เคล็ดลับ  #เกลือ เทคนิคการทำอาหาร ที่ไม่เคยมีใครบอกคุณ!

เคล็ดลับ #เกลือ เทคนิคการทำอาหาร ที่ไม่เคยมีใครบอกคุณ!


เคล็ดลับ #เกลือ เทคนิคการทำอาหาร ที่ไม่เคยมีใครบอกคุณ!

เคล็ดลับ การใช้เกลือ ให้เป็นประโยชน์ในการทำอาหาร
รู้แล้ว ลองเลย!

========================================
Website : www.fooded.co
Facebook : https://www.facebook.com/fooded.co
IG : https://www.instagram.com/foodedco/
Line: @fooded
email: [email protected]


Content

0 -> ประโยชน์ของการใช้ 'เกลือ' เพราะอะไรทําไมเราต้องใช้
2.948 -> ทําไมเวลาที่ลวกผักต้องใส่เกลือลงไป ทําไมต้มไข่ต้องใส่เกลือลงไป
6.688 -> ใส่เพื่ออะไร
22.008 -> อย่างที่ทุกคนรู้จักอยู่แล้วว่าบ้านเราใช้เกลือ กันมาตั้งแต่สมัยรุ่นดึกดําบรรพ์มาก
27.288 -> เราก็จะมาอธิบายให้ฟังว่า เพราะอะไร ทําไมเราต้องใช้
31.264 -> (ทำไมเราต้องใช้เกลือ)
35.298 -> หลักๆเลย เกลือ เขาจะมีสรรพคุณในการดึงน้ําในผักออก
40.24 -> ดึงความคาวของเนื้อสัตว์ออกมา
42.848 -> รวมถึงใช้ทําความสะอาดผักได้ด้วย สมมติเราซื้อผักมา..
46.148 -> เราก็ใส่ ในกะละมัง แล้วก็เอาเกลือใส่ลงไปผสมสักประมาณหนึ่งช้อนชา
50.468 -> แล้วก็แช่ไว้สักประมาณเจ็ดถึงสิบนาที มันก็จะทําให้ดึงสารพิษหรือว่าสารเคมีที่อยู่ในผัก
54.953 -> ออกมาได้ประมาณ 38-40 % เลย นั่นคือสามารถทําความสะอาดผักได้
60.248 -> หรือว่าการปอกแอปเปิ้ล ใส่เกลือลงไปในน้ําเพื่อแช่แอปเปิ้ล
65.051 -> ก็จะทําให้สีของแอปเปิ้ล ไม่ดํา เป็นต้น
67.148 -> มันก็คือประโยชน์ของเกลือล้วนๆเลย
68.711 -> การต้มผัก ทําไมถึงต้องใส่?
70.257 -> ส่วนใหญ่ที่ใช้กันจะเป็นผักสีเขียว
72.257 -> ซึ่งผักสีเขียวจะมีคลอโรฟิลล์ เขาจะมีโซเดียม แล้วโซเดียมที่อยู่ในผักจะช่วยถนอมสีไว้
80.872 -> คือเก็บสีไว้ เพราะนั้นเวลาที่เราต้มผัก ถ้าผักโดนน้ําร้อนหรือว่าลวกลงไป โซเดียมก็จะถูกทําลายพอโซเดียมถูกทําลายปุ๊บคลอโรฟิลล์ก็จะหายไป
90.197 -> ก็จะทําให้สีของผักซีด นั้นคือการต้มผักเราใส่เกลือลงไปก็เพื่อถนอมโซเดียมไว้ ทําให้คลอโรฟิลล์ยังอยู่ ก็จะทําให้ถนอมสีของความเขียวไว้
99.953 -> ว่ามันก็มีความสําคัญนิดหนึ่ง ว่าเวลาที่เราลวก.. ทุกคนเข้าใจคําว่าลวกกับคําว่าต้มใช่ไหมคะ?
105.048 -> ลวกก็คือแป๊บเดียว ต้มก็คือนานหน่อย นั่นคือถ้าใช้คําว่าลวกนี่คือแป๊บเดียวจริงๆ
108.75 -> การลวกผักยิ่งระยะเวลาสั้นเท่าไรยิ่งดี มันจะทําให้ถนอมคุณค่าของอาหารไว้ด้วย แล้วก็ทําให้เก็บคลอโรฟิลล์ไว้ด้วยนะคะ
115.632 -> นั่นคือแป๊บเดียว ใช้เวลาประมาณ 20-30 วินาทีเท่านั้น
119.751 -> น้ําเดือดจัด ใส่เกลือลงไปแล้วก็เอาผักลงไป ตักขึ้นมาน็อกด้วยน้ําเย็น น้ําเย็นนี่คือแนะนําว่าให้เป็นน้ําแข็งเลย
127.855 -> น้ำแข็งละลายในน้ำเลย เย็นๆเลย
130.054 -> การน็อกด้วยน้ําแข็ง มันจะเป็นการทําให้หยุดการลวก ให้สุกแค่นี้ แล้วก็ทําให้คลอโรฟิลล์ไม่กระจายตัว ไม่แตกตัว
138.091 -> เซลล์ของผักก็จะไม่แตกตัว ก็จะทําให้คงความเขียวไว้อยู่
141.95 -> หรือแม้กระทั่งรสชาติที่มีความขมความฝาด หรือว่าแม้กระทั่งความเปรี้ยวนิดหน่อย
147.405 -> มันก็จะถูกดึงออกมาเพราะว่าเกลือจะดึงน้ําในผักออกมา เขาจะดึงทั้งกลิ่นและรสของผักออกมา
152.414 -> มันก็ทําให้เราสามารถทานผักได้ แล้วข้อดีอย่างก็คือว่า จะทําให้ผักนั้นมีความกรอบที่มากขึ้นด้วย
159.139 -> (หัวไชเท้า)
164.471 -> ให้ดูหัวไชเท้าก่อน หัวไชเท้าเนี้ยเราหั่นสองแบบ
167.188 -> แต่จริงๆมันคือแค่การหั่นที่แตกต่าง ที่เหลือไม่ได้มีอะไรต่างกัน
171.508 -> ให้ดูนี่คือถ้าสังเกตมันจะดูไม่มีน้ําเลย นี่คือถ้วยที่ไม่ได้โรยเกลือลงไปนะคะ
177.048 -> จะไม่มีน้ําเลย จะแห้ง นี่หั่นมาเวลาเท่ากันน่ะ
179.728 -> ก็ประมาณสักครึ่งชั่วโมงล่ะ สองถ้วยนี้คือหั่นพร้อมกัน
182.748 -> ตัวนี้คือจะแห้งไปเลย ไม่มีน้ํา
185.068 -> ส่วนตัวนี้ที่เราโรยเกลือลงไป จะเห็นว่า มีน้ําระเหยออกมาค่อนข้างเยอะเลยนะคะ
189.947 -> นี่คือเขาดึงน้ําในผักออกมาล่ะ ผักก็จะมีความกรอบ
194.227 -> แล้วก็ใครที่ไม่ชอบความเผ็ดร้อนของหัวไชเท้า ก็จะเบาลงล่ะ ความเผ็ดร้อนก็จะเบาลงไป
200.417 -> อันนี้คือหัวไชเท้า วันนี้เราโชว์ให้ดูสองอย่าง แต่ว่าจริงๆแล้วที่บ้านทุกคนจะทําผักอะไรก็ได้
207.854 -> (แตงกวา)
211.768 -> แตงกวาคือชัดมาก อยากให้เห็นว่ามันมีความแตกต่างยังไง
216.088 -> สมมติว่าตัวที่ไม่ได้โรยเกลือ มันก็จะแห้งๆเหมือนกัน แล้วถ้าเราหักมันอย่างนี้
220.408 -> มันจะกรอบจริงแต่มันกรอบแป๊บเดียว หักอย่างเงี้ยคือหักเลยน่ะ
222.928 -> นี่คือหักเลย จับมาปุ๊บ แค่บิดแบบนี้
226.171 -> แค่กดลงมันก็คือหักเลยน่ะ
228.148 -> แต่ว่าตัวที่ใส่เกลือ เห็นไหมคะ ทํายังไงก็ไม่หัก
230.728 -> นี่คือเกิดความเหนียว มันจะไม่หัก
233.128 -> มันก็ยังคงชิ้นอยู่เนี้ย ลักษณะเดียวกันมันก็ยังเป็นชิ้นอยู่
236.368 -> เราบีบมันลงไป มันก็ยังเป็นชิ้นของมันอยู่
238.613 -> แบบที่ไม่ได้โรยเกลือ บีบลงไปปุ๊บก็คือหักแหละ
241.208 -> จะบอกว่ามันมีความเหนียวขึ้น มีความกรอบขึ้นและสีก็จะสวยขึ้นด้วยนะ
246.128 -> สมมติว่าทําอย่างงี้ไว้ แช่ตู้เย็นไว้ 1 คืน สีก็ยังเป็นแบบนี้ แต่ตัวที่ไม่ได้แช่เกลือ ถ้าทําไว้ปุ๊บแช่ตู้เย็น สีก็จะเริ่มเหลืองๆแล้ว
253.748 -> นี่คือข้อดีของการใช้เกลือ มีความกรอบที่ดีขึ้นด้วย
257.648 -> ต่อไปเรามาดูผักที่ลวกกันหน่อย
260.278 -> (ผักประเภทลวก)
264.721 -> ผักทั้งสองชนิด คือใส่เกลือลงไปทั้งสองชนิด ลวกประมาณ 20-30 วินาทีเท่านั้นนะคะ
271.209 -> ตัวนี้คือเป็นผักที่ใส่เฉพาะเกลือ ก็จะมีความสะอาดๆหน่อย
274.888 -> จับดูจะรู้สึกว่าฝืดๆไม่มีน้ํามันนะคะ แต่จะมีความเขียวเหมือนกัน
279.967 -> ส่วนอีกตัวหนึ่ง จะเป็นผักที่เราใส่น้ํามันลงไปเห็นไหมค่ะ ถ้าดูใกล้ๆเนี้ยเราจะรู้สึกว่ามันจะมีความเงาขึ้นมา
288.745 -> แล้วก็จะมีความเขียวที่แบบเงาๆนิดๆ จะแตกต่างจากตัวที่ไม่ได้ใส่น้ํามันนะคะ
294.303 -> ถ้ามองจากกล้องหรือมองผ่านเลนส์ จะรู้สึกว่ามันอาจจะไม่ได้ต่างกันเยอะ แต่ถ้าเรามาสัมผัสดูจะรู้ว่ามันต่างกัน
301.389 -> มันก็คือจะมีความเขียวที่ต่างกัน มีความเงาที่ต่างกัน
304.666 -> อย่างถ้าใครเคยได้ยินศัพท์ ที่เขาบอกว่าเหม็นเขียวอ่ะ
306.928 -> เหม็นเขียวก็คือเกิดจากผักสีเขียวนั่นแหละ ถ้าเราลวกออกหรือว่าดึงออกโดยเกลือ
311.148 -> มันก็จะทําให้กลิ่นนี้หายไป มันก็ทําให้เราทานผักได้อร่อยขึ้นนะคะ
315.606 -> (การต้มไข่)
320.272 -> 'ไข่' วิธีต้มไข่ บางคนจะบอกว่า..
322.868 -> ต้มไข่ทําไมแกะยากจัง ทําไมติดเปลือก
325.028 -> ทําไมไข่แกะออกมาไม่ร่อน ไม่สวยเลย
327.789 -> บางคนก็จะบอกว่า เป็นเพราะไข่เก่า เป็นเพราะไข่ใหม่
330.608 -> เป็นเพราะไข่เย็นหรือว่าไข่ที่ไม่ได้อยู่ในตู้เย็นอะไรก็แล้วแต่น่ะ แต่จริงๆแล้วมันมีเทคนิคง่ายๆว่า...
335.348 -> ถ้าต้มไข่ ให้เราใส่เกลือลงไป การต้มไข่ทุกคนทราบอยู่แล้วเนอะว่า..
339.608 -> มันเริ่มจากน้ําไม่เดือดนะ น้ําอุณหภูมิห้อง แล้วเอาเกลือใส่
342.188 -> วิธีการใส่เกลือก็คือ กะปริมาณแหละ
344.948 -> ไม่ต้องใส่เยอะมาก ก็เหมือนแบบว่า...
347.168 -> ไข่สามฟอง น้ําท่วม ก็คือสักหนึ่งช้อนชาอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
350.708 -> การใส่เกลือ เกลือคือโซเดียมใช่ไหมคะ
353.268 -> ส่วนเปลือกไข่ ก็คือมีแคลเซียม พอมันโดนกัน
356.388 -> โซเดียมกับแคลเซียมที่อยู่ที่เปลือกไข่เจอกันเนี้ย เขาจะทําปฏิกิริยาทางเคมี
361.128 -> นั่นคือมันจะลดความตึงของผิวของไข่ ของเปลือกไข่
364.308 -> มันก็จะทําให้การปอกไข่เนี้ย ร่อนแล้วปอกได้ง่ายขึ้น
367.608 -> แล้วก็จะทําให้ไม่ติดเปลือก
381.681 -> บางคนอาจจะบอกว่าใส่เกลือเพื่อช่วยเก็บอุณหภูมิ ทําให้ความเดือดคงที่ อันนี้ก็มีผล
386.814 -> เพราะจริงๆแล้วเกลือช่วยในเรื่องของการเก็บอุณหภูมิเช่นเดียวกัน เหมือนกับการเอาเกลือโรยลงบนน้ําแข็งเพราะไม่อยากให้น้ําแข็งละลาย
395.168 -> มันเหมือนกัน ความร้อนความเย็นเหมือนกัน เกลือช่วยเรื่องการถนอมอุณหภูมิเหมือนกัน
399.647 -> มันก็ทําให้ความเดือดคงที่ อุณหภูมิคงที่ ก็หนึ่งเหตุผลเหมือนกันค่ะ
403.098 -> แต่เหตุผลหลักๆก็คือ เนี้ยแหละลดความตึงของเปลือกไข่ ทําให้ปอกไข่ได้ง่ายขึ้นนะคะ
407.261 -> อันนี้คือเป็นเทคนิคที่ทุกคนสามารถทําได้เองที่บ้านง่ายๆเลย ใช้สิ่งที่มีอยู่ในบ้านนะคะ

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=MUPxVZWblck