![[spin9] รีวิว Toyota Fortuner Legender ตัวท็อป ออปชั่นครบ คุ้มค่ากว่าเดิม](https://img.howtoclicks.com/vi_webp/oApP58bbXSs/sddefault.webp)
[spin9] รีวิว Toyota Fortuner Legender ตัวท็อป ออปชั่นครบ คุ้มค่ากว่าเดิม
[spin9] รีวิว Toyota Fortuner Legender ตัวท็อป ออปชั่นครบ คุ้มค่ากว่าเดิม
รีวิวใหม่วันนี้ พบกับ Toyota Fortuner Legender โฉมใหม่ รถ PPV เอนกประสงค์รุ่นยอดนิยมจาก Toyota ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่ามากขึ้น รุ่นใหม่นี้มีการปรับโฉม และอัปเกรดหลากหลายส่วน สปอร์ต ดุดัน บึกบึนมากขึ้น ออปชั่นแน่น พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ขับขี่ พร้อมลุยทั้งออนโร้ดและออฟโร้ด หมดกังวลหากต้องเดินทางไกล
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.toyota.co.th/fortuner
Disclosure: คลิปวิดีโอนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก Toyota
สมัครเป็นสมาชิกของช่อง spin9 เพื่อสนับสนุนการผลิตคอนเทนต์ของเราได้ที่นี่:
/ @spin9
Content
16.71 -> สวัสดีครับ อู๋ Spin9 ครับ
17.833 -> รีวิววันนี้เราเจอกับคันนี้เลยนะครับ
19.577 -> คันใหญ่มากทีเดียว
20.813 -> นี่คือ Toyota Fortuner รุ่นท็อปที่สุดใน Line up ปัจจุบันนะครับ
24.389 -> Fortuner Legender 2.8 ลิตรขับเคลื่อน 4 ล้อนะครับ
28.148 -> เรามาชมรอบคันของเจ้า Fortuner Legender
30.999 -> 2.8 ลิตรขับเคลื่อน 4 ล้อคันนี้กันครับ
32.941 -> ก่อนที่ผมจะพาชมรอบคันต้องเล่าถึง Toyota Fortuner กันก่อนนะครับ
37.357 -> ไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ Toyota กันอยู่แล้วนะครับ
39.864 -> แบรนด์รถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดประเทศไทยนะครับ
43.169 -> และเราขับไปในท้องถนนเราก็จะเห็น Fortuner อยู่มากมายเต็มไปหมด
47.11 -> วันนี้คุณผู้ชมน่าจะเห็นภาพอย่างชัดเจนนะครับ
49.158 -> ว่าทำไม Toyota Fortuner ถึงเป็นที่นิยมมากมายนักในท้องถนนเมืองไทย
53.666 -> เพราะว่ามันมีความอเนกประสงค์อย่างมากนะครับ
55.804 -> รวมถึงโฉมใหม่นี้ก็มีการปรับปรุงดีไซน์มาเยอะมาก ๆ
58.913 -> หลากหลายส่วนมาก ๆ
60.27 -> เรียกได้ว่าน่าจะเป็นการอัปเกรดที่คุ้มค่าของใครหลาย ๆ คนเลยละครับ
64.055 -> ในส่วนของแบรนด์ Toyota เอง
65.763 -> พอได้รับความนิยมสูงมาก ๆ ในตลาดประเทศไทย
68.311 -> ก็มีจำนวนศูนย์บริการอยู่เป็นจำนวนมาก
70.813 -> ค่าแรงค่าอะไหล่ก็ไม่ได้แพงนะครับ
72.786 -> รวมถึงราคาขายต่อก็ดีงามมาก ๆ ด้วยครับ
77.662 -> ความโดดเด่นของ Toyota Fortuner Legender โฉมใหม่
80.995 -> อยู่ที่ความบึกบึนดีไซน์มาใหม่ทั้งหมดเลยนะครับ
84.068 -> ด้านหน้าของตัวรถที่เราเห็น
86.089 -> เรียกว่าปรับโฉมมาใหม่ทั้งหมดครับ
88.51 -> ไฟหน้าโดดเด่นมาก ๆ
90.296 -> เพราะว่ามีการปรับปรุงโดยการใช้ Daytime Running Light
93.55 -> ในดีไซน์ที่สวยงามโฉบเฉี่ยวนะครับ
95.788 -> คล้าย ๆ กับรถยุโรปเลยนะครับ
97.242 -> เราจะเห็นเส้นสายด้านในตรงนี้เป็น 4 เส้นนะครับ
100.202 -> ซึ่งจะติดขึ้นในขณะที่เราวิ่งในเวลากลางวัน
102.743 -> หรือว่าทำหน้าที่เป็น Daytime Running Light ไปในตัวครับ
105.382 -> ในขณะที่ไฟเลี้ยวจะมาอยู่ที่กรอบด้านล่างตรงนี้นะครับ
108.691 -> แล้วก็เป็นไฟเลี้ยวแบบ Sequential ด้วย
110.483 -> เวลาเปิดไฟเลี้ยวให้ความสวยงามบนท้องถนนมาก ๆ ครับ
113.238 -> กระจังหน้าทั้งหมดที่เราเห็นนี้ปรับปรุงดีไซน์มาใหม่นะครับ
116.248 -> ให้มีความสปอร์ตมากขึ้น ดุดันมากขึ้น บึกบึนมากขึ้นอย่างที่เราเห็นเลย
120.013 -> มีการเพิ่มเส้นสายด้วยดีไซน์ของเส้นสีดำเงาจำนวนมากเลยนะครับ
124.276 -> กรอบไฟหน้าตรงนี้จะมีเส้นสีดำเงาอยู่เป็นคิ้วอย่างนี้
127.888 -> ตรงกลางนี้ก็เป็นเส้นสีดำเงานะครับ
129.937 -> รวมถึงบริเวณกรอบด้านล่างก็จะตัดด้วยสีดำเงาครับ
133.042 -> พอตัดกับสีของตัวรถก็ให้ความดุดันอย่างมากครับ
136.112 -> อีกส่วนหนึ่งที่ผมอยากให้สังเกต
137.652 -> ก็คือบริเวณโลโก้ Toyota หน้ารถตรงนี้ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ
141.485 -> เพราะว่าทาง Toyota ได้ฝังเอาเซ็นเซอร์
143.874 -> พวกเรดาร์จับระยะต่าง ๆ
145.577 -> ฝังเข้ามาอยู่ในบริเวณตัวโลโก้นี้เลยนะครับ
148.279 -> เพื่อความแนบเนียนของดีไซน์บริเวณด้านหน้าตัวรถครับ
150.665 -> ในขณะที่กล้องหน้ารถ
152.205 -> ก็จะมาอยู่ตำแหน่งที่อยู่กึ่งกลางรถใต้โลโก้ตรงนี้ลงมาครับ
159.912 -> เรามาต่อกันที่ด้านข้างของ Fortuner Legender ครับ
163.16 -> ส่วนที่โดดเด่นมาก ๆ ก็คือความสูงกับความใหญ่โตของตัวรถนะครับ
167.07 -> รถคันนี้มีความสูง 1 เมตร 83 เซนติเมตร
170.735 -> ถือว่าเป็นรถที่สูงมาก ๆ คันหนึ่ง
173.408 -> สำหรับรถอเนกประสงค์ครับ
174.695 -> แต่ก็มาพร้อมกับความสะดวกสบายในการใช้งาน
177.206 -> รวมถึงทัศนวิสัยในการขับขี่ที่เดี๋ยวผมพาไปชมกันต่อไปครับ
180.626 -> ส่วนที่น่าสนใจของบริเวณด้านข้างรถ
182.584 -> ก็คือ Ground Clearance นะครับ
183.968 -> หรือว่าระยะจากพื้นจนถึงบริเวณด้านล่างสุดของตัวรถ
186.902 -> เกือบ 20 เซนติเมตรเลยนะครับ
188.702 -> ทำให้คันนี้พร้อมลุยไปในทุกสถานการณ์ครับ
191.488 -> สเปกของตัวท็อปเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยนะครับ
194.442 -> ก็คือพร้อมลุยออฟโรดได้ด้วยครับ
196.266 -> ล้อที่ให้มาจะเป็นล้อขนาด 20 นิ้ว
199.017 -> ขนาดหน้ายางอยู่ที่ 265/50 R20 ครับ
202.422 -> ความสปอร์ตที่เราสามารถมองเห็นได้จากด้านข้างรถ
205.249 -> ก็คือเราจะเห็นเลยว่าครึ่งบนของตัวรถจะเป็นคนละสีกันกับสีตัวถังนะครับ
210.363 -> เขาเลือกที่จะใช้สีดำมุก ๆ หน่อยนะครับ
213.032 -> รวมถึงสีของกระจกมองข้างตรงนี้ด้วย
215.388 -> พอตัดกันก็ทำให้รถคันนี้ดูสปอร์ตมากขึ้นด้วยนะครับ
218.426 -> อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็แน่นอน Keyless Access
221.8 -> เราสามารถที่จะกดปุ่มบนประตูเพื่อที่จะล็อกรถหรือว่าปลดล็อกรถได้ด้วย
226.357 -> แต่ก็น่าเสียดายนิดหนึ่งที่กระจกมองข้างหน้าจะไม่ได้พับอัตโนมัติ
229.574 -> ตอนที่เราล็อกรถครับ
230.574 -> ด้วยความที่ตัวรถมี Ground Clearance ค่อนข้างสูงนะครับ
233.61 -> ตัวรถก็จะสูงหน่อยนะครับ
234.892 -> เวลาที่ผู้โดยสารหรือว่าคนขับขี่ขึ้นลงรถ
237.439 -> เพื่อความสะดวกก็จะมีบันไดตัวนี้ติดมาให้เลยนะครับ
240.39 -> อันนี้ติดมากับตัวรถเลยไม่ต้องไปติดตั้งเพิ่มเติมเองนะครับ
243.949 -> ซึ่งรับประกันในเรื่องของความแข็งแรงมาให้อย่างแน่นอนครับ
246.624 -> บริเวณด้านบนตรงนี้ก็มีแร็คหลังคาด้วย
249.085 -> สำหรับคนที่จะติดอุปกรณ์เพิ่มเติมบนหลังคาเพื่อที่จะขนของครับ
256.912 -> เรามาต่อที่ท้ายรถ
258.423 -> ดีไซน์ใหม่เช่นเดียวกัน
259.867 -> แล้วก็ส่วนที่แฟน ๆ Toyota หลายคนน่าจะชื่นชอบ
262.362 -> ก็คือดีไซน์ของไฟท้ายตรงนี้
264.445 -> ที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามโมเดิร์นมาก ๆ นะครับ
267.002 -> ให้ความรู้สึกรถยุโรปเช่นเดียวกันตรงนี้
269.264 -> ตรงแถบตรงกลางใส ๆ ตรงนี้จะเป็นไฟเลี้ยวแบบ Sequential
272.578 -> เท่ากับว่ารถคันนี้ได้ไฟเลี้ยว Sequential ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเลยครับ
276.54 -> อีกส่วนหนึ่งที่ล้อกันกับดีไซน์ของรอบคันเลยก็คือการใช้คิ้วสีดำนะครับ
280.903 -> เราจะเห็นว่าบริเวณกรอบไฟท้ายด้านหลังก็จะใช้คิ้วสีดำเช่นเดียวกันนะครับ
284.925 -> แล้วก็พาดยาวมาบริเวณมือจับฝากระโปรงท้ายด้วยนะครับ
288.363 -> ที่จะมีชื่อรุ่น Fortuner ที่เป็นสีดำเงาล้วนทั้งหมดเช่นเดียวกันครับ
292.685 -> ตรงนี้ให้ความดุดันกับตัวรถมาก ๆ ครับ
295.114 -> และแน่นอนว่ารุ่นท็อปก็จะมีป้ายชื่อรุ่น Legender 2.8 Sigma 4 ตรงนี้
300.955 -> ที่บ่งบอกว่ารถคันนี้ขับเคลื่อน 4 ล้อครับ
303.114 -> เราก้มลงมาดูบริเวณด้านล่างกันบ้างนะครับ
305.578 -> เราก็จะเห็นคิ้วสีดำเงาอีกเช่นกันนะครับ
307.966 -> อยู่บริเวณด้านล่างสุดของกันชนหลังนะครับ
310.661 -> ตรงนี้เราจะสามารถมองเห็นยางอะไหล่ที่ให้มานะครับ
313.854 -> ตัวนี้ Toyota ก็ยังคงยึดถือความปลอดภัย
316.201 -> ในเรื่องของการให้ยางอะไหล่มาอยู่นะครับ
318.08 -> กับเป็นตำแหน่งของท่อไอเสียขนาดใหญ่ทีเดียว
320.615 -> อยู่บริเวณด้านขวาของตัวรถ
321.948 -> ฝากระโปรงท้ายตรงนี้ยังมีส่วนของสปอยเลอร์หลังชิ้นโตทีเดียว
326.38 -> ยืดออกมาพอสมควรเลยตรงนี้ให้ความสปอร์ตของรถมากขึ้นนะครับ
330.412 -> บริเวณกระจกด้านหลังก็มีใบปัดน้ำฝนหลังมาให้เป็นที่เรียบร้อยนะครับ
334.537 -> สรุปภายนอกของ Fortuner Legender ใหม่นะครับ
337.15 -> เด่นเรื่องความคุ้มค่ามาก ๆ ครับ
338.9 -> เพราะว่ารอบนี้เปลี่ยนแปลงเยอะจริง
340.851 -> ทั้งดีไซน์รอบคันที่ดุดันบึกบึนมากและเท่สุดเลยนะครับ
344.36 -> ด้วย Exclusive Black Top
345.917 -> หลังคาพ่นสีดำตัดกับสีของตัวถังรถ
348.865 -> ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟท้ายได้แบบ LED
351.981 -> พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 20 นิ้วครับ
357.92 -> การเปิดฝากระโปรงท้ายของ Fortuner Legender ทำได้หลายวิธีนะครับ
361.761 -> เราจะเดินมากดปุ่มที่บริเวณฝากระโปรงท้ายก็เปิดได้นะครับ
365.492 -> เราจะกดปุ่มที่รีโมทคอนโทรลก็สามารถทำได้เหมือนกันนะครับ
368.739 -> แต่ว่าถ้าเกิดเราถือของมาแน่น ๆ 2 มือเลยนะครับ
371.721 -> เราไปชอปปิงมาหรือว่าถือของถือลังอะไรบางอย่าง
374.636 -> ต้องการที่จะโหลดขึ้นรถแล้วก็ไม่อยากจะวางของก่อนนะครับ
377.292 -> ถ้ามีกุญแจติดอยู่กับตัวเรา
379.071 -> เราสามารถที่จะเดินมาใช้ Kick Sensor นะครับ
381.317 -> ก็คือการเตะลอย ๆ ใต้ฝากระโปรงท้ายอย่างนี้ครับ
386.567 -> ฝากระโปรงท้ายก็จะเปิดเองโดยที่เราไม่ต้องวางของก่อนเลยครับ
390.788 -> ก็รอสักครู่นะครับ
391.956 -> จะเปิดช้านิดหนึ่งนะครับ
393.716 -> และก็เอาของวางไปอย่างที่เราต้องการครับ
397.76 -> วิธีการปิดก็เช่นกันนะครับ
399.076 -> เราจะมาปิดอย่างนี้ก็ได้หรือถ้าเกิดเราถือของออกจากท้ายรถเรานะครับ
404.136 -> เต็ม ๆ มือเหมือนกันไม่มีมือที่จะกดปิด
406.257 -> ก็สามารถใช้ขาของเราเตะ Kick Sensor ได้อีกหนึ่งทีครับ
411.902 -> เท่านี้เองเราก็สามารถที่จะถือของออกไปได้เลยนะครับ
415.315 -> โดยที่ไม่ต้องวางของก่อนครับ
416.863 -> ทีนี้เรามาดูพื้นที่ภายในกันบ้างนะครับ
419.154 -> Fortuner เป็น PPV แบบ 7 ที่นั่งนะครับ
421.921 -> ดังนั้นก็จะมีเบาะ 3 แถวด้วยกันนะครับ
424.117 -> อันนี้ก็จะคล้ายคลึงกับรถ PPV 7 ที่นั่งในตลาดนี่แหละครับ
427.148 -> พอมีเบาะ 3 แถวเบาะแถวสุดท้ายตรงนี้
430.088 -> ถ้าเกิดใครไม่ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่
432.317 -> หมายความว่าไม่ได้โดยสารกัน 7 คน
434.247 -> อาจจะมากสุดกัน 5 คน
435.767 -> เราก็สามารถที่จะพับเบาะตรงนี้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระบริเวณท้ายรถได้
440.702 -> Fortuner Legender ก็เช่นกันนะครับ
442.638 -> แถวสุดท้ายถูกแบ่งออกเป็นครึ่งๆ 50/50 ครับ
445.86 -> ให้เราสามารถที่จะพับเบาะลงไปได้ครับ
449.845 -> พอพับเสร็จก็จะถูกยกขึ้นมาเก็บอยู่บริเวณด้านข้างของตัวรถแบบนี้ครับ
459.706 -> ก็จะเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระนะครับ
462.295 -> ในกรณีที่เราโดยสารกันไม่เกิน 5 คนได้ครับ
464.925 -> แต่ในกรณีที่เราโดยสารกัน 7 คนนะครับ
467.69 -> ก็จำเป็นที่จะต้องพับเบาะแถวที่ 3 ลงมาให้เป็นที่นั่งปกติ
471.905 -> ซึ่งก็จะทำให้เหลือพื้นที่เก็บสัมภาระไม่ได้เยอะมากครับ
476.633 -> ทีนี้เราลองดูกันบ้างว่าถ้าเกิดเป็นผู้โดยสารแถวสุดท้ายหรือว่าแถวที่ 3
481.543 -> จะมีพื้นที่มากน้อยขนาดไหนใน Fortuner Legender โฉมนี้
484.752 -> การขึ้นรถไปแถวสุดท้ายก็จะต้องพับเบาะแถว 2 ลงมาก่อนนะครับ
489.189 -> ซึ่งเขาก็จะมีสลักในการพับเบาะนะครับ
491.221 -> ที่ทำให้เราไม่ต้องออกแรงเยอะแยะเลยนะครับ
494.007 -> แค่ดึงสลักตรงนี้นิดเดียวครับ
496.685 -> นี่แทบไม่ต้องออกแรงอะไรเลยนะครับ
498.412 -> ก็สามารถที่จะปีนขึ้นไปในแถวสุดท้ายของตัวรถได้ครับ
501.636 -> เราปีนขึ้นมาอยู่แถวหลังสุดกันแล้วนะครับ
505.507 -> ขึ้นมาปุ๊บก่อนที่จะตัดสินอะไรเราต้องพับเบาะแถว 2 มาก่อนครับ
509.604 -> เป็นตำแหน่งของเบาะแถว 2 ปกติเลย
512.306 -> ที่เขาสามารถปรับเอนได้ด้วยครับ
513.989 -> ถ้าเกิดอยู่อย่างนี้อาจจะรู้สึกว่าอึดอัดนิดหนึ่งนะครับ
516.551 -> แต่ว่าเบาะที่นั่งแถว 3 สามารถที่จะปรับเอนได้ด้วยนะครับ
520.789 -> ถ้าเกิดปรับเอนลงมาสุดเท่านี้เลย
522.659 -> สบายมากขึ้นเยอะเลยนะครับ
524.405 -> มีบริเวณของที่รองศีรษะที่สามารถปรับขึ้นมาได้นะครับ
528.543 -> ให้ตรงกับสรีระของแต่ละคนครับ
530.716 -> ตัวผมเองมีความสูงประมาณเกือบ 180 นะครับ
533.16 -> ถ้าเกิดนั่งแถวที่ 3 อาจจะอึดอัดเล็กน้อยนะครับ
536.335 -> แต่ถ้าเกิดใครที่ตัวไม่ใหญ่มาก สรีระไม่ได้ใหญ่มาก
539.7 -> ผมว่านั่งแถว 3 ได้สบาย ๆ เลยนะครับ
541.925 -> ตรงนี้ถือว่าออกแบบมาได้ค่อนข้างดีเลยนะครับ
544.103 -> แล้วก็ให้ความสบายกับผู้โดยสารทุกคนได้ทุกแถวเลยครับ
547.071 -> อย่างไรก็ตามถ้าเกิดผู้โดยสารแถวสุดท้ายปรับเอนเบาะไป
550.729 -> สิ่งที่เราจะต้องสูญเสียไปก็คือพื้นที่ของการเก็บสัมภาระด้านท้ายรถนั่นเอง
554.522 -> และนอกจากนี้ผู้โดยสารแถวสุดท้าย
556.69 -> ก็ยังมีช่องแอร์เป็นของตัวเองทั้ง 2 ช่องนี้นะครับ
559.232 -> ปรับได้อิสระเลยครับ
560.281 -> เบาะแถว 2 เขาจะแบ่งเป็น 2 ชิ้นนะครับ
562.856 -> แบบ 60/40 นะครับ
564.316 -> ก็คือจะมีชิ้นที่ยาวกว่าชิ้นที่ใหญ่กว่าตรงนี้
567.411 -> ผู้โดยสารแถวหลังเองสามารถที่จะออกได้ด้วยตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน
571.64 -> เพราะว่าบริเวณด้านซ้ายสามารถที่จะยื่นมือมาดึงสลักได้แบบง่ายดายครับ
576.535 -> แทบจะไม่ต้องออกแรงอะไรเลยนะครับ
578.419 -> ผลักออกไปแค่นี้ปุ๊บ
579.468 -> เราก็สามารถที่จะออกจากรถได้เลยครับ
582.2 -> นั่นคือแถวที่ 3
583.894 -> แต่ถ้าเกิดเรามาพูดถึงผู้โดยสารแถวที่ 2 กันหายห่วงจริง ๆ ครับ
588.016 -> อันนี้เป็นตำแหน่งเดิมเลยนะครับ
589.521 -> เราไม่ได้เลื่อนเบาะแต่อย่างใด
591.334 -> สังเกตว่าเหลือพื้นที่เยอะแบบเหลือเฟือมาก ๆ เลยนะครับ
594.802 -> นี่เบาะหน้าก็อยู่ตำแหน่งปกติด้วยนะครับ
596.752 -> ไม่ได้เลื่อนขึ้นไปเพื่อที่จะเพิ่มพื้นที่อย่างใดครับ
599.312 -> ต้องบอกว่าถ้าเกิดรถคันนี้โดยสารกันไม่เกิน 5 คน
602.921 -> พื้นที่เหลือเฟือมาก ๆ เลยนะครับ
604.66 -> อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2
607.651 -> ก็ให้มาอย่างเต็มที่ครบครันนะครับ
609.877 -> มีแอร์ที่ปรับแยกโซนจากด้านหน้าด้วยนะครับ
612.968 -> ก็จะมีช่องแอร์เป็นของตัวเองทั้งด้านซ้ายและด้านขวาตรงนี้นะครับ
616.287 -> บริเวณตรงกลางนี้ก็จะมีที่พักแขน
619.166 -> ที่มาพร้อมกับช่องวางแก้วอีก 2 ช่องด้วยกันครับ
623.036 -> อันนี้ต้องบอกว่าที่นั่งแถว 2 สบายจริงนะครับ
626.785 -> ให้พื้นที่มาเยอะจริงครับ
628.454 -> หรือถ้าเกิดยังไม่พอใจก็สามารถที่จะปรับเอนเบาะตรงนี้ได้ด้วยนะครับ
632.872 -> ผมปรับเอนให้ดูครับ
633.74 -> ตามใจชอบของเราเลยว่าอยากได้องศาที่เราสบายอยู่ตรงไหนนะครับ
638.318 -> ยิ่งถ้าเกิดไม่มีผู้โดยสารแถวที่ 3 แล้ว
640.814 -> ปรับได้เต็มที่กว่านี้เลยนะครับ
642.485 -> หรือถ้าเกิดเรามีผู้โดยสารแถวหลัง
644.791 -> และต้องการที่จะเพิ่มพื้นที่ให้เขาหน่อยนะครับ
646.702 -> อาจจะสรีระใหญ่หน่อยหรือว่าตัวสูงหน่อย
649.148 -> ผู้โดยสารแถวที่ 2 สามารถที่จะปรับเบาะเลื่อนขึ้นหน้าอย่างนี้ได้ด้วยครับ
653.682 -> เพิ่มพื้นที่แถว 3 เขานะครับ
657.141 -> ก็ยังเหลือเฟืออยู่ดีครับ
658.478 -> ส่วนที่หลายคนน่าจะชื่นชอบนะครับ
660.021 -> ก็คือรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาให้มานะครับ
662.37 -> ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของพอร์ตชาร์จ USB
665.373 -> ตรงนี้สำหรับผู้โดยสารแถว 2 มีมาให้ 2 ช่องตรงนี้นะครับ
668.902 -> มีช่องเก็บของแล้วก็มีตำแหน่งของช่องเสียบปลั๊กมาให้ด้วยนะครับ
673.558 -> นี่เป็นปลั๊ก 220 โวลต์ปกติเลยที่รองรับกำลังไฟสูงสุดที่ 100 วัตต์นะครับ
678.316 -> นั่นก็คือเราสามารถที่จะเสียบชาร์จเครื่องคอมพิวเตอร์
680.637 -> MacBook อะไรต่าง ๆ
682.472 -> หรือว่าอาจจะมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อะไร
684.753 -> ที่เราสามารถเสียบปลั๊กได้จากช่องตรงนี้เลย
687.286 -> ให้มาอย่างเต็มที่มาก ๆ ครับ
688.826 -> ด้านหลังเบาะคู่หน้าตรงนี้ก็จะมีที่แขวนถุงชอปปิงต่าง ๆ มาให้ด้วยนะครับ
693.977 -> ตรงนี้ก็คิดในเรื่องของรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเป็นอย่างดีครับ
696.933 -> อีกส่วนหนึ่งที่ผมชื่นชอบมาก ๆ เลยนะครับ
699.024 -> ก็คือกระจกทั้ง 4 บานของรถคันนี้เป็นกระจกออโต้ทั้งขาลงและขาขึ้น
706.119 -> อันนี้ถือว่ามีน้อยรุ่นในตลาดที่ให้มาอย่างเต็มที่แบบนี้
714.599 -> เราขึ้นมาอยู่บนตำแหน่งของคนขับนะครับ
717.484 -> ต้องบอกว่าตำแหน่งการนั่งขับของ Toyota Fortuner นี่แหละครับ
721.068 -> ที่เป็นเสน่ห์ที่ทำให้แฟนๆ Toyota หลงรัก Fortuner กันมากนะครับ
725.366 -> เพราะว่านี่คือตำแหน่งที่นั่งคนขับที่อยู่สูงมากนะครับ
728.474 -> แล้วก็มองเห็นทุกอย่างบนถนนจริง ๆ ครับ
731.058 -> ใน Fortuner Legender โฉมปัจจุบัน
733.087 -> มีการปรับปรุงเรื่องทัศนวิสัยมาเป็นอย่างดีมาก ๆ นะครับ
736.515 -> แทบจะไม่มีจุดบอดให้เราเห็นจากตำแหน่งนี้ได้เลยนะครับ
740.039 -> อันนี้เป็นจุดเด่นที่ทำให้รถคันนี้ใช้งานได้ง่าย
743.6 -> แม้ว่ารถจะมีขนาดใหญ่มากแต่ว่าตำแหน่งของคนขับ Fortuner ตรงนี้
747.72 -> จะไม่ได้รู้สึกเลยว่ารถคันนี้ขับยากแต่อย่างใดครับ
752.96 -> ทีนี้เรามาดูสิ่งอำนวยความสะดวกรวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่นะครับ
756.244 -> ที่ให้มาใน Legender รุ่นท็อปตัวนี้กันครับ
759.031 -> บริเวณมาตรวัดหรือว่าหน้าปัดหลังพวงมาลัยตรงนี้
761.593 -> ก็จะมีการผสมกันระหว่างมาตรวัดอนาล็อกที่เป็นเข็มปกติที่เป็นเข็มวัดรอบ
766.136 -> เข็มวัดความเร็ว เข็มน้ำมันแล้วก็เข็มอุณหภูมิของหม้อน้ำครับ
769.76 -> รวมกับหน้าจอดิจิทัลที่อยู่ตรงกลางนี้นะครับ
772.703 -> ที่เราสามารถควบคุมเมนูต่าง ๆ
774.865 -> ทั้งระบบความบันเทิงเปลี่ยนเพลงต่าง ๆ
777.883 -> สถานะของตัวรถครับ
779.11 -> รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่สามารถที่จะควบคุมผ่าน Joystick เล็ก ๆ
783.144 -> ที่อยู่บนพวงมาลัยมัลติฟังชันตรงนี้ได้ครับ
785.33 -> และพูดถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันตัวนี้ถือว่าให้มาเต็มจริง ๆ เลยนะครับ
789.862 -> นอกจาก Joystick เล็ก ๆ ตรงนี้แล้ว
791.823 -> ด้านซ้ายตรงนี้เราสามารถที่จะควบคุมระบบความบันเทิงได้
794.588 -> เปลี่ยนเพลง เพิ่มลดเสียง สั่งงานด้วยเสียงต่าง ๆ
797.427 -> รับสายหรือว่าวางสายโทรศัพท์จากชุดนี้ได้นะครับ
800.481 -> ก้านเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านขวาด้านล่างตรงนี้ควบคุมระบบ Cruise Control นะครับ
804.319 -> ที่คันนี้ให้มาเป็น Cruise Control แบบ Adaptive นะครับ
806.91 -> สามารถแปรผันความเร็วตามรถคันข้างหน้าได้ครับ
809.624 -> มีระบบรักษารถให้อยู่ในเลนนะครับ
811.661 -> หรือว่า Lane Keeping ตรงนี้ด้วยครับ
813.229 -> รวมถึงมีระบบเตือนรถออกนอกเลน
815.418 -> หรือว่า Lane Departure Assist
817.142 -> ที่สามารถควบคุมได้จากปุ่มนี้ด้วยครับ
818.951 -> บนพวงมาลัยยังมีแป้น Paddle Shift ในการเปลี่ยนเกียร์มาให้ด้วยนะครับ
822.348 -> เรียกว่าให้มาเต็มที่จริง ๆ ครับ
824.259 -> คันนี้เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
826.193 -> ซึ่งเราสามารถที่จะควบคุมระบบนี้ปรับเปลี่ยนโหมดได้นะครับ
829.697 -> ที่ปุ่มเปลี่ยนโหมดบริเวณตรงนี้ครับ
831.516 -> ก็จะมีให้เลือกว่าจะเป็นขับเคลื่อน 2 ล้อขับเคลื่อน 4 ล้อ
834.274 -> รวมถึงขับเคลื่อน 4 ล้อที่ใช้เกียร์ต่ำนะครับ
836.814 -> ตรงนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เราใช้รถอยู่ ณ เวลานั้นจริง ๆ นะครับ
840.003 -> สามารถที่จะมาปรับเปลี่ยนได้ที่ปุ่มตรงนี้ครับ
842.227 -> นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงเนินด้วยนะครับ
846.5 -> หรือว่า DAC สามารถที่จะมาเปิดการทำงานได้ที่ปุ่มนี้ครับ
850.56 -> ขุมพลังของ Toyota Fortuner Legender Line up ปัจจุบัน
853.983 -> ก็มีให้เลือกทั้งหมด 2 เครื่องยนต์ด้วยกันนะครับ
856.16 -> เริ่มต้นที่เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร 150 แรงม้า
859.715 -> แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรครับ
861.613 -> หรือว่าจะกระโดดมาเป็นตัวท็อปนะครับ
863.378 -> เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตรแบบคันนี้นะครับ
865.923 -> ก็จะได้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้านะครับ
868.723 -> แรงบิดสูงสุดที่ 500 นิวตันเมตร
871.198 -> ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed นะครับ
873.752 -> ซึ่งก็จะเป็นหัวเกียร์ที่เราคุ้นเคยกับรถ Toyota ทั่ว ๆ ไปนี่แหละครับ
877.161 -> ถ้าเกิดเราปรับลงมาที่เกียร์ D
878.883 -> ซึ่งเราสามารถผลักขวามาที่เกียร์ S หรือว่าเกียร์ Sport ได้นะครับ
882.17 -> ซึ่งตัวรถก็จะอนุญาตให้เราเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองครับ
885.166 -> เราสามารถที่จะเปลี่ยนเกียร์
886.783 -> เพิ่มหรือว่าลดจากหัวเกียร์ตรงนี้ก็ได้
889.111 -> หรือว่าจาก Paddle Shift หลังแป้นพวงมาลัยตรงนี้ก็ได้ครับ
892.129 -> นอกจากนี้ยังไม่พอเขายังมีโหมดการขับขี่มาให้เลือกอีก 3 โหมดด้วยกัน
896.544 -> เราสตาร์ทรถมาจะเป็นโหมด Normal ปกติทั่ว ๆ ไปครับ
899.829 -> ถ้าเกิดต้องการความสปอร์ตมากขึ้น
901.604 -> เราสามารถมาเลือกโหมด Sport จากปุ่มเปลี่ยนโหมดตรงนี้ได้ครับ
904.506 -> กดปุ่ม Sport ปุ๊บบริเวณหน้าจอตรงนี้จะมีพื้นหลังเป็นสีม่วงขึ้นมานะครับ
908.689 -> พร้อมกับระบุคำว่า Sport ครับ
910.089 -> หรือว่าเราสามารถที่จะปรับเปลี่ยนไปโหมด Eco ก็ได้นะครับ
912.593 -> ซึ่งก็จะเป็นโหมดที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้นครับ
914.623 -> กดปุ๊บพื้นหลังตรงนี้ก็จะเป็นสีน้ำเงินนะครับ
917.323 -> พร้อมกับข้อความ Eco ระบุไว้ครับ
919.086 -> มาถึงส่วนที่ผมชอบมาก ๆ ส่วนหนึ่งของรถคันนี้นะครับ
921.622 -> ก็คือหน้าจอความบันเทิงที่ให้มาครับ
923.981 -> เขาให้มาเป็น JBL Premium Audio เลยนะครับ
926.836 -> หน้าจอทัชสกรีนตรงกลางขนาดใหญ่ถึง 9 นิ้วเลยนะครับ
930.234 -> รวมถึงมีลำโพง JBL อยู่รอบคันนะครับ
933.004 -> ถ้าเกิดเรามองไปในตำแหน่งลำโพง
934.479 -> ที่เราสามารถมองเห็นได้อยู่รอบคันไปหมด
936.718 -> เราจะเห็นโลโก้ของ JBL อยู่ด้วยนะครับ
938.889 -> มีทั้งหมด 9 ตำแหน่ง 11 ลำโพงพร้อมกับซับวูฟเฟอร์ด้วยกัน
943.374 -> ตรงนี้ให้มาอย่างเต็มที่มาก ๆ ครับ
945.407 -> หน้าจอความบันเทิงที่เราเห็นตรงนี้รองรับหลายระบบเลยนะครับ
948.599 -> ขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่หรือว่าผู้โดยสารที่อยากจะเลือกใช้ครับ
951.366 -> เราสามารถใช้ระบบความบันเทิงของทาง Toyota เองก็ได้นะครับ
954.375 -> ที่จะมีการเชื่อมบลูทูธเข้ากับโทรศัพท์มือถือของเราครับ
957.266 -> หรือถ้าเกิดใครใช้ iPhone แล้วก็อยากจะใช้ Apple CarPlay
960.438 -> ก็แค่เสียบสาย USB แล้วก็เสียบสาย Lightning
963.685 -> เข้าหา iPhone ของเราสักครู่เดียวเท่านั้น
966.623 -> บริเวณหน้าจอตรงกลาง
967.909 -> ก็จะเข้าสู่เมนูของ Apple CarPlay ให้โดยอัตโนมัติเลยครับ
971.035 -> ใช้งานได้ง่ายและก็สะดวกมาก ๆ นะครับ
973.512 -> หรือถ้าเกิดใครใช้ Android ก็เช่นเดียวกันนะครับ
976.009 -> ตัวระบบความบันเทิงนี้รองรับ Android Auto เป็นที่เรียบร้อยครับ
978.985 -> และนอกจาก Apple CarPlay กับ Android Auto
981.416 -> แน่นอนว่ารถคันนี้รองรับแอปของ Toyota เอง
984.045 -> ที่ชื่อว่า Toyota T-Connect Telematics ด้วยนะครับ
986.876 -> สามารถที่จะค้นหาตำแหน่งของตัวรถผ่านโทรศัพท์มือถือของเราได้นะครับ
990.936 -> สามารถที่จะแจ้งเตือนการบำรุงรักษารถยนต์หรือว่า Service Reminder
994.628 -> มี Service Appointment
996.003 -> ในการที่จะนัดหมายเข้าสู่บริการผ่านระบบออนไลน์ครับ
998.935 -> รวมถึงเราสามารถดู Toyota Privilege ต่าง ๆ นะครับ
1001.724 -> สิทธิพิเศษของการเป็นเจ้าของรถ Toyota ได้ผ่านแอปพลิเคชันนี้เลยครับ
1005.683 -> นอกจากที่เราเชื่อมต่อรถยนต์ของเราเข้ากับโทรศัพท์มือถือได้แล้วนะครับ
1009.143 -> บริเวณช่องเก็บของตรงนี้ที่ดูเหมือนกับเป็นช่องที่วางของทั่ว ๆ ไป
1013.658 -> รถคันนี้ให้แท่น Wireless Charger มาด้วยนะครับ
1016.939 -> นั่นก็คือถ้าเกิดเราวางโทรศัพท์
1018.396 -> รุ่นที่รองรับระบบการชาร์จไร้สายลงไปบนแท่นนี้
1021.349 -> มันก็จะทำการชาร์จโดยอัตโนมัติเลยนะครับ
1023.833 -> โดยที่เราไม่ต้องเสียบสายแต่อย่างใดครับ
1026.123 -> ช่องตรงนี้ที่เราเห็นสามารถเปิดขึ้นมาเป็นช่องวางแก้วอีก 2 ตำแหน่งครับ
1030.2 -> แต่ส่วนที่น่าเสียดาย
1031.463 -> ก็คือผมมองไม่เห็นตำแหน่งของช่องเสียบสาย USB เลยนะครับ
1035.829 -> นอกจากตำแหน่งด้านข้างจอตรงนี้เพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น
1038.609 -> ระบบอำนวยความสะดวกผู้ขับขี่อีกส่วนหนึ่งที่หลายคนน่าจะชื่นชอบนะครับ
1042.54 -> ก็คือคันนี้มีกล้องอยู่รอบทิศทางเลยนะครับ
1045.684 -> ซึ่งสามารถที่จะมาแสดงผลบนหน้าจอแบบ 360 องศาได้นะครับ
1050.291 -> หรือว่ามันจะทำงานทันทีที่เราเข้าเกียร์ถอยครับ
1052.919 -> พอเข้าเกียร์ถอยปุ๊บ
1054.154 -> เราจะเห็นมุมมองนี้เลย
1055.73 -> ที่เป็นการแสดงภาพอุปสรรครอบทิศทางของตัวรถเรานะครับ
1059.434 -> สามารถที่จะเลือกดูได้หลายมุมมองเลยนะครับ
1062.351 -> ไม่มีจุดบอดให้เราได้เห็นจากหน้าจอนี้อย่างแน่นอนนะครับ
1066.483 -> เวลาที่เราจะจอดรถหรือว่าเข้าไปในที่แคบ ๆ
1068.849 -> หรือว่าไม่แน่ใจว่ามีสิ่งกีดขวางอะไร
1071.374 -> เตี้ย ๆ เล็ก ๆ ที่เราอาจจะมองไม่เห็นหรือเปล่านะครับ
1073.57 -> สามารถมาเช็กได้พร้อม ๆ กันผ่านหน้าจอตรงนี้
1076.768 -> ผ่านกระจกที่เราสามารถมองเห็นอยู่แล้วนะครับ
1079.103 -> ก็จะทำให้การขับขี่รถของเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้นครับ
1081.927 -> กล้องถอยที่แสดงผลตรงนี้ก็จะมีเส้นที่คอยบอกเราด้วยนะครับ
1085.911 -> ที่จะปรับเปลี่ยนหมุนไปตามองศาของพวงมาลัยจริง ๆ ของเรา
1089.722 -> ในการที่เราจะได้เล็งได้อย่างถูกต้องในการที่จะนำรถเข้าช่องจอด
1093.802 -> กล้องรอบทิศทางไม่ได้ช่วยแค่ตอนถอยนะครับ
1096.49 -> แต่ในขณะที่เราขับขี่ทำหน้าที่เป็น Blind Spot Monitor ให้เราด้วย
1100.398 -> ทันทีที่เราต้องการที่จะเปลี่ยนเลนนะครับ
1102.75 -> พอเราเปิดไฟเลี้ยวเตรียมเปลี่ยนเลนขวานะครับ
1105.471 -> กล้องด้านขวาก็จะติดขึ้นโดยอัตโนมัติ
1107.648 -> รวมถึงหน้าจอตรงนี้ก็จะแสดงผลมุมมองด้านขวาของตัวรถโดยอัตโนมัติ
1111.697 -> ตัวนี้เวิร์กกับทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของตัวรถ
1114.088 -> แปรผันตามไฟเลี้ยวที่เราเปิด ณ เวลานั้นครับ
1117.411 -> โดยรวมแล้วภายในของ Fortuner Legender ใหม่
1119.827 -> เน้นเรื่องการใช้งานที่ครบครันและก็สะดวกสบายมากขึ้นนะครับ
1123.254 -> โดยเฉพาะที่นั่งแถว 2 และ 3 ที่นั่งสบายและโดยสารนาน ๆ ได้จริงครับ
1127.805 -> มาพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่ครบครันมาก ๆ นะครับ
1130.708 -> หน้าจอทัชสกรีนขนาด 9 นิ้วครับ
1132.802 -> รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
1135.201 -> มีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายมาให้
1137.268 -> มีกล้องรอบคัน Panoramic View Monitor
1139.596 -> และฝากระโปรงท้ายเปิดได้ด้วย Kick Activated Sensor
1142.666 -> ครบครันและก็คุ้มค่าอย่างยิ่งเลยครับ
1151.478 -> เราโดดขึ้นมาขับ Fortuner Legender ตัวท็อปกันนะครับ
1154.243 -> 2.8 ลิตร 4-Wheel Drive คันนี้
1156.559 -> ต้องบอกว่าพละกำลังมหาศาลเลยนะครับ
1159.212 -> เครื่องยนต์ตัวนี้มีการอัปเกรดมาเป็นดีเซล 2.8 ลิตร
1162.809 -> ที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดมหาศาลถึง 500 นิวตันเมตรนะครับ
1167.74 -> นี่เป็น Fortuner ที่แรงที่สุดเท่าที่เคยมีมานะครับ
1171.216 -> แน่นอนว่าเป็น Fortuner ที่ขับสนุกที่สุดด้วยนะครับ
1174.317 -> พูดถึงการขับ
1175.376 -> ต้องบอกว่า Fortuner มีจุดเด่นในเรื่องของตำแหน่งของคนขับตรงนี้แหละ
1180.106 -> ที่จะเป็นตำแหน่งที่นั่งขับค่อนข้างสูงนะครับ
1183.066 -> เรามองเห็นทัศนวิสัยรอบตัวรถได้แบบชัดเจนมาก ๆ นะครับ
1186.761 -> เรียกได้ว่านั่งตรงนี้มองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวรถนี่แหละครับ
1190.524 -> ทำให้มันขับได้ง่ายแม้ว่าตัวรถจะมีขนาดใหญ่ก็ตามนะครับ
1194.1 -> บวกกับเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังสูงขึ้นนะครับ
1196.751 -> อันนี้ช่วยให้เราขับสนุกขึ้นเยอะมาก ๆ เลยครับ
1200.031 -> ส่วนหนึ่งที่ชัดเจนมาก ๆ ใน Fortuner Legender ตัวนี้
1203.144 -> คือช่วงล่างมีการซับแรงสะเทือนไปเยอะกว่าเดิม
1206.421 -> อย่างเห็นได้ชัดจริง ๆ เลยอันนี้
1208.761 -> คือเราจะแทบไม่ได้รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นนอกตัวรถ
1212.981 -> แบบที่เราคาดหวังไว้ครับ
1214.693 -> เรามักจะคาดหวังว่าตัวรถที่มีตัวถังลักษณะนี้
1217.827 -> มักจะมีช่วงล่างที่แข็งกระด้างใช่ไหมครับ
1220.011 -> แต่ว่าพอได้มาขับ Fortuner Legender ตัวนี้บอกเลย
1223.482 -> ว่ามันซับแรงสะเทือนไปได้ดีกว่าที่เราคิดมาก ๆ ครับ
1227.272 -> ให้ความสบายทั้งกับคนขับแล้วก็คนนั่งโดยสารครับ
1230.814 -> และอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าคันนี้ขับได้ง่ายกว่าเดิม
1234.42 -> ก็คือส่วนที่เรียกว่าระบบพวงมาลัย Variable Flow Control นะครับ
1238.343 -> พวงมาลัยมีการแปรผันน้ำหนักตามความเร็วที่ใช้อยู่ครับ
1242.543 -> นั่นก็คือถ้าเกิดเราใช้ความเร็วต่ำนะครับ
1245.129 -> น้ำหนักพวงมาลัยก็จะน้อยลงมาก ๆ นะครับ
1248.07 -> ทำให้เราสามารถเลี้ยวเข้าช่องจอดต่าง ๆ หรือว่ากลับรถต่าง ๆ
1251.641 -> ไม่ต้องสาวพวงมาลัย ไม่ต้องใช้แรงเยอะมากนะครับ
1254.43 -> ในขณะเดียวกันที่ความเร็วสูงขึ้นน้ำหนักพวงมาลัยก็จะหนักขึ้นนะครับ
1258.292 -> ช่วยเสริมความมั่นใจในขณะที่เราใช้ความเร็วในการขับขี่ได้ครับ
1261.794 -> ที่ผมชอบมาก ๆ กับเครื่องยนต์ 2.8 ลิตรตัวนี้
1264.998 -> ก็คือจังหวะเร่งแซงนะครับ
1266.678 -> แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร
1269.039 -> เร่งแซงแบบไม่มีจังหวะไหนที่เราจะไม่มั่นใจแน่ ๆ ครับ
1272.568 -> คือกดเมื่อไหร่ก็มากันเมื่อนั้นแหละครับ
1274.452 -> อยากจะแซงรถคันข้างหน้าสบาย ๆ นะครับ
1277.368 -> กดเร่งออกได้เลยครับ
1280.892 -> และที่ผมบอกว่าผมชอบมาก ๆ ในเรื่องของระบบกล้องรอบคันของเขาครับ
1285.367 -> ทันทีที่เราจะเลี้ยว
1287.113 -> นี่ผมตบไฟเลี้ยวขวานะครับ
1289.066 -> จังหวะที่ผมจะกลับรถตรงนี้
1290.622 -> หน้าจอก็จะโชว์นี่แหละครับ
1292.834 -> เป็นมุมรอบทิศทางของตัวรถเลย
1295.387 -> พร้อมกับเป็นภาพ 3 มิติโชว์ขึ้นมาให้เห็น ๆ เลยนะครับ
1298.258 -> ว่าตอนนี้รถของเราอยู่ตรงนี้นะครับ
1301.071 -> ด้านข้างมีอุปสรรคอะไรหรือเปล่า
1302.809 -> มีมุมไหนที่เราอาจจะมองไม่เห็นหรือเปล่า
1305.124 -> ซึ่งกราฟิกตรงนี้ก็จะเคลื่อนไปตามรถของเรานะครับ
1309.092 -> สมจริงมาก ๆ ครับ
1310.61 -> แล้วก็ทำให้เราเล็งภาพต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายครับ
1313.465 -> ในขณะที่เราจะเลี้ยว จะเข้าช่องจอด จะเข้าซอยแคบ ๆ หน่อย
1317.311 -> มองเห็นทุกอย่างจริง ๆ
1318.626 -> ห้องโดยสารของ Fortuner Legender
1321.401 -> มีการปรับปรุงให้มีความเงียบมากขึ้นด้วยนะครับ
1324.521 -> เขามีส่วนที่เรียกว่า Balance Shaft ครับ
1326.777 -> ตัวนี้มาช่วยทำให้ห้องโดยสารของเราเงียบขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้านะครับ
1331.719 -> สำหรับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ก็จัดเต็มมาให้เช่นเดียวกันนะครับ
1335.297 -> มี Adaptive Cruise Control นะครับ
1337.47 -> มีระบบเตือนการชนด้านหน้า
1339.103 -> Forward Collision Warning ในกรณีที่เราใช้ความเร็วสูงเกินไปนะครับ
1342.703 -> แล้วคันข้างหน้าช้ากว่าก็จะมีระบบเตือนให้เราขึ้นมานะครับ
1345.928 -> ให้เรากดเบรกได้อย่างทันท่วงทีครับ
1347.854 -> มีระบบแจ้งเตือนรถออกนอกเลน
1350.168 -> หรือว่า Lane Departure Assist ครับ
1351.843 -> ซึ่งสามารถกดเปิดได้จากปุ่มบนพวงมาลัยตรงนี้เลยนะครับ
1354.343 -> กรณีที่เราขับทางไกลแล้วก็อาจจะรู้สึกเหนื่อยล้านะครับ
1357.636 -> เปิดตัวนี้ป้องกันไว้ก่อนนะครับ
1359.229 -> เพราะว่าตัวนี้จะคอยแจ้งเตือนเมื่อรถของเราออกนอกเส้นทาง
1363.04 -> หรือว่าออกนอกเลนโดยที่เราไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว
1365.618 -> ซึ่งก็อาจจะเกิดจากการเหนื่อยล้าของเรานะครับ
1367.961 -> อาจจะหลับในบ้างนะครับ
1369.507 -> อย่างกรณีนี้ถ้าเกิดผมไม่ได้เปิดไฟเลี้ยวแล้วรถกำลังจะออกข้างนอกเลน
1374.504 -> ก็จะมีเสียงเตือนแล้วก็พวงมาลัยก็จะดึงรถกลับมา
1377.598 -> ให้เราอยู่ในเลนอีกครั้งหนึ่งนะครับ
1379.35 -> ต้านมือนิด ๆ ให้เรารู้สึกตัวเองอีกครั้งหนึ่งครับ
1381.509 -> ก็จะปลอดภัยมากขึ้น
1383.36 -> โดยรวมต้องบอกว่าเป็นรถคันใหญ่ที่ขับง่ายนะครับ
1386.016 -> แล้วก็ขับสนุกมากเลยทีเดียวครับ
1388.012 -> แล้วก็มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่
1389.925 -> ให้เรารู้สึกว่าเราสามารถขับขี่ได้ปลอดภัยมากขึ้นนะครับ
1393.021 -> เหมาะสำหรับใช้งานทางไกลนะครับ
1394.688 -> แต่ว่าจะใช้งานในเมืองที่จะมีทางแคบหน่อย ซอยแคบหน่อย
1398.592 -> ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องจุดบอดแต่อย่างใด
1401.648 -> ทางด้านระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Safety Sense
1404.896 -> ใน Toyota Fortuner Legender รุ่นปรับโฉมใหม่นี้ให้มาไม่น้อยนะครับ
1408.996 -> มี Pre-Collision System
1410.602 -> มี Lane Departure Alert
1412.177 -> แจ้งเตือนได้ทันท่วงทีลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ
1414.767 -> และอำนวยความสะดวกด้วย Adaptive Cruise Control
1417.641 -> วิ่งทางไกลได้สบายขึ้น คุ้มสมราคาค่าตัวครับ
1427.312 -> และนี่ก็คือภาพรวมของ Toyota Fortuner Legender
1430.145 -> ที่ผมพาชมรอบคันแล้วก็พาทุกคนไปขับกันมาด้วยนะครับ
1433.294 -> น่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับหลาย ๆ คนได้นะครับ
1435.713 -> ที่กำลังพิจารณาเลือกซื้อรถยนต์ขนาด 7 ที่นั่งอยู่ครับ
1438.636 -> ลองนึกภาพตามว่าถ้าเกิดเรามีรถคันนี้อยู่ในบ้านของเรานะครับ
1442.379 -> จะเอนกประสงศ์ขนาดไหนครับ
1444.009 -> รองรับกับขนาดครอบครัวที่อาจจะใหญ่ขึ้นสำหรับหลาย ๆ บ้านในอนาคต
1448.281 -> รวมถึงสามารถใช้งานในเมืองก็ได้
1450.423 -> ใช้งานต่างจังหวัด ใช้งานทางไกลคันนี้ยิ่งตอบโจทย์เข้าไปใหญ่เลยครับ
1453.908 -> และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือดีไซน์ที่สวยงามของเขา
1457.013 -> มีการปรับปรุงทั้งด้านหน้าและก็ด้านหลังนะครับ
1459.403 -> ให้มีความสปอร์ตดุดันแล้วก็บึกบึนมากขึ้นครับ
1462.282 -> สำหรับทาง Toyota เองหลาย ๆ คนก็ไว้ใจชื่อเสียงของเขาอยู่แล้วนะครับ
1465.799 -> มีศูนย์บริการมาตรฐานที่รองรับอยู่ทั่วประเทศครับ
1468.28 -> สำหรับราคาค่าตัวของ Toyota Fortuner Legender
1471.132 -> มี 2 ตัวเลือกเครื่องยนต์ด้วยกันนะครับ
1472.805 -> ก็คือเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตรหรือว่าตัวท็อปเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร
1477.186 -> มีทั้งตัวเลือกของขับเคลื่อน 2 ล้อแล้วก็ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วย
1480.302 -> ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,349,000 บาทครับ
1483.358 -> มี Extended Warranty 5 ปี 150,000 กิโลเมตรนะครับ
1486.783 -> รวมถึงฟรีค่าแรงบำรุงรักษา 100,000 กิโลเมตรแรกด้วยครับ
1489.987 -> คุณผู้ชมที่สนใจ
1491.334 -> สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ของทาง Toyota ครับ
1494.288 -> หรือถ้าเกิดใครสนใจแล้วแต่ว่าไม่อยากซื้อนะครับ
1496.918 -> ก็มีตัวเลือกของการเช่าซื้อระยะยาวจากบริการของ Kinto One
1500.369 -> ที่ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์เช่นเดียวกันครับ
1502.601 -> ผมอู๋ Spin9 ครับ
1503.492 -> พบกันใหม่คลิปหน้า
1504.265 -> สวัสดีครับ
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=oApP58bbXSs