
ตอนที่ 9 ภัยพิบัติในประเทศไทย
ตอนที่ 9 ภัยพิบัติในประเทศไทย
สาระที่ 5 ภูมิศาสตร์
ตอนที่ 9 ภัยพิบัติในประเทศไทย
Content
16.172 -> ตอนที่ 9 ภัยพิบัติในประเทศไทย
19.298 -> 1. ภัยพิบัติคืออะไร
21.503 -> ภัยพิบัติ คือ เหตุการณ์ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
24.821 -> หรือความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิต
27.492 -> อาจเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือจากการกระทำของมนุษย์
30.954 -> ที่ผ่านมาประเทศไทยเกิดภัยธรรมชาติหลายประเภท
34.979 -> และมีความรุนแรงแตกต่างกันไป
38.069 -> ในบางครั้งภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อประชาชน
42 -> เพียงเล็กน้อย แต่ในบางครั้งการเกิดภัยธรรมชาติ
45 -> ก็อาจมีความรุนแรงมาก
47.479 -> สร้างความเสียหายทั้งต่อทรัพย์สินชีวิตของประชาชน
51.317 -> รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมโดยรอบ
53.317 -> ซึ่งเป็นความรุนแรงในระดับที่เรียกว่า ภัยพิบัติ
57 -> 2. ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
60.917 -> ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีความสัมพันธ์กับ
63.923 -> ลักษณะทางกายภาพของประเทศ
66.738 -> ซึ่งการเกิดแต่ละครั้งจะมีระดับความรุนแรง
69.517 -> และส่งผลกระทบแตกต่างกันไป
72.392 -> ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยประสบกับภัยพิบัติในลักษณะต่าง ๆ
76.081 -> ที่มีระดับความรุนแรงมาก
78.62 -> สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สิน ชีวิต รวมถึงสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง
83.304 -> 1) อุทกภัย เกิดขึ้นจากการเอ่อล้นของน้ำในแม่น้ำ ลำธาร
88.215 -> เกิดขึ้นหลังจากฝนตกต่อเนื่องยาวนาน
90.742 -> จนไม่สามารถระบายน้ำออกพื้นที่ได้ทัน
94.132 -> มีทั้งอุทกภัยแบบฉับพลัน เช่น น้ำป่าไหลหลาก
98.109 -> และอุทกภัยที่เกิดขึ้นช้า ๆ จากน้ำล้นตลิ่ง
101.317 -> สาเหตุ การตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ไม่มีต้นไม้ช่วยดูดซับน้ำฝน
106.396 -> ฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน
109.198 -> จนไม่สามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้ทัน
112.168 -> การระบายน้ำไม่ดี
114.3 -> หรือมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ เช่น สร้างบ้านเรือนขวางทางน้ำไหล
119.35 -> ถนนไม่มีท่อระบายน้ำ
121.907 -> ผลกระทบ ทำให้ทรัพย์สิน อาคาร บ้านเรือน เส้นทางคมนาคม
127.899 -> พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย ก่อให้เกิดโรค
131.013 -> และอาจก่อให้เกิดเหตุไฟรั่วได้
134.007 -> อุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดในประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2554
140.368 -> มีพื้นที่ประสบภัยกระจายอยู่ทั่วประเทศ
144.332 -> การเตรียมพร้อมรับมือ
146.332 -> ไม่ตัดไม้ทำลายป่า
148.38 -> ใช้เทคโนโลยีช่วยในการวางแผนรับมือและแก้ไขปัญหา
152.405 -> ฝึกซ้อมเผชิญสถานการณ์และวางแผนการอพยพ
155.447 -> เตรียมข้าวของเครื่องใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
158.274 -> ลักษณะภูมิประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย
162.167 -> บริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย
165.664 -> คือ บริเวณที่ราบลุ่มหรือที่ต่ำ
168.323 -> โดยเฉพาะบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำและแอ่งที่ราบ เช่น
172.132 -> บริเวณจังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ สุพรรณบุรี
178.349 -> พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น มหาสารคาม ชุมพร พัทลุง และสงขลา
187.213 -> การสังเกตสถานการณ์อุทกภัย
189.68 -> เฝ้าระวังระดับน้ำเมื่อเกิดเหตุการณ์ฝนตกต่อเนื่องเป็นเวลานาน
194.387 -> สังเกตระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองหากเพิ่มสูงกว่าปกติ
198.256 -> จนใกล้เคียงระดับตลิ่งให้เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย
202.64 -> ส่วนอุทกภัยจากน้ำป่าให้สังเกตสีของน้ำในลำธาร
206.078 -> ถ้าเป็นสีแดงขุ่นหรือสีโคลน ให้ระวังการเกิดน้ำป่าไหลหลาก
211.295 -> 2) สึนามิ คือ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากคลื่นขนาดใหญ่
216 -> ในทะเลที่พัดเข้าชายฝั่งด้วยความรวดเร็วและรุนแรง
220.024 -> ซึ่งเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวใต้พื้นมหาสมุทร
222.863 -> ได้รับแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
225.606 -> เกิดเป็นคลื่นกระจายตัวออกไปจากศูนย์กลางของการสั่นสะเทือน
228.936 -> และเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่งอย่างรวดเร็ว
232.218 -> ลักษณะภูมิประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดสึนามิ
235.632 -> ชายฝั่งทะเลอันดามัน 6 จังหวัด ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง สตูล
243.179 -> ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย 16 จังหวัด ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี
248.749 -> ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี
253.804 -> ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี
257.361 -> นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส
262.512 -> การเตรียมพร้อมรับมือและสังเกตก่อนเกิดสึนามิ
265.614 -> รู้สึกถึงแผ่นดินไหว ระดับน้ำทะเลลดลง
268.956 -> พฤติกรรมของสัตว์ไม่ปกติ เช่น ฝูงนกขนาดใหญ่บินทั่วท้องฟ้า
274.15 -> ประกาศเตือนภัย ติดตามข่าวสารจากช่องทางต่าง ๆ
278.639 -> สังเกตป้ายเตือนในพื้นที่และปฏิบัติตาม
281.475 -> การปฏิบัติตนขณะเกิดสึนามิ
283.867 -> กรณีอยู่บนบก ออกจากบริเวณชายหาดให้เร็วที่สุด
288.359 -> หนีขึ้นที่สูงที่มั่นคงแข็งแรง เช่น ภูเขา ตึก
293.845 -> กรณีอยู่ในน้ำ หากว่ายน้ำอยู่ให้มองหาสิ่งยึดเกาะได้
299.139 -> เช่น ท่อนไม้ และว่ายออกสู่ทะเลลึกให้เร็วที่สุด
303.284 -> หากอยู่บนเรือให้แล่นออกไปสู่ทะเลลึก
305.619 -> เพราะความรุนแรงของคลื่นน้อยกว่า
307.919 -> การปฏิบัติตนหลังเผชิญภัยสึนามิ
310.446 -> ติดตามข่าวสารจากทุกช่องทาง
312.806 -> ออกห่างจากอาคารที่ได้รับความเสียหาย
315.98 -> 3) วาตภัย
318.459 -> เป็นภัยธรรมชาติที่เกิดจากลมพัดอย่างรุนแรงจนสร้างความเสียหาย
322.028 -> ต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบภัย
325.178 -> สาเหตุ
326.241 -> มีสาเหตุมาจากการเกิดพายุฤดูร้อน
328.876 -> ประเทศไทยตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร
331.667 -> ส่งผลให้มีอุณหภูมิเฉลี่ยค่อนข้างสูงในฤดูร้อน
335.716 -> เมื่อมวลอากาศร้อนยกตัวสูงขึ้น มวลอากาศเย็นจะพัดเข้ามาแทนที่
341.705 -> และเมื่ออากาศร้อนและอากาศเย็นเคลื่อนที่มาปะทะกัน
345 -> ทำให้เกิดความแปรปรวนของอากาศก่อให้เกิดพายุ
348.785 -> ผลกระทบ
350.282 -> วาตภัยที่รุนแรงก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน
354.51 -> อาคารบ้านเรือน และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ
357.971 -> การเตรียมพร้อมรับมือ ติดตามข่าวสภาวะอากาศเป็นประจำ
361.708 -> ดูแลโครงสร้างอาคารบ้านเรือน ให้แข็งแรงอยู่เสมอ
365.361 -> หลบอยู่ในอาคารหรือสถานที่ปลอดภัยเมื่อเกิดพายุ
368.823 -> ไม่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ไม่สวมเครื่องประดับโลหะ
373.878 -> ไม่ควรอยู่กลางแจ้ง
376.117 -> และไม่ควรอยู่ใกล้ต้นไม้ขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง
379.65 -> เพราะอาจถูกฟ้าผ่าได้
381.638 -> ลักษณะภูมิประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดวาตภัย
385.169 -> บริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดวาตภัย คือ แนวบริเวณที่ร่องลมมรสุม
390.811 -> ทั้งลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
393.12 -> และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน
396.055 -> การสังเกตสถานการณ์วาตภัย
399.061 -> ก่อนเกิดวาตภัย สภาพอากาศจะร้อนอบอ้าวติดต่อกันหลายวัน
404.176 -> ลมค่อนข้างสงบ
406.248 -> มีความชื้นในอากาศสูง
408.835 -> ท้องฟ้ามืดครึ้ม
410.895 -> มีเมฆมาก
412.117 -> ขณะเกิดวาตภัย
414.393 -> มีพายุรุนแรงเป็นเวลา 15-20 นาที
418.394 -> มีเมฆมาก ลมกระโชกเป็นครั้งคราว
421.831 -> ฝนตกหนัก
423.508 -> มีฟ้าแลบฟ้าร้อง และอาจมีลูกเห็บตก
426 -> หลังเกิดวาตภัย
428.191 -> เมื่อพายุสงบ จะมีสภาพอากาศที่เย็นลง
431.88 -> ท้องฟ้าแจ่มใส
434.827 -> 4) ดินโคลนถล่ม
437.031 -> เป็นภัยธรรมชาติที่มักจะเกิดควบคู่กับฝนตกหนัก
439.762 -> หรือฝนตกติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
443.434 -> ส่งผลให้ดิน หรือหินหลุด หรือพังทลายลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก
448.261 -> สาเหตุ
449.65 -> ดินโคลนถล่ม มีสาเหตุมาจากการมีฝนตกติดต่อกัน
453.699 -> เป็นเวลานาน
455.647 -> มีปริมาณน้ำฝนมาก
457.503 -> ทำให้ดินและพืช ไม่สามารถอุ้มน้ำได้ทั้งหมด
461.421 -> ส่งผลให้ดินกลายสภาพเป็นดินโคลน
463.744 -> ไหลถล่มลงมาตามความลาดชันของพื้นที่ลงมายังพื้นที่เบื้องล่าง
468.295 -> ผลกระทบ
469.972 -> ดินโคลนถล่มที่มีความรุนแรง
471.96 -> จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
475.337 -> อาคารบ้านเรือนของผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ประสบภัย
479.134 -> การเตรียมพร้อมรับมือ
480.931 -> ไม่ตัดไม้ทำลายป่า
483.242 -> ไม่สร้างบ้านหรือสิ่งก่อสร้างขวางทางน้ำ
486 -> บริเวณที่ลาดเชิงเขา
488.275 -> หากมีฝนตกต่อเนื่องยาวนานควรอพยพออกจากพื้นที่
491.784 -> หากพลัดตกลงไปในกระแสน้ำ
494.383 -> ห้ามว่ายทวนกระแสน้ำ
496.383 -> เพราะจะถูกต้นไม้และก้อนหินที่ไหลมากระแทก
499.21 -> ลักษณะภูมิประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดดินโคลนถล่ม
502.839 -> บริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดดินโคลนถล่ม
506.552 -> พื้นที่ที่มีความลาดชันมาก เช่น ภูเขา หน้าผา
510.792 -> หรือตามไหล่เขาที่มีการบุกรุกแล้วถางเพื่อทำการเกษตร
515.152 -> หรือสร้างที่อยู่อาศัย พื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารที่เป็นภูเขาสูง
519.979 -> เหตุดินโคลนถล่มมักจะเกิดบริเวณตอนบนของประเทศ เช่น
525.465 -> ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
528.411 -> การสังเกตสถานการณ์ดินโคลนถล่ม
530.842 -> เมื่อเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องยาวนาน
533.189 -> แล้วน้ำในลำห้วยหรือลำธารมีความขุ่นมาก
536.758 -> หรือมีสีแดงขุ่น แสดงว่ามีตะกอนดินไหลปะปนมา
541.645 -> หรือมีเสียงดังคล้ายต้นไม้ล้ม
543.825 -> หรือเสียงก้อนหินกลิ้งให้ระวังการเกิดเหตุดินโคลนถล่ม
547.478 -> ดังนั้น การศึกษาในเรื่องดังกล่าวช่วยให้เราเตรียมพร้อมรับมือ
551.263 -> เหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นได้อย่างรู้เท่าทัน
554.605 -> และสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=OcC8Zx_bz7Y