจไม่มีความสงบสุข
757.393 -> สัตว์เดรัจฉาน
760.323 -> ในภพภูมิทั้งหลาย
762.293 -> ภพของพรหมมันสูง
765.483 -> ภพที่ต่ำที่สุดคือเดรัจฉาน
768.893 -> เราเห็นว่าหมาบางตัวโอ้ เจ้าของรัก
773.353 -> อยู่ดี กินดี
776.283 -> แต่ถึงสัตว์เดรัจฉาน
จะได้รับการเลี้ยงดูดีแค่ไหน
780.415 -> สัตว์เดรัจฉานก็เต็มไปด้วยโมหะ
783.905 -> เต็มไปด้วยความหลง
787.105 -> ไม่มีความรู้สึกตัว
790.275 -> ใจล่องลอยไปเรื่อยๆ
793.785 -> สัญชาตญาณกระตุ้นให้วิ่งไปเรื่อยๆ
798.645 -> ฉะนั้นพวกนี้ภาวนาไม่ได้
801.645 -> จิตมีโมหะรุนแรง
806.255 -> ในขณะที่มนุษย์ เรามีทั้งดี มีทั้งชั่ว
811.425 -> อายุเราก็ไม่ได้ยืนเกินไป
813.395 -> จนกระทั่งคิดว่าเราจะอยู่ค้ำฟ้า
817.115 -> ร่างกายเราก็ไม่ได้แข็งแรงเกินไป
820.175 -> ที่จะอยู่ไปตั้งนานๆ
823.245 -> ชีวิตเราก็เจอความสุขบ้าง ความทุกข์บ้าง
826.455 -> สมหวังบ้าง ผิดหวังบ้าง
829.265 -> ไม่ได้มีแต่ความสุขล้วนๆ
831.575 -> ความสุขมากมาย
833.635 -> จนกระทั่งประมาท
837.735 -> เวลาความสุขเกิดขึ้นก็เกิดไม่นาน
840.635 -> เวลาความทุกข์เกิดขึ้นก็เกิดไม่นาน
845.255 -> เวลาจิตใจมีกุศลก็อยู่ไม่นาน
848.515 -> จิตใจโลภ โกรธ หลงขึ้นมาก็อยู่ไม่นาน
852.755 -> ร่างกายของมนุษย์นั้นเปลี่ยนแปลงเร็ว
855.735 -> แต่ว่าไม่ได้เร็วมากเกินไป
859.215 -> อย่างสัตว์เดรัจฉานบางพวก
861.505 -> อายุ 2 - 3 วันก็ตายแล้ว
864.175 -> ไม่ทันพัฒนาจิตใจ
867.085 -> มนุษย์อายุไม่ยืนจนกระทั่งประมาท
869.755 -> และก็ไม่อายุสั้นเกินไป
872.455 -> มันเป็นภพภูมิที่ดี
874.535 -> มนุษย์มีสติ มีปัญญา
877.255 -> สามารถที่จะพัฒนาจิตใจตนเองได้
883.265 -> การจะได้เกิดเป็นมนุษย์เป็นของยากมาก
887.265 -> โอกาสที่จะเป็นมนุษย์นั้นยากมากเลย
891.265 -> แล้วเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์อย่างพวกเรา
893.815 -> ก็ถือว่าเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
896.515 -> มีร่างกายปกติ มีจิตใจปกติ
901.205 -> ก็ยิ่งยากเข้าไปอีก
904.725 -> แล้วมนุษย์อย่างพวกเราได้ฟังธรรมะ
909.655 -> คนที่ร่างกายปกติ จิตใจปกติ
913.655 -> มีส่วนน้อยจริงๆ
ที่ได้ยินธรรมะ ได้ฟังธรรมะ
917.475 -> อย่างต่างชาติ
เขาโอกาสได้ยินได้ฟังธรรมะน้อยเต็มที
922.905 -> ชาวตะวันตกหลังๆ นี้หันมาสนใจพุทธศาสนา
928.395 -> แต่เขาสนใจในเรื่องของสมาธิ
932.145 -> ไม่ได้สนใจเรื่องปัญญา
934.705 -> เขาได้ส่วนนิดเดียวของศาสนาพุทธ
942.365 -> เพราะฉะนั้นกว่าจะเป็นคนก็ยากลำบาก
947.255 -> แล้วเป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งกายทั้งใจอย่างนี้
950.315 -> ก็ยากลำบากมากขึ้น
953.275 -> แล้วมีคนส่วนน้อยเท่านั้นได้ยินได้ฟังธรรมะ
957.525 -> ในจำนวนคนส่วนน้อยที่ได้ยินได้ฟังธรรมะ
961.525 -> มีส่วนน้อยลงไปอีก
ที่คิดว่าจะต้องตั้งใจปฏิบัติ
967.939 -> เพราะฉะนั้นคนที่จะบรรลุมรรคผลได้
970.569 -> จะเข้าใจพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้
973.769 -> มันมีน้อยอย่างยิ่ง
977.249 -> โบราณเขาเปรียบบอก
979.219 -> “จำนวนคนเหมือนกับขนวัว
982.289 -> วัวตัวหนึ่งมีขนไม่รู้กี่ล้านเส้น
986.839 -> แต่คนที่เข้าถึงธรรมะมีแค่เหมือนเขาวัว”
991.359 -> เขาวัวมี 2 เขาเอง
994.029 -> เทียบกับจำนวนพวกที่ไม่มีโอกาส
999.628 -> พวกเราทั้งหลายได้เป็นมนุษย์แล้ว
1003.208 -> ได้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แล้ว
1005.578 -> เรามีศรัทธา
1007.598 -> เราเข้ามาใกล้พระ มาฟังธรรม
1011.178 -> เหลืออยู่อย่างเดียว
1013.098 -> เราปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม
1016.238 -> เหลืออันสุดท้ายอันเดียวเท่านั้นพวกเรา
1020.698 -> ด่านที่ยุ่งยากเราได้ผ่านมาหมดแล้ว
1025.138 -> เหลือด่านสุดท้ายแล้ว
1027.478 -> คือปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม
1031.718 -> ไม่ใช่เอาเวลาไปวุ่นวายอยู่กับโลกมากมาย
1036.828 -> อย่างไปแย่งชิงอะไรกันในโลก
1038.988 -> มันจะอยู่นานสักแค่ไหน
1041.268 -> มีเงินหมื่นล้านแสนล้าน
1043.678 -> มันจะใช้ได้ตลอดไปหรือเปล่า
1046.498 -> ชีวิตมันก็ไม่ได้ยืนยาวอะไรนักหนา
1050.498 -> เพราะฉะนั้นเรามาหา
สิ่งที่เป็นสาระแก่นสารสูงสุด
1055.753 -> ให้กับตัวเราเอง
1057.323 -> ให้สมกับที่เราเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
1060.173 -> เป็นมนุษย์ที่มีบุญวาสนา
1062.603 -> มีศรัทธา
1064.173 -> ได้เข้าใกล้พระ
1066.173 -> ได้ฟังธรรม
1068.003 -> เหลืออันสุดท้ายปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม
1074.066 -> การปฏิบัติธรรม
ไม่ใช่การนั่งสมาธิ เดินจงกรม
1077.766 -> ตื้นเกินไป
1080.616 -> การปฏิบัติธรรมก็คือ
1082.406 -> การปฏิบัติในสิ่งที่พระพุทธเจ้าบอกให้ทำ
1088.106 -> ไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ท่านบอกว่าอย่าทำ
1093.286 -> ท่านบอกอย่าทำกรรมชั่วให้ทำกรรมดี
1098.266 -> กรรมดีของเราก็คือทาน ศีล ภาวนา
1103.216 -> เราพยายามสะสมของเราไป
1107.726 -> การทำทาน ทำเพื่อลดละความเห็นแก่ตัว
1113.216 -> อย่างเรามีเหลือเฟือ
1114.986 -> อย่างเสื้อผ้าของเรา บางคนมีเสื้อผ้าเยอะ
1118.326 -> มีตั้งหลายตู้
1120.606 -> ตอนนี้ก็เริ่มหนาวแล้ว
1122.316 -> ลองไปค้นที่บ้านดู
1124.026 -> อันไหนส่วนเกิน
1125.576 -> ให้กับคนที่ขาดแคลนไป
1127.876 -> อันนั้นมีประโยชน์
1130.216 -> เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
1132.576 -> เห็นสวยๆ ก็ซื้อมา
1134.906 -> พักเดียวมันก็ตกยุคแล้ว
1137.776 -> ไม่กล้าใส่ ใส่แล้วเชย
1141.246 -> เอาไปให้คนซึ่งเขาลำบากกว่าเรา
1144.316 -> รู้จักให้
1145.936 -> ไม่ได้เห็นแก่ตัวเอง
จะหาผลประโยชน์อย่างเดียว
1150.166 -> รู้จักให้บ้าง ใจเราก็จะสูงขึ้น
1153.576 -> เพราะว่าเราสามารถลดละกิเลส
คือความเห็นแก่ตัวได้
1159.316 -> แล้วต้องรักษาศีล
1160.926 -> นั่นคือการปฏิบัติธรรมอีกอย่างหนึ่ง
1164.266 -> การทำทานก็เป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง
1167.446 -> มีผลในทางลดละกิเลส
1170.266 -> การรักษาศีลก็เป็นการปฏิบัติธรรม
1174.606 -> เราไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมตามใจกิเลส
1178.806 -> ขัดเกลาจิตใจตัวเองให้มันเข้มแข็งขึ้น
1183.476 -> อย่างเรามีความโลภอยากได้ของคนอื่น
1187.656 -> เราก็ต้องข่มใจตัวเองไว้
1190.286 -> รู้จักต่อสู้ไม่ตามใจกิเลส
1193.586 -> การที่เราคอยอบรมจิตใจตัวเอง
ให้มันเข้มแข็ง
1198.268 -> แรกๆ มันยาก
1200.898 -> แรกๆ ยาก
1202.738 -> แต่ต่อไปๆ จิตใจมันคุ้นเคยที่จะรักษาศีล
1208.306 -> การรักษาศีลจะเป็นของง่าย
1210.786 -> การทำผิดศีลจะเป็นของยาก
1213.516 -> มันจะกลับข้างกัน
1216.486 -> อย่างเราไม่เคยรักษาศีล
1219.756 -> แต่ก่อนเราก็ทำอะไรชั่วๆ
1222.046 -> เหมือนที่สัตว์ทั้งหลายมันทำอย่างนั้น
1225.246 -> นี้พอเรามาหัดรักษาศีลเข้า
1227.376 -> เวลาเราคิดจะทำชั่ว
1229.306 -> มันไม่กล้าทำ
1231.356 -> มันละอายใจ
1233.416 -> ละอายใจไม่อยากทำ
1236.246 -> เบียดเบียนคนอื่น เบียดเบียนสัตว์อื่น
1238.366 -> สักนิดหนึ่งก็ไม่อยากทำ
1241.12 -> มันมีความเมตตา มีความสงสารเกิดขึ้น
1245.12 -> ใจมันมีพัฒนาการที่จะสูงขึ้นๆ
1249.75 -> จิตใจที่เคยเต็มไปด้วยโลภ โกรธ หลง ก็ลดลง
1254.44 -> เกิดจิตใจที่มีเมตตากรุณาเกิดขึ้นมาแทนที่
1260.084 -> มีหิริโอตัปปะ ละอายที่จะทำบาป
1263.794 -> เกรงกลัวผลของการทำบาป
1267.234 -> มันจะไม่กล้าทำชั่ว
1269.564 -> ค่อยๆ ฝึกตัวเองให้สะอาดหมดจดขึ้น
1273.564 -> ทำทานก็เพื่อฝึกจิตใจให้มันไม่เห็นแก่ตัว
1276.904 -> รักษาศีลก็ฝึกตัวเอง
1279.464 -> ให้มันสะอาดหมดจดมากขึ้นๆ
1283.214 -> พอถึงขั้นภาวนา
1285.294 -> ภาวนามี 2 ขั้นตอน
1293.224 -> ก็มีการฝึกให้จิตมันสงบนี้อันหนึ่ง
1298.667 -> ฝึกให้จิตมันฉลาดมีปัญญา
เข้าใจความเป็นจริง
1302.147 -> นี่อีกอันหนึ่ง
1303.057 -> 2 อัน
1304.35 -> ฝึกจิตให้สงบ ให้ตั้งมั่น
เรียกว่าสมถกรรมฐาน
1309.506 -> ฝึกจิตให้มีสติ มีปัญญาแก่กล้า
เข้าใจความเป็นจริง
1314.98 -> เรียกว่า วิปัสสนากรรมฐาน
1318.51 -> เพราะฉะนั้นงานก็มี 2 งานในการฝึกจิตจริงจัง
1324.637 -> การทำทาน ถือศีล เป็นการวางพื้นฐานที่ดี
1330.017 -> เพื่อวันหนึ่งเราจะก้าวขึ้นมาสู่การภาวนา
1334.737 -> การภาวนาเบื้องต้นคือสมถกรรมฐาน
1338.557 -> ทำอย่างไร
1341.307 -> น้อมจิตไปอยู่ในอารมณ์อันเดียวที่มีความสุข
1348.426 -> แล้วอารมณ์นั้น
ต้องเป็นอารมณ์ที่ไม่กระตุ้นกิเลส
1354.176 -> เช่นเราทำความสงบอะไรไม่เป็น
1357.056 -> เราไหว้พระ สวดมนต์ไปเรื่อยๆ
1359.296 -> สวดมนต์ในใจของเราไปเรื่อยๆ
1362.246 -> ขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงาน
1364.396 -> ก็ยืนสวดมนต์ไปในใจเรา
1367.276 -> ดีกว่าวอกแวกฟุ้งซ่านไป
1371.396 -> ไม่จำเป็นต้องสวดยาว
1373.086 -> ไม่จำเป็นต้องสวดเยอะ
1375.566 -> หาธรรมะสักบทหนึ่งที่เราพอใจ
1380.974 -> เราก็สวดไป
1383.044 -> อย่างหลวงพ่อแต่ก่อนก็สวด
1385.584 -> ชอบบทนี้ “พุทโธ สุสุทโธ กะรุณามะหัณณะโว”
1390.497 -> บทนี้ ชอบ จะสวดยาวๆ ให้เต็มบทก็ได้
1395.049 -> หรือจะบริกรรมมันอยู่แค่นี้ก็ได้
1398.279 -> “พุทโธ สุสุทโธ กะรุณามะหัณณะโว
1402.279 -> พระพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์
มีพระกรุณาดั่งห้วงมหรรณพ”
1407.752 -> สมมติเราเอาแค่นี้
1409.852 -> แค่นี้ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องสวดยาวๆ
1414.392 -> รัตนสูตร มงคลสูตร อาฏานาฏิยสูตร
1425.199 -> ไม่จำเป็น
1426.479 -> หรือสติปัฏฐานสูตร ยาวๆ
1429.889 -> ชินบัญชร
1432.699 -> ไม่จำเป็นต้องยาวอย่างนั้นหรอก
1435.699 -> สวดมันสั้นๆ
1437.829 -> สวดอะไรไม่ได้ “พุทโธ ธัมโม สังโฆ”
1440.669 -> แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว
1443.269 -> ให้ใจอยู่กับคำบริกรรม
1445.159 -> อยู่กับการสวดมนต์ไปเรื่อยๆ
1447.659 -> แทนที่จะปล่อยให้มันคิดฟุ้งซ่าน
ไปตามใจกิเลส
1451.659 -> ก็มาอยู่กับการสวดมนต์ของเรา ในใจเรา
1455.489 -> ทำไปเรื่อยๆ จิตจะค่อยๆ มีแรง
1458.479 -> ค่อยๆ สงบ แล้วก็มีกำลังมากขึ้นๆ
1463.219 -> ชีวิตเราก็จะเริ่มเข้าใจคำว่า
“สงบสุข” มากขึ้นแล้ว
1468.53 -> เราจะพบเลยว่า
1469.95 -> โอ้ ตลอดชีวิตที่ผ่านมา มีแต่ความวุ่นวาย
1473.95 -> ไม่เคยรู้จักคำว่าสงบสุขเลย
1476.75 -> เรามาสวดมนต์ในใจของเรา
1478.5 -> สวดไปเรื่อยๆ
1479.57 -> มีโอกาสเมื่อไรก็สวดไปเรื่อยๆ
1482.38 -> ใจเราก็ยังสงบสุขได้
1485.06 -> มันมีคุณค่ามากกว่า
1487.41 -> การไปแย่งชิงอะไร
1489.53 -> ได้มาแล้วก็มีความสุข แป๊บเดียว
1492.76 -> เดี๋ยวความสุขก็หายไปแล้ว
1495.56 -> อันนี้ไม่ต้องแย่งกับใคร
1497.68 -> ไม่ต้องไปขอใคร
1499.24 -> ไม่ต้องแย่งใคร ไม่ต้องง้อใคร
1502.53 -> เราสามารถพัฒนาจิตใจตนเอง
1505.25 -> ให้มันร่มเย็นเป็นสุขอยู่ด้วยตัวเองได้
1508.66 -> สวดไป ชอบบทไหนก็สวดไปเรื่อยๆ ทั้งวัน
1511.91 -> สวดไป
1513.67 -> ตื่นนอนมายังไม่ทำอะไรก็สวดในใจเราไป
1518.155 -> จะอาบน้ำ จะกินข้าวอะไร
1520.385 -> ก็สวดของเราไปเรื่อยๆ
1522.705 -> ถ้าทำได้อย่างนี้
1524.225 -> ไม่นานหรอกจิตเราจะมีกำลังขึ้นมา
1527.755 -> ที่จริงแล้วสมถกรรมฐานมีมากมาย
1531.265 -> นับจำนวนไม่ถ้วน
1535.145 -> อารมณ์กรรมฐานมีเยอะแยะ
1537.045 -> แต่หลักการมีอันเดียว
1539.725 -> คือน้อมจิตไปอยู่ในอารมณ์อันเดียว
1542.125 -> ที่มีความสุขอย่างต่อเนื่อง
1544.025 -> อารมณ์นั้นต้องไม่ยั่วกิเลส
1546.585 -> แค่นั้น
1548.295 -> จะใช้กรรมฐานอะไรก็ใช้หลักอันนี้
1551.635 -> สมถกรรมฐานมีตั้ง 40 อย่างตามตำรา
1556.988 -> แต่เอาเข้าจริงมีเกินตำรามากมาย
1560.958 -> ง่ายไปหมด อะไรก็ได้ถ้าเราได้หลัก
1564.528 -> ง่าย
1566.108 -> อย่างองค์หนึ่งท่านขยี้ผ้าขาว
1572.072 -> ขยี้ๆๆ บริกรรมไปเรื่อยๆ
1576.072 -> “ระโช หะระณัง ระชัง หะระติ”
1580.072 -> “ระโช หะระณัง ระชัง หะระติ”
1583.912 -> อันนี้พระพุทธเจ้า
ให้ผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งกับท่าน
1587.492 -> เป็นผ้าขาว
1589.232 -> แล้วบอกให้ท่านไปนั่งขยี้ผ้าไปเรื่อยๆ
1592.342 -> แล้วบริกรรม “ระโช หะระณัง ระชัง หะระติ”
1597.405 -> แปลว่า “ผ้าเช็ดฝุ่น ย่อมเช็ดฝุ่น”
1601.655 -> บริกรรม ท่านทำไป
1605.075 -> แล้วท่านเกิดหยิบผ้าขึ้นมาดู
1608.255 -> ผ้าที่เคยขาว เคยสะอาด สกปรกไปแล้ว
1611.835 -> เปื้อนขี้มือไปแล้ว เปื้อนเหงื่อ
เปื้อนอะไร
1615.895 -> ท่านก็เห็นเลยร่างกายนี้ไม่ใช่ของสวยของงาม
1620.265 -> เป็นปฏิกูล เป็นอสุภะ
1623.415 -> จากการที่นั่งบริกรรม
ขยี้ผ้าขาวแล้วบริกรรมไปเรื่อยๆ
1628.165 -> กับจิตมันพลิกเข้ามา
1630.965 -> เห็นร่างกายเป็นปฏิกูลอสุภะ
1634.515 -> จิตก็ได้สมาธิขึ้นมา
1637.365 -> พอจิตมีสมาธิ พระพุทธเจ้าท่านก็สอนทางไกล
1642.393 -> ตอนนั้นพระพุทธเจ้าไปอยู่ในงานนิมนต์
1646.393 -> พระจูฬปันถกะนั่งขยี้ผ้าอยู่ที่วัด
1650.513 -> ไม่ได้ไปนิมนต์กับเขาด้วย
1655.283 -> พระพุทธเจ้าท่านก็สอนทางไกลมาให้
1658.513 -> เหมือนเรา Zoom อย่างนี้
1660.383 -> แต่ท่าน Zoom ด้วยจิต
1661.913 -> ไม่ต้อง Zoom ด้วยเครื่องมือ
1665.433 -> อย่างพระรุ่นเรา
Zoom ด้วยเครื่องมือแล้วใช้กล้อง ใช้จอ
1671.413 -> ถ้าใช้ ท่านที่ทรงฤทธิ์ ทรงฌาน
1676.216 -> ท่าน Zoom ด้วยพลังของจิต
1679.086 -> ไปปรากฏขึ้นต่อหน้าเลย
1681.166 -> แล้วแสดงธรรมให้พระจูฬปันถกะฟัง
1685.316 -> บรรลุพระอรหันต์ บรรลุได้เลย
1690.617 -> ฉะนั้นเราอย่าดูถูก
กระทั่งคำบริกรรมเล็กๆ น้อยๆ
1694.227 -> ขอให้ทำไปเถอะ
1696.867 -> มีตัวอย่างที่ดีให้เราเห็นอยู่ไม่ใช่น้อย
1701.437 -> ครูบาอาจารย์จำนวนมาก
1703.297 -> เริ่มต้นท่านก็บริกรรมพุทโธๆ นั่นล่ะ
1706.229 -> บางองค์ก็พุทโธ ธัมโม สังโฆ
1709.219 -> แล้วแต่เราจะชอบ
1711.719 -> พอบริกรรมไป จิตมันมีสมาธิอันนี้
1715.119 -> ก็เดินปัญญาได้
1717.909 -> ถ้าจิตมีกำลังมากพอ
1719.649 -> สะกิดนิดเดียวก็เดินปัญญาได้
1725.119 -> เมื่อก่อนหลวงพ่อก็สงสัย
1727.119 -> พระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่หนึ่ง
1730.189 -> แล้วท่านไปปรากฏพระองค์สอนคนที่นั่นที่นี่
1735.089 -> มันเป็นไปได้หรือ
1737.789 -> เป็นคนซึ่งเชื่อแต่วิทยาศาสตร์
1741.789 -> แต่ว่าก็ศรัทธา
1743.589 -> คงจะมีอะไรที่เราไม่เข้าใจอยู่
1746.789 -> ต่อมาอยู่ในแวดวงของครูบาอาจารย์
1750.169 -> ก็รู้มันไม่ใช่เรื่องแปลก
1752.749 -> ครูบาอาจารย์หลายองค์ที่ท่านทำอย่างนั้นได้
1756.749 -> บางองค์คนไปภาวนาในวัด
1762.041 -> ถ้ากลางคืนขี้เกียจ จะนั่งๆ นอนๆ
1766.511 -> ถ้ายุคนี้คงเล่นมือถือ
1769.781 -> อันนั้นไม่ตั้งใจภาวนา
1772.441 -> ก็มองเห็นท่าน
1774.371 -> เห็นท่านเดินขึ้นมาหน้าประตูห้อง
1777.231 -> ถือไม้เท้ามา
1779.921 -> เห็นท่านมาชะโงกมอง
1782.461 -> ก็ตกใจรีบลุกขึ้นภาวนา
1785.381 -> ตอนเช้าแทบไม่กล้ามองหน้าท่านเลย
1789.751 -> ครูบาอาจารย์ที่ท่านเล่นอย่างนี้
1792.531 -> มี แต่ท่านไม่ได้ทำ
เพื่ออวดอิทธิฤทธิ์อะไรหรอก
1796.531 -> ทำเพื่อสงเคราะห์ช่วยเหลือ เกื้อกูล
1800.531 -> ฉะนั้นไม่แปลก
ระดับพระพุทธเจ้าทำไมจะทำไม่ได้
1805.211 -> ระดับสาวกรุ่นที่เราทันๆ กันอยู่
1809.521 -> บางองค์ท่านยังทำได้เลย
1817.341 -> ฉะนั้นพวกเราตั้งอกตั้งใจ
1819.991 -> อยู่กับเครื่องอยู่ของเราไป
1823.281 -> ทำอย่างอื่นไม่ได้
1824.891 -> ก็ท่องสวดมนต์ในใจไปเรื่อยๆ
1827.411 -> เดี๋ยวใจก็มีกำลังขึ้นมา
1830.261 -> ภาวนาของเราไปเรื่อยๆ
1833.551 -> แล้วถ้าจิตเรา
มีกำลัง ตั้งมั่น เด่นดวงดีแล้ว
1837.331 -> ก็เจริญปัญญา
1841.493 -> การเจริญปัญญา
อันแรกเลยพยายามรู้สึกตัวเข้าไว้
1848.213 -> การเจริญปัญญา
คือการเรียนรู้ความจริงของกาย
1851.693 -> คือการเรียนรู้ความจริงของใจ
1855.983 -> กายกับใจของเรานี้
1857.813 -> ที่เรารู้สึกว่ามันเป็นตัวเรา
1859.493 -> มันเป็นของเรา อย่างเหนียวแน่น
1862.873 -> เราจะมาเจริญปัญญาให้เห็นความจริงของกาย
1866.213 -> ให้เห็นความจริงของใจ
1870.213 -> เราก็ต้องเห็นกายเห็นใจให้ได้เสียก่อน
1873.783 -> ก่อนที่จะเห็นความจริงของกายของใจ
1876.293 -> มี 2 สเต็ป
1878.753 -> เราจะรู้ความจริงของกายของใจได้
1881.103 -> ขั้นแรกเลยเราต้องรู้กายรู้ใจให้ได้
1884.573 -> รู้สึกกาย รู้สึกใจ
1888.163 -> ถ้าเราไม่รู้สึกกาย ไม่รู้สึกใจ
1890.233 -> จิตเราหลงไปอยู่ในโลกของความคิด
1892.323 -> มีกายก็ลืมกาย มีใจก็ลืมใจ
1895.093 -> มันภาวนาไม่ได้
1897.313 -> เจริญปัญญาไม่ได้
1900.293 -> เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามรู้สึกตัวเอาไว้
1903.223 -> คอยรู้สึกกายรู้สึกใจไว้
1906.263 -> เมื่อวานหรือเมื่อวานซืน
1908.573 -> หลวงพ่อยังสอนพระองค์หนึ่งเลย
1910.713 -> พระในนี้ จะสึก
1913.773 -> หลวงพ่อบอกว่า
“เอาไปทำนะ 2 อันให้เกี่ยวกับกาย”
1922.343 -> หนึ่งรู้สึกถึงความมีอยู่ของกาย
1926.503 -> แค่รู้สึกถึงความมีอยู่ของกาย
1929.303 -> ไม่ใช่ไปนั่งเพ่งกาย
1931.743 -> อย่างนี้เราก็รู้สึกได้ถึงความมีอยู่ของกาย
1936.263 -> อันที่สองรู้สึกถึงความเคลื่อนไหว
เปลี่ยนแปลงของกาย
1941.561 -> ทีแรกเรารู้สึกอย่างนี้ มันมีกายอยู่
1944.611 -> แล้วเราก็รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว
เปลี่ยนแปลงของกาย
1948.231 -> เป็นสเต็ปที่ 2
1950.231 -> เช่น ร่างกายหายใจออก รู้สึก
1952.431 -> ร่างกายหายใจเข้า รู้สึก
1954.651 -> ร่างกายยืน รู้สึก
1956.301 -> ร่างกายเดิน ร่างกายนั่ง ร่างกายนอน รู้สึก
1960.301 -> ร่างกายเคลื่อนไหว รู้สึก
1962.061 -> ร่างกายคู้ ร่างกายเหยียด รู้สึก
1965.751 -> ร่างกายหยุดนิ่ง รู้สึก
1969.751 -> เกี่ยวกับกายนี้เราทำ 2 อัน
1972.441 -> อันหนึ่งรู้สึกถึงความมีอยู่ของร่างกาย
1977.001 -> อันที่สองรู้สึกเท่าทันความเคลื่อนไหว
เปลี่ยนแปลงของร่างกาย
1983.671 -> คอยรู้คอยดู
1985.391 -> นี้พูดภาษามนุษย์ธรรมดาในยุคนี้
1989.391 -> ถ้าพูดภาษาบาลีอะไรต่ออะไร
1991.701 -> ฟังแล้วต้องแปลเป็นไทย
1994.231 -> พอแปลแล้ว
ก็ต้องมาแปลไทยเป็นไทยอีกรอบหนึ่ง
1997.581 -> เพราะภาษาที่เราแปลบาลีนั้น
1999.571 -> เป็นภาษาสมัยรัชกาลที่ 5
2002.341 -> เราฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว
2004.391 -> ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจความหมาย
2007.091 -> ถ้าพูดง่ายๆ เลย
2008.851 -> รู้สึกถึงความมีอยู่ของร่างกาย
2012.001 -> รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว
เปลี่ยนแปลงของร่างกาย
2016.631 -> คอยรู้สึกๆ ไปเรื่อย
2019.261 -> ต่อไปปัญญามันจะเกิด
2021.361 -> มันจะเห็นเลยร่างกายนี้ไม่เที่ยง
2023.461 -> ร่างกายนี้เป็นทุกข์
2024.831 -> ร่างกายเป็นอนัตตา
2028.211 -> ในส่วนของการเจริญปัญญาทางจิตใจทำอย่างไร
2032.211 -> ก็มีหลัก 2 ตัวเหมือนกัน
2035.071 -> รู้สึกถึงความมีอยู่ของจิตใจ
2038.211 -> ความรู้สึกนึกคิดทั้งหลายอะไรมีอยู่ รู้สึก
2041.721 -> จิตใจมีอยู่ รู้สึก
2044.581 -> รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของจิตใจ
2047.741 -> นี่อีกช็อตหนึ่ง
2050.251 -> ดูกายแล้วก็รู้สึกถึงความมีอยู่ของกาย
2054.251 -> รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของกาย
2058.251 -> ดูจิตเรารู้สึกถึงความมีอยู่ของจิต
2062.251 -> รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของจิต
2067.131 -> ง่ายๆ
2069.399 -> ยากไหม
ที่จะรู้สึกว่าเรามีร่างกายอยู่ในขณะนี้
2074.029 -> ยากไหมที่จะรู้สึกว่าร่างกายกำลังนั่งอยู่
2079.259 -> แค่รู้สึก ไม่ได้นั่งเพ่ง
2081.889 -> ถ้านั่งเพ่งเครียดๆ ทำผิดแล้ว
2084.859 -> หลวงพ่อใช้คำว่า “รู้สึก” แค่รู้สึก
2088.649 -> เลี่ยงคำว่า “เห็น” เลี่ยงคำว่า “ดู”
2092.649 -> เพราะพวกเราพอบอกให้ดู
2094.369 -> ก็ดูเอาเป็นเอาตาย มันกลายเป็นเพ่ง
2097.339 -> ให้เห็นก็พยายามจะเห็น สอดส่ายใหญ่
2100.509 -> จิตใจยิ่งวุ่นวาย
2102.619 -> ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่รู้สึก
2105.889 -> รู้สึกไหมว่าเรามีร่างกายอยู่
2108.749 -> ใครไม่รู้สึกว่ามีร่างกายอยู่
2111.749 -> ไปหาหมอโรคจิตเลย
2114.299 -> แค่นี้รู้สึกไม่เป็น
2117.689 -> รู้สึกไหมร่างกายเคลื่อนไหว แค่รู้สึก
2121.689 -> แค่รู้สึกไม่ใช่ต้องมากำหนด
2125.689 -> คันหัว กึกๆๆ
2128.429 -> เคลื่อนมาทางนี้ยังไม่ถึงหัวเลย
2130.129 -> หัวหายคันไปแล้ว
2132.339 -> ไม่ได้กินหรอกอย่างนั้น
2136.199 -> สรุปก็คือ ถ้าเราอยากเจริญปัญญา
2140.199 -> รู้สึกถึงความมีอยู่ของกาย
2142.619 -> รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของกาย
2146.619 -> รู้สึกถึงความมีอยู่ของจิตใจ
2149.299 -> รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของจิตใจ
2153.299 -> จิตใจเราก็เคลื่อนไหว
2155.749 -> เดี๋ยวก็เคลื่อนไป
ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
2159.259 -> เดี๋ยวเคลื่อนไปคิด เคลื่อนไปเพ่ง
2161.749 -> เคลื่อนไปแสวงหาว่าจะดูอะไรดี
2165.169 -> เคลื่อนไปอดีต เคลื่อนไปอนาคต
2168.719 -> อันนี้พูดคำว่า “เคลื่อน”
2171.589 -> พูดในลักษณะที่เรารู้สึกอย่างนั้น
2174.829 -> ในความจริงแล้วมันไม่มีการเคลื่อน
2177.769 -> จิตเกิดที่ไหนดับที่นั้น
2179.509 -> แต่ว่าอันนั้นเอาไว้ค่อยเรียนทีหลัง
2181.849 -> ตอนนี้เราเห็นเท่าที่เราเห็นได้
2184.389 -> เราเห็นว่าจิตเราเคลื่อนไปทางตา
2187.159 -> เคลื่อนกลับมา
2188.489 -> เคลื่อนไปทางหู เคลื่อนกลับมา
2190.909 -> เคลื่อนไปอดีตแล้วก็กลับมา
2192.729 -> เคลื่อนไปอนาคตแล้วก็กลับมา
2195.449 -> นี่เราเห็นความเคลื่อนไหวของมัน
2198.146 -> เห็นความเปลี่ยนแปลงของมัน
2200.346 -> เดี๋ยวมันก็สุข เดี๋ยวมันก็ทุกข์
2202.326 -> เดี๋ยวมันก็ดี เดี๋ยวมันก็ร้าย
2205.066 -> คอยรู้สึกไปอย่างนี้
2207.786 -> เพราะฉะนั้นเรามีกาย
2209.626 -> เราก็รู้สึกถึงความมีอยู่ของกาย
2212.316 -> ไม่ลืม
2213.696 -> เวลาเราใจลอย กายเราก็มีอยู่แต่เราไม่รู้สึก
2218.6 -> อย่างนั้นไม่ได้เรื่อง
2220.96 -> แล้วก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง
2223.06 -> เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของกาย
2225.51 -> ในทางจิตใจ
เราก็รู้สึกถึงความมีอยู่ของจิตใจ
2229.02 -> เห็นมันเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงได้
2231.86 -> เราก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของจิตใจ
2235.28 -> รู้สึกไปเรื่อยๆ
2237.14 -> ถึงวันหนึ่งปัญญามันจะปิ๊งขึ้นมา
2240.67 -> โอ้ กายนี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
2243.76 -> จิตก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
2246.56 -> ไม่มีตัวเราในร่างกายนี้
2249.3 -> ไม่มีตัวเราในจิตใจนี้
2251.68 -> ไม่มีตัวเราในที่ไหนเลย
2255.1 -> นี่พูดภาษาของปีนี้
2258.29 -> ปีต่อไปก็อาจจะเปลี่ยน
2260.23 -> เพราะต้องเปลี่ยนภาษาไปเรื่อยๆ
2262.27 -> ตามพัฒนาการทางภาษา
2265.62 -> อย่างศัพท์หลายคำเป็นคำที่ดีๆ
2269.62 -> พัฒนาไปสู่ความย่ำแย่มาเป็นลำดับๆ
2274.64 -> อย่างเวียนเทียน
2276.81 -> เวียนเทียนเมื่อก่อนเป็นกิจกรรมดี
2279.31 -> เอามาใช้ในทางเสียหาย
2281.69 -> “มโน” แปลว่า “ใจ”
2283.67 -> ก็เอามาใช้เป็นเรื่องคิดเอาเอง ฟุ้งซ่าน
2287.67 -> ศัพท์ธรรมะเสียหายไปหมดเลย
2290.84 -> ส่วนศัพท์ที่ไม่ดีก็เอามาทำให้ดี
2294.84 -> อย่างคำว่า “มานะ”
เป็นชื่อของกิเลส ความถือตัว
2299.699 -> เราก็ไปคิดว่ามานะนี้ดี
2302.569 -> คนเราต้องมีมานะ พยายามอะไรอย่างนี้
2305.999 -> ภาษามันเคลื่อน
2308.409 -> ฉะนั้นเราอยากสื่อกับคนในรุ่นไหน
2312.409 -> เราก็ใช้ภาษาของคนรุ่นนั้น
2314.509 -> มันก็สื่อกันได้
2316.529 -> ถ้าไปใช้ภาษาคลาสสิก
2319.559 -> ภาษาในคัมภีร์ไม่มีใครฟังรู้เรื่อง
2324.679 -> ลองไปอ่านดู ฟังยาก
2328.929 -> ต้องแปล
2331.459 -> สรุปง่ายๆ รู้สึกถึงความมีอยู่ของกาย
2334.509 -> รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของกาย
2337.359 -> รู้สึกถึงความมีอยู่ของจิตใจ
2339.979 -> รู้สึกถึง
ความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของจิตใจ
2343.979 -> รู้สึกไปเรื่อยๆ
2346.259 -> ถึงจุดหนึ่งปัญญามันจะเกิด
2348.859 -> กายนี้ ใจนี้
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
2352.789 -> ไม่มีตัวเราตรงไหน
ที่เราบังคับได้สักอย่างเดียวเลย
2356.349 -> กายไม่ใช่เรา
2358.179 -> รู้สึกลงไปในกายที่หายใจอยู่เคลื่อนไหวอยู่
2363.151 -> มันรู้สึกทันที
2364.511 -> ถ้าจิตเราตั้งมั่นขึ้นมา มีสมาธิ
2367.369 -> มันเห็นทันทีเลยร่างกายไม่ใช่เรา
2369.499 -> อันนี้ง่ายที่สุดเลย
2371.319 -> ที่ยากคือการเห็นว่าจิตใจไม่ใช่เราต่างหาก
2375.319 -> เพราะฉะนั้นคนไหนเรียนไม่เก่ง
2378.479 -> ก็เรียนไปตามลำดับ
2380.149 -> เรียนชั้นประถม ชั้นมัธยม ชั้นอุดมศึกษา
2384.149 -> ถ้าเรียนเก่งก็สอบเทียบเอา
2386.079 -> พรวดเดียวจบปริญญาไปแล้ว
2391.039 -> ถ้าเรียนตามลำดับก็ดูกายดูอะไรไป
2394.539 -> ค่อยๆ ดูเป็นชั้นๆ ไป
2396.979 -> จนกระทั่งเข้าใจกายแล้วก็มาดูเวทนา
2399.829 -> เข้าใจเวทนาแล้วก็มาดูสังขาร
2402.799 -> เข้าใจสังขารแล้วมาดูจิตไป
2406.269 -> แต่ถ้าเรามีกำลังพอ
2409.609 -> เราดูเข้ามาเลย รู้สึกถึงความมีอยู่ของจิต
2413.209 -> รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของจิต
2418.239 -> รู้สึกเรื่อยๆ
2420.259 -> พอมันปิ๊งขึ้นมา จิตไม่ใช่เรา
2423.579 -> พอเห็นตรงนี้เท่านั้น
2425.409 -> ขันธ์ 5 จะไม่เป็นเราแล้ว
2427.209 -> เพราะขันธ์ 5 นั้นมันเกิดขึ้นมาด้วยจิต
2431.209 -> โลกนี้ จักรวาลนี้มีขึ้นมาได้
2434.349 -> ก็เพราะจิตไปรับสัมผัสเข้า
2437.249 -> ถ้าจิตไม่ใช่เราแล้ว
2438.709 -> ศูนย์กลางของจักรวาลคือจิตนั่นล่ะ
ไม่ใช่เราแล้ว
2442.509 -> ทั้งจักรวาลมันก็ไม่ใช่เรา
2445.279 -> มันก็จะล้างความเห็นผิด
2447.729 -> ขันธ์ 5 ไม่ใช่เรา ไม่มีเราในขันธ์ 5
2450.279 -> ไม่มีเรานอกเหนือจากขันธ์ 5
2452.209 -> ไม่มีเราที่ไหนเลย
2454.909 -> ตรงนี้เราจะได้ธรรมะขั้นต้น
เป็นพระโสดาบันแล้ว
2458.909 -> ต่อไปเราก็ดูอย่างเดิมนั่นล่ะ
2461.319 -> ดูไปเรื่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ
2464.539 -> สติปัญญามันแก่กล้าขึ้น
2466.669 -> มันก็จะเห็นความจริงที่ลึกซึ้งขึ้นไปอีก
2470.189 -> ร่างกายที่ว่ามันไม่ใช่เรา
2472.609 -> แล้วมันเป็นอะไร
2474.849 -> ร่างกายที่มันไม่ใช่เรานั้น มันเป็นอะไร
2477.589 -> มันเป็นทุกข์
2480.119 -> พอเห็นตรงนี้เท่านั้น มันวางกายเลย
2483.799 -> ปล่อยวางกายได้
2485.509 -> อันนี้ภูมิธรรมของพระอนาคามี
2489.129 -> ปล่อยวางกาย
2490.339 -> มันก็วางตา หู จมูก ลิ้น กายด้วย
2493.559 -> เมื่อตายังวางรูปมันก็วาง
2497.199 -> เมื่อหูมันวางเสียงมันก็วาง
2499.849 -> มันก็วางรูป เสียง
กลิ่น รส สัมผัสทางกายไปหมด
2503.849 -> เมื่อมันไม่ยินดียินร้าย
มันวางตา หู จมูก ลิ้น กาย
2509.289 -> มันวางรูป เสียง กลิ่น
รส โผฏฐัพพะคือสิ่งสัมผัสกายแล้ว
2514.059 -> ความยินดีคือกามฉันทะ
ในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ก็ไม่มี
2521.049 -> ความยินร้ายคือปฏิฆะ
ในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ก็ไม่มี
2527.044 -> นั่นล่ะคือภูมิธรรมของพระอนาคามี
2531.044 -> ในขั้นสุดท้ายมันจะมาแตกหักลงที่จิต
2535.424 -> เราก็อาจจะปฏิบัติเหมือนเดิม
2537.674 -> ดูกายของเราถ้าเราถนัดดูกาย ก็ดูไปเรื่อยๆ
2541.454 -> ท่านพระอานนท์
2543.214 -> ในคืนสุดท้ายที่จะบรรลุพระอรหันต์
2545.554 -> ท่านยังอยู่กับกายเลย
2547.614 -> ดูกายๆๆ ท่านแจ่มแจ้งแล้วว่ามันคือทุกข์
2551.384 -> ดูมันไปเรื่อยๆ
2554.234 -> ถึงจุดหนึ่ง
ท่านก็เห็นจิตมันก็ทุกข์เหมือนกัน
2558.234 -> ก็วาง
2560.464 -> วางทั้งกาย วางทั้งจิต
2562.664 -> ก็จบกิจในพระพุทธศาสนาตรงที่วางได้
2567.174 -> ฉะนั้นจุดสุดท้ายของเราคือวาง
2570.474 -> พอวางแล้วก็เข้าถึง
ความสุข ความสงบ เข้าถึงความว่าง
2575.514 -> ความว่างไม่ใช่ว่างเปล่า
2577.335 -> ความว่างเปล่ามันแห้งแล้ง
2579.225 -> หรือว่างแบบสมาธิ
มันก็แบบ แหม เคลิ้มมีความสุข
2583.325 -> อย่างนั้นยังไม่ว่าง
2585.515 -> ความว่างที่แท้จริงนั้น มันไม่มีอะไรเปรียบ
2591.704 -> ค่อยๆ ฝึก แล้วค่อยๆ พัฒนาตัวเองไป
2596.174 -> เส้นทางนี้ยาวไกล
2598.674 -> เส้นทางนี้ยากลำบาก ต้องอดทน
2602.374 -> แต่ไม่เหลือวิสัย
ที่คนธรรมดาอย่างพวกเราจะทำได้
2607.474 -> เพราะธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอน
2610.304 -> เป็นธรรมะที่พอดีที่มนุษย์ที่ใฝ่ดีจะทำ
2615.097 -> ทำได้
2617.587 -> ทำไมพระพุทธเจ้าเลือกเกิดในภูมิของมนุษย์
2621.587 -> เกิดในภพมนุษย์
2623.327 -> ทำไมต้องมาเกิดภพนี้
2625.517 -> ทำไมพระพุทธเจ้าไม่ไปตรัสรู้ที่อื่น
2628.767 -> มาตรัสรู้ในภพของมนุษย์
2632.257 -> มันเป็นภพกลางๆ อย่างที่บอกแล้ว
2635.057 -> เป็นภพที่ง่ายต่อการปฏิบัติ
2638.687 -> เพราะฉะนั้น ธรรมะที่ท่านสอนเรา
2641.547 -> เป็นสิ่งซึ่งมนุษย์ที่ใฝ่ดี
2644.847 -> จะขวนขวายปฏิบัติได้
2647.787 -> เพราะฉะนั้นงานสุดท้ายของพวกเรา
2650.057 -> คือปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม
2653.597 -> ตั้งอกตั้งใจเข้าไป
2655.567 -> วันหนึ่งเราก็จะได้ของดีของวิเศษ
2659.077 -> เราจะรู้เลย
สิ่งที่คนในโลกเขาแย่งชิงกันนั้น
2662.517 -> โง่ที่สุดเลย
2664.807 -> อย่างสมมติว่าแย่งสาวงาม
2667.447 -> มันแย่งอะไร
2668.567 -> มันแย่งหนังหุ้มกระดูก
2671.497 -> ข้างในเต็มไปด้วยของสกปรก
2673.877 -> แย่งกันแทบเป็นแทบตาย
2676.517 -> หรือพยายามหลอกลวงตัวเอง
2679.327 -> หน้าเหี่ยวก็ไปฉีด Botox
2682.537 -> หนังหน้ายานไปก็ดึงให้ตึง
2685.797 -> จมูกไม่โด่งก็ไปผ่าตัด
2688.537 -> ไปทำอย่างโน้นทำอย่างนี้
2690.737 -> มันหลอกตัวเองได้
2692.297 -> แต่มันหลอกความแก่ไม่ได้
2695.767 -> รูปร่างยังดูเป็นสาวอยู่
2698.747 -> แต่เครื่องในมันทรุดโทรม
2701.617 -> หลอกไม่ได้จริง
2704.077 -> ฉะนั้นคนในโลกเขาก็หลงๆ ไป
2707.277 -> เราลูกหลานพระพุทธเจ้า
2710.797 -> อย่าไปหลงกับมัน
2713.727 -> ทรัพย์สินเงินทอง
มีพออยู่พอกินได้ดีที่สุดแล้ว
2718.997 -> วางแผนเผื่ออนาคตด้วย
2720.977 -> ไม่ใช่บอกปล่อยวาง
2722.987 -> อนาคตเป็นอย่างไรช่างมัน นั้นไม่ใช่
2726.527 -> เป็นฆราวาสต้องรู้จัก
2728.757 -> พระพุทธเจ้ายังสอนให้รู้จักอดออม
2731.297 -> รู้จักลงทุน รู้จักอะไร
2734.037 -> ฉะนั้นเราก็ทำตามหน้าที่ของเรา
2740.146 -> แล้วพัฒนาตัวเองไป
2742.656 -> เราอยู่ในโลกนี้ชั่วคราว
2746.656 -> เรามาอยู่ในโลกนี้เพื่อพัฒนาจิตใจตนเอง
2750.656 -> ให้พ้นจากวงเวียนวัฏฏะของความทุกข์ทั้งหลาย
2755.5 -> เรามีงานที่ยิ่งใหญ่ที่เราจะต้องทำ
2759.5 -> เราผ่านความยากลำบากมามากมายแล้ว
2762.99 -> จนกระทั่งได้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
2766.06 -> มีศรัทธา
ได้เข้าใกล้ครูบาอาจารย์ ได้ฟังธรรม
2771.69 -> ทำชิ้นสุดท้ายของเราให้ดี
2774.04 -> ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม
2777.67 -> อย่างที่ว่ามาทั้งวันตั้งแต่เช้านี้
2782.19 -> ฟังไม่ทันก็ไปดู YouTube เอา
2785.81 -> สักประเดี๋ยวเขาก็จะเอาไปขึ้นให้ฟังแล้ว
2789.12 -> ฟังแล้วฟังอีก
2791.48 -> ปกติสิ่งที่หลวงพ่อสอนแต่ละครั้ง
2794.83 -> เกือบทั้งหมด
2796.23 -> ธรรมะแต่ละกัณฑ์เกือบๆ ทุกๆ กัณฑ์
2799.06 -> เกือบ ไม่ทั้งหมดหรอก
2801.5 -> กัณฑ์เดียวเรื่องเดียว
2804.84 -> พอจะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
2808.66 -> เพราะสิ่งที่สอนไม่ได้มีการเก็บออม
ซ่อนเร้น เคล็ดวิชาชั้นสูงเอาไว้
2814.827 -> ไม่ได้ซ่อนไว้ ให้หมดแล้ว
2819.197 -> อยู่ที่เรารับได้แค่ไหนต่างหาก
2823.654 -> ไปทำเอา ชีวิตจะได้ร่มเย็นเป็นสุข
2833.923 -> หมายเลข 1: ได้รู้เห็นจากการภาวนามากขึ้น
2839.714 -> จิตรวม กายหาย รู้สึกกลัว
2843.924 -> จิตติดในห้องมืดที่หนืดเหนียว
2847.304 -> มีควันธูปผุดขึ้น แตกสลายเมื่อถูกเห็น
2851.304 -> จิตดิ้นรนหนี
2853.234 -> ขณะแหวกออก
2855.154 -> มีแสงสีขาวสาดสวนมาสว่างจ้า
2858.684 -> หลุดออกมาอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าสดใส
2861.694 -> เบิกบานถึงขีดสุด
2863.864 -> ชั่วอึดใจ กลับมารู้สึกตัว
2866.374 -> นั่งยิ้ม น้ำตาเอ่อท้น สติเต็ม
2870.374 -> เบิกบานเกือบ 1 วัน
2872.314 -> ขอหลวงพ่อเมตตาชี้แนะการภาวนาต่อไปครับ
2891.28 -> ภาวนาดี ใช้ได้
2895.28 -> เราภาวนา เราก็จะเห็น
2897.38 -> จิตเราถูกขังอยู่ในห้องมืด
2902.16 -> ผนังกำแพงของมันทั้งเหนียว ทั้งหนา
2906.16 -> คำว่า “เหนียว” คำว่า “หนา” คือ
คำว่า “ปุถุชน” นั่นเอง
2910.32 -> จิตมันถูกขังอยู่
2912.84 -> เราค่อยภาวนา มันค่อยแหวกออกมา
2915.6 -> แหวกออกมาจากที่มืดไปสู่ที่สว่าง
2919.24 -> จากที่สกปรก ชื้นแฉะ ไปสู่ที่แห้งๆ
2923.63 -> ค่อยดีขึ้นๆ ค่อยฝึกเอา
2930.4 -> ตรงที่เห็นนั้นบางส่วนเห็นจริง
บางส่วนเป็นนิมิต
2936.129 -> มันยังไม่ใช่อริยมรรค
2939.249 -> เพราะความเป็นตัวตนของเรายังอยู่
2943.639 -> เราทำต่อไปอีก
2946.469 -> นิมิตเกิดขึ้นมา
2948.349 -> มันเป็นอำนาจของสมาธิทั้งสิ้นเลย
2951.279 -> เป็นแสงสว่าง มีปีติ น้ำหูน้ำตาตก
2955.279 -> เป็นอำนาจของสมาธิ
2958.759 -> เราไม่ยึดไม่ถือมัน
2961.219 -> ที่สำคัญคือคอยรู้ทัน
2964.149 -> รู้ถึงความมีอยู่ของกายของใจ
2966.569 -> รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของกายของใจ
2969.649 -> คอยรู้สึกไปเรื่อยๆ
2972.849 -> ถึงเวลาก็มาไหว้พระ สวดมนต์
2976.189 -> ทำสมาธิ เดินจงกรม อะไรก็ทำไป
2979.589 -> ให้จิตมีกำลัง
2981.549 -> แล้วก็เดินปัญญาดูกาย ดูใจมันทำงานต่อไป
2986.409 -> ฝึกมาได้ดีอยู่
2989.119 -> แต่ว่าอย่าไปหลงกับพวกนิมิต
แสง สี เสียง ทั้งหลาย
2994.748 -> นิมิตมันก็สนุก
2997.708 -> ไปเจอใหม่ๆ โห สนุก เห็นอะไรได้แปลกๆ
3003.288 -> นิมิตไม่ได้มีเฉพาะรูปที่เห็น
3005.903 -> เสียงก็มี นิมิตเสียงก็มี เคยเจอไหม
3009.613 -> นั่งสมาธิแล้วได้ยิน ได้ยิน
3013.532 -> บางทีเทวดามาบอกหรือพระพุทธเจ้ามาสอน
3017.612 -> นิมิต
3020.452 -> อย่าไปหลงกับมัน
3022.712 -> อยู่กับปัจจุบันไป รู้ทันกิเลสของเราไป
3027.242 -> รู้สึกกาย รู้สึกใจ ไป
3029.622 -> ดี ทำอีก
3033.622 -> เบอร์ 1 จิตมันยังฟุ้งอยู่นะ
3036.642 -> จิตมันยังฟุ้งอยู่
3040.162 -> ฉะนั้นเราสะสม ให้จิตตั้งมั่น
3043.552 -> ทำกรรมฐานไปเรื่อยๆ
3045.252 -> จิตมันจะมีกำลังตั้งมั่นขึ้นมา
3048.752 -> แล้วคราวนี้นิมิตมันหลอกเราไม่ได้
3052.242 -> นิมิตมันมาตอนสมาธิเราไม่เต็ม
3059.107 -> หมายเลข 2: ปฏิบัติในรูปแบบ
3062.857 -> โดยดูลมหายใจเป็นวิหารธรรม
3065.857 -> เวลาภาวนาจะรู้สึกแน่นๆ
3068.847 -> หายใจแล้วหนักๆ อึดอัด
3071.477 -> จำได้ว่าหลวงพ่อบอกว่าให้ปล่อยสบายๆ
3075.257 -> ไม่ไปบังคับจิต
3077.077 -> ก็พยายามทำสบายๆ
3079.387 -> แต่ก็ไม่แน่ใจว่าทำถูกหรือเปล่า
3082.277 -> ระหว่างวันหลงบ่อยค่ะ
3086.277 -> แรกๆ มันก็ต้องตั้งใจไว้ก่อน
3089.317 -> มันก็ตึงนิดหน่อย ไม่เป็นไร
3092.687 -> ถ้าแรกเริ่มต้นจะให้พอดี จะให้สบายๆ
มันจะหลง
3097.797 -> จะหลงง่าย
3100.207 -> ฉะนั้นเบื้องต้นตึงไว้นิดหนึ่ง
3102.757 -> หนักนิดหนึ่งไม่เป็นไร เป็นทุกคน
3106.267 -> แต่เบื้องต้นจะให้พอดีจะหย่อนทันทีเลย
3110.267 -> แล้วจิตจะหลงไป
3113.097 -> ฉะนั้นอยู่กับเครื่องอยู่ของเราไปเรื่อยๆ
3117.758 -> ไม่ได้อยู่แบบนี้
3121.758 -> รู้สึกถึงความมีอยู่ของกายของใจ
3125.268 -> แค่รู้สึกถึงความมีอยู่ของมัน
3131.718 -> เออ นั่นล่ะ จิตมันจะอยู่ในระดับนี้
3135.318 -> มันไม่ได้หนักเกินไป ไม่ได้เบาเกินไป
3139.318 -> ตรงนี้หนักเกินไปแล้ว
3142.868 -> เห็นไหม เราไปเพ่งเข้าแล้ว
3145.148 -> แล้วโมหะแทรก จิตมันมัวๆ ไป
3156.708 -> เอาอีกแล้ว หุบเข้าไปอีกแล้ว
3159.008 -> หุบเข้าไปทำไม
3162.268 -> เราเป็นดอกบัวบาน ไม่ได้เป็นดอกบัวหุบ
3167.198 -> รู้สึกๆๆ ไปสบายๆ
3175.328 -> เออ หายใจไป
3182.638 -> เห็นไหม ร่างกายมันหายใจ
3187.188 -> ไม่ได้ดูแค่ลมหายใจนะ
3189.958 -> รู้สึกกายทั้งกาย
3194.578 -> เออ อย่างนั้นล่ะ
3200.128 -> หมายเลข 3: ในรูปแบบใช้การเดินจงกรม
3205.228 -> มีกายเป็นเครื่องอยู่แล้วตามดูจิต
3208.568 -> ส่วนใหญ่จะเห็นแต่จิตมีโทสะ
3211.498 -> จิตฟุ้งซ่าน
3213.108 -> จิตที่คอยบงการ สั่งให้ทำโน่นทำนี่
3216.688 -> รู้สึกมีน้ำหนักที่กลางอก
3219.258 -> หนักบ้างเบาบ้างทั้งวัน
3221.828 -> ภาวนาผิดตรงไหน ขอหลวงพ่อเมตตาชี้แนะ
3225.828 -> ไม่ผิดหรอก เป็นอย่างนั้นล่ะ
3229.828 -> เดี๋ยวก็หนัก เดี๋ยวก็เบา
3231.638 -> เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย
3233.748 -> เดี๋ยวก็โลภ เดี๋ยวก็โกรธ เดี๋ยวก็หลง
3236.618 -> นั่นล่ะอย่างนั้นล่ะ ถูกแล้ว
3240.908 -> คือเรารู้อย่างที่มันเป็น
3244.188 -> เราเป็นคนทำอะไรจริงจัง
3247.258 -> ในทางโลกเราก็จริงจัง
3250.258 -> มันก็จะรู้สึกไม่ได้อย่างใจ
3253.258 -> คนนั้นไม่ได้อย่างใจ คนนี้ไม่ได้อย่างใจ
3256.698 -> พอมาปฏิบัติ
ตัวเองก็ไม่ได้อย่างใจตัวเองอีก
3260.698 -> โทสะมันก็เต็มไปหมด
3263.548 -> ให้รู้ไปเรื่อยๆ
3265.548 -> รู้ทันมันอย่างที่ทำนั่นล่ะถูกแล้ว
3269.268 -> แต่จุดสำคัญให้เวลากับตัวเองเยอะขึ้นหน่อย
3274.802 -> ให้เวลากับตัวเองให้มากๆ ขึ้น
3279.034 -> งานหลักของเราคือช่วยตัวเองก่อน
3282.214 -> ฝึกตนดีแล้วค่อยฝึกผู้อื่น
3287.374 -> ถ้าเรายังห่วงคนโน้น ห่วงคนนี้อยู่
3289.994 -> ใจเราจะไม่มีแรง
3291.744 -> มันจะวอกแวกๆ ไป
3294.684 -> ไม่ห่วงใครนะ
3296.984 -> เรียนรู้ตัวเองให้เต็มที่เลย
3299.134 -> ต่อไปเราก็จะมีกำลังที่จะไปช่วยคน
ได้อีกเยอะแยะ
3308.394 -> หมายเลข 4: ปฏิบัติในรูปแบบ
3312.394 -> เดินจงกรมเป็นประจำ
3314.674 -> ระหว่างวันพยายามรู้ตัว
3317.294 -> ทำให้เห็นอารมณ์
และความฟุ้งของตัวเองได้ชัดขึ้น
3321.294 -> เมื่อนั่งสมาธิ ช่วงแรกจะเห็นแสง
3324.854 -> พอนั่งสักพักจะรู้สึกเหมือนหลับแต่รู้ตัว
3328.854 -> ที่ทำอยู่ถูกต้องหรือไม่คะ
3331.204 -> ถูก ต้องทำอีก
3334.454 -> กำลังของจิตยังไม่พอ
3337.304 -> ทำไปอีก ทำในรูปแบบนั่นล่ะ
3340.304 -> แล้วก็ออกจากการทำสมาธิมาแล้ว
3342.924 -> ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบอารมณ์แล้ว
3345.747 -> จิตใจเราเปลี่ยนแปลง เราคอยรู้สึกไว้
3349.747 -> จิตใจมันเปลี่ยนเร็ว รู้สึกไหม
3352.247 -> ปั๊บๆๆๆ ตลอดเวลา
3354.327 -> เราก็แค่รู้
3356.357 -> แล้วพอรู้ไปนานๆ จิตมันจะเหนื่อย
3359.277 -> เราก็กลับมาทำสมาธิใหม่
3362.267 -> สะสมอย่างนี้จิตจะค่อยๆ มีกำลังมากขึ้น
3366.267 -> กำลังอะไร กำลังของสติ
3368.737 -> กำลังของสมาธิ กำลังของปัญญา
3371.257 -> มันก็จะเยอะขึ้นๆ
3377.177 -> กำลังมันมี 5 อัน
ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา
3382.897 -> อย่างศรัทธา พวกเราก็มีอยู่แล้ว
3385.617 -> นี้บางคนศรัทธาอ่อน
3387.387 -> เดี๋ยวก็ศรัทธา เดี๋ยวไม่ศรัทธา
3389.757 -> แกว่งไปแกว่งมา
3391.867 -> ของเบอร์ 4 จิตมันมีศรัทธา
3394.577 -> มันมีความเพียร เจริญสติ เจริญสมาธิให้มาก
3400.415 -> แล้วต่อไปปัญญามันก็เกิด
3403.795 -> ดี ที่ทำอยู่
3407.535 -> หมายเลข 5: คนในบ้านบอกว่า
หนูนิสัยดีขึ้นนิดหน่อย
3413.382 -> ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะภาวนาถูกต้องหรือไม่
3417.352 -> มีเผลอ มีเพ่ง มีหลง
มีความอยากดี อยู่บ่อยๆ
3422.522 -> หนูควรปรับตรงไหนคะ
3424.752 -> ไม่ต้อง ที่ทำอยู่ถูกแล้ว สะสมไป
3429.522 -> แล้วเราจะเปลี่ยนแปลง
3433.062 -> สอนกรรมฐานคนในบ้านนี้ยากที่สุด
3436.282 -> คนใกล้ตัวสอนยากที่สุด
3439.142 -> เราพูดด้วยปากเขาไม่เชื่อเรา
3442.152 -> เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เขารู้สึก
3444.442 -> ให้เขาเห็น
3446.222 -> อย่างเบอร์ 5 เราก็ภาวนาของเราเรื่อยๆ
3449.122 -> ต่อไปคนในบ้านเรา คนรอบๆ ตัวเรา
3452.152 -> เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงของเรา
3454.702 -> เขาถึงจะเชื่อว่า การปฏิบัติมีผลดีจริงๆ
3459.202 -> ฉะนั้นการที่เราภาวนาแล้วดีขึ้นๆ
3462.222 -> ไม่ได้เป็นประโยชน์เฉพาะตัวเราเอง
3465.222 -> แต่เป็นประโยชน์กับคนที่แวดล้อมเราอยู่ด้วย
3468.962 -> ดี ถ้าเราขี้โมโหโทโส เราเซลฟ์จัด
3473.082 -> คนรอบตัวเราก็ลำบากไปด้วย
3476.172 -> เราสะสมคุณงามความดีขึ้นมา
3478.792 -> คนรอบตัวเราก็สบายไปด้วย
3481.732 -> ดีแล้ว ทำอีก ทำไปเรื่อยๆ
3485.732 -> เบอร์ 6 คิดเยอะไป
3488.572 -> หมายเลข 6: เริ่มฝึกนั่งสมาธิแบบวิปัสสนา
3493.272 -> จากการฟังยูทูปของหลวงพ่อ
3495.982 -> แล้วค่อยๆ จับจุดเรียนรู้ด้วยตัวเอง
3499.572 -> แต่ก็ไม่แน่ใจว่า
การภาวนาของหนูถูกต้องแล้วหรือไม่
3503.762 -> ขอหลวงพ่อชี้แนะกรรมฐานที่เหมาะกับหนูค่ะ
3511.182 -> รู้สึกร่างกายให้มาก
3515.559 -> รู้สึกร่างกายเยอะๆ
3520.079 -> ร่างกายหายใจ รู้สึก
3522.679 -> ร่างกายเคลื่อนไหว รู้สึก
3526.679 -> ลองยิ้มซิ ยิ้ม
3529.719 -> ร่างกายยิ้มก็รู้สึก
3531.599 -> รู้สึกไหมร่างกายกำลังยิ้มอยู่
3534.199 -> ร่างกายพยักหน้า รู้สึก
3536.889 -> คอยรู้สึกไปเรื่อยๆ
3539.759 -> ถ้าเราหลงเมื่อไร เราก็ลืมกายของเรา
3543.219 -> ใช้กายเป็นวิหารธรรมไว้
3545.689 -> รู้สึกกายไป ต่อไปมันจะเห็นจิตได้ชัดเจนเอง
3551.419 -> ใช้กายเป็นเครื่องอยู่ รู้สึกๆ ไป
3555.519 -> เพราะเราเป็นคนรักสวยรักงามอยู่เหมือนกัน
3560.329 -> ก็ดูร่างกายไป
3564.509 -> แล้วจิตมันจะเด่นขึ้นมา
3566.889 -> มันจะชัดขึ้นมาทีหลัง
3569.769 -> อยู่ๆ จะไปดูจิต มันจะฟุ้ง
3574.062 -> เราก็จะเที่ยวหาจิตเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
3577.092 -> จิตอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้
3579.692 -> จะดูอย่างไรก็ไม่รู้
3581.612 -> จะเอาอะไรไปดูก็ไม่รู้
3583.312 -> ไม่รู้สักอย่าง
3585.272 -> รู้สึกกายไว้ จิตมันหนีเก่ง
3589.412 -> แต่กายมันไม่เคยหนีไปไหน
3592.712 -> เพราะฉะนั้นรู้สึกกายๆ ไป
3594.892 -> แล้วพอจิตมันมีสมาธิ มันมีกำลัง
3597.712 -> มันเห็นจิตได้เอง
3603.312 -> ของเบอร์ 6 ยังฟุ้งซ่านเยอะ
3605.893 -> เพราะฉะนั้นรู้สึกกายไว้ สมาธิมันจะเพิ่ม
3610.353 -> หมายเลข 7: ทำในรูปแบบ
3613.473 -> จิตยังหลงคิดยาว ฟุ้งซ่าน
3616.643 -> เคยเห็นว่ากายไม่ใช่เรา
3619.003 -> เห็นจิตเป็นอนัตตา บังคับไม่ได้
3621.893 -> แต่ก็ไม่แน่ใจว่า คิดไปเองหรือไม่
3625.213 -> ผมสามารถเริ่มทำวิปัสสนาได้หรือยังครับ
3632.213 -> อย่าไปทำจิตให้มันสงบอ้อยส้อย อ้อยอิ่ง
3637.127 -> สงบก็ช่าง ไม่สงบก็ช่าง
3640.207 -> อย่าไปแกล้งทำสงบ
3642.427 -> มันไปแต่งจิตให้เคลิ้มๆ เบลอๆ
3644.727 -> ไม่เอา รู้สึกตัวขึ้นมา
3647.487 -> ความรู้สึกตัวสำคัญที่สุด
3650.987 -> รู้สึกตัวไว้
3653.417 -> ลืมตาได้ไหม ลืมตา รู้สึกตัว
3659.117 -> ที่ทำอยู่ ดี ใช้ได้
3663.117 -> แต่มันติดในการน้อมจิตให้เคลิ้มๆ ลงไป
3668.485 -> อย่าน้อมจิตลงไป รู้สึกๆ ร่างกายไว้
3675.2 -> พอจิตมันมีกำลังแล้ว
3677.29 -> จิตมันจะเด่นขึ้นมา
3681.29 -> ตรงนี้จิตหลงคิด รู้ว่าจิตหลงคิด
3689.22 -> พยายามลืมตานะ
3691.56 -> ลืมตา ทำกรรมฐาน
3695.08 -> ถ้าหลับแล้วมันเคยชิน
จะน้อมเข้าหาความเงียบๆ ซึมๆ ไป
3699.7 -> ลืมตา รู้สึกตัวๆๆ ไป
3705.815 -> ภาวนาได้ดีนะเบอร์ 7 ใช้ได้เลย
3710.237 -> ยังไปติดเวลาเข้าไปทำอยู่ข้างในแล้วมันซึม
3718.171 -> เราอย่าไปติดอยู่ข้างใน
3725.301 -> เออ อยู่ระดับนี้ถึงจะได้
3728.96 -> ลึกกว่านี้ไม่ได้
3731.07 -> ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวก็หลับ
3733.84 -> ตื้นกว่านี้ก็ฟุ้ง
3741.57 -> พอเราอยู่ตรงกลางนี้แล้ว
3745.11 -> สังเกตไหมเวลาจิตมันหนีไปคิด
3747.27 -> เราก็รู้ว่ามันหนีไปคิดได้
3753.18 -> มันยังชินที่จะน้อมให้ลึกๆ เข้าไป
3756.33 -> แล้วไปซึมอยู่ข้างใน
3759.03 -> อย่าเข้าไปลึก
3768.198 -> อย่าพยายาม
3772.198 -> เห็นไหมจิตมันขำขึ้นมาได้เอง
3782.248 -> อยู่ระดับนี้ อันนี้ลึกลงไปแล้ว
3788.188 -> เออ อยู่ระดับนี้นะ
3790.368 -> แล้วเราจะเห็น
ความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของจิต
3793.578 -> โดยเราไม่เคลิ้ม
3796.928 -> เห็นไปๆ เวลาจิตรวม รวมปุ๊บลงไป
3800.928 -> โลกธาตุดับ ร่างกายหาย เหลือจิตดวงเดียว
3804.928 -> ไม่ดับไปด้วย
3808.158 -> มีสติกำกับอยู่ตลอดสายเลย
3815.204 -> จิตหลงไปคิดรู้ว่าจิตหลงไปคิด
3835.297 -> ตรงนี้ยังใช้ได้
3838.127 -> ตรงนี้มันเป็นการไปเดินปัญญาในสมาธิ
3849.482 -> นั่นล่ะ จิตทรงอยู่ระดับนี้
3851.732 -> แล้วมันจะเดินปัญญาได้
3854.592 -> ถ้าซึมลงไป ลึกลงไปนั้นไม่ได้เรื่อง
โมหะแทรก
3863.369 -> หมายเลข 8: ปฏิบัติในรูปแบบ
3866.589 -> ด้วยการดูกายหายใจเป็นหลัก
3869.619 -> เคยเห็นกายเป็นแค่ยานพาหนะ
3871.889 -> ที่อยู่ใต้อำนาจของจิต
3874.299 -> เคยเห็นสภาวะกุศลและอกุศล
3877.059 -> มีน้ำหนักเท่ากัน แล้วก็เสื่อมไป
3880.269 -> สติอัตโนมัติในชีวิตประจำวันยังเกิดน้อย
3884.269 -> เห็นแต่กิเลสหยาบๆ
3886.249 -> เวลาภาวนาในช่วงงานเยอะแรงจะไม่พอ
3890.249 -> หรือช่วงที่คลุกคลีกับคนมาก
3892.569 -> ใจจะฟุ้งซ่านมาก
3894.489 -> ควรจะปรับปรุงการภาวนาอย่างไรคะ
3898.015 -> ช่วงที่ต้องคลุกคลีกับคน
3900.615 -> สมมุติว่าเรามีงาน
3902.065 -> ช่วงกลางวันต้องยุ่งกับคนเยอะแยะ
3904.645 -> ก็ทำงานของเราไป
3907.7 -> ทำไปแล้วใจเราเกิดไม่ชอบ
3910.53 -> ใจเราหงุดหงิด ก็ค่อยรู้เอา
3915.994 -> แล้วสังเกตตัวเองได้เป็นระยะๆ ก็ดี
3921.753 -> คล้ายๆ เบรก มีคอฟฟี่เบรก
3925.203 -> แต่เราไม่ใช่คอฟฟี่เบรกไปกินกาแฟ
3928.713 -> เราวุ่นวายกับคน มีจังหวะหลบสักนิดหนึ่ง
3933.163 -> มาทำความรู้สึกตัว
3935.813 -> ให้จิตมันมีความรู้เนื้อรู้ตัวขึ้นมาใหม่
3941.213 -> เราอย่าตะลุมบอน
10 ชั่วโมง 8 ชั่วโมงอย่างนั้น
3945.733 -> จิตจะไม่มีแรงแล้ว
3947.523 -> ตกค่ำไปภาวนาก็หลับ
3950.063 -> แต่ถ้ากลางวันเรามีการเบรก
3954.063 -> เบรกมารู้สึกตัว
3955.553 -> รู้สึกตัวเป็นช่วงๆ
3957.753 -> จิตเราจะมีกำลัง
3959.713 -> ไปนั่งสมาธิกลางคืน มันจะไม่ค่อยหลับหรอก
3965.923 -> เราวัยทำงาน เราก็ต้องทำงาน
3968.863 -> มันเป็นหน้าที่
3970.883 -> หน้าที่อะไร หน้าที่เลี้ยงตัวเอง
3974.883 -> หน้าที่เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่
3976.793 -> เลี้ยงครอบครัว
3978.883 -> ก็ทำงาน ทำหน้าที่
3982.103 -> แล้วก็งานทางใจ
3984.243 -> มันไม่ได้ว่าต้องไปเลิกงานทำมาหากินก่อน
3988.603 -> ถึงจะไปปฏิบัติได้ ไม่ใช่
3991.243 -> มีเวลาเมื่อไร เราก็รู้สึกตัว
3994.583 -> หายใจไปเห็นร่างกายหายใจ
3996.993 -> ใจเป็นคนดูไป
3999.762 -> ตะลุมบอนอยู่กับงาน
4002.102 -> ถึงเวลาเดินไปห้องน้ำ เห็นร่างกายมันเดิน
4005.472 -> เห็นร่างกายมันหายใจไป
4007.752 -> เบรกตัวเองอย่างนี้
4009.352 -> หลวงพ่อเมื่อก่อนก็ใช้อย่างนั้น
4011.242 -> ทำงานชุลมุนวุ่นวาย
4013.072 -> ก็มีเบรกตัวเองนิดหน่อย 5 นาที 3 นาที
4018.232 -> เบรก
4020.442 -> แล้วเราเก็บให้หมดเลย เวลาเล็กๆ น้อยๆ
4025.372 -> จิตจะได้มีแรง
4030.382 -> เอ้า วันนี้เท่านี้
4038.692 -> วันนี้พวกที่อยู่ในห้อง ส่วนใหญ่ก็โอเค
4044.07 -> จิตใจก็สดชื่นมีเรี่ยวมีแรง
4047.86 -> บางคนก็เบื่อ ไม่รู้มาทำไม
4060.194 -> ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท
4066.144 -> ไม่ประมาทสักเรื่องเดียวเลย
4069.424 -> อย่างเราทำมาหากินอยู่
4071.614 -> ตอนนี้เราทำมาหากินได้
4074.724 -> เราก็ไม่ประมาทว่ามันจะต้องได้รายได้ดีตลอด
4080.437 -> ก็รู้จักเก็บออม รู้จักลงทุนอะไรที่มันดีๆ
4084.557 -> ไม่ใช่เป็นเหยื่อให้เขาหลอก
4090.252 -> ไม่ประมาทในวัยของเรา
4094.522 -> จะหนุ่มสาวตลอดกาล ก็เป็นไปไม่ได้
4098.522 -> ไม่ประมาทในความแข็งแรง
4101.752 -> มีโยมคนหนึ่งเพิ่งได้ข่าว
4106.412 -> แข็งแรง กล้ามเป็นมัดๆ เลย
4110.412 -> เจอ โอ้โห ฟิตเปรี๊ยะ แข็งแรงมากเลย
4113.672 -> ตายแล้ว อายุ 59 ปีหัวใจวายไปแล้ว
4122.943 -> เราไม่ประมาทในวัย ยังหนุ่ม ยังสาว
4127.314 -> วันเวลาผ่านเร็วมากเลย แป๊บเดียวก็แก่แล้ว
4130.904 -> ไม่ประมาทในชีวิตเรา ตายเมื่อไรก็ไม่รู้
4137.914 -> ฉะนั้นเราไม่ประมาท
4140.704 -> อยู่กับโลก อยู่กับความเปลี่ยนแปลง
4143.523 -> อย่างรู้เท่าทันมัน
4146.233 -> ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวังตลอดหรอก
4149.643 -> เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
4152.233 -> รู้ไป เท่าทันมันไป
4155.653 -> ทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา
4158.083 -> จะสุขหรือทุกข์
4159.593 -> จะดีหรือชั่ว
4161.593 -> จะมีลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
4164.013 -> เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์
4166.263 -> ไม่ว่าตัวไหนผ่านเข้ามา รู้มันเข้าไป
4170.693 -> มีลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แล้วใจลำพอง รู้ทัน
4175.153 -> ประมาทไม่ได้หรอก มันเสื่อมได้
4178.293 -> เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์
ใจท้อแท้ รู้เข้าไป
4182.743 -> มันคงไม่เลวทรามตลอดไปหรอก
4186.283 -> เพราะมันไม่มีอะไรเที่ยง
4188.113 -> กระทั่งความทุกข์ มันก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน
4193.616 -> อันนี้คือทุกขเวทนา
4196.566 -> ถ้าทุกขสัจจะ ทุกข์แน่นอนถ้ามีขันธ์
4201.106 -> ตรงที่มีความสุขอยู่ก็ทุกข์
4203.276 -> อันนั้นเป็นอีกระดับหนึ่ง
4205.716 -> ฉะนั้นธรรมะระดับที่อยู่กับโลก
4209.236 -> ก็ดูไปทุกอย่างมันชั่วคราว
4212.716 -> เวลามีความทุกข์ก็ดูไป
4214.826 -> ทุกข์นี้ก็ชั่วคราว เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
4219.616 -> อย่างโควิด
มาทีแรกเมื่อปี 2563 ต้นปีตั้งแต่นั้น
4227.861 -> ทีแรกเราก็คิดว่าไม่กี่เดือนคงหมด
4231.141 -> เดี๋ยวมีวัคซีนแล้วคงหาย คงสบาย
4235.141 -> มันก็ไม่สบายมาเรื่อยๆ
4237.341 -> มันเข้าปีที่ 3 ปีที่ 4
4241.541 -> มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด
4244.711 -> แล้วมันก็ไม่ได้เลวร้าย
4247.571 -> ถึงวันหนึ่งมันก็ต้องผ่านไป
4251.571 -> ถ้าเราอยากให้โรคระบาดหายไปทันที
4256.241 -> เป็นความอยากที่ไร้เดียงสา
4259.831 -> ฉะนั้นดูอยู่กับมัน ไม่ว่าอะไร
4263.081 -> จะดีหรือจะชั่ว
4264.261 -> จะสุขหรือจะทุกข์
4265.662 -> อยู่กับมันอย่างเท่าทันมัน
4268.082 -> เท่าทันในแง่ที่ว่า
ทุกอย่างมันไม่ยั่งยืนหรอก
4272.562 -> ถ้าเราอยู่อย่างนี้เรียกว่าเราไม่ประมาท
4278.182 -> ถ้าเราอยู่แบบไม่เข้าใจมันนั่นล่ะ
4280.771 -> ดำเนินชีวิตด้วยความประมาท
4286.481 -> เอ้า เชิญกลับบ้าน
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=LY_veDIsZmw