CU-TEP เทคนิคเตรียมสอบ

CU-TEP เทคนิคเตรียมสอบ


CU-TEP เทคนิคเตรียมสอบ

การสอบ CU-TEP มีความสำคัญมากโดยเฉพาะน้อง ๆ คนไหนต้องการเข้าเรียนในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งภาคปกติและภาคภาษาอังกฤษ เพราะเป็นตัวชี้วัดที่ดีของทางมหาวิทยาลัยว่าคนที่จะเข้าเรียนต่อนั้นมีความสามารถทางภาษาอังกฤษมากพอหรือไม่ ดังนั้นอย่าพลาดที่จะมองหาคอร์สติว CU-TEP เพื่อเป็นตัวช่วยในการทำข้อสอบให้ผ่านง่ายขึ้นกว่าเดิม


Chulalongkorn University Test of English Proficiencycutep หรือ CU-TEP คือ ข้อสอบประเมินความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ออกโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปกติจะแบ่งออกเป็น 4 พาร์ท ได้แก่ CU-TEP Writing, CU-TEP Reading, CU-TEP Listening, CU-TEP Speaking ซึ่งการที่น้อง ๆ จะทำ CU-TEP คะแนนเต็ม ไม่ใช่แค่การอ่านผ่าน CU-TEP หนังสือ, CU-TEP pdf หรือ หาข้อมูลจาก CU-TEP pantip เพียงอย่างเดียว แต่ควรมีการติว CU-TEP เพื่อให้เข้าใจในเนื้อหามากยิ่งขึ้นด้วย


CHULATUTOR มีการเปิดคอร์สสำหรับคนที่สนใจสอบ CU-TEP แม้มีเวลาเตรียมตัวน้อยเพียง 1-2 เดือน ก็ไม่ใช่ปัญหา ด้วยรูปแบบคอร์สที่เน้นความเข้าใจอันรวดเร็ว ผ่านเนื้อหาที่มีความครบครัน ชัดเจน จึงมั่นใจได้ว่าเวลาไม่ใช่อุปสรรคสำคัญในการติว CU-TEP กับเราอย่างแน่นอน ซึ่งในคลิปตัวอย่างนี้ก็จะมีติวเตอร์มาแนะนำพื้นฐานง่าย ๆ ให้เห็นภาพว่า การสอบแบบทั่วไป และ CU-TEP E-Testing มีแนวทางเบื้องต้นอย่างไรบ้าง


เริ่มต้นด้วยการสอบ CU-TEP writing หากน้อง ๆ คนไหนเองไม่ค่อยมีความรู้เรื่องคำศัพท์อย่าพึ่งกังวลใจ เนื่องจากข้อสอบจะเน้น CU-TEP grammar มากกว่าคำศัพท์ เช่น ประธานในโจทย์ให้มาควรใช้กริยาอย่างไร รวมถึงการเข้าใจเรื่อง CU-TEP error หมายถึง การหาจุดผิดของประโยคนั้น ๆ ให้เจอ ถ้าตรงนี้มีความรู้และเข้าใจจะช่วยให้การสอบ CU-TEP writing ง่ายกว่าเดิมอีกหลายเท่า


ต่อด้วยการทำข้อสอบ CU-TEP reading ตรงนี้เป็นเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผู้สอบหลายคนไม่รู้และทำให้เกิดปัญหาในการสอบ CU-TEP ก็คือ ทำไม่ทัน แต่ด้วยประสบการณ์ของติวเตอร์จาก CHULATUTOR จะแนะนำวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ CU-TEP คะแนนเต็ม เพราะทำข้อสอบได้ครบถ้วนตามเวลากำหนดเป็นได้มากขึ้น เช่น ตัวอย่างในคลิป CU-TEP นี้มีการแนะนำให้ข้ามส่วนที่ 2 กับ 3 แล้วเลือกทำส่วนที่ 4 ก่อน เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ของกรรมการที่จะดึงเอาคะแนนกลับไป หากมัวแต่วุ่นวายกับการทำส่วน 2 และ 3 ซึ่งมีความยากและเนื้อหาเยอะ หลาย ๆ คนก็ทำส่วนที่ 4 ไม่ทัน และพลาดโอกาสทำคะแนนไปทั้ง ๆ ที่มองแล้วส่วนที่ 4 นั้นง่ายสุด นี่จึงเป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้มั่นใจว่าเลือกติว CU-TEP กับเราแล้วมีอะไรดี ๆ มากกว่าแค่การอ่าน CU-TEP หนังสือ หรือ CU-TEP pdf อย่างแน่นอน


เรื่องต่อมาเป็นพาร์ทของ CU-TEP listening คือ การฟังประโยคแล้วตอบคำถามที่โจทย์ถามเอาไว้ ตรงนี้เองก็มีหลักง่าย ๆ ในการทำ CU-TEP เช่นกัน เพียงแต่น้อง ๆ หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าควรทำอย่างไร ตัวอย่างคลิปนี้ได้ระบุไว้ว่า หลัก ๆ ของการทำ CU-TEP listening ต้องรู้ว่าคำถามมักถามเกี่ยวกับอะไร จะช่วยให้จับใจความของสิ่งที่ได้ยินง่ายขึ้น และการทำ CU-TEP ข้อสอบก็ง่ายขึ้นตามไปด้วย และอีกทริคที่ห้ามพลาดก็คือ ต้องพยายามฝึกทำหรืออ่าน CU-TEP หนังสือที่เป็นแนวข้อสอบบ่อย ๆ จะช่วยให้คุ้นชินและรู้ว่าเมื่อได้ยินคำประมาณนี้ต้องตอบอย่างไรให้ถูกต้อง


อย่างไรก็ตามเมื่อนำเอากำหนดเวลาในการสอบ CU-TEP มารวมกับการสอบทุกรูปแบบจะเกิดปัญหาใหญ่คือ น้อง ๆ หลายคนทำข้อสอบไม่ทัน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตนเองทำได้แน่ ๆ ตรงนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่อย่ามองข้ามเด็ดขาด แม้ตนเองจะฝึกฝนมาหนักขนาดไหน แต่ถ้าไม่บริหารเวลาอย่างเหมาะสมก็มีสิทธิ์พลาดได้ง่าย ๆ เลย โดยการบริหารเวลาส่วนใหญ่มักจะใช้กับข้อสอบ CU-TEP reading เนื่องจากการอ่านข้อความต่าง ๆ ต้องใช้เวลาโดยเฉพาะส่วนที่ 2 และ 3 ตามที่ได้บอกไว้ข้างต้น ตรงนี้เองทางด้านติวเตอร์ของ CHULATUTOR ได้มีการนำเสนอเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้การสอบ CU-TEP ง่ายขึ้นกว่าเดิม เชื่อว่าหลายคนไม่รู้จะทำอย่างไรให้ทำข้อสอบได้ทั้งหมด อีกทั้งข้อสอบ CU-TEP พาร์ทนี้ยังจัดเป็นพาร์ทปราบเซียนของคนไทยพอสมควร เพราะหลายคนเลือกไล่ทำไปตั้งแต่ข้อแรกจนถึงข้อสุดท้าย ดังนั้นการได้ไปติว CU-TEP จะช่วยให้รู้ทริคดี ๆ ในการทำข้อสอบมากขึ้นกว่าเดิม


อีกอย่างของการไปสอบ CU-TEP ไม่ว่าจะสอบปกติหรือ CU-TEP E-Testing ก็ตามยังคงเน้นย้ำเสมอเรื่องการแต่งกาย ควรแต่งกายด้วยชุดสุภาพ เช่น ชุดนักเรียน นักศึกษา, รองเท้าหุ้มส้น, เสื้อเชิ้ตสีสุภาพ หากกรรมการผู้คุมสอบมองแล้วแต่งตัวผิดก็หมดสิทธิ์สอบในรอบนั้น ๆ ไปโดยปริยาย และไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นการติว CU-TEP กับเราจึงไม่ใช่แค่เรื่องของบทเรียน แต่ยังมีข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับใช้ในการเข้าสอบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีดังใจต้องการด้วย


สำหรับคนที่ต้องการติว CU-TEP หรืออยากรู้ว่า CU-TEP ข้อสอบที่ออกมาจะเป็นแนวไหนบ้าง นอกจากการอ่าน CU-TEP หนังสือเป็นประจำเพื่อฝึกทำโจทย์แล้ว ยังต้องมีการติวเทคนิคเพิ่มเติมเพื่อให้การสอบเป็นไปดังหวัง หรืออาจทำให้ได้ CU-TEP คะแนนเต็มเลยก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง ในส่วนของคนที่มีเวลาเตรียมตัวสอบ CU-TEP น้อยเพียง 1-2 เดือน แนะนำว่าควรเลือกติว CU-TEP กับ CHULATUTOR จะดีที่สุด มีเทคนิคต่าง ๆ ที่พร้อมอธิบายอย่างเข้าใจ ละเอียด ลึกซึ้ง มีการทดสอบความรู้ของติวเตอร์อยู่ตลอดเพื่อให้มั่นใจว่าผู้เรียนทุกคนจะได้ความรู้กลับไปแบบเต็ม ๆ เอาไปสอบได้จริง


ท้ายที่สุดคือความตั้งใจไม่ว่าจะสอบแบบไหน ต้องเจอกับ CU TEP ขอให้มีความขยัน หมั่นฝึกฝนตนเองตลอดเวลา แล้วการสอบจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ใคร ๆ ก็สามารถสอบผ่าน CU TEP ได้ เอาแค่ในคลิปนี้เชื่อว่าช่วยให้หลาย ๆ คนเข้าใจเรื่องการสอบกว่าเดิม โอกาสได้ CU TEP คะแนนเต็มมีสูง ไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรแล้ว อนาคตดี ๆ รออยู่ข้างหน้ามากมายมั่นใจได้เลย


สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.chulautor.com

ดูรายละเอียดคอร์สเรียน CU TEP Online ที่ https://online.chulatutor.com/


Content

11.38 -> สวัสดีค่า น้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนนะค้า มาพบกับพี่แนนอีกครั้งนึงนะคะ
15.28 -> วันนี้พี่แนนก็มีเรื่องเกี่ยวกับภาษาอังกฤษอีกเรื่องนึงที่น้องๆ ในเว็บไซต์ Dek-D เนี่ยสนใจกันมากก็คือเรื่องเกี่ยวกับ CU-TEP นะคะ
23.34 -> ได้ยินมาว่าการสอบ CU-TEP เนี่ยเต็มเกือบทุกครั้ง แล้วก็มีความสำคัญกับน้องๆ ที่อยากเข้าในสายวิทย์ อินเตอร์มาก
29.84 -> โดยเฉพาะในจุฬาฯ น่ะนะคะ วันนี้พี่แนนก็เลยมีเทคนิคดีๆ นะคะ แต่พี่แนนเองเนี่ยก็ไม่รู้หรอก ก็เลยต้องไปถามมาจากติวเตอร์คนนี้ค่ะ
37.74 -> นั่นก็คือพี่เบสแห่งจุฬาติวเตอร์นั่นเองค่ะ พี่เบสสวัสดีค่า ~ พี่เบส: สวัสดีครับคุณพี่ืแนนครับ แล้วก็สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนนะครับ
45.18 -> อันนี้พี่เบสนะครับ เป็นทีมจากของพี่เปิ้ลนะครับ จุฬาติวเตอร์นะครับ ก็ดูแลในส่วนของการปรับพื้นทางภาษาอังกฤษในด้าน CU-TEP โดยเฉพาะครับผม
54.28 -> พี่แนน: ตรงนี้พี่เบสดูแลมานานรึยังคะในส่วนของคอร์สนี้ พี่เบส: จริงๆ แล้วดูแลมาจะครบปีแล้วครับผม จะครบปีนึงละครับ
60.76 -> พี่แนน: ก็เจอน้องๆ มาเกือบปีนึงแล้ว พี่เบส: ใช่ครับผม ก็ครับผม
65.02 -> พี่แนน: ตอนนี้เนี่ยก็คือมีน้องๆ หลายคนเนี่ย... บางคนอาจจะอยากเริ่มสอบ CU-TEP แล้วทีนี้เนี่ย อาจจะเวลาน้อยนิดนึง พี่เบส: อ๋อ ครับผม
74.5 -> พี่แนน: มีเวลาประมาณซัก 2 เดือนหรือเดือนนึงเนี่ยน่ะค่ะ พี่เบส: อ๋อ เวลาน้อย โอเค
77.86 -> พี่เบสมีเทคนิค เคล็ดลับเด็ดๆ มั้ยคะว่าถ้าอยากจะทำคะแนนให้ได้เจ๋งๆ หรือทำข้อสอบให้ผ่านเนี่ย
84.08 -> พี่แนน: มีเทคนิคอะไรบ้างทั้ง 3 พาร์ทเลยค่ะ พี่เบส: โอเคครับ
86.42 -> งั้นเดี๋ยวพี่ขอเริ่มพาร์ทแรกที่เป็นพาร์ทที่สามารถเก็บแต้มได้ก่อน พาร์ทแรกก็คือพาร์ทของ Writing ครับผม
92.06 -> สิ่งแรกที่พี่อยากจะบอกก็คือว่า ถ้าน้องไม่รู้คำศัพท์เนี่ย ไม่ต้องห่วง เพราะว่าเราเนี่ยไม่ต้องการเน้นคำศัพท์ในนั้น
99.18 -> แต่เราต้องการเน้นโครงสร้างทางไวยากรณ์มากกว่าว่าจำโครงสร้างได้มั้ย ประธานเป็นอย่างนี้ verb ต้องใช้อย่างนี้นะครับ
107.08 -> งั้นเดี๋ยวพี่ขอมาบอกเลยว่าข้อสอบเนี่ยจะออกอันไหนบ้าง จากประสบการณ์นะครับ ที่มันจะต้องออกทุกครั้ง ออกทุกรอบ
113.64 -> เรื่องแรกครับคือเรื่องของ if clause เรื่องนี้ออกแน่นอนครับ ก็คือเรื่องของ if กับ clause ต้องไปด้วยกัน อะไรอย่างนี้นะครับ
119.72 -> อีกเรื่องนึงครับ คือเรื่องของ Present Subjunctive ซึ่งจะมีคำที่ออกข้อสอบเลยครับ อันที่ 1 ครับ important นะ
126.78 -> อันที่ 2 ครับ imperative อันที่ 3 ครับ recommend อันที่ 4 ครับ suggest อย่างเนี้ยน้องพอเก็บแต้มได้เลยครับ
132.9 -> ในช่วงเวลา 1 เดือนคือจำตัวนี้ก่อน แต่ว่าไอตรงไหนล่ะ เนื้อหา Grammar มีเยอะจริงมั้ยครับ แต่ตัวที่ออกบ่อยที่สุดเนี่ย
140.88 -> จะเป็นในเรื่องของ Part of Speech เช่นเอางี้ครับ เอาคำง่ายๆ เลยครับ beauty เป็นคำนามนะ แต่ beautiful เป็น adjective
149.76 -> ก็คือเราต้องวาง... คือคำ 2 คำนี้แปลว่าสวยเหมือนกันจริงมั้ยครับ แต่เราต้องดูให้ออกว่า เฮ้ย ตัวไหนอ่ะ
155.22 -> ถ้าเป็นนามจะวางตรงไหน เป็น verb วางตรงไหน อันนี้คือหลักๆ อีกเรื่องนึงที่ต้องรู้คือเรื่องของ Subject Verb Agreement
161.74 -> มันคืออะไร ก็คือประธานแบบนี้ต้องใช้ verb แบบไหน นี่คือความสอดคล้องของประธานกับกริยานะครับ ประมาณนี้ครับผม
170.18 -> อันนี้ก็คือทั้งหมดนี้เป็นส่วนของ Writing นะครับ ต่อไปเป็นส่วนของ Reading นะครับ ใน Reading นะครับผม
176.78 -> ต้องบอกก่อนว่ามี 2 ส่วน ทั้งหมดมี 60 ข้อเนาะ นะครับ ส่วนแรกก็คือ Cloze Test ใน Cloze Test เด็กอาจจะมองว่า
184 -> เฮ้ย ทุกข้อเป็นคำศัพท์หมดเลยรึเปล่า จริงๆ แล้วไม่ใช่นะครับ มันมีในส่วนของที่วัด Grammar อยู่ด้วย
189.5 -> ก็คือข้อสอบ 4 choices เนี่ย a b c d นี่ครับผม มันจะมีข้อนึงที่จะใช้คำศัพท์คำเดียวกัน อย่างเช่น a. is acting
198.46 -> b. are acting, c. act ใส่ s, d. act เติม ed ก็คือ... จริงๆ แล้วเราไม่ต้องแปลเลยครับ
205.94 -> เราแค่ดูว่าไอตรงนั้นเนี่ย ประธานเป็นแบบนี้ต้องใช้กริยาแบบไหน ก็เลือกเข้าไปเลย ซึ่งอ่านตรงนี้เนี่ยนะครับ
213.18 -> มันสามารถไปใช้กับส่วนของ Writing ได้ด้วยนะครับ แล้วก็ใน Reading เนี่ยนะครับมันจะมีทั้งหมด 5 passages
219.94 -> passage แรกเนี่ย 5 ข้อนะ ส่วนอีก 4 อันเนี่ยครับผมทั้งหมด 10 ข้ออย่างละ 10 ข้อนะครับ
225.48 -> แต่จะบอกเลยครับว่าข้อสอบ... อาจารย์เนี่ยมีการวางหมากกับเด็กๆ นิดนึง โดยที่ข้อสอบจะแย่ที่สุดก็คืออันที่ 2 อันที่ 3 นะ
233.6 -> ให้น้องไปอันสุดท้ายก่อนนะครับ เพราะว่า passage 2 กับ 3 ที่น้องจะเจอเนี่ยจะเป็น passage ที่ยาวที่สุดครับ
238.9 -> มันจะเป็นการวางหมากที่กรรมการจะดึงเวลาเด็ก ให้เด็กรู้สึกท้อ เพราะฉะนั้นถ้าทำไงให้ทันใช่มั้ยครับ ก็คือ...
246.08 -> ต้องทำจากหลังขึ้นมานะครับ ประมาณนี้ อ่ะครับผม แล้วก็ส่วน Listening นะครับ....
252.72 -> ถ้าพูดกันจริงๆ แล้วเนี่ย Listening มีทั้งหมด 3 ส่วนนะ ส่วนแรกคือ 15 ข้อแรกก่อน ใน 15 ข้อนี่นะครับผมมันก็จะมี A พูดแล้ว B ตอบ
263.08 -> แต่ตัวคำถามโดย pattern ที่มันถามจริงๆ เนี่ยมีไม่กี่แบบนะ อย่างแรกครับ ถามเลยครับ
269.1 -> What do you mean? คำว่า mean นั่นเอง อันที่ 2 คือคำว่า imply อันที่ 3 คือ suggest อันที่ 4 คือ who ใครกับใครคุยกัน
280.18 -> เจอสถานการณ์อย่างนี้ ใครกับใครคุยกัน อ่ะพี่ยกตัวอย่างง่ายๆ นะ เช่น A พูดว่า "ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ไปเรียนแต่เช้า"
286.94 -> B บอกว่า "ยังไม่นอน ขอเล่นเกมต่อ" ถ้าเป็นแบบนี้ก็คือเป็นคุณพ่อกับลูกอย่างงี้คุยกันจริงมั้ยครับ ก็คือเป็นลักษณะแบบนี้
294.52 -> ในส่วนที่ 2 ครับก็คือเป็น dialogue แล้วนะ แต่จะยาวกว่าส่วนแรกมากนะครับ แล้วก็เลยถามว่า... dialogue ยาวก็จริงนะ
304.08 -> แต่ถามว่ามันยากกว่ามั้ย จริงๆ แล้วเนี่ยครับผม ตัวคำถามมี pattern ตายตัวเหมือนกัน ถามเลยครับ
311.9 -> Topic คืออะไร พูดง่ายๆ คือข้อสอบจะถาม main หลักเป็นหลัก ก็คือเอาเนื้อก่อน คือจะไม่ละเอียดยิบขนาดนั้น
320.28 -> แล้วก็ถามว่าสิ่งที่ควรทำต่อไปคืออะไร แล้วก็ Tone ของเรื่องเป็นแบบไหน และก็สิ่งที่พี่อยากให้ระวังนะครับ ก็คือ...
328.96 -> มันจะมีข้อนึงที่ต้องถามครับ คำว่า not อะไรที่ไม่ได้กล่าว หรือคำว่า except คำนี้แปลว่ายกเว้น อันนี้ก็ต้องรู้ครับผม ประมาณนี้ครับ
338.56 -> อันนี้เป็นทริค แต่สำหรับใน 1 เดือนนะ นะครับ แล้วก็ต้องตะลุยโจทย์ คือตอนนี้รู้แล้วว่าเนื้อหา Scope คืออะไรใช่มั้ยครับ
346.8 -> แต่ว่าเดี๋ยวเรามาตะลุยโจทย์อีกทีนึง ให้มันรู้สึกว่าแนวโน้มของข้อสอบจะเป็นอย่างนี้ตลอด โดยหนังสือก็หาได้ทั่วไปอะไรอย่างเนี้ยนะครับ
353.92 -> อีกเรื่องนึงคือเกี่ยวกับว่าเมื่อน้องๆ เตรียมตัวแล้วทีนี้กำลังจะก้าวเท้าเข้าสู่ห้องสอบแล้วค่ะ มีน้องๆ เคยมาบ่นในเว็บไซต์ Dek-D ว่า...
362.6 -> พี่แนน: ทำไม่ทัน ตรงนี้พี่เบสอยากจะ... มีเทคนิคแนะนำน้องยังไงบ้างคะว่าจะทำยังไงให้ทำข้อสอบทันทั้ง 3 พาร์ท พี่เบส: ทำไม่ทัน
370.8 -> พี่แนน: แล้วพาร์ทไหนที่แบบน้องควรจะไปเริ่มก่อนเลย อะไรอย่างเงี้ยค่ะ พี่เบส: อื๋ม โอเคครับ
375.8 -> ถ้าพูดกันตรงๆ แล้วเนี่ยการที่ทำไม่ทันเนี่ยเนื่องมาจากว่าเราไม่ค่อยได้ฝึกในเรื่องของความกดดันทางด้านเวลา
382.06 -> ดังนั้นสิ่งแรกที่มองว่าถ้าจะเริ่มเนี่ยนะครับ เริ่มจับเวลาก่อน เราต้องฝึกจับเวลาก่อนครับว่า เอ้ยสำหรับพาร์ทนี้กี่นาที กี่นาที
391.5 -> แต่ CU-TEP มีความต่างจากที่อื่นอย่างนึงนะ เค้าจะเรียงข้อสอบครับ เค้าจะเอา Listening มาก่อนเลย ขึ้นต้นมา Listening เลยครับ
400.24 -> พอ Listening จบปึ๊บเวลาแค่ 30 นาทีก็จบของ Listening ทีนี้ครับผมก็เป็น Reading ละ Reading มีเวลาให้มากหน่อย 70 นาทีนะครับ
408.4 -> ทีนี้ไอตรง Reading เนี่ยล่ะครับที่เราจะมาบริหารเวลาได้ เพราะว่าอะไร ในส่วนที่ 1 มันเหมือนต้องตามเค้า
414.86 -> เพราะว่าเสียงมันมา เราก็ต้องตามไปเป็นข้อๆ เนาะ งั้นก็อย่างที่พี่บอกครับว่าให้ทำข้อข้างหลังก่อน เพราะตัวที่ยากที่สุดคือ 2 กับ 3
423.22 -> ตัวนี้จะเป็น passage ยาวและดึงเรื่อง มันจะดึงเรื่องให้ยาวแล้วคำถามยาวมาก ให้เด็กรู้สึกว่า โอ้ย ทำไม่ทัน
430.16 -> แต่ก็ไปอันสุดท้าย ตายละ ง่ายมาก เดี๋ยวทำก็ได้ เพราะว่าเวลาเกือบหมด ประมาณนี้ครับผม
435.58 -> ก็คือเป็นการบริหารเวลา เหมือนเรา... เหมือนอย่างงี้ครับผม ถ้าเราฝึกทำโจทย์ไปเรื่อยๆ เนี่ยโดยที่ไม่มีการมีอะไรมากดดันเราเลยเนี่ยนะครับผม
445.32 -> เราจะรู้สึกชิว แต่เวลาอยู่ในห้องสอบ เราจะถูกกดดันมากๆ เนี่ย และถ้าเราไม่มีการ.. เหมือนมีภูมิคุ้มกันก่อนอย่างเงี้ยนะครับ
453.32 -> พี่เบส: มันก็จะ... มันก็จะยากในห้องสอบประมาณนี้ครับ พี่แนน: เหมือนเราไม่เคยเจอบรรยากาศแบบนั้นมาก่อน พี่เบส: ใช่ครับผม
458.18 -> เราควรที่จะ.. เหมือนมีการบีบตัวเองด้วยนิดนึง ครับประมาณนี้
462.38 -> พี่แนน: แล้วอย่างที่พี่เบสสอนมาเนี่ยค่ะ มีน้องมาบ่นมั้ยคะว่าพาร์ทไหนที่น้องส่วนใหญ่เค้าจะทำไม่ได้ โดยเฉพาะน้องๆ พาร์ทไทย
469.42 -> โอ๊ พาร์ทไทย แน่นอนครับ Reading เลย Reading คือเหมือนเด็กไทยเป็นอย่างนี้นะ ส่วนตัวในความคิดผมนะครับ
476.46 -> ผมมองว่าเด็กมักจะทำข้อ 1 ไปข้อสุดท้าย คือชอบทำเรียง คือโจทย์ให้ข้อไหนมา ทำข้อนั้นก่อน
482.5 -> แต่จริงๆ เนี่ยเราควรทำข้อที่เรารู้สึกว่า เฮ้ย ให้กำลังใจเราสิ คือเหมือนแบบ เอ้ย ไอนี้เราทำได้อ่ะ
489.22 -> พี่แนน: หาข้อที่เราทำได้ พี่เบส: แล้ว passage เนี่ยนะครับของ CU-TEP แอบบอกนิดนึง มันเป็นกึ่งวิชาการ ดังนั้นเนี่ย แนวข้อสอบจะออกไม่เกินนี้
498.82 -> มันจะไม่ค่อยหลุดในลักษณะที่เป็นแนววิทยาศาสตร์ แนวสิ่งแวดล้อมนะครับ แนวทางการแพทย์ทดลองนิดหน่อย
505.12 -> หรือบางทีก็มีแนวแบบสถานที่ ประวัติศาสตร์บ้าง ประมาณนี้ครับผม ดังนั้นก็ควรที่จะดูอ่านพวกใน National Geographic ก็ได้นะครับ
514.16 -> พี่เบส: ประมาณนี้ก็จะได้รู้แนวโน้ม ครับผม พี่แนน: แล้วเวลาเค้าไปสอบเนี่ยค่ะ น้องๆ มักจะมีเรื่องพลาดอะไรบ้างคะในการไปสอบอย่างนี้ที่อยากจะเตือนให้น้องๆ ระวังไว้
525.16 -> อ๋อ โอเคงั้น มี 4 สิ่งเลยนะ สิ่งแรกเลยครับผม การเข้าห้องสอบ ประตูมันจะเปิดตอน 8.15 น. แล้วมันจะปิดตอน 8.40 น.
536.2 -> ดังนั้นก็คือถ้าหลังจากนั้นเนี่ยเข้าไม่ได้ละนะ แต่เวลาสอบจริง 9 โมงนะครับ ก็คือเราต้องไปก่อน 8.40 น. อันนี้คือที่ 1 ที่ห้ามพลาด
545.26 -> อย่างที่ 2 ครับคือการแต่งกาย ถ้าสมมุติอ่ะเป็นเด็กนักเรียนอยู่แล้ว แล้วก็สามารถแต่ง.. ใส่ชุดนักเรียน ใช่มั้ยครับ
551.64 -> แต่ถ้าต้องการใส่ชุดไปรเวทอย่างเนี้ย ควรเป็นไปรเวทที่ดูสุภาพ รองเท้าหุ้มส้น กางเกงขายาว เสื้อแบบโปโลดูดีหน่อย
559.72 -> เป็นเสื้อเชิ้ตก็ได้ แต่ไม่ควรใส่เสื้อคอกลมนะครับ ส่วนผู้หญิงเนี่ยถ้าไม่อยากใส่ชุดนักเรียนนะครับ หรือเป็นอะไรอย่างนี้
566.92 -> ก็ใส่เป็นกระโปรงก็ได้ครับผม เป็นกระโปรงที่หุ้ม.. คลุมเข่านิดนึงนะ แล้วก็รองเท้าก็หุ้มส้นนะครับ นี่สำคัญมาก ห้ามเป็นรองเท้าแตะนะครับ
574.64 -> แล้วก็อีกเรื่องนึงก็คือ เคยไปสอบมั้ยครับ นาฬิกาของเรากับนาฬิกาของเค้าไม่ตรงกัน เพราะฉะนั้นเนี่ยนะครับ
582.96 -> เราต้องมีนาฬิกาของเรา แต่นาฬิกาที่เอาเข้าห้องสอบได้เป็นนาฬิกาแบบเข็มนะ ถ้าเป็นแบบตัวเลข เข้าไม่ได้ เค้ายึดเลยครับ
590.36 -> เค้าต้องให้ออก... ไม่ได้เลยครับ ต้องเป็น analog เค้าไม่ให้เอาเข้าเลย เพราะนาฬิกาต้องเป็นแบบเข็มนะครับ
597.74 -> และเรื่องสุดท้ายก็คือดินสอเอาไปเยอะๆ ก็ได้ครับ คือบางทีเหมือนแบบดินสอหักอย่างเงี้ย นั่งเหลาไม่ไหว นะครับก็
605.68 -> ก็แนะนำว่าให้เอาดินสอ 3-4 แท่ง ยางลบ..
607.96 -> พี่แนน: เหลาเตรียมไปเลย พี่เบส: เตรียมไปเลยครับ ประมาณนี้ เป็นสิ่งที่แนะนำละกัน นะครับ
613.12 -> พี่แนน: จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาทีหลัง... พี่เบส: ใช่ครับ เปลี่ยนซะ... อะไรอย่างเงี้ยครับผม ประมาณนี้
617.94 -> พี่แนน: ค่ะ แล้วก็ตอนเนี้ยอยากให้เล่าชีวิต Freshy ในจุฬาฯ หน่อย เผื่อแบบกระตุ้นน้องๆ ให้มาเข้าจุฬาฯ พี่เบส: อืม~... โอเค
625.22 -> พี่แนน: ตอนเข้าไปปี 1 นิสิตจุฬาฯ เนี่ยเรียนคณะอะไร แล้วเป็นยังไงบ้าง พี่เบส: ครับผม... อ๋อ
629.82 -> สมัยพี่นะครับเรียนอยู่คณะบัญชีครับ พาณิชยศาสตร์และการบัญชีที่จุฬาฯ นะครับ ก็...
634.32 -> วันแรกเลยครับก็มี CU First Date ก็จะมีการพี่ๆ มารับน้อง มาแบบมาเต้นสันฯ มีอะไรอย่างงี้ แล้วก็...
640.78 -> จะมีการเป็นรับ.. เป็นบ้านต่างๆ อันนี้คือบ้านของมหา'ลัยแล้วนะ ก็คือทำทั้งมหา'ลัยเลยครับ
645.9 -> ต่อมาพอเข้าไปในคณะปึ๊บก็จะมีการแบ่งเป็นกรุ๊ปๆๆ ต่างๆ อะไรอย่างเนี้ยนะครับ ก็จะเป็นกรุ๊ปใครกรุ๊ปมัน ก็จะมี...
652.82 -> พี่ของแต่ละกรุ๊ป ก็จะดูแลน้องยังไง สมัยพี่ก็จะมีการทำห้องเชียร์ ทำเป็นเดือนเลยครับ แล้วปรากฏว่ามันรักกันนะ
660.08 -> เพราะว่ามัน.. คือมันนั่งติดกันหมดแล้วมีพี่ล้อมเลยครับ คือทุกคนจะรักกันมาก เพราะว่าแบบคนนี้ไหวมั้ย คนนี้ไหวมั้ย อะไรอย่างเงี้ยะ
667.02 -> อีกเรื่องนึงก็คือ.. กีฬา Freshy ก็มีนะ มันจะมาตอนประมาณต้นๆ เลยครับ ก็คือมีการแข่งกีฬาของ.. อันนี้มีการแข่งเชียร์ลีดเดอร์เป็นคณะ
676.32 -> ก็คือคณะไหนคัดลีดอย่างเนี้ยครับผม ก็แล้วแต่ แล้วก็อีกอย่างนึงคือ... พี่อยากเตือนอย่างนึงว่าไม่อยากให้หลงในเรื่องของแบบ
686.02 -> กิจกรรมมากเท่าไหร่ เพราะว่ามันจะมีเรื่องของ.. คือบางครั้งมีครับเพื่อนพี่.. คือจะสอบ 1 เดือนเนี้ยะอ่ะ ตายละ อ่านไม่ทัน
694.68 -> พี่เบส: คือมันต้องระวัง คือต้องเรียนไปด้วยพร้อมๆ กัน พี่แนน: ก็คือเป็นเรื่องของการแบ่งเวลาและ
699.4 -> พี่เบส: เออ ต้องแบ่งเวลาให้ดีครับผม เพราะว่า... คือมหา'ลัยมันจะต่างกับมัธยมอย่างนึงคือตรงที่ว่าส่วนมากข้อสอบเป็นเขียนแล้วนะ
706.18 -> คือมันจะไม่ค่อยมีกากบาทเหมือนพวกเราแล้ว อะไรอย่างเงี้ยครับผม
709.08 -> พี่แนน: แล้วตรงนี้ปรับตัวยากมั้ยคะ ว่าแบบจากเราเคยกากบาท เคยไร เราต้องไปสอบแบบเขียนๆๆ... พี่เบส: อืม~ .... อ๋อ ~
716.18 -> ปรับตัวยากมั้ย มหาวิทยาลัยของเราดีหน่อย คือว่ามันจะมีการพี่ take น้อง คือพี่เนี่ยจะเอาหนังสือให้น้องทุกครั้ง
725.14 -> คือของปีนี้ก็เหมือนต่อยอดเป็นทอดๆ นะครับ แล้วเราก็จะรู้ข้อสอบเก่าละ เออ ก็คือจะมีการเขียน...
732.12 -> อ๋อ ข้อสอบพี่เค้าเขียนอย่างงี้ อ๋อ มีการทิ้งดอกจัน ออกข้อสอบ คือแล้วก็มีการ lecture ของเพื่อนด้วย นี่คือเป็นวิธีเรียนสมัยนั้นครับผม
740.24 -> หรือว่าเข้าห้อง lecture แล้วมีการอัดเสียงด้วยนะ คือในมหา'ลัยเนี่ยต้องอัดเสียงนะครับ เพราะว่าอาจารย์พูด...
746.16 -> คือบางทีเราหลุดคำไหนไปเรากลับมาฟังได้ อะไรอย่างเนี้ย นะครับก็ประมาณนี้
750.3 -> แล้วก็เทคนิคส่วนตัวที่ใช้เลยเนี่ยคือการมีปากกาสีนะ เพราะว่าอะไรเอ่ย สมองเราเนี่ยนะครับผมจำทุกอย่างเป็นสี
757.88 -> สมมุติเบสพูดคำว่าบ้านเนี่ย บ ใบไม้ ไม้โท สระอา น หนู กับบ้านที่เห็นเป็นรูปเนี่ย สมองเราจำเป็นรูปนั้นนะครับ
766.9 -> เออ เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วเนี่ยเวลาการ lecture เนี่ยครับผม lecture เป็นรูปภาพเนี่ยจะเร็วกว่า
773.38 -> ประมาณนี้ครับ อันนี้เป็น.. ที่ใช้ครับผม
776.84 -> พี่แนน: ค่ะ ก็ได้.. โหย รับเทคนิคอะไรดีๆ จากพี่เบสเยอะเลยนะคะ รวมทั้งแอบทราบชีวิต Freshy ของพี่เบสด้วยนะคะ พี่เบส: อ่ะครับผม... อ๋อ ครับผม
784.18 -> พี่แนน: ก็อยากให้พี่เบสฝากอะไรถึงน้องๆ ชาว Dek-D ที่อยากจะไปสอบ CU-TEP หรือว่า.. เรื่องการใช้ชีวิต Freshy อะไรอย่างนี้ค่ะ พูดถึงน้องๆ ที พี่เบส: อืม ~
793.2 -> โอเคครับ สิ่งแรกนะครับที่พี่อยากจะฝากก็คือว่าน้องต้องรู้ตัวเองก่อนว่า เอ้ย จริงๆ เราชอบอะไร เราต้องหาเป้าหมายให้เจอก่อน
800.94 -> เหตุผลมีนะ คือพี่มีเพื่อนครับผม แบบเรียนด้วยกันปี 1 นะ แต่ซิ่วออกไป เพราะว่าไม่ใช่ตัวเอง
808.66 -> ดังนั้นสิ่งแรกที่คืออยากให้รู้ว่าเราชอบอะไรกันแน่ แล้วก็วางเป้าหมายให้ถูก ประมาณนี้ครับผม
815.1 -> อย่างที่ 2 ก็คือการที่สอบ CU-TEP สมมุติน้องเหลือเวลา 1 เดือนจริงมะ... พี่ยกตัวอย่างง่ายๆ ครับ
822.6 -> ระหว่างที่น้องอ่านหนังสือ "วิ่ง" วิ่งต้องทำนี้ เทคนิคอย่างนี้ กับการที่น้องลงไปวิ่งเลยเนี่ย มันต่างกันเลยนะครับ
830.46 -> มันจะเห็นอะไร.. เรายังวิ่งตรงนี้ไม่เร็วนะ พูดง่ายๆ คือเราต้องฝึกซ้อม ต้องทำโจทย์เยอะๆ ให้มันเห็นแนวโน้มของข้อสอบ
838.86 -> ให้มันรู้สึกชินกับข้อสอบ เจอแต่คำนี้ เจอคำนี้อีกละ เจอคำนี้อีกละ ให้มันผ่านตาบ่อยๆ นะครับ
844.38 -> สุดท้ายนี้พี่เบสก็อยากจะอวยพรให้น้องๆ นะครับสอบ CU-TEP ให้ได้ตามที่หวังนะครับ
849.78 -> สำหรับวันนี้นะคะ ก็ต้องขอขอบคุณพี่เบสจุฬาติวเตอร์เป็นอย่างมากเลยนะคะที่มาแนะนำเทคนิคดีๆ เกี่ยวกับ CU-TEP นะคะ พี่เบส: ครับผม
856.88 -> พี่แนน: แล้วก็ได้ฟังชีวิต Freshy ของพี่เบสด้วยนะคะ ก็สนุกทีเดียวแหละ ก็... พี่เบส: ครับผม
862.08 -> วันนี้นะคะก็ต้องขอลาน้องๆ ชาว Dek-D ไปก่อนนะคะ มีโอกาสหน้ามาเจอกันใหม่นะคะ
866.86 -> พี่่แนน: วันนี้ก็ลาไปก่อน สวัสดีค่า ~ พี่เบส: ครับ สวัสดีครับ ~

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=pELQOd8RQXo