[PODCAST] Food Choice | EP.20 - อาหารชะลอจอประสาทตาเสื่อม

[PODCAST] Food Choice | EP.20 - อาหารชะลอจอประสาทตาเสื่อม


[PODCAST] Food Choice | EP.20 - อาหารชะลอจอประสาทตาเสื่อม

โรคจอประสาทตาเสื่อมเกิดขึ้นได้เฉพาะในผู้สูงอายุจริงหรือไม่ ?
แท้จริงแล้วโรคจอประสาทตาเสื่อมไม่ได้มีแค่เรื่องอายุ แต่ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมาย และอาการแบบไหนถึงเรียกว่าจอประสาทตาเสื่อม มุมมองภาพจะเปลี่ยนไปอย่างไร การมีสายตาสั้นหรือสายตายาวมีความเกี่ยวข้องหรือก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคหรือไม่ ?

ในวันนี้รายการ Food Choice : กินดีสุขภาพดีเลือกได้ กับหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล จึงจะมาตอบทุกคำถามพร้อมชวนทำความรู้จักโรคจอประสาทตาเสื่อม เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงก่อนวัยอันควร อีกยังแนะนำวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมพร้อมอาหารที่ช่วยชะลอจอประสาทตาเสื่อมหรือบำรุงสายตา แต่ถ้าหากมีอาการรุนแรง แนะนำให้พบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยรักษาตามอาการต่อไป
__________________
#FoodChoice
#MahidolChannelPODCAST
#MahidolChannel
#คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหิดล #MURA
––––––––––––––––––––
📌ช่องทางการฟัง Podcast
Apple Podcasts: https://apple.co/2Oxp5FN
Spotify: https://spoti.fi/31v1Rmx
Anchor: https://anchor.fm/mahidolchannel
––––––––––––––––––––
YouTube:    / mahidolchannel​​  
Facebook: http://www.facebook.com/mahidolchannel​​
Mahidol University มหาวิทยาลัยมหิดล: https://www.mahidol.ac.th/th​​
Website | https://channel.mahidol.ac.th/
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล | https://med.mahidol.ac.th


Content

0.001 -> [เสียงดนตรี]
3.282 -> You're listening to Mahidol Channel Podcast.
6.136 -> Listen for a better life.
8.953 -> ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
11.32 -> และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel
14.88 -> โดย มหาวิทยาลัยมหิดล
16.931 -> [เสียงดนตรี]
22.728 -> วันนี้คุณกินอะไร
24.752 -> อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร
29.44 -> วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย
31.59 -> เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา
35.581 -> กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋
40.371 -> แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
42.459 -> คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
46.644 -> [เสียงดนตรี]
49.54 -> สำหรับวันนี้ เราจะมาคุยกันในเรื่องของ อาหารชะลอจอประสาทตาเสื่อม
54.545 -> โรคนี้ใช่ไหมคะ ก็ได้ยินกันบ่อย ๆ เนอะ
57.958 -> ดวงตาเป็นสิ่งที่สำคัญ
60.208 -> ไม่มีใครอยากจะสูญเสียการมองเห็นนะคะ
63.068 -> เรามองไม่ชัด เราก็แย่แล้ว
64.943 -> แต่ทีนี้ถ้าบางคนมีปัญหาเรื่องสุขภาพตาด้วย
68.433 -> เราก็มาดูกันว่าเราจะทำอย่างไรดี
71.125 -> ปัจจัยที่จะทำให้ตาเรามีปัญหานะคะ
74.005 -> โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันนี้เราจะคุยกันที่จอประสาทตาเสื่อม
77.273 -> ทำไมมันถึงเสื่อม หนึ่ง อายุเลย
79.446 -> สาว ๆ หนุ่ม ๆ ก็ไม่ค่อยมีปัญหาหรอก
81.662 -> แต่พออายุเยอะขึ้นก็เริ่มมีปัญหาแล้ว
83.942 -> อันที่ 2 ค่ะ ปัจจัยภายนอก เช่น แสง โดยเฉพาะ UV ที่เข้ามานะคะ
88.843 -> ก็อาจจะมีผลที่จะทำให้เกิดปัญหาได้นะคะ
92.891 -> นอกเหนือจากเรื่องของแสงอาทิตย์นะคะ
95.24 -> ที่จะเป็น UV ที่จะเข้ามาตกกระทบตาเรา แล้วทำให้เกิดปัญหาแล้วนี่
99.388 -> ไม่ว่าจะเป็นแสงที่มันจะมาจากสปอตไลต์
102.552 -> เช่น คนที่ทำงาน แล้วต้องมีการใช้แสงตลอดเวลา
105.956 -> หรือว่าแสงจากจอโทรศัพท์
108.605 -> หรือว่าจากจอทีวี
110.294 -> แสงจากจอคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งหน้าจอโทรศัพท์
113.154 -> ที่เราดูกันเป็นระยะเวลายาวนาน
115.449 -> ก็อาจจะทำให้มีปัญหากับเรื่องของ สายตาเราได้เช่นกัน
119.287 -> ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกล้ามเนื้อตาล้า
121.526 -> หรือในระยะยาวอาจจะมีผลกับ เรื่องของจอประสาทตาเสื่อมด้วย
124.716 -> เช่นเดียวกันกับเรื่องของแสงอาทิตย์นะคะ
127.449 -> เพราะฉะนั้นอันนี้ก็จะเป็นอันหนึ่งที่จะเป็น ปัจจัยที่จะทำให้สายตาเราแย่เร็วขึ้น
133.937 -> นอกจากนั้นค่ะ ในเรื่องของไลฟ์สไตล์นี่
136.258 -> นอกเหนือจากเรื่องของแสงแล้วนี่
137.766 -> การสูบบุหรี่นะคะ
139.391 -> หรือว่าเรื่องของอาหารการกินที่เรากิน
141.813 -> ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ จอประสาทตาเราเสื่อมได้เร็วขึ้นนะคะ
146.387 -> เพราะฉะนั้น วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของ อาหารที่ช่วยบำรุงสายตา
151.222 -> หรือชะลอเรื่องของจอประสาทตาเสื่อมกันค่ะ
154.724 -> [เสียงดนตรี]
159.706 -> ในกรณีของคนที่มีปัญหา โดยเฉพาะ เรื่องของวิตามินที่เราเคยได้ยินบ่อย ๆ
164.395 -> ยกตัวอย่างเช่น เราบอกว่าวิตามินเอ ตา อันนี้เราเรียนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมใช่ไหมคะ
169.452 -> เอ ตา คืออะไร เพราะว่าในเซลล์ที่ทำหน้าที่ ช่วยในเรื่องของการมองเห็นของเรานี่
175.169 -> มันจำเป็นต้องอาศัยวิตามินเอนะคะ
177.84 -> แล้วมันจะถูกกระตุ้นด้วยการที่มีแสง
180.676 -> เพราะฉะนั้น พอมีแสงปุ๊บ เรามองเห็นใช่ไหมคะ
183.073 -> ถ้าวิตามินเอมันไม่พอหรือมันไม่ดีนี่
185.564 -> อันแรกที่จะโดนกระทบเลยก็คือ
187.73 -> เราจะมองไม่เห็นตอนที่แสงมันลดลงนะคะ
191.556 -> ดังนั้นนี่ บางคนก็จะเรียกว่า ตาบอดฟางบ้างล่ะ หรือว่ามืดลงบ้างล่ะ
195.615 -> อันนี้ให้เราสงสัยไว้ก่อนเลยว่า มันจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มของตัววิตามินเอ
199.817 -> หรือว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องของเซลล์ ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องของการมองเห็น
205.028 -> ดังนั้นนี่ อันนี้ก็จะบอกว่าโดยทั่วไป เวลาที่จะมีปัญหานี่ในที่มืด
208.996 -> หรือว่าในที่ที่แสงไม่เพียงพอ
210.921 -> กลุ่มนี้จะมองเห็นได้ลดลงนะคะ หรือจะมีปัญหาก่อนนะคะ
215.074 -> ถ้าเกิดเป็นที่ที่แสงสว่างเพียงพอ อาจจะยังไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่
218.641 -> แต่พอเริ่มแบบ…ตกค่ำขึ้นมา
220.743 -> อาจจะเริ่มมองไม่ค่อยเห็น หรือว่ามองเห็นภาพที่ลดลง
224.009 -> อันนี้ให้สงสัยไว้ก่อนเลยนะคะ ว่าจะมีปัญหาในเรื่องของวิตามินเอค่ะ
227.907 -> ในเรื่องของจอประสาทตาเสื่อม เราก็ได้ยินบ่อย ๆ นะคะ
231.364 -> ชื่อมันตรงไปตรงมาเนอะ มันเป็นความเสื่อมใช่ไหมคะ
234.472 -> แล้วก็เกิดขึ้นที่จอประสาทตา
236.606 -> ทีนี้ตัวจอประสาทตานี่ เวลาเรามองภาพ ให้นึกภาพเนอะ
240.262 -> มันคือ Center หรือมันคือจุดกึ่งกลาง
242.886 -> เวลาเราเห็นภาพปุ๊บนี่
244.551 -> ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีปัญหา ยกตัวอย่างเช่น
247.418 -> ภาพที่เห็นตรงกลางมันเริ่มไม่ชัด
249.762 -> เส้นที่เคยเป็นเส้นตรงนี่ ตรงกลางมันเริ่มเบี้ยว เริ่มเบลอ
253.613 -> เริ่มมีจุดดำ หรือมีความผิดปกติ
256.655 -> ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ตรงบริเวณตรงกลางนะคะ
260.039 -> โดยที่ขอบด้านนอก รอบ ๆ นี่ยังเห็นชัดอยู่
264.404 -> หลายคนสมมุติว่าสายตาสั้น สายตายาว มันก็ไม่ชัดใช่ไหมคะ
267.825 -> แล้วก็จะถามตัวเองว่า เอ๊ะ ฉันจอประสาทตาเสื่อมหรือเปล่า
271.104 -> เวลาที่เราจะสงสัยว่า จะมีปัญหาเรื่องจอประสาทตาเสื่อมนี่
274.683 -> มันไม่ได้มืด มันไม่ใช่ตาบอด ไม่ใช่แบบมองไม่เห็นไปเลยทีเดียว
279.152 -> แต่ลักษณะของการมองเห็นน่ะค่ะ
281.384 -> มันจะผิดปกติ
282.735 -> โดยเฉพาะตรงที่เป็น Center หรือตรงจุดกลางนะคะ
286.61 -> เพราะฉะนั้นถ้าสมมุติเรามองภาพนี่ ตรงกลาง ๆ ดูไม่ค่อยชัด
290.114 -> แต่ เอ๊ะ ตรงขอบ ๆ นี่ เรายังเห็นชัดอยู่
293.039 -> อันนี้ให้เราสงสัยว่าเราอาจจะมีปัญหาแล้ว
296.598 -> เพราะฉะนั้นเราควรจะต้องไปตรวจนะคะ
299.122 -> แล้ววันไหนที่จะไปตรวจกับคุณหมอตาเนอะ
301.278 -> ก็ควรจะเตรียมตัวให้พร้อม
302.864 -> เพราะวิธีการตรวจก็คือ จะต้องถูกขยายม่านตาค่ะ
305.994 -> เวลาถูกขยายม่านตา แล้วคุณหมอตาเขาจะ ใช้เครื่องมือที่เข้าไปดูในจอประสาทตานี่
311.179 -> สิ่งที่จะเกิดขึ้นในเวลาที่เราถูกขยายม่านตา คือภาพเราจะดูไม่ชัด
315.435 -> มันจะเบลอ มันจะแบบโฟกัสไม่ค่อยได้
317.739 -> และที่สำคัญคือเจอแสงมาก ๆ นี่ มันจะแยงตามาก ๆ นะคะ
321.589 -> เพราะฉะนั้นนี่ โดยทั่วไป เราจะบอกว่า
323.395 -> ถ้าวันไหนที่จะไปตรวจตา โดนขยายม่านตา ไม่ควรขับรถไปเอง
328.073 -> ถ้าจะขับรถเอง
329.512 -> ก็แนะนำว่า ต้องรอจนกว่ายาที่ขยายม่านตา หมดฤทธิ์ก่อน
333.456 -> แล้วถึงจะกลับมาขับรถได้นะคะ
335.903 -> ไม่งั้นจะมีปัญหาเรื่องของแสงเวลาที่เราขับรถ
338.948 -> ส่วนในรายละเอียดของการวินิจฉัย
342.12 -> ขอให้เป็นคุณหมอตาดูแล้วกันนะคะ
344.036 -> เพราะว่าอันนี้อาจจะจำเพาะไปนิดนึง
346.379 -> แต่ถ้าสมมุติว่า คุณหมอตาเขาบอกว่า มีเรื่องของจอประสาทตาเสื่อม
350.231 -> เวลาที่คุณหมอตาเขามองเห็น
352.256 -> เขาวินิจฉัยว่ามีจอประสาทตาเสื่อมนี่
355.015 -> เราจะแบ่งคร่าว ๆ ก่อนว่าเป็น 2 กลุ่มนะคะ
357.863 -> ก็คือกลุ่มนึงเขาเรียกว่าเป็นแบบเปียก
360.666 -> กับกลุ่มที่ 2 เราเรียกว่าเป็นแบบแห้งนะคะ
363.103 -> เป็น Dry หรือว่าเป็น Wet ในภาษาอังกฤษนะคะ
365.554 -> ถามว่าแบบไหนเจอเยอะกว่า
367.236 -> Dry ค่ะ แบบแห้งเจอเยอะกว่านะคะ
369.937 -> ถ้าเป็นแบบเปียกนี่
371.392 -> มันจะมีการรักษา เช่น การฉีดยา หรืออะไรอย่างนี้เข้าไปด้วย
374.61 -> เพราะฉะนั้นนี่ เวลาที่เรามีจอประสาทตาเสื่อม
377.628 -> ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนจะต้องรักษาเหมือนกันนะคะ
380.819 -> จอประสาทตาเสื่อมบางชนิด จะมีการรักษาเฉพาะบางอย่างนะคะ
384.744 -> แต่ว่าจอประสาทตาเสื่อมบางชนิด ก็ไม่ได้มีการรักษาแบบนั้น
388.093 -> เพราะฉะนั้น บางทีจะบอกว่า
389.218 -> เอ๊ะ เรามีจอประสาทตาเสื่อม ทำไมคุณหมอคนนี้ฉีดยาให้เรา
393.07 -> ทำไมคนไข้อีกคนนึงนี่ ก็จะเอาประสาทตาเสื่อมเหมือนกัน
396.101 -> ทำไมคุณหมอไม่ฉีดให้ อันนี้คุณหมอไม่รักษาหรือเปล่า
399.07 -> อันนี้ขึ้นกับชนิดของจอประสาทตาเสื่อมนะคะ
402.226 -> ต้องบอกว่าจริง ๆ มันไม่ได้มีการรักษา ที่จำเพาะเจาะจง
405.659 -> หรือว่าทำให้มันแบบ…หายขาดไปได้
408.423 -> แต่ว่า ใช่ค่ะ ในกรณีของจอประสาทตาเสื่อม แบบเปียกนี่ อาจจะมีการใช้ยาบางอย่าง
413.681 -> มีการฉีดยาเข้าไป แล้วทำให้โรคนี่มันเสื่อมช้าลง
418.823 -> ก็จะทำให้เรารักษาสายตาเรา ให้มันยืนนานขึ้นไปกว่านี้ได้
423.714 -> เพราะว่าเดี๋ยวถ้ามันเสื่อมไป มากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ
426.245 -> มันก็จะมีผลกับเรื่องของการมองเห็นของเรา
429.056 -> ในเรื่องของการใช้ชีวิตของเรา
430.643 -> เพราะเราจะมองแล้วมันไม่ชัดเลย
432.423 -> แล้วมันจะแบบ…เหมือนบางทีเห็นหน้าคน แล้วนึกไม่ออกว่ามันเป็นอะไร นึกออกไหมคะ
436.315 -> สมมุติเราเห็นหน้าคน แล้วแบบปรากฏว่า เฮ้ย รายละเอียดตรงนั้นมันหายไปอะไรแบบนี้
441.693 -> ดังนั้นนี่ ตรงนี้เราทำได้แค่ ชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา
446.538 -> ใครบ้างที่เสี่ยงกับ การที่จะเกิดจอประสาทตาเสื่อม
449.987 -> อันแรกก็คือชื่อมันบอกเนอะว่าเสื่อม
452.315 -> เพราะฉะนั้น กลุ่มที่จะเจอ ภาวะความเสื่อมในร่างกายได้เยอะกว่า
456.339 -> ก็จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุนะคะ
458.237 -> 50 ปีขึ้นไป อันนี้ก็จะเริ่มเห็นบ่อยขึ้น
461.093 -> ถามว่าอายุน้อยกว่านี้ได้ไหม ก็มีได้เหมือนกัน
463.987 -> แต่ว่าอาจจะเจอไม่ได้เยอะมากนักนะคะ
466.213 -> อันที่ 2 ในกลุ่มที่ต้องใช้ชีวิต ที่อาจจะเจอแสงเยอะ ๆ นะคะ
471.964 -> หรือว่ากลุ่มที่สูบบุหรี่เยอะ ๆ
474.491 -> คนที่อาจจะมีปัญหาเรื่องของหลอดเลือดนะคะ
477.089 -> อันนี้ก็จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเหมือนกัน กับการที่จะเกิดจอประสาทตาเสื่อม
481.523 -> มีเรื่องของกรรมพันธุ์ เข้ามาเกี่ยวข้องบ้างเหมือนกัน
484.042 -> แล้วก็ที่เหลือ ก็อาจจะยังไม่ได้ทราบสาเหตุชัดเจน
486.943 -> ผู้หญิงกับผู้ชาย
488.458 -> จริง ๆ นี่ มีคนพูดว่าผู้หญิงอาจจะเยอะกว่า
491.042 -> แต่ว่าก็ไม่ได้จำเป็นว่า จะต้องเกิดเฉพาะในผู้หญิงนะคะ
494.687 -> อันนี้ก็จะเป็นคร่าว ๆ เพราะว่าปัจจุบันนี้
497.066 -> เราก็ยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงเลยนี่ มันคืออะไร
500.905 -> แต่ว่าเท่าที่เห็นนี่ ก็จะมีเรื่องปัจจัยเสี่ยงเนอะ
503.849 -> ที่จะทำให้เกิดเรื่องของจอประสาทตาเสื่อมนะคะ
506.767 -> ในแง่ของการรักษาเรื่องของจอประสาทตาเสื่อม
509.816 -> โดยหลักการนี่ก็คือชะลอความเสื่อมเนอะ
512.566 -> มันมีการรักษาหลายรูปแบบนะคะ
514.698 -> แต่ว่าการรักษานี่ขึ้นกับว่า สิ่งที่คุณหมอตาเขามองเห็นในตานี่
519.847 -> ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นคืออะไรนะคะ
522.912 -> ตัวอย่างเช่น อาจจะมีเรื่องของการฉายแสงเนอะ
525.947 -> อาจจะมีเรื่องของการฉีดยาเข้าไป หรือมีการผ่าตัดอะไรก็แล้วแต่
529.909 -> อย่างไรก็ตาม
531.042 -> คนไข้แต่ละคน ที่มีปัญหาเรื่องจอประสาทตาเสื่อมนี่
534.436 -> ในแง่ของการรักษาอาจจะแตกต่างกัน
536.809 -> ขึ้นกับภาวะโรคที่เป็น
538.917 -> ขึ้นกับดุลยพินิจของคุณหมอตา ว่าอันนี้มันเหมาะสมหรือเปล่านะคะ
543.824 -> [เสียงดนตรี]
548.777 -> ทีนี้เรามามองกันว่า ในแง่ของอาหารนี่
551.558 -> เราจะทำอย่างไรได้บ้างนะคะ
554.213 -> เพื่อที่จะชะลอหรือว่าป้องกัน ในเรื่องของจอประสาทตาเสื่อมค่ะ
558.221 -> เรามาเริ่มจากว่าปัจจัยเสี่ยง ที่จะทำให้เกิดจอประสาทตาเสื่อมมีอะไรบ้าง
563.222 -> แล้วเราก็ป้องกันไปนะคะ ก็คือหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง
566.183 -> อันแรกเลยก็คือเรื่องของแสง โดยเฉพาะ UV นะคะ
570.054 -> ที่เราพูดกันบ่อย ๆ ก็คือจะเป็นแสง UV
572.167 -> เพราะฉะนั้นนี่ เวลาที่เราจะต้องอยู่ในที่กลางแจ้ง
574.776 -> หรือว่าต้องได้รับแสง UV เยอะ ๆ
576.737 -> ก็แนะนำว่าควรจะต้องใส่แว่นกันแดด หรือว่าหลีกเลี่ยงนะคะ
580.231 -> อันนี้ก็จะช่วยในทางหนึ่งแล้ว
582.386 -> แต่ว่าในส่วนของพวกของไฟ ที่มาจากหน้าจอทีวี หน้าจอคอมพิวเตอร์
586.831 -> หรือว่าพวกของโทรศัพท์มือถือที่ใช้กันบ่อย ๆ
589.666 -> อันนี้ก็อาจจะต้องลดระยะเวลา ที่เขาบอกว่า มองจอให้ลดลงนะคะ
594.472 -> ไม่ควรที่จะอยู่ติดจอมากเกินไป โดยเฉพาะในเด็ก ๆ
597.072 -> หรือว่าในหลาย ๆ ท่านที่แบบ… นั่งมองจอตลอดเวลา
599.964 -> ก็เลี่ยงไปมองอย่างอื่นบ้าง ที่ไม่ควรจะติดจอจนเกินไป
603.503 -> เหล้ากับบุหรี่นะคะ เหล้ากับบุหรี่นะ เอาแต่ละอันก่อน
606.973 -> ในกรณีของบุหรี่นี่ มีข้อมูลชัดเจนว่า
609.777 -> ตัวบุหรี่เองนี่ ถ้าหยุดสูบบุหรี่
611.925 -> หรือว่าคนที่สูบบุหรี่นี่
613.538 -> มีความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องของ จอประสาทตาเสื่อมมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่
618.186 -> ถามว่ามันเกิดมาจากอะไร อันที่หนึ่งก็คือ ในคนที่สูบบุหรี่เองนี่
621.69 -> มันก็อาจจะทำให้เกิด เรื่องของเส้นเลือดแข็งนะคะ
624.763 -> แล้วการที่จะมีเส้นเลือดที่จะไปซัพพลาย
627.808 -> หรือว่าไปเลี้ยงตรงบริเวณของจอประสาทตา มันลดลง อันนี้ก็จะมีปัญหา
631.823 -> อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องของจอประสาทตาเสื่อม
633.982 -> แต่อาจจะเป็นเรื่องของโรคอื่น ๆ ได้ด้วยนะคะ
636.857 -> อันที่ 2 ในคนที่สูบบุหรี่ค่ะ ก็จะมีอนุมูลอิสระเยอะขึ้น
641.146 -> อันนี้ก็อาจจะไปทำร้ายเซลล์บริเวณนั้นมากขึ้น
645.136 -> ดังนั้น แนะนำว่าถ้ายังไม่เคยสูบบุหรี่ ก็ไม่ควรจะลองสูบบุหรี่
649.678 -> หรือถ้าใครที่สูบบุหรี่อยู่ ก็ควรจะหยุดสูบบุหรี่นะคะ
653.26 -> ไม่ใช่แค่เรื่องของจอประสาทตาเสื่อม
655.31 -> แต่หมายถึงโรคอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรคของปอด
658.603 -> โรคของหลอดเลือดหัวใจหรือว่าสมอง
661.042 -> อันนี้ก็จะสามารถช่วยป้องกัน แล้วก็ลดความเสี่ยงได้เช่นกันค่ะ
665.05 -> เรื่องของแอลกอฮอล์เนอะ
666.768 -> ตัวแอลกอฮอล์เองนี่ ด้วยตัวมันเองน่ะค่ะ
669.089 -> ก็อาจจะไปยับยั้งเรื่องของ เมตาบอลิซึมของตัววิตามินเอ
673.744 -> เรารู้แล้วว่าวิตามินเอ มีส่วนช่วยในเรื่องของสายตาถูกไหมคะ
678.627 -> ในกรณีของคนที่กินเหล้าเยอะ ๆ
680.881 -> การดูดซึมหรือว่าการทำงานของวิตามินเอ ก็จะลดลง
684.433 -> อันที่ 2 วิตามินเอ นี่แหล่งสะสมส่วนใหญ่อยู่ที่ตับเนอะ
688.917 -> ถ้าเราอยากจะรู้ว่า เอ๊ะ เราขาดวิตามินเอ หรือเราอยากจะกินวิตามินเอ
692.417 -> นึกอะไรไม่ออก กินตับค่ะ มีวิตามินเอเยอะนะคะ
695.983 -> ทีนี้ถ้าคนไข้ดื่มเหล้าเยอะ ๆ
698.338 -> จนกระทั่งทำให้ตับมีปัญหา
701.313 -> หรือว่ามีการทำร้ายเซลล์ตับ
704.668 -> แหล่งสะสมวิตามินเอเราลดลง
706.837 -> เพราะฉะนั้น มีโอกาสที่จะมีปัญหา
709.105 -> กับเรื่องของสุขภาพที่จะตามมา จากเรื่องของวิตามินเอได้เหมือนกัน
713.827 -> ดังนั้นนี่ ก็ควรที่จะลด เรื่องของแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ
717.237 -> ในกรณีที่เรามีปัญหา เรื่องของจอประสาทตาเสื่อม
720.345 -> หรือป้องกัน ไม่อยากจะมีจอประสาทตาเสื่อม
722.886 -> ก็ควรจะลดเรื่องของแอลกอฮอล์ค่ะ
724.827 -> ตัวถัดมาก็คือ ในเรื่องของหลอดเลือดเนอะ
727.112 -> เราพูดไปแล้วว่า หลอดเลือดเองนี่
729.112 -> ก็จะเป็นตัวที่จะช่วยในเรื่องของ การเลี้ยงจอประสาทตาใช่ไหมคะ
732.308 -> อาหารที่มีไขมันโดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว แล้วก็คอเลสเตอรอลสูงเองนี่
736.178 -> ก็จะเพิ่มความเสี่ยง ที่จะทำให้เส้นเลือดแข็งใช่ไหมคะ
739.278 -> แล้วก็อาจจะทำให้เกิด เรื่องของคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
742.327 -> เพิ่มความเสี่ยงในเรื่องของเส้นเลือดอุดตัน
744.152 -> เพราะฉะนั้น อันนี้ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่จะทำให้เป็นปัจจัยเสี่ยง
747.987 -> สำหรับเรื่องของจอประสาทตาเสื่อม
750.111 -> นอกจากนี้ค่ะ ในกลุ่มของอาหารไขมันอิ่มตัวสูงนี่
753.638 -> ก็อาจจะทำให้เกิดเรื่องของ อนุมูลอิสระเยอะขึ้นนะคะ
757.462 -> แล้วทำให้มีปัญหา
759.105 -> หรืออาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะเป็นความเสี่ยง ในเรื่องของการเกิดจอประสาทตาเสื่อมค่ะ
763.679 -> เพราะฉะนั้นควรจะหลีกเลี่ยง อาหารที่มีไขมันสูง
766.277 -> หรือว่าคอเลสเตอรอลสูงด้วยเช่นกัน
768.197 -> แล้วก็ข้อสุดท้ายนะคะ
769.636 -> เพื่อป้องกันในส่วนของจอประสาทตาเสื่อม
772.323 -> หรือว่าทำให้สุขภาพตาเราดีขึ้นก็แล้วกันเนอะ
774.948 -> เราก็ควรจะได้รับวิตามินเอที่เพียงพอนะคะ
777.966 -> โดยเฉพาะสารที่เราชื่อว่าลูซีนกับซีแซนทีน เราเคยได้ยินบ่อย ๆ ใช่ไหมคะ
782.998 -> ตัวนี้นี่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ
785.338 -> ทั้งสองตัวนี่ก็ร่างกายสร้างเองไม่ได้
788.487 -> ก็จะต้องได้รับมาจากอาหารนะคะ
790.853 -> อันนี้ก็จะช่วยทำให้การทำงานของเซลล์
794.346 -> ที่จะช่วยในเรื่องของการมองเห็น ทำงานได้ดีขึ้นนะคะ
797.644 -> มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
800.066 -> เพราะฉะนั้นจะช่วยลด เรื่องของอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น
803.84 -> แล้วก็จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิด เรื่องของจอประสาทตาเสื่อมได้เช่นกัน
809.705 -> นอกจากนี้ สิ่งที่เราจะต้องรู้ก็คือว่า วิตามินเอเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน
815.614 -> เวลาที่เรากินอาหารที่มีวิตามินเอนี่
818.189 -> เวลาที่กิน ถ้ามันไม่มีไขมันเลย
820.8 -> มันก็จะไม่สามารถจะดูดซึมเข้าไปได้
822.769 -> เพราะฉะนั้น วิตามินเอเวลาเรากิน ควรจะเป็นร่วมกับอาหารที่มีไขมันด้วย
827.385 -> หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่า เอ๊ะ เวลาเรากินวิตามินเอนี่
830.72 -> ถ้าเราเอาไปผัด หรือเราเอาไปทำอะไรที่มันจะมีน้ำมัน
833.879 -> มันจะทำให้การดูดซึมของวิตามินเอดีขึ้น
836.238 -> อันนี้ถูกต้อง
837.2 -> เพราะว่าวิตามินเอนี่ เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน
840.418 -> เพราะฉะนั้น เราจะต้องกินร่วมกันกับไขมัน
843.039 -> แต่ว่าถ้าเรากินไขมันเยอะเกินไป ก็ไม่ดีใช่ไหมคะ
845.668 -> เพราะฉะนั้น ควรจะเลือกไขมันที่ดี
848.276 -> ร่วมกันกับการกินวิตามินเอค่ะ
850.821 -> [เสียงดนตรี]
855.933 -> ทีนี้ถามว่ามันมีอาหารหรือว่ามีอะไรไหม ที่จะช่วยป้องกันจอประสาทตาเสื่อม
860.6 -> ต้องบอกอย่างนี้นะคะ ในอดีตมันมีงานวิจัยที่จะทำ
864.381 -> แบ่งเป็น 2 กลุ่มนะ กลุ่มแรกคือ คนที่ยังไม่มีเรื่องของจอประสาทตาเสื่อมเลย
868.699 -> แล้วก็ให้กินพวกของวิตามิน
870.84 -> วิตามินนั้นมีอะไรบ้าง ก็จะเป็นพวกของวิตามิน ที่มันจะมีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์ เช่น
876.579 -> วิตามินเอ เช่น เบตาแคโรทีน
878.723 -> วิตามินซี วิตามินอีนะคะ มีสังกะสีนะคะ
882.713 -> พวกนี้ให้กินเป็นระยะเวลายาวนิดนึงนะคะ 5 ปี
886.433 -> แล้วมาติดตามดูว่า
887.824 -> จะป้องกันเรื่องของการเกิด จอประสาทตาเสื่อมหรือเปล่า
891.72 -> อันนี้ต้องบอกว่า การกินพวกนี้ค่ะ ไม่ได้ช่วยป้องกันการเกิดจอประสาทตาเสื่อม
896.653 -> หมายความว่า จะกินหรือไม่กินวิตามินกลุ่มนี้
899.916 -> โอกาสที่จะเกิดจอประสาทตาเสื่อม ในระยะเวลาที่เขาวิจัยนี่ ไม่ต่างกัน
904.308 -> คำถามก็คือว่า
906.061 -> เราไม่รู้จริง ๆ ค่ะว่า ระยะเวลาตรงนี้มันนานพอไหม
910.52 -> เราไม่รู้เลยว่า จากเราไม่เป็นนี่ อีกกี่ปีเราถึงจะเป็น
914.254 -> เพราะฉะนั้น ตรงนี้อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่อาจจะทำให้งานวิจัยแบบนี้
918.393 -> มันดูไม่ประสบความสำเร็จ หรือว่าไม่เห็นผลนะคะ
921.829 -> ทีนี้มันก็มีงานวิจัยอีกอันหนึ่งค่ะ
923.769 -> สักประมาณน่าจะ 20 กว่าปีที่แล้ว
927.011 -> เขาให้คนที่มีปัญหา เรื่องจอประสาทตาเสื่อมแล้ว
930.571 -> เป็นแบบระยะเริ่มต้นถึงปานกลางเนอะ
932.892 -> เสร็จแล้วนี่ก็มาให้กินวิตามิน
935.328 -> วิตามินอันนี้มีอะไรบ้าง
937.04 -> ก็จะมีวิตามินซี วิตามินอี มีเบตาแคโรทีน
940.844 -> มีสังกะสี แล้วก็มีทองแดง ตอนนั้นนะคะให้กิน
944.04 -> แล้วก็ติดตามคนไข้ไป
946.074 -> ปรากฏว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ กลุ่มที่กินวิตามินพวกนี้ค่ะ
949.373 -> สามารถจะชะลอการเสื่อมของตัวจอประสาทตาได้
954.422 -> ตอนนั้นก็ว้าวกันใหญ่เลยนะคะ
956.594 -> ก็ขายกันเยอะแยะเลย
958.008 -> ทีนี้พอหลังจากนั้นมาปุ๊บนี่
960.64 -> มันก็มีงานวิจัยอีกอันหนึ่งบอกว่า
962.76 -> ในคนที่กินเบตาแคโรทีนเยอะ ๆ นี่
965.508 -> มันเพิ่มความเสี่ยงนะ
967.32 -> ที่จะเกิดเรื่องของมะเร็งปอด
970.154 -> โดยเฉพาะคนที่สูบบุหรี่
972.074 -> อ้าว แล้วเมื่อกี๊ ปัจจัยเสี่ยงอันหนึ่งคือบุหรี่ถูกไหมคะ
975.432 -> เพราะฉะนั้นหลังจากนั้นนี่ คนก็กังวล
978.254 -> เขาก็ทำงานวิจัยใหม่อีกอันหนึ่ง
981.142 -> โดยที่เอาเบตาแคโรทีนออกนะคะ
984.036 -> ก็ยังใส่วิตามินซี วิตามินอี คอปเปอร์ สังกะสีเหมือนเดิมนะคะ
988.235 -> คอปเปอร์คือทองแดงเนอะ แล้วก็สังกะสี
990.897 -> แต่เปลี่ยนจากตัวเบตาแคโรทีน
993.571 -> ให้เป็นลูทีนกับซีแซนทีน
995.918 -> ลูทีนกับซีแซนทีนตัวนี้ ก็จะเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอนะคะ
1001.572 -> แล้วก็จะมีคุณสมบัติที่จะเป็นเรื่องของ ตัวแอนติออกซิแดนท์ด้วย
1005.574 -> แล้วติดตามคนไข้
1007.456 -> ปรากฏว่ากลุ่มนี้ค่ะ ไม่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอดนะคะ
1012.04 -> ในขณะเดียวกัน สามารถจะช่วยลดหรือชะลอความเสื่อม
1015.913 -> ของการที่จะเกิดจอประสาทตาเสื่อมด้วย
1018.783 -> เราคงป้องกันไม่ได้ เราคงทำให้หายไม่ได้
1022.102 -> แต่เราทำให้จากที่มันเป็นอยู่นี่ มันไม่แย่ลงเร็วนะคะ
1026.399 -> อันนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น จากการที่จะใช้กลุ่มวิตามินเสริมพวกนี้
1030.874 -> แล้วถ้าสังเกตคือวิตามินกลุ่มนี้
1032.945 -> ก็จะเป็นกลุ่มที่มีคุณสมบัติ เป็นแอนติออกซิแดนท์
1036.047 -> หรือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
1038.383 -> หลัง ๆ ก็เลยมีคนพยายามเอาพวกนี้มาขาย
1041.304 -> แล้วก็บอกว่าเป็น Supplement หรือว่า มันเป็นอาหารที่สำหรับเรื่องของตา
1045.96 -> บำรุงสายตา หรือว่าช่วยในเรื่องของ จอประสาทตาเสื่อม
1049.352 -> ก็จะมีที่มาจากงานวิจัยอันนี้นะคะ
1052.257 -> ทีนี้คำถามต่อไปคือ ถ้าเราไม่ซื้อล่ะ
1054.92 -> เราจะเอามาจากตรงไหน
1056.516 -> เราก็ต้องมาดูก่อนว่า สิ่งที่เขาบอกคืออะไรคะ
1059.165 -> วิตามินซี วิตามินอี ใช่ไหมคะ อันนี้เรารู้อยู่แล้วเนอะ
1062.336 -> วิตามินซีกับวิตามินอีมาจากไหน
1064.407 -> ลูทีนกับซีแซนทีนมาจากไหน
1066.602 -> ก็อยู่ในผักผลไม้สีเขียวเข้ม ๆ
1070.419 -> หรือผักผลไม้ที่มันเป็นสีเหลือง สีส้ม
1073.745 -> ตอนที่เราเรียน มันเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ เป็นอนุพันธ์ของแคโรทีนอยด์เนอะ
1078.188 -> เพราะฉะนั้น มันจะต้องเป็นผักผลไม้สีออก ส้ม แดง ใช่ไหมคะ เหลืองอะไรอย่างนี้
1083.04 -> ถามว่า อ้าว แล้วทำไมมีสีเขียวเข้มด้วยล่ะ
1085.369 -> เนื่องจากในสีเขียวเข้มค่ะ เขาจะมีสารตัวหนึ่งที่ชื่อคลอโรฟิลล์
1089.417 -> คลอโรฟิลล์นี่มันเข้ม
1090.899 -> เพราะฉะนั้น มันจะไปบดบังสีเหลืองส้มทั้งหมด
1093.762 -> เพราะฉะนั้นนี่ เราจะเห็นสีเขียวเข้มเด่น
1095.92 -> ถามว่ามีอะไรบ้างที่จะมีสารพวกนี้เยอะ ๆ
1098.86 -> ถ้ามันเขียวเข้ม ๆ เช่น คะน้า
1101.937 -> พวกเคล พวกบรอกโคลี พวกปวยเล้ง
1104.706 -> พวกนี้ก็จะถือว่ามีเรื่องของ ลูทีน ซีแซนทีน วิตามินเอนะคะ
1109.356 -> ค่อนข้างเยอะนะคะ
1111.007 -> อันถัดมาก็จะเป็น พวกที่มันเป็นสีออกเหลืองส้มใช่ไหมคะ
1114.96 -> แดง หรือว่าม่วงอะไรอย่างนี้
1117.515 -> ในกรณีที่มันเป็นสีม่วง มันก็จะมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกตัวหนึ่ง
1121.524 -> กลุ่มเบอร์รีที่เราจะได้ยินเนอะ
1123.798 -> มีแอนโทไซยานินอะไรอย่างนี้
1125.949 -> เพราะฉะนั้น อันนี้ก็จะเป็นอีกอันหนึ่งที่มี เรื่องของนอกจากจะมีลูทีน ซีแซนทีนแล้วนี่
1130.295 -> ก็จะมีเรื่องของ สารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นด้วย
1133.208 -> ดังนั้น เวลาเราเห็นเขาโฆษณาขาย เห็นไหมคะ
1136.289 -> อาหารหรือผลไม้ที่บำรุงสายตา ก็จะเป็นสีเขียวเข้ม ๆ
1140.81 -> สีแดง สีเหลือง สีส้มนะคะ
1143.61 -> หรือว่าจะเป็นกลุ่มที่มันจะมีสีม่วงเข้ม ๆ
1146.583 -> อันนี้ก็สามารถจะเลือกกินได้
1148.61 -> นอกจากบรอกโคลี ปวยเล้งใช่ไหมคะ เมื่อกี๊คะน้าเนอะ
1152.54 -> ก็จะมีข้าวโพด มีถั่วลันเตาใช่ไหมคะ
1155.467 -> แล้วก็กลุ่มตระกูลเบอร์รีทั้งหมดเลยนะคะ
1158.833 -> อีกอันหนึ่งค่ะ ที่เคยได้ยินฮิต ๆ เนอะ
1161.329 -> เราจะได้ยินคำว่าโกจิเบอร์รีใช่ไหมคะ
1164.137 -> บางคนก็บอก โอ้โฮ ชื่อมันดูเพราะเนอะ ดูมันเก๋
1166.867 -> แต่ถ้าไปถามบอกว่ารู้จักเก๋ากี้ไหมคะ เวลาที่เราเห็นในหม้อต้มยาจีน
1171.219 -> ที่เขาบอกว่าอันนี้จะเป็นแบบต้มซุปขึ้นมา แล้วบอกอันนี้บำรุงสายตา
1176.173 -> เก๋ากี้ค่ะ ที่มันเป็นเม็ดแดง ๆ ค่ะ อันนั้นก็คือโกจิเบอร์รีนะคะ
1180.423 -> ซึ่งก็จะมีเรื่องของลูทีน ซีแซนทีนเหมือนกัน
1183.584 -> เพราะฉะนั้นก็อาจจะเป็นอันหนึ่งนะคะ ที่สามารถจะเอามาใช้ทำอาหารได้
1187.475 -> อาจจะเป็นต้มซุปใช่ไหมคะ แล้วเราก็ใส่โกจิเบอร์รี
1190.165 -> อาจจะมีเป็นผัดคะน้าใช่ไหม
1192.282 -> หรือว่าอาจจะเป็นปวยเล้งใช่ไหมคะ ปวยเล้งผัดตับอย่างนี้
1195.931 -> มันก็จะได้วิตามินเอด้วยเนอะ
1198.037 -> แล้วก็จะได้เรื่องของ ตัวลูทีน ซีแซนทีนด้วยนะคะ
1201.876 -> แล้วกินกับพวกเบอร์รีเป็นน้ำคั้น
1204.909 -> หรือว่าสมูทตี้เนอะ
1207.116 -> หรือว่าอาจจะเป็นลักษณะของการกินสด ที่เป็นผลไม้
1210.095 -> ไม่ว่าจะเป็นพวกหม่อนก็ได้นะคะ มัลเบอร์รี
1212.454 -> อันนี้ก็ไม่ต้องไปซื้อของต่างประเทศเนอะ
1215.22 -> หรือว่าถ้าใครสะดวกใจจะกินเป็นสตรอว์เบอร์รี
1217.712 -> กินบลูเบอร์รี แบล็กเบอร์รี แครนเบอร์รี ได้หมดเลย
1221.779 -> ทีนี้เราก็จะบอกไปแล้วนะคะว่า
1223.571 -> ในกรณีของอาหารที่เราจะมองหาว่า มีลูทีน ซีแซนทีน วิตามินเอ
1227.938 -> หรือว่าแอนติออกซิแดนท์เยอะ ๆ นี่อยู่ในไหน
1230.416 -> ก็พยายามเลือกอาหารกลุ่มนี้ เข้ามาอยู่ในอาหารที่เรากิน
1234.358 -> สมมุติเราจะไปซื้อเป็น supplement ได้ไหม
1238.129 -> อันนึงที่อยากจะให้ดูนะคะ ก็คือกรุณาเช็กนิดนึง
1242.031 -> ว่ามันมีเบตาแคโรทีนอยู่เยอะหรือเปล่า
1244.791 -> ถ้าสมมุติมีเบตาแคโรทีน อันนี้ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่
1247.681 -> โดยเฉพาะในคนที่มีความเสี่ยง ที่จะเกิดมะเร็งปอด
1250.945 -> เช่น คนที่สูบบุหรี่เยอะ ๆ อยู่นะคะ
1253.212 -> หรือว่าคนที่ทำงานเกี่ยวกับพวกแร่ใยหินเนอะ
1256.596 -> อันนี้มันมีข้อมูลว่า กลุ่มนี้ถ้าเกิดได้รับเบตาแคโรทีนในโดสเยอะ ๆ
1261.855 -> เบตาแคโรทีนที่มาจากอาหาร ไม่มีผลที่จะไปเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปอด
1266.487 -> แต่เบตาแคโรทีนที่มาจาก supplement
1268.915 -> หรือพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในโดสเยอะ ๆ
1271.597 -> อันนี้กินต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานนี่
1274.727 -> ก็อาจจะทำให้เพิ่มความเสี่ยง ของการเกิดมะเร็งปอดนะคะ
1279.022 -> ถ้าเกิดสมมุติว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
1282.151 -> และเรามีปัญหาเรื่องจอประสาทตาเสื่อมด้วย
1284.498 -> ถ้าจะใช้ ใช้เป็นอันที่มันไม่มีเบตาแคโรทีนเนอะ
1288.311 -> เขาก็จะเปลี่ยนจากเบตาแคโรทีน มาเป็นพวกลูทีน ซีแซนทีนแทนนะคะ
1292.53 -> ซึ่งจริง ๆ เราก็จะพูดแค่ลูทีน ซีแซนทีน
1294.782 -> แต่จริง ๆ แล้ว ในงานวิจัยค่ะ
1296.578 -> ค็อกเทลอันนี้ มันมีส่วนของวิตามินซี วิตามินอี
1300.446 -> ลูทีน ซีแซนทีน
1302.365 -> แล้วก็มีสังกะสี
1303.829 -> รวมถึงมีทองแดงด้วยนะคะ
1305.696 -> เพราะฉะนั้น จริง ๆ นี่มันคงมีหลายตัวเนอะ
1308.142 -> แล้วถ้าสมมุติถามว่าเรากินนี่ มันก็อาจจะแพง
1310.837 -> มันก็อาจจะไม่ได้อร่อยใช่ไหมคะ
1312.595 -> แต่ถ้าสมมุติเราสามารถเลือกจากอาหารได้
1314.906 -> เราก็กินจากอาหาร
1316.251 -> สุดท้ายเลย ถ้าสมมุติว่าเราสงสัย
1319.364 -> หรือเราไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องของสายตานะคะ
1322.759 -> เอ๊ะ เรามองภาพไม่ชัดหรือเปล่า
1324.561 -> เราเริ่มเห็นอะไรผิดปกติหรือเปล่า
1327.007 -> แนะนำว่าควรจะไปตรวจกับจักษุแพทย์ ให้ละเอียดนะคะ
1331.613 -> เพื่อจะได้ทราบว่าเราเป็นอะไร
1333.548 -> แล้วถ้าเกิดว่าเราทราบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
1337.009 -> การรักษาย่อมมีผลการรักษา ที่ดีกว่าที่เราจะปล่อยทิ้งไว้ค่ะ
1341.449 -> ดวงตาเป็นสิ่งสำคัญนะคะ
1343.218 -> เพราะฉะนั้นนี่ ควรถนอมสายตาตัวเอง แล้วก็ดูแลรักษาดวงตาด้วยค่ะ
1347.719 -> พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้
1352.595 -> ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.
1354.776 -> ที่ Mahidol Channel Podcast
1356.667 -> ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel
1359.165 -> YouTube Mahidol Channel
1360.933 -> Apple Podcasts
1362.137 -> Spotify
1363.318 -> Anchor
1364.226 -> Joox
1367.589 -> ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
1372.91 -> [เสียงดนตรี]

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=m7CosqowGlw