15/01/2022 ภาวนาตั้งแต่ตื่นจนหลับ (Keep practicing upon arising until asleep)

15/01/2022 ภาวนาตั้งแต่ตื่นจนหลับ (Keep practicing upon arising until asleep)


15/01/2022 ภาวนาตั้งแต่ตื่นจนหลับ (Keep practicing upon arising until asleep)

ภาวนาตั้งแต่ตื่นจนหลับ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 15 ม.ค. 2565

ถ้าเราแทรกการปฏิบัติเข้าไปในการดำรงชีวิตได้
การภาวนาของเราเยอะแยะเลยวันๆ หนึ่ง
คำว่าไม่มีเวลาภาวนาจะไม่มีหรอก
หลวงปู่ดูลย์ท่านเคยบอก
“ถ้ามีเวลาหายใจ ก็มีเวลาปฏิบัติ”
ถ้าไม่ได้หายใจแล้ว ตายไปแล้วก็ไม่ได้ปฏิบัติ
ที่บอกว่าไม่มีเวลาปฏิบัตินั่นมันข้ออ้าง
ถ้าเรารวมการปฏิบัติเข้ากับการใช้ชีวิตจริงได้
เรามีเวลาตลอดเลย

ตั้งแต่ตื่นนอนภาวนาไปเรื่อย
จนกลับมาบ้าน นั่งสมาธิ เดินจงกรม
อย่าเอาแต่หลงโลก
ถึงเวลานอนก็นอนอยู่ในสมาธิ
หายใจเข้าพุธ หายใจออกโธอะไรก็ได้
ดูร่างกายมันนอน ดูร่างกายมันหายใจ
ใจเราเป็นคนดูสบายๆ ไปเรื่อยๆ
ฝึกตัวเองทุกวันๆ จนมันชำนิชำนาญ
สติเมื่อชำนาญอัตโนมัติ สมาธิก็ชำนาญ
จะใช้สมาธิเพื่อกิจการอะไรก็ใช้ได้
รู้สึกอย่างนี้เรื่อยๆ
เราจะไม่บ่นหรอกว่าเราไม่มีเวลาภาวนา
พวกที่บ่นว่าไม่มีเวลาภาวนาคือพวกไม่ภาวนา


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
15 มกราคม 2565


Content

3.839 -> การภาวนา ถ้าอยากดีจริงๆ
7.469 -> ให้พ้นทุกข์จริงๆ
11.014 -> ต้องเด็ดเดี่ยว
13.199 -> ปฏิบัติสม่ำเสมอ
18.351 -> แล้วใช้ความสังเกต
20.279 -> ใช้ความฉลาด
23.234 -> การรู้เท่าทัน
25.923 -> ที่ปฏิบัติอยู่มันถูกหรือไม่ถูก
28.484 -> สังเกตเอา
35.805 -> ประเภทถึงเวลาก็มาฟังเทศน์
40.663 -> ตกค่ำก็เปิดซีดี
45.965 -> กลางวันจิตหนีไปตลอดไม่รู้ไม่เห็น
51.954 -> มันไม่ได้ผลหรอก
57.59 -> อยากได้ผลจริงๆ ภาวนาให้มันต่อเนื่อง
61.649 -> ต่อเนื่องไม่ได้แปลว่าภาวนาทุกวัน
66.388 -> ต่อเนื่องหมายถึงภาวนาทั้งวัน
69.788 -> เท่าที่ทำได้
71.298 -> ไม่ใช่แค่ทุกวัน
74.828 -> อยากได้ผลจริงๆ ต้องทำทั้งวัน
79.726 -> ยกเว้นเวลาที่เราต้องทำงานที่ใช้ความคิด
85.951 -> เวลานอกนั้นภาวนาได้ทั้งนั้น
90.66 -> ฉะนั้นบางคนเขาฝึกไม่กี่ปีเขาได้ผลแล้ว
97.706 -> บางคนฝึก 10 ปี 20 ปี 30 ปีไม่ได้ผล
104.19 -> นับจำนวนปีแค่นั้นไม่พอหรอก
109.419 -> แต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี
113.499 -> เวลาส่วนใหญ่คือหลง
116.759 -> แล้วมาทำตามพิธีการในรูปแบบ
121.584 -> วันละเท่านั้นเท่านี้
124.314 -> เวลาที่เหลือทิ้งไปตามกิเลสตามโลกไป
130.119 -> ฉะนั้นเราไม่มีทางจะถอนตัว
132.369 -> ออกจากกระแสของโลก กระแสของกิเลสได้เลย
138.539 -> ถ้าเรามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวจริงๆ
141.689 -> เพื่อจะพ้นทุกข์จริงๆ
144.809 -> ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา
148.164 -> รู้สึกกายรู้สึกใจไปเลย
152.409 -> ถ้าเรารู้สึกช้าก็มารู้สึกที่กาย
156.999 -> เช่นกายเราอยู่ในอิริยาบถอะไร
159.949 -> ตอนที่ตื่นนอนในท่าทางอย่างไร
164.503 -> เช่น นอนยกแขน นอนกางขา
167.533 -> นอนตะแคงซ้าย ตะแคงขวา
169.943 -> ตอนตื่นนี้รีบรู้สึกเลย
175.605 -> ถ้ารู้ละเอียดกว่านั้นอีก
177.525 -> มันจะรู้เลยตอนตื่นนี่
179.365 -> หายใจออกหรือหายใจเข้า จะรู้
184.641 -> ถ้าใจเราฝักใฝ่ในการภาวนาจริงๆ
189.6 -> มันดูง่ายๆ เลย
191.95 -> ตื่นนอนมาก็ภาวนาเลย
193.87 -> อันนั้นแสดงว่าเคยชินที่จะภาวนาแล้ว
197.99 -> ใจจดจ่อ ใส่ใจที่จะภาวนา
203.53 -> ตื่นขึ้นมานอนอย่างไรก็รู้เลย
207.23 -> อันนี้ยังถือว่าช้านะ
209.7 -> ละเอียดขึ้นมาก็คือตอนที่ตื่น
211.921 -> หายใจออกหรือหายใจเข้ารู้สึกเลย
216.981 -> ถ้าละเอียดกว่านั้น
218.591 -> จะเห็นตั้งแต่จิตมันตื่น
222.061 -> จิตมันขึ้นจากภวังค์มันผุดขึ้นมา
226.061 -> เป็นความรับรู้
228.771 -> สติทำงานตั้งแต่จิตขึ้นจากภวังค์
231.631 -> ขึ้นมาปุ๊บเลย สติรู้สึกแล้ว
235.143 -> อันนั้นเร็ว
239.445 -> ถ้าประเภทตื่นมา
241.655 -> ก็ยังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบิดไปบิดมา
246.622 -> เดี๋ยวค่ำๆ จะไปภาวนา
248.642 -> ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาภาวนา
250.412 -> เป็นเวลาบิดขี้เกียจอะไรอย่างนี้
253.252 -> ไม่ได้กินหรอก
255.592 -> วันๆ อยู่กับความหลง
257.952 -> มากกว่าอยู่กับความรู้สึกตัว
264.275 -> ตื่นขึ้นมาไปเข้าห้องน้ำขับถ่าย
269.999 -> ดูกายดูใจไปเลย
273.539 -> ขับถ่ายได้สบายสะดวก ดีใจรู้ว่าดีใจ
279.133 -> ขับถ่ายไม่สะดวก รู้สึกอึดอัด
283.133 -> กลุ้มใจ กังวล
285.703 -> เดี๋ยวจะต้องขึ้นรถไปทำงาน
288.393 -> จะไปปวดท้องกลางทางหรือเปล่า
294.331 -> อ่านใจได้เลยแค่เรื่องขับถ่ายก็ภาวนาได้
301.981 -> เมื่อก่อนได้ยินเรื่อยๆ คนชอบสอนกัน
306.616 -> เวลาเข้าห้องน้ำไม่ต้องภาวนา
310.496 -> เดี๋ยวบาป ไม่บาปหรอก
313.216 -> มีสติจิตเป็นกุศลอยู่แล้ว
314.846 -> มันจะเป็นบาปได้อย่างไร
318.316 -> แล้วขาดสตินั่นล่ะมันถึงจะบาปได้
321.126 -> มีสติมันไม่บาปหรอก
326.948 -> จะกินข้าวก็มีสติไป
330.948 -> เริ่มแต่ตามองเห็น
333.512 -> หรือจมูกได้กลิ่น ได้กลิ่นอาหาร
336.838 -> กลิ่นนี้ชอบ กลิ่นนี้ไม่ชอบ
339.468 -> ใจเรารู้สึกอย่างไร รู้ทันไป
343.668 -> กินอาหาร อาหารเข้าปากแล้วรสอย่างนี้
347.937 -> อาหารที่เราชอบแท้ๆ เลย
350.137 -> แต่ว่าแม่ครัวคนนี้
352.157 -> ทำไม่เอาไหนเลย ไม่อร่อยเลย
355.837 -> ทีแรกได้กลิ่นอาหารที่เราชอบ ดีใจ
360.377 -> พอลิ้นกระทบรสเท่านั้นโมโหเลย
363.807 -> มันไม่อร่อยเลย
365.377 -> มาทำมาหากินด้วยการทำครัวได้อย่างไร
368.277 -> แค่นี้ก็ทำไม่เป็น
371.147 -> อ่านไปเลย อ่านใจตัวเองไป
375.327 -> จะทำอะไรก็คอยรู้สึกกาย คอยรู้สึกใจไป
380.277 -> จะแต่งเนื้อแต่งตัว รู้สึก
383.627 -> ออกจากบ้านจะไปขึ้นรถไฟ ขึ้นรถเมล์
388.277 -> หรือจะขับรถเอง คอยรู้สึกไป
394.012 -> ถ้าขึ้นรถที่ขับเอง
398.532 -> อันนี้อย่าไปเข้าฌาน อย่าไปเข้าสมาธิ
402.047 -> พยายามรู้สึกตัวไว้อย่าใจลอย
406.047 -> ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
408.667 -> คอยระแวดระวังออกไปข้างนอก
411.667 -> ดู จะไปชนใครเขาหรือเปล่า
413.777 -> หรือใครเขาจะมาชนหรือเปล่า
419.43 -> พอรถติดรถไม่ได้วิ่งแล้ว
424.388 -> รถติดตอนนี้อ่านใจตัวเองได้แล้ว
429.627 -> รถติดนานหงุดหงิดรู้ว่าหงุดหงิด
433.627 -> ภาวนาไม่เว้นวรรคเว้นตอน ภาวนาไป
441.023 -> วันนี้รถไม่ติดดีใจรู้ไป
446.062 -> เวลาขับรถก็ตั้งใจขับรถไม่ให้จิตรวม
453.213 -> เคยมีลูกศิษย์บางคนขับรถ
457.997 -> ได้ยินหลวงพ่อบอกตอนขับรถให้มีสติไว้
461.147 -> คอยดูโลกข้างนอกไว้
463.737 -> อย่าหลงทำสมาธิรวมเข้ามาข้างใน
466.907 -> เอาไว้รถจอดแล้วค่อยภาวนาดูจิตดูใจ
472.818 -> รายนี้มันไปดูอีท่าไหน หลับไปเลย
478.442 -> หลับอยู่กลางสี่แยกติดไฟแดงอยู่
481.782 -> หลับอยู่อย่างนั้น
483.242 -> รถคันหลังก็บีบแตรก็ไม่ตื่น
486.362 -> จิตรวมลึกเหลือเกิน
489.189 -> ทำผิดหน้าที่
491.477 -> ตอนที่ต้องยุ่งข้างนอก
494.257 -> ต้องพยายามรู้สึกตัวไว้
496.637 -> อย่าให้จิตรวมลึกลงไป
502.607 -> การภาวนา ค่อยๆ ทำ
506.327 -> ทุกๆ กิจกรรมที่เราไม่ต้องใช้ความคิด
510.857 -> ไม่ต้องระมัดระวังอะไรอย่างนี้
515.737 -> คอยรู้สึกๆ ไป
520.411 -> ทั้งวันมันภาวนาได้ทั้งวัน
524.411 -> อย่างไปถึงที่ทำงานเปิดคอมพิวเตอร์
530.136 -> ระหว่างนี้ก็จิบกาแฟ
534.526 -> มีความสุขรู้ว่ามีความสุขไป
539.741 -> คิดถึงงานแล้วเครียดรู้ว่าเครียด
544.084 -> พอรู้ว่าเครียดใจจะเป็นกลาง
547.124 -> สังเกตดูใจไม่เป็นกลางให้รู้ทัน
550.234 -> ถ้าเครียดแล้วใจเป็นกลาง ดีนะอันนั้น
554.234 -> ใจเป็นกลางความเครียดมันจะหายไป
558.234 -> ก็เหลือความรู้สึกตัว
560.584 -> สติ สมาธิ ปัญญา จดจ่อกับการทำงานไป
565.528 -> ทำแล้วเบื่อ ทำแล้วเหนื่อย
567.998 -> ทำแล้วหงุดหงิด รู้ทัน
573.403 -> ฝึกแทรกการปฏิบัติเข้าในกิจกรรมต่างๆ
578.443 -> มากที่สุดที่จะทำได้
583.373 -> ตกเย็นเลิกงานแล้วหรือค่ำๆ
585.933 -> บางคนเลิกงานค่ำๆ กลับบ้าน
590.333 -> ไม่ต้องไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ที่ไหนหรอก
593.313 -> สิ่งเหล่านั้นพระพุทธเจ้า
594.843 -> ท่านเรียกว่าอบายมุข
597.293 -> เราลูกศิษย์พระพุทธเจ้าเราก็ไม่ไป
599.943 -> คนที่เขาไม่ใช่ลูกศิษย์พระพุทธเจ้า
602.073 -> เขาก็ไป ก็เรื่องของเขา
605.203 -> กรรมใครกรรมมัน
608.773 -> เราหมดธุระอะไรเราก็กลับบ้าน
612.123 -> อาบน้ำ พักผ่อนนิดหน่อย
614.053 -> พอให้หายเหนื่อย หายเครียด ก็ภาวนา
617.663 -> นั่งสมาธิ เดินจงกรมไป
623.112 -> วันหนึ่งๆ เราภาวนามาตั้งแต่ตื่นนอนเลย
628.388 -> แล้วก็แทรกการภาวนา
631.198 -> เข้าไปในการใช้ชีวิตประจำวันนี้ล่ะ
635.208 -> อย่างหลวงพ่อก็ทำแบบนั้น
638.768 -> ประมาณชั่วโมงหนึ่ง หรือชั่วโมงกว่าๆ
641.758 -> ถ้างานมันไม่รีบ
643.778 -> หลวงพ่อก็ลุกเดินไปห้องน้ำ
647.248 -> เดินไปที่อื่นมันดูผิดสังเกตไป
649.398 -> เดินไปห้องน้ำ
652.413 -> เห็นร่างกายมันทำงานไป ร่างกายมันเดินไป
656.283 -> จิตใจเราเป็นอย่างไร เราคอยรู้ไป
659.423 -> หลวงพ่อแทรกการปฏิบัติลงไปในชีวิตจริงๆ
665.9 -> ชั่วโมงหนึ่งแทรกเข้ามาได้ 5 นาที
670.838 -> 12 ชั่วโมงเท่ากับเราภาวนาไปแล้ว
673.308 -> 1 ชั่วโมง 5 นาทีคูณ 12 ได้ 60 แล้ว
678.838 -> ฉะนั้นไม่ใช่น้อยหรอก
681.228 -> วันๆ หนึ่งเอาเวลาไปทิ้งเยอะแยะเลย
684.588 -> แล้วบอกภาวนามาหลายปีแล้วไม่ได้ผล
686.698 -> จริงๆ ภาวนาน้อยมากเลย
691.898 -> ถ้าเราแทรกการปฏิบัติ
693.668 -> เข้าไปในการดำรงชีวิตได้
695.788 -> การภาวนาของเราเยอะแยะเลยวันๆ หนึ่ง
699.788 -> คำว่าไม่มีเวลาภาวนาจะไม่มีหรอก
704.281 -> หลวงปู่ดูลย์ท่านเคยบอก
706.021 -> “ถ้ามีเวลาหายใจ ก็มีเวลาปฏิบัติ”
709.581 -> ถ้าไม่ได้หายใจแล้ว
711.441 -> ตายไปแล้วก็ไม่ได้ปฏิบัติ
715.661 -> ที่บอกว่าไม่มีเวลาปฏิบัตินั่นมันข้ออ้าง
719.806 -> ถ้าเรารวมการปฏิบัติ
721.566 -> เข้ากับการใช้ชีวิตจริงได้
724.006 -> มีเวลาตลอดเลย
727.856 -> อย่างถ้าเราขึ้นรถเมล์อะไรอย่างนั้น
730.366 -> ขึ้นรถเมล์เราไม่ต้องขับเอง
732.396 -> ไม่ต้องระวังอะไรมาก
734.016 -> ระวังคนล้วงกระเป๋าเท่านั้นล่ะ
737.426 -> เราหายใจไปพุทโธไป ได้ปฏิบัติ
742.596 -> ช่วงไหนจิตวุ่นวาย จิตเหน็ดเหนื่อย
746.606 -> ก็ทำสมถะได้เพราะเราไม่ต้องขับรถเอง
750.376 -> ช่วงไหนจิตมีกำลังแล้วก็เดินปัญญาไป
755.906 -> เห็นจิตกระทบอารมณ์
758.466 -> ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
759.966 -> กระทบอารมณ์แล้วจิตมันหวั่นไหว
762.366 -> เปลี่ยนแปลงขึ้นมา มีสติรู้ไป
766.577 -> ตั้งแต่ตื่นนอนภาวนาไปเรื่อย
769.337 -> จนกลับมาบ้าน นั่งสมาธิ เดินจงกรม
773.337 -> อย่าเอาแต่หลงโลก
778.677 -> ถึงเวลานอนก็นอนอยู่ในสมาธิ
783.907 -> หายใจเข้าพุธ หายใจออกโธอะไรก็ได้
787.907 -> ดูร่างกายมันนอน ดูร่างกายมันหายใจ
791.907 -> ใจเราเป็นคนดูสบายๆ ไปเรื่อยๆ
796.656 -> หลับเมื่อไรก็เมื่อนั้น
799.646 -> แต่ถ้าเราไม่ชำนาญ
802.476 -> จิตมันเป็นสมาธิขึ้นมามันสว่างขึ้นมา
805.736 -> บางทีไม่ได้นอนทั้งคืนเลย
808.366 -> คืนเดียวไม่เป็นไร
810.066 -> หลายๆ คืนร่างกายก็ทรุดโทรมได้เหมือนกัน
813.606 -> ก็ต้องรู้จักผ่อนสมาธิ
821.225 -> เวลาเราจะนอน เราภาวนามาช่วงหนึ่งแล้ว
825.391 -> นอน นั่งภาวนา หรือเดินจงกรม
827.991 -> มาพอสมควรแล้ว
830.221 -> ลงมานอนแล้วให้นอนภาวนา
834.641 -> แล้วถ้าจิตมันสว่างขึ้นมาไม่ยอมหลับ
838.231 -> ต้องรู้จักคลายสมาธิออก
842.041 -> คลายสมาธิทำใจให้สบาย
846.341 -> วางอารมณ์กรรมฐานตัวนั้นไปก่อน
849.941 -> อย่างเรารู้ลมเราก็วางลมไป
853.361 -> จิตมันสว่าง สงบ สบายอยู่
856.721 -> ไม่ดึง ไม่รั้งเอาไว้ ไม่ควบคุมเอาไว้
860.721 -> แป๊บเดียวก็หลับแล้ว
862.846 -> แต่ถ้าเราคุมเข้ม
865.163 -> สติเข้มแข็งจดจ่ออยู่ที่จิตนี้
869.951 -> ไม่หลับหรอก
873.711 -> สมควรจะหลับก็คลายออกแล้วก็หลับไป
878.829 -> ยังไม่สมควรจะหลับ
880.479 -> ยังมีเรี่ยวมีแรงภาวนาอยู่ ก็นอนภาวนา
886.615 -> ก็ยืนเดินนั่งมาทั้งวันแล้ว
889.001 -> เหนื่อยแล้ว เมื่อยแล้ว
891.091 -> เปลี่ยนมาใช้อิริยาบถนอน
894.981 -> จนกระทั่งหลับ
900.058 -> ถ้าเราภาวนาอย่างนี้ ตอนที่เราตื่น
904.058 -> เราจะรู้ทันทีเลยที่ตื่น
907.758 -> เพราะตอนหลับเราภาวนาจนหลับไป
911.568 -> ใจสงบ ใจสบาย หลับปุ๊บไป
916.058 -> ตอนตื่นดูท่าทางเราเป็นอย่างไร รู้สึกไป
923.619 -> หรือหายใจออก หายใจเข้ารู้สึกเลย
926.639 -> ถ้าสติเร็วจริงๆ
927.799 -> เห็นจิตเคลื่อนขึ้นจากภวังค์เลย
933.395 -> ถ้าเราทำอย่างนี้ได้เท่ากับเราภาวนาได้
936.935 -> 24 ชั่วโมงต่อเนื่องไป
941.395 -> ตอนหลับก็ได้พักผ่อนจริงๆ
944.995 -> ถ้าเราทรงสมาธิแล้วเราหลับ
947.255 -> เราหลับไม่นานหรอก มันจะพอ
952.055 -> ถ้าพอแล้วเรายังขี้เกียจ
955.415 -> คือไม่ตื่นขึ้นมามันจะฝัน
960.113 -> บางทีในฝัน
962.343 -> ถ้าภาวนาชำนาญฝันขึ้นมาเรามีสติรู้
967.272 -> วางออกไป ใจสว่าง พักอยู่ในความสว่าง
972.089 -> พอสมควรแล้วคลายจิตออก หลับลงภวังค์อีก
977.108 -> ฝึกตัวเองทุกวันๆ จนมันชำนิชำนาญ
982.544 -> สติเมื่อชำนาญอัตโนมัติ สมาธิก็ชำนาญ
987.341 -> จะใช้สมาธิเพื่อกิจการอะไรก็ใช้ได้
991.341 -> เอาสมาธิไปทำงานก็จดจ่อในการทำงานได้
996.395 -> ไม่ได้ขี้เกียจทำงานไปตรอมใจไป
999.425 -> อะไรนี้ไม่ใช่
1001.275 -> มีความสุขในการทำงานอยู่
1004.545 -> งานของเราก็จะดีด้วย
1006.005 -> สติจดจ่อ สมาธิจดจ่อ
1010.315 -> เวลาทำอย่างอื่นก็ใช้สติ
1014.315 -> ใช้สมาธิให้สมควร
1017.555 -> ภาวนาไปเรื่อยๆ
1020.555 -> กวาดบ้าน ถูบ้าน
1022.855 -> เห็นกายมันทำงาน เห็นใจมันทำงานไป
1027.555 -> รู้สึกอย่างนี้เรื่อย
1031.437 -> เราจะไม่บ่นหรอก ว่าเราไม่มีเวลาภาวนา
1035.077 -> พวกที่บ่นว่าไม่มีเวลาภาวนา
1037.477 -> คือพวกไม่ภาวนา
1040.657 -> หลวงปู่ดูลย์ถึงพูด
1043.127 -> “ถ้ามีเวลาหายใจ ก็มีเวลาภาวนา”
1046.087 -> หายใจด้วยความรู้สึกตัว
1048.037 -> มันก็ภาวนาเรียบร้อยแล้ว
1052.778 -> รู้สึกไปเรื่อยๆ ทุกลมหายใจเข้าออก
1058.343 -> หายใจเข้ามา หายใจออกไป
1062.343 -> ชีวิตก็หมดไปส่วนหนึ่งแล้ว
1064.353 -> ใกล้ความตายไปส่วนหนึ่งแล้วตลอดเวลา
1070.969 -> ภาวนาลึกลับซับซ้อนแบบคนอื่นไม่เป็น
1076.116 -> แค่หายใจก็ใช้ได้แล้ว
1079.886 -> หายใจเป็น หายใจไปแล้วก็รู้สึกไป
1083.666 -> ชีวิตเราสั้นลงๆ เรื่อยๆ แล้ว
1086.231 -> อะไรอย่างนี้
1088.116 -> อันนี้เรียกว่าเราเจริญมรณสติไปเรื่อยๆ
1092.116 -> เห็นร่างกายนี้ไม่มีสาระแก่นสารอะไร
1096.116 -> ไม่นานก็แตกสลาย
1098.106 -> ตรงนี้เป็นการเจริญปัญญาแล้ว
1102.266 -> เฝ้ารู้เฝ้าดูไป
1105.796 -> แค่นี้ก็ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
1109.136 -> กรรมฐานเยอะแยะไปหมด
1112.196 -> ทำอะไรไม่ได้ก็คิดถึงลมหายใจ
1116.506 -> ชีวิตเราอยู่ที่ลมนี่เอง ลมหยุดก็ตาย
1122.416 -> ดูอย่างนี้ก็ได้ รู้สึกไปอย่างนี้ก็ได้
1126.196 -> หรือเห็นว่าชีวิตนี้หมดไปสิ้นไป
1128.536 -> ทุกลมหายใจเข้าออกก็ได้
1132.966 -> พระพุทธเจ้าท่านเคยตั้งโจทย์
1135.306 -> ถามพวกพระทั้งหลาย
1139.086 -> ว่า “วันหนึ่งๆ คิดถึงความตายกี่ครั้ง”
1144.269 -> บางองค์ก็บอกว่า
1145.759 -> คิดถึงหนึ่งครั้งตอนก่อนจะนอน
1148.449 -> ท่านบอกประมาท
1150.739 -> บางองค์ก็คิดหลายครั้ง
1153.9 -> เจ็ดครั้ง สิบครั้ง
1157.061 -> พระพุทธเจ้าว่าประมาทหมดเลย
1160.531 -> แล้วท่านบอก
1161.511 -> ท่านเห็นความตายอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
1170.083 -> ตอนหลวงพ่อยังไม่เจอหลวงปู่
1172.523 -> หลวงพ่ออ่านพระไตรปิฎกเจอตรงนี้หลวงพ่องง
1176.183 -> ไม่คิดว่าท่านหลอกหรอก
1178.433 -> แต่ถ้าท่านเห็นความตาย
1179.984 -> อยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
1181.504 -> ท่านไม่ต้องทำอย่างอื่นเลยหรือ
1183.514 -> ทำไมงานท่านก็เยอะแยะ
1188.934 -> ค่อยภาวนาแล้วเราจะรู้เลยว่า
1190.984 -> เราตายอยู่ทุกลมหายใจเข้าออกจริงๆ
1195.654 -> เวลาทำงานอื่นๆ ก็ทำไป
1199.004 -> มีเวลาปุ๊บเราก็เห็นเลย
1200.914 -> ร่างกายกำลังตาย
1203.634 -> ทุกลมหายใจเข้าออก รู้สึกๆ ไป
1207.574 -> วันหนึ่งได้ร้อยครั้ง
1209.454 -> พันครั้ง หมื่นครั้ง
1212.328 -> จะถี่ขึ้นเรื่อยๆ
1215.843 -> อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านบอก
1217.753 -> ท่านเห็นความตาย
1220.993 -> ท่านคิดถึงความตายทุกขณะจิตเลย
1226.792 -> อันนั้นท่านภาวนาเสร็จแล้ว จบแล้ว
1231.269 -> จิตท่านอยู่กับธรรมธาตุล้วนๆ
1235.269 -> มองลงมาที่ขันธ์
1237.579 -> จะขันธ์ภายใน
1239.094 -> หรือขันธ์ของเจ้าชายสิทธัตถะ
1242.769 -> หรือขันธ์ของคนอื่นของสัตว์อื่น
1246.769 -> ก็เห็นความตายเกิดขึ้นตลอดเวลา
1250.769 -> ในขันธ์ของเจ้าชายสิทธัตถะ
1253.829 -> ก็มีความตายอยู่ตลอดเวลา
1257.189 -> จิตที่มันทรงธรรมเต็มที่
1259.306 -> ก็เห็นธรรมอยู่อย่างนั้น
1261.516 -> ถ้าพวกเรายังไม่ถึงตรงนั้น
1263.666 -> เราก็ดูได้ร้อยครั้ง พันครั้ง หมื่นครั้ง
1268.787 -> หายใจไปแล้วก็รู้สึกไป
1271.867 -> ชีวิตนี้หมดไปสิ้นไปทุกลมหายใจเข้าออก
1276.787 -> เราจะไม่ประมาทหรอก
1280.057 -> คนประมาทคือคนที่ไม่คิดว่าจะตายเร็ว
1284.217 -> คิดแต่ว่าความตายยังอยู่ไกลตัวเอง
1289.327 -> ค่อยๆ ฝึก ภาวนา
1292.787 -> บางคนมีศรัทธาขยันภาวนา
1295.127 -> มีศรัทธา มีวิริยะ
1297.955 -> แต่มันไม่มีปัญญา
1300.783 -> ครูบาอาจารย์บางองค์ท่านบอกมัน“ไม่มีหัว”
1303.793 -> ก็มันไม่มีปัญญา พิจารณา
1308.523 -> ที่ทำอยู่ตรงนี้ เป็นไปเพื่อลดละกิเลสไหม
1313.363 -> หรือเป็นไปเพื่อสะสมกิเลส
1316.723 -> กระทั่งนั่งสมาธิ เดินจงกรม
1320.173 -> บางคนไม่ได้ทำเพื่อลดละกิเลสหรอก
1323.443 -> บางคนทำเพื่อพอกพูนกิเลส
1326.683 -> หรือตอบสนองกิเลส
1328.843 -> นั่งสมาธิมากก็ภูมิใจกูเป็นคนดี
1333.217 -> คนอื่นเป็นคนเลว กูดีอะไรอย่างนี้
1336.067 -> อย่างนี้เรียกนั่งพอกพูนกิเลส
1339.637 -> ไม่ฉลาดในการปฏิบัติ
1342.727 -> ถ้าเราฉลาดในการปฏิบัติ
1344.817 -> การภาวนาเราจะไม่ยาวหรอก
1348.367 -> ฉะนั้นถ้าเราเดินโดยมีปัญญาประกอบ
1351.367 -> ภาวนา เดินหมายถึงการเจริญ
1355.367 -> ถ้าเราเจริญสติ เจริญปัญญาไป
1360.067 -> มีปัญญาประกอบอยู่มันจะได้ผลเร็ว
1365.61 -> บางคนภาวนาไม่ได้ผลเลย
1368.32 -> เพราะภาวนาแบบศรัทธางมงาย
1371.46 -> ภาวนาไปสนองกิเลสเลย
1374.19 -> ทำไปด้วยความงมงาย
1376.45 -> ความงมงายมันกิเลส
1378.68 -> เพราะฉะนั้นทำไปด้วยกิเลส
1380.44 -> ไม่ได้อะไรขึ้นมา ก็ได้กิเลสนั่นล่ะ
1383.339 -> ได้ทุกข์
1386.56 -> บางคนมีหัว ฉลาด
1389.34 -> ภาวนาอยู่จิตสว่างว่างขึ้นมายินดีพอใจ
1396.37 -> โอ้ ตรงนี้ดี อาศัยความสังเกต
1400.37 -> อาศัยโยนิโสมนสิการ
1403.31 -> เรียกว่ามีหัว มีปัญญา
1405.56 -> มีโยนิโสมนสิการ
1408.92 -> ตรงนี้เราไปติดความว่างแล้ว
1410.98 -> ติดความสว่าง ติดโอภาส
1414.35 -> ติดความว่าง อากาศ
1417.49 -> โอภาสคือความสว่าง อากาศคือช่องว่าง
1422.333 -> เราไปติดอยู่ตรงนี้ก็ใช้อะไรไม่ได้
1425.733 -> สบายอย่างเดียวแต่โง่ๆ อยู่อย่างนั้น
1429.873 -> มีโยนิโสมนสิการกำกับ
1432.013 -> สังเกตไปนี่เรียกว่าเรามีหัวในการปฏิบัติ
1436.193 -> ไม่มีโยนิโสมนสิการ
1438.163 -> ทำตะบี้ตะบันไป ลำบาก เหนื่อย
1442.163 -> พอไปได้ไหม ไปได้แต่ช้าหน่อย
1446.163 -> ถ้ามีโยนิโสมนสิการกำกับอยู่ไปได้เร็ว
1449.963 -> แต่โยนิโสมนสิการไม่ได้แปลว่าฟุ้งซ่าน
1452.183 -> ไม่ใช่คิดพิจารณา ไม่ใช่
1455.843 -> มันแค่คอยสังเกตสิ่งที่มี
1458.713 -> ที่เป็น ที่ทำอยู่นี่
1461.973 -> มันเป็นไปเพื่อการลดละกิเลส
1464.933 -> เพื่อเจริญกุศลหรือเปล่า
1467.97 -> สังเกตตัวเองไป
1470.428 -> หรืออย่างบางคนตั้งปณิธาน
1473.858 -> พรรษานี้จะทำอย่างโน้นอย่างนี้
1476.528 -> บังคับตัวเองมากมาย
1479.588 -> ถ้าสังเกตดู มีโยนิโสมนสิการก็สังเกต
1482.548 -> ทำไปเพื่ออะไร
1485.648 -> อย่างบางคนเป็นพระ
1488.968 -> ในพรรษานี้สมาทานธุดงค์ข้อนั้นข้อนี้
1494.537 -> ถ้าโยนิโสมนสิการแล้วก็รู้ว่า
1497.427 -> ทำไปเพื่อฝึกตัวเอง
1500.117 -> ฝึกจิตใจให้มันไม่ติดในกาม
1503.407 -> อย่างนี้เรียกว่าทำโดยรู้วัตถุประสงค์
1506.747 -> อย่างนี้ทำ ฉลาดนะ ทำแล้วรู้เหตุรู้ผล
1511.628 -> อย่างนี้เรียกว่ามีโยนิโสมนสิการ
1515.628 -> ทำแล้วคงจะดีน่าเห็นพระพุทธเจ้าก็ว่าดี
1520.57 -> พระมหากัสสปะก็ว่าดี
1523.1 -> ครูบาอาจารย์ก็ว่าดี
1525.34 -> ทำไปแล้วเราจะได้ดีบ้าง
1527.99 -> นี่โลภแล้วไม่ได้ดีเท่าไรหรอก
1531.21 -> แต่ทนไปเรื่อยๆ
1532.665 -> วันหนึ่งปิ๊งขึ้นมาฉลาดขึ้นมา
1534.82 -> ก็เป็นได้เหมือนกัน
1538.53 -> ฉะนั้นเราภาวนาตั้งแต่ตื่นจนหลับ
1542.44 -> มีโยนิโสมนสิการกำกับตัวเองไว้
1547.19 -> ทำนี้เป็นไปเพื่อลดละกิเลส
1550.09 -> เพื่อเจริญกุศลหรือเปล่า
1553.54 -> สิ่งที่เรียกว่ากุศลคืออโลภะ อโทสะ อโมหะ
1559.19 -> ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง นั่นล่ะคือตัวกุศล
1563.89 -> ตัวอกุศลก็คือตัวโลภ โกรธ หลง
1567.89 -> ฉะนั้นเราดูสิ่งที่เราทำ
1570.51 -> เป็นไปเพื่อความโลภ โกรธ หลง
1573.15 -> หรือเพื่อความไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง
1576.79 -> ถ้าใจเรามันโลภมาก
1578.92 -> บางทีก็ต้องมีอุบายช่วย
1582.41 -> ลำพังเจริญสติ เจริญปัญญาดู
1585.33 -> บางทีสู้ไม่ไหว ใจมันโลภมาก ก็ฝึกตัวเอง
1591.34 -> ฝึกอย่างไร ฝึกด้วยการทำทาน
1595.05 -> มันหวงนักหรือ หวงก็สละ
1597.97 -> ฝึกตัวเองให้รู้จักสละ
1601.23 -> ก็ค่อยๆ ดีขึ้น ค่อยๆ พัฒนาขึ้น
1605.904 -> ความตระหนี่หวงแหนอะไร มันค่อยๆ ลดลง
1609.714 -> อกุศลลดลง
1613.894 -> ทีแรกอย่างเราให้เสื้อผ้า
1617.154 -> ให้อาหารคนยากคนจน
1620.884 -> ทีแรกอาจจะเจือกิเลส
1622.434 -> ให้แล้วเพื่อเราจะได้บุญเยอะๆ
1624.574 -> ชาติหน้าเราจะได้รวย อันนี้เจืออกุศล
1630.99 -> พอเราให้แล้วเรารู้สึก
1633.4 -> ตลอดเวลาที่เราให้เรามีความสุข
1637.4 -> มันเป็นบุญ บุญนั้นนำความสุขมาให้
1642.012 -> แล้วเราก็เห็นคนที่ได้รับเขาก็มีความสุข
1646.737 -> ใจมันเริ่มอิ่มเริ่มเต็ม
1649.227 -> ไม่ใช่ทำแล้วเพื่อตัวเองจะได้รวย
1652.707 -> จะได้อย่างโน้นอย่างนี้
1654.587 -> แต่เราทำความดีไปแล้ว
1656.467 -> เราพบว่าสิ่งตอบแทนที่เราได้ทันที
1658.587 -> คือความสุข
1661.037 -> แล้วคนที่ได้รับความช่วยเหลือจากเรา
1663.782 -> เขาก็ได้ความสุข
1666.072 -> เราดูใจเราค่อยๆ อิ่ม
1668.482 -> ต่อไปไม่ได้ทำเพราะโลภแล้ว
1670.592 -> รู้สึกว่านี้เป็นสิ่งที่ควรทำ
1673.75 -> ทำแล้วตัวเองก็มีความสุข
1675.49 -> คนอื่นก็มีความสุข
1677.35 -> ไม่ใช่ทำเพื่อกูจะดี กูจะเด่น
1679.71 -> กูจะเหนือคนอื่น กูจะรวยกว่าคนอื่น
1683.08 -> ใจมันจะค่อยๆ พัฒนา
1684.97 -> ทีแรกเริ่มจากกิเลสก่อนไม่เป็นไรหรอก
1688.2 -> ทำไปเรื่อยๆๆ แล้วค่อยสังเกตดู
1692.636 -> เวลาทำความดีมันจะมีความสุข
1695.836 -> อย่างพวกเราบางทีไปปล่อยปลา
1697.756 -> รู้สึกไหมตอนเราปล่อยปลาเรามีความสุข
1702.434 -> แต่พวกหนึ่งมันไปตกปลา
1705.214 -> มันจับปลาได้มันก็มีความสุข
1707.974 -> แต่ปลาไม่มีความสุข
1710.684 -> แต่เราปล่อยปลาเราก็มีความสุข
1712.864 -> ปลาก็มีความสุข
1714.944 -> คนขายปลาก็มีความสุข
1717.474 -> ความสุขเผื่อแผ่ทั่วๆ กัน
1720.894 -> เราค่อยๆ สังเกตไป
1722.924 -> ใจมันจะค่อยร่ม ค่อยเย็น มีความสุข
1726.924 -> มันค่อยๆ ลดละความโลภลงไป
1729.964 -> ความเห็นแก่ตัวก็ลดลง
1732.784 -> อกุศลลดลงกุศลก็เจริญขึ้น
1740.15 -> หรืออย่างขี้โมโห ขี้โมโห
1744.15 -> เราก็หัดมองคนอื่นด้วยความเมตตาบ้าง
1748.15 -> เข้าใจเขาบ้าง
1751.63 -> ใจเราก็เกิดความเมตตาขึ้นมาแทนที่โทสะ
1758.651 -> อย่างดูประวัติครูบาอาจารย์หลายองค์
1763 -> พื้นจิตท่านเป็นคนขี้โมโห โทสะแรง
1767.66 -> พอท่านภาวนาจนจบ
1771.07 -> ท่านเมตตาแรงมากเลย
1772.94 -> แรงกว่าคนทั่วๆ ไป
1774.75 -> หรือพระทั่วๆ ไปที่ฝึกมาธรรมดาๆ เสียอีก
1779.199 -> ทั้งๆ ที่พื้นเดิมโทสะทั้งนั้นเลย
1783.199 -> พลิกจากอกุศลสุดโต่งข้างอกุศล
1786.879 -> โทสะอย่างรุนแรง พลิกกลับมาเป็นกุศล
1791.009 -> คือเมตตาอย่างรุนแรงเลย
1793.529 -> กระแสเมตตาของท่านกว้างขวาง
1796.739 -> แค่คิดถึงท่านเราก็ร่มเย็นขึ้นมาแล้ว
1800.189 -> มีครูบาอาจารย์หลายองค์ที่เป็นอย่างนั้น
1803.289 -> ท่านอยู่กับเมตตา
1805.539 -> เมตตาของท่านไม่ใช่เมตตาพรหมวิหารแล้ว
1809.139 -> เป็นระดับเมตตาอัปปมัญญา
1812.219 -> เมตตาพรหมวิหารอย่างพ่อแม่เมตตาลูก
1816.409 -> คือเมตตาแบบจำกัดกลุ่มเป้าหมาย
1820.059 -> เมตตาเฉพาะลูกเรา
1822.369 -> แต่เมตตาอัปปมัญญา เมตตาไม่มีประมาณ
1825.774 -> ไม่จำกัดกลุ่มเป้าหมาย
1828.794 -> เมตตาไปทั่วถึงทุกสรรพสัตว์
1832.224 -> เมตตากระทั่งศัตรู
1835.514 -> คนที่เราเคยเกลียด เคยอะไร
1837.834 -> ถึงจุดหนึ่งก็เมตตาขึ้นมาแทน
1840.534 -> น่าสงสารจังเลยทำไมเป็นอย่างนี้
1844.534 -> แล้วตัวหนึ่งที่เมตตาด้วยคือตัวนี้
1848.274 -> บางคนเมตตาตัวอื่นหมดเลย
1850.144 -> ลืมเมตตาตัวเอง
1852.604 -> ตัวนี้ก็สัตว์ตัวหนึ่งเหมือนกัน
1855.774 -> ความเมตตามันจะทั่วถึง
1859.134 -> พยายามฝึกตัวเองทุกวันๆ ตั้งแต่ตื่น
1865.133 -> ฝึกอยู่ในศีลในธรรมไปเรื่อยๆ
1870.506 -> จนถึงนอนหลับ
1874.086 -> วันหนึ่งๆ เราจะไม่บ่นเลยว่า
1877.086 -> ไม่มีเวลาภาวนา
1879.816 -> เราภาวนาแทบทั้งวันเลย
1883.206 -> มีงานวิจัยอันหนึ่งนานมาก
1887.226 -> เดี๋ยวนี้ตัวเลขนี้ข้อมูลนี้
1888.916 -> อาจจะใช้ไม่ได้แล้ว
1891.486 -> บอกวันหนึ่งๆ
1892.816 -> คนที่บอกว่าทำงานวันละ 8 - 10 ชั่วโมง
1897.436 -> ทำงานจริงๆ ที่ใช้สมองจริงๆ
1900.246 -> 4 ชั่วโมงครึ่งประมาณนั้น
1903.826 -> เวลาที่เหลือเอาไว้ฟุ้งซ่าน
1906.166 -> ไม่ได้ทำงานหรอก
1909.066 -> ฉะนั้นสมมติตั้งแต่เราตื่น
1910.756 -> จนเราหลับกี่ชั่วโมง
1913.136 -> สมมติเราหลับ 8 ชั่วโมง
1916.762 -> มีเวลาที่ตื่นอยู่เท่าไร 16 ชั่วโมง
1923.542 -> 16 ชั่วโมงนี้เอาไว้ทำงานจริงๆ
1926.372 -> 4 - 4 ชั่วโมงครึ่ง เหลือเท่าไร
1931.172 -> ตรงนั้นล่ะเอาไปภาวนาได้ 10 กว่าชั่วโมง
1938.597 -> เราจะไม่พูดหรอกไม่มีเวลาภาวนา
1944.088 -> แล้วเราจะไม่บ่นว่า
1946.078 -> ทำไมคนโน้นเขาภาวนาเร็ว
1949.608 -> เราภาวนาตั้งหลายปีสู้เขาไม่ได้
1953.768 -> ภาวนาหลายปี
1956.038 -> วันหนึ่งทำตอนก่อนนอนครึ่งชั่วโมง
1958.938 -> เวลาที่เหลือเอาไว้หลง
1961.268 -> ในขณะที่อีกคนหนึ่ง
1962.798 -> ภาวนาวันหนึ่งตั้ง 10 กว่าชั่วโมง
1965.998 -> จะไปสู้กันได้อย่างไร
1968.048 -> ฉะนั้นใครเขาเร็ว ไม่ต้องไปอิจฉาใครเลย
1972.638 -> คนที่เขาภาวนาได้เร็วด้วยเหตุผล 2 อย่าง
1977.076 -> หนึ่ง เขาเคยทำมาแล้ว
1980.446 -> คล้ายๆ น้ำมันจะเต็มแจกัน
1986.056 -> ใส่น้ำลงไปมันจะเต็มอยู่แล้ว
1988.466 -> เติมนิดหน่อยมันก็เต็มแล้ว
1991.616 -> กับคนซึ่งมันไม่เคยฝึก
1994.716 -> มันต้องเริ่มต้นนับหนึ่งเลย ต้องสะสม
1999.163 -> ฉะนั้นบุญเก่า ปุพเพกตปุญญตา
2003.71 -> มีบุญเก่าอยู่ช่วยให้เราภาวนาได้เร็ว
2007.71 -> อีกอันหนึ่งคือกรรมใหม่ของเรา
2011.03 -> ภาวนาวันหนึ่งๆ
2014.62 -> ภาวนาถูกหรือผิดนี่ตัวแรกเลย
2019.03 -> อันที่สอง ถ้าภาวนาถูก ภาวนาแค่ไหน
2022.822 -> ภาวนานิดๆ หน่อยๆ จะไปได้ผลอะไรนักหนา
2026.822 -> วันหนึ่งตามใจกิเลสเสีย 15 ชั่วโมงแล้ว
2030.382 -> ภาวนาครึ่งชั่วโมง ไม่ได้อะไรหรอก
2034.632 -> แต่ก็ดีกว่าไม่ทำเลย
2036.442 -> เรียกว่าทำพอเป็นนิสัย
2038.832 -> ผ่านพระพุทธเจ้าไปอีกหลายๆ องค์เลย
2041.312 -> ก็อินทรีย์แก่กล้ากว่านี้
2044.332 -> ก็ภาวนาง่ายขึ้นๆ
2050.513 -> เพราะฉะนั้นตั้งใจเสียใหม่ วางใจเสียใหม่
2055.103 -> ว่าเราจะภาวนาตั้งแต่ตื่นจนหลับ
2059.977 -> ตอนไหนที่ไม่ต้องใช้ความคิดในการทำงาน
2064.672 -> ไม่ต้องคิด ตอนนั้นภาวนาไว้
2069.438 -> อยู่กับเครื่องอยู่ของเราไป
2072.518 -> เช่น หายใจออก หายใจเข้ารู้สึกตัวไป
2076.868 -> หรือรู้สึกถึงความตาย
2078.868 -> อยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
2080.668 -> หายใจเข้าเราก็ตายไปทีหนึ่งแล้ว
2083.098 -> หายใจออกเราก็ตายเพิ่มขึ้น
2085.488 -> ค่อยๆ ตายๆๆ ไปเรื่อยๆ พิจารณาอย่างนี้
2090.05 -> ใจจะมีกำลังออกจากโลก
2094.05 -> คนที่มันวุ่นวายอยู่กับโลก หลงโลก
2097.59 -> แย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างในโลก
2100.59 -> เพราะมันไม่เคยพิจารณาความตาย
2104.59 -> ถ้ารู้ว่าไม่นานมันจะตาย
2107.75 -> จะมาแย่งอะไรกันนักหนาในโลก
2111.48 -> แย่งทรัพย์สินเงินทอง แย่งอำนาจ
2113.9 -> แย่งชื่อเสียงอะไรต่ออะไร
2116.68 -> หาสาระไม่ได้เลย
2120.08 -> ตอนตายก็สูญเสียทุกอย่าง
2123.27 -> ที่เคยไปแย่งเขามาได้
2127.74 -> คนโง่เขาเป็นอย่างนั้นล่ะ
2130.77 -> เหน็ดเหนื่อย วุ่นวายอยู่กับโลก
2133.98 -> ตอนที่ช่วงชิงก็ทำบาปอกุศลมากมาย
2137.87 -> สร้างความวุ่นวายเดือดร้อนให้ตัวเอง
2141.24 -> แล้วก็แพร่ความเดือดร้อนไปให้คนอื่น
2143.84 -> บางทีก็ใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ
2146.77 -> คนอื่นบาดเจ็บล้มตาย
2148.82 -> ติดคุกติดตะรางไม่เป็นไร
2151.13 -> กูได้ประโยชน์ กูฉลาด
2153.55 -> ไอ้พวกนั้นเป็นเครื่องมือ มันโง่
2157.08 -> ที่จริงไอ้โง่ที่สุด
2158.36 -> คือคนที่ทำชั่วนั่นล่ะ มันโง่
2161.18 -> ถ้ามันไม่โง่มันไม่ชั่วหรอก
2166.537 -> แต่ว่าสัตว์โลกก็อย่างนั้นล่ะ
2169.027 -> เราไปแก้ที่เขาไม่ได้
2171.837 -> เราก็พัฒนาตัวเราเอง
2176.547 -> มาถึงวันนี้ภาวนามาถึงจุดหนึ่ง
2179.507 -> เราจะรู้เลยว่าโลกนี้ไม่มีอะไร
2183.247 -> โลกนี้มีแต่ทุกข์ โลกนี้ไม่มีอะไร
2186.617 -> มีแต่การแก่งแย่งทำร้ายกันตลอดเวลา
2191.507 -> ไม่มีอะไรหรอกนอกจากทุกข์
2195.507 -> ใจมันก็รู้สึกว่าไปให้พ้นเสียดีกว่า
2200.95 -> ถ้ากำลังบารมีเราพอเราก็พ้นไปเลย
2204.95 -> บรรลุมรรคผลไป
2207.73 -> ถ้าไม่พอหลายๆ คนตั้งปณิธานเลย
2211.73 -> ช่วงนี้จะไม่กลับมาเกิดในโลกมนุษย์
2215.73 -> ตั้งใจไว้อย่างนั้นเลย
2217.65 -> ไว้รอพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้
2219.79 -> แล้วค่อยกลับมาเกิด
2222.8 -> อธิษฐานอย่างนั้นเลย
2225.32 -> เวลาทำความดีภาวนาไปด้วย
2228.18 -> ก็ตั้งจิตอธิษฐานไป
2230.82 -> โลกตอนนี้มันอยู่ไม่ไหวแล้ว
2233.3 -> น้ำก็จะท่วมแล้ว
2234.94 -> อะไรๆ ก็รุนแรงไปหมดเลย
2237.21 -> เบียดเบียนกันก็เยอะ
2241.47 -> ขอไม่อยู่กับมันแล้ว
2244.26 -> ขอไปอยู่ในเทวโลก ในพรหมโลก
2247.53 -> แล้วถ้าพระพุทธเจ้า
2249.63 -> พระองค์ใดพระองค์หนึ่งมาตรัสรู้
2252.7 -> ขอให้เรารู้แล้วมาศึกษาธรรมะต่อ
2256.48 -> แต่ไปอยู่ในเทวโลก พรหมโลก
2258.44 -> อย่าไปประมาท ต้องไปภาวนาต่อ
2262.28 -> ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ ก็จะสบาย
2267.74 -> เมื่อก่อนก็มีพระองค์หนึ่ง สมัยก่อนๆ
2274.716 -> ท่านก็ตั้งความปรารถนาเอาไว้ว่า
2278.536 -> ไม่อยู่กับโลกหรอกไปอยู่ในพรหมโลก
2283.802 -> ถ้ากัปใดมีพระพุทธเจ้า
2287.352 -> ขอให้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่
2290.972 -> ตั้งใจอย่างนั้นก็มีไม่ใช่ไม่มี
2295.282 -> แต่ตอนอยู่ในพรหมโลก
2297.372 -> ก็ภาวนาไม่ใช่ไม่ภาวนา
2301.372 -> ทำให้ได้นะค่อยๆ ฝึกตัวเอง
2304.302 -> อย่าอยู่กับเขาเลย
2306.232 -> โลกนี้ก็ปล่อยให้ชาวโลกเขาอยู่ไปเถอะ
2310.232 -> เมื่อ 30 กว่าปีก่อน
2311.812 -> มีครูบาอาจารย์องค์หนึ่ง ท่านบอก
2316.414 -> ท่านนั่งๆ อยู่แล้วท่านก็พิจารณา
2320.368 -> แล้วท่านก็บอกว่า
2321.698 -> โอ้ตอนนี้สัตว์นรกขึ้นมาเกิด
2325.928 -> ในบ้านในเมืองนี้เยอะแยะเลย
2329.698 -> ช่วง 30-40 ปีก่อนคนภาวนาเยอะ
2333.698 -> คนมีศีลมีธรรมยังเยอะอยู่
2337.278 -> แต่ครูบาอาจารย์ท่านออกปากเลยว่า
2339.678 -> สัตว์นรกมันกำลังขึ้นมา
2343.741 -> ต่อไปบ้านเมืองมันจะร้อน
2345.548 -> มันจะอยู่ไม่ได้หรอก
2346.908 -> ท่านบอกพวกเราอย่าอยู่กับเขาเลย
2349.908 -> ภาวนาไปให้พ้นจากสิ่งเหล่านี้
2353.188 -> เราไปแก้มันไม่ได้หรอก
2355.228 -> สัตว์ในนรกมันขึ้นมาเยอะแยะ
2358.398 -> มันถึงวาระที่มันจะขึ้นมาแล้ว
2362.428 -> เราก็จะดูได้ทุกวันนี้
2365.608 -> จิตใจแบบนรกมันเต็มบ้านเต็มเมือง
2368.298 -> นรกมันเป็นอย่างไร นรกมันเร่าร้อน
2373.152 -> รู้สึกไหมบ้านเมืองยุคนี้
2375.042 -> มันเร่าร้อนเหลือเกิน
2376.972 -> อยู่ดีๆ ก็หาเรื่องให้เร่าร้อนขึ้นมา
2380.972 -> หลอกคนโน้นหลอกคนนี้ใช้เป็นเครื่องมือ
2384.972 -> ไม่มีความสงบสุขแล้ว
2387.982 -> อันนี้ท่านบอกมาตั้ง 30 กว่าปีแล้ว
2395.488 -> ที่จริงท่านเล่าเยอะกว่านั้น
2398.808 -> แต่พูดไปแล้วมันจะกระทบระหว่างประเทศ
2403.488 -> เอานิดหน่อยก็พอ
2405.478 -> ท่านเคยบอก ท่านบอกในวาระเดียวกันนี้
2410.398 -> ท่านบอกเมื่อก่อนพวกเราอยู่อินเดีย
2414.398 -> คนมีบุญอยู่ที่นั่นเยอะเลย
2418.018 -> พอคนมีบุญเยอะๆ รัศมีมันแผ่ซ่านออกไป
2422.718 -> พวกจะขึ้นจากนรกมันเห็นแสง
2426.718 -> จิตมันเกาะขึ้นมา
2430.348 -> ท่านบอกสุดท้าย
2431.538 -> เราก็หนีมาอยู่เมืองไทยนี่ล่ะ
2435.558 -> ตอนนี้มันขึ้นมาอีกแล้ว
2437.678 -> ตอนนี้จะขึ้นข้างบน
2440.058 -> หนีต่อไปอีกถ้าไม่จบ
2442.908 -> ไม่จบก็ไปภาวนาบนโน้น
2447.356 -> เราไปแก้ที่คนอื่นไม่ได้หรอก
2451.356 -> เขาก็มีพื้นฐานของเขามาแบบนั้น
2457.016 -> บางคนทำมาทั้งบาปทั้งบุญ
2461.016 -> ทำบุญมาอย่างเคยทำทานอะไรอย่างนี้
2467.118 -> เกิดมาชาตินี้ร่ำรวย
2471.118 -> แต่ก็เคยทำบาปอกุศลไว้
2474.208 -> อยากใหญ่ อยากโต
2478.603 -> โลกก็เป็นอย่างนี้ล่ะ
2481.338 -> คนมันก็มีทั้งดีทั้งชั่วในตัวเอง
2485.338 -> พวกเราก็เหมือนกัน
2486.848 -> ก็มีทั้งดีทั้งชั่วอยู่ในตัวเอง
2489.628 -> แต่สัดส่วนมันเป็นอย่างไร
2491.798 -> เราภาวนาส่วนที่ชั่วก็ลดเสีย
2494.168 -> ส่วนที่ดีก็พัฒนาเสีย
2496.708 -> คนอื่นก็ปล่อยเขาไป
2499.818 -> สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม
2503.998 -> วันนี้เทศน์เท่านี้ก็พอ
2506.979 -> เทศน์มากกว่านี้
2508.391 -> เดี๋ยวจะกลายเป็นเล่านิทาน
2510.301 -> ที่ครูบาอาจารย์เล่า
2513.391 -> แต่ครูบาอาจารย์รุ่นนี้ท่านก็บอก
2516.951 -> บอกว่าคนรุ่นพวกเรา
2520.751 -> จำนวนมาก จำนวนมากๆ จะลงนรก
2526.401 -> เคยขึ้นมาไหนก็จะกลับไปที่นั้น
2529.521 -> ท่านบอกอย่างนี้
2533.091 -> พวกเราหนีขึ้นไปเสียอย่าอยู่เลย
2543.241 -> เบอร์ 1: ทำทุกอย่าง
2545.841 -> เพราะคิดว่าเป็นหน้าที่
2548.171 -> แต่ไม่ค่อยมีความสุขกับสิ่งที่ทำ
2551.591 -> ใจเครียด หลงนาน จิตไม่มีกำลัง
2555.741 -> ทำสมถะโดยหายใจเข้าพุทออกโธ
2559.741 -> นับ 1-100 แล้วนับถอยหลัง
2563.741 -> ช่วงแรกรู้สึกจิตมีกำลัง
2567.031 -> หลังๆ คิดว่าทำใจให้นิ่ง
2569.811 -> ไม่รู้สึกว่ามีกำลัง
2571.861 -> ขอหลวงพ่อชี้แนะการปฏิบัติด้วยค่ะ
2602.929 -> มันติดสมาธิ ติดนิ่ง
2607.904 -> แทนที่จะนิ่งๆ อย่างนี้
2611.144 -> ปล่อยให้จิตมันเคลื่อนออกมา
2613.234 -> ดูลงในร่างกาย
2616.014 -> พิจารณาร่างกายไว้
2617.714 -> ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก
2620.224 -> ดูไปทีละส่วนๆ
2622.904 -> เป็นของไม่สวยไม่งาม
2625.034 -> ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา พิจารณาเข้าไป
2629.034 -> จิตจะได้หลุดออกจากที่ติดอยู่ตรงนี้
2632.594 -> มันติดนิ่งอย่างนี้
2634.764 -> อยู่อย่างนี้
2643.603 -> เดี๋ยวมันจะไม่ออกมาแล้วติดค้างอยู่
2647.973 -> หลวงพ่ออุตส่าห์จูนจิตให้เท่าๆ แล้ว
2651.603 -> ทำหน้าให้ดูแล้ว นี่ตรงนี้ดีกว่าเมื่อกี้
2655.603 -> ถ้าอยู่อย่างเมื่อกี้ไม่เจริญหรอก
2658.403 -> ก็อยู่แค่นั้นล่ะ
2660.433 -> ฉะนั้นถอยออกมาอยู่ตรงนี้ คอยรู้สึกเอา
2667.202 -> จิตที่มันเคยสะสมสมาธิมา
2669.577 -> มันไม่ได้เสียหายมากหรอก ถ้าเดินต่อ
2673.577 -> สมาธิที่ฝึกไว้มันเป็นกำลัง
2675.737 -> ที่ให้เราเดินต่อไปได้ดี
2678.427 -> แต่ว่าอย่าติดอยู่ที่เดิมเท่านั้นล่ะ
2681.537 -> ออกมา แล้วมาดูลงไป
2683.577 -> พิจารณาลงในร่างกายนี้เรื่อยๆ ไป
2686.987 -> ไม่สวย ไม่งาม ไม่เที่ยง
2688.747 -> เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ดูไปเรื่อยๆ
2692.017 -> มีความตายรออยู่เบื้องหน้า
2695.017 -> พิจารณาซ้ำๆ ลงไป
2697.254 -> ใจจะได้ไม่ติดนิ่งติดเฉย
2700.451 -> พิจารณาไปพอจิตมันเริ่มฟุ้งซ่าน
2702.761 -> กลับมาทำความสงบ
2704.981 -> แต่ระมัดระวังค่อยๆ ทำความสงบ
2707.611 -> อย่าไปล็อกจิตให้นิ่ง
2710.201 -> ตอนแรกๆ เราไม่ได้ไปบังคับจิตให้นิ่งหรอก
2714.201 -> เราภาวนาถูกมันก็ไปนิ่งขึ้นมา
2717.291 -> แล้วเราจำได้ จิตที่นิ่งๆ มันเป็นแบบนี้
2720.861 -> เราเลยจงใจทำจิตนิ่งๆ ขึ้นมา
2724.201 -> อย่าไปจงใจทำจิตให้นิ่งๆ
2739.273 -> ตรงนี้เคลิ้มแล้วรู้สึกไหม
2742.563 -> พอนิ่งๆ แล้วก็เคลิ้ม
2747.273 -> รู้สึกๆ อย่าให้มันล็อกเข้าไปข้างใน
2750.933 -> มันติดอยู่ข้างใน ออกมา
2753.903 -> ออกมาดูร่างกายไว้
2758.101 -> เบอร์ 2 : เป้าหมายการภาวนาตอนนี้
2761.611 -> คือรักษาศีล มีสติรู้สึกตัวให้บ่อย
2766.101 -> เพราะยังจมอยู่กับโมหะ
2769.461 -> มัวๆ แทบทั้งวันและยังหลงนาน
2773.321 -> ขอหลวงพ่อชี้แนะด้วยค่ะ
2779.281 -> ภาวนาให้มันมีความสุขนะ
2783.281 -> ภาวนาอย่างสดชื่น
2785.751 -> ค่อยๆ ภาวนาไป
2789.051 -> อย่าให้ใจมันเฉยๆ แห้งแล้งไป
2791.431 -> ภาวนาแล้วค่อยๆ รู้สึกไป
2794.761 -> ใจมีความสุข มีความเบิกบาน
2798.656 -> ฝึกทุกวันๆ
2801.691 -> หายใจไปด้วยความรู้สึกตัวไป
2804.36 -> หายใจไปก็มีความสุขไป
2815.569 -> หลงไปคิดก็รู้ว่าหลงไปคิด
2819.369 -> หายใจไปแล้วจิตหลงไปคิด
2821.469 -> รู้ว่าจิตหลงไปคิด
2829.821 -> หายใจไปแล้วแน่น แสดงว่าบังคับไว้
2834.231 -> อย่าให้มันแน่น
2836.231 -> ถ้าแน่นแสดงว่าจงใจมากไป บังคับมากไป
2839.927 -> หายใจไปอย่างมีความสุข
2842.037 -> ไม่ใช่หายใจไปบังคับไป
2845.867 -> เห็นร่างกายหายใจ ใจเป็นแค่คนรู้สึก
2852.283 -> ใจหนีไปคิดรู้ว่าใจหนีไปคิด
2854.973 -> หายใจไปนะแล้วใจหนีไปคิดแล้วรู้เอา
2858.423 -> ฝึกอย่างนี้เยอะๆ เลย
2862.973 -> เบอร์ 3: มีจิตตั้งมั่นบ่อยขึ้น
2866.973 -> แต่เกิดได้ไม่นานก็จางคลายหายไป
2870.973 -> ขณะที่จิตตั้งมั่น
2873.003 -> บางครั้งมีความรู้สึกควบคุมอะไรไม่ได้
2877.003 -> และตัวเรามีเพียงสิ่งที่รู้และถูกรู้
2881.003 -> ระหว่างวันรู้สึกตัวได้บ่อยขึ้น
2884.113 -> แต่ไม่บ่อยมาก
2885.803 -> อยากทราบว่าจิตได้เดินปัญญาจริงๆ
2888.483 -> แล้วบ้างหรือยังครับ
2892.133 -> เดินแล้วนะแต่ว่าสมาธิมันยังไม่พอ
2896.483 -> มันเดินได้สั้นๆ นิดเดียว
2900.483 -> อย่าไปทำจิตให้ซึม
2902.903 -> สมาธิไม่ได้แปลว่าจิตซึม
2905.403 -> สมาธิแปลว่าจิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว
2909.523 -> อย่างจิตหลงไปคิด
2911.113 -> จิตใจไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัว
2913.663 -> จิตไปเพ่งไว้ไม่ได้จิตอยู่กับเนื้อกับตัว
2916.593 -> จิตบังคับตัวเอง
2919.623 -> อย่างตรงนี้จิตไหลไปคิดแล้ว
2922.253 -> จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
2925.273 -> ต่อไปนี้ทำกรรมฐานแล้วสังเกตไป
2928.894 -> ตอนนี้จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว
2930.894 -> ตอนนี้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
2934.024 -> สังเกตอย่างนี้เรื่อยๆ
2935.584 -> จะได้ทั้งสมาธิ ได้ทั้งปัญญา
2938.434 -> พื้นจิตมันเดินปัญญาง่ายหรอก
2942.674 -> ขอให้มีสมาธิให้พอ
2944.904 -> มันไปได้ดีเชียวละ
2948.904 -> อย่าน้อมจิตให้ติดนิ่ง
2950.764 -> อย่างนี้น้อมจิตไปให้นิ่ง
2958.014 -> ถ้าดูอย่างนั้นแล้วมันติดนิ่ง
2961.164 -> มาดูร่างกายเลย
2963.764 -> เห็นร่างกายเคลื่อนไหวแล้วรู้สึกๆๆ ไปเลย
2966.884 -> ดีกว่าให้จิตไปติดล็อกนิ่งๆ ว่างๆ อยู่
2974.42 -> เบอร์ 4: ในรูปแบบทุกวัน
2977.43 -> เดินจงกรมรู้สึกตัว
2980.12 -> สวดมนต์วันละ 50 นาที
2983.41 -> พยายามดูกายในชีวิตประจำวัน
2986.63 -> มีความรู้สึกตัวแบบเกิดขึ้นเองได้บ้าง
2990.444 -> แต่จะไม่แน่ไม่นอน
2993.024 -> บางวันรู้ตัวได้บ่อย บางวันฟุ้งหลงยาว
2997.024 -> เหมือนสมาธิไม่ตั้งมั่น
2999.644 -> ขอคำแนะนำในการปฏิบัติค่ะ
3002.904 -> ที่ภาวนามันก็ดีขึ้นนะ ไม่ใช่ไม่ดีหรอก
3007.345 -> ทำให้มันสม่ำเสมอไป
3010.485 -> แล้วมันก็ค่อยๆ พัฒนา
3013.295 -> อยากพัฒนาเร็วจะไม่พัฒนาหรอก
3016.085 -> เพราะมันอยาก
3022.952 -> อย่างตรงนี้เราบังคับจิตของเรา
3026.142 -> อย่าไปบังคับมัน งงรู้ว่างง รู้ทัน
3032.882 -> ความงงมันผุดขึ้นมา งงแล้ว
3036.522 -> ไม่ต้องหาคำตอบแค่เห็นว่า
3039.312 -> สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น สิ่งนั้นก็ดับ
3042.089 -> ความงงเกิดขึ้น ความงงก็ดับไป
3047.977 -> ไม่ต้องส่งจิตไปสังเกต
3052.72 -> จิตมันเคลื่อนไปสังเกต
3054.432 -> รู้ว่าจิตมันเคลื่อนไป
3063.265 -> พื้นจิตมันก็ฉลาดดีหรอก
3066.805 -> ถ้าสมาธิพอมันก็จะไปได้ดีกว่านี้
3072.085 -> พยายามฝึกให้จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัวไว้
3074.735 -> จิตเคลื่อนแล้วรู้ๆ บ่อยๆ
3078.915 -> ตรงนี้เคลื่อนแล้ว เคลื่อนไปคิด
3082.525 -> คิดทวนที่หลวงพ่อบอก
3087.515 -> เรารู้ทันจิตมันทำงานขึ้นมาเรารู้ทันไป
3092.15 -> สติก็จะดีขึ้น สมาธิก็จะดีขึ้น
3097.22 -> แล้วนิสัยอย่างนี้
3099.4 -> จิตมันเดินปัญญาได้คล่อง
3101.41 -> ไม่ต้องกลัวไม่เดินปัญญาหรอก
3109.759 -> เบอร์ 5: ปฏิบัติในรูปแบบหลังตื่นนอน
3114.599 -> โดยรู้ร่างกายที่นั่งหายใจ
3118.009 -> มีบ้างที่ดูลมหายใจแต่รู้สึกอึดอัด
3122.345 -> เลยต้องดูร่างกายนั่งหายใจไป
3126.345 -> ช่วงแรกหลงคิดนานจึงรู้สึกตัว
3130.345 -> ตอนนี้รู้สึกตัวเร็วขึ้น
3133.145 -> พอจะแยกรูปแยกนามได้บ้าง
3136.245 -> ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือว่าเห็นได้จริง
3140.425 -> ติดเพ่งหรือติดเฉยๆ หรือไม่
3143.485 -> ขอหลวงพ่อเมตตาชี้แนะด้วยครับ
3146.345 -> มันเห็นได้จริงๆ รูปนามมันแยกแล้ว
3150.727 -> เวลาใจเราตั้งมั่นขึ้นมา
3152.727 -> รูปนามก็แยกไม่ใช่เรื่องยากหรอก
3156.257 -> แต่เวลาใจเราหลงไป รูปนามมันก็หายไป
3160.727 -> มันก็เหลือแต่ความคิด
3168.928 -> หายใจแบบนั้นมันจะเหนื่อย
3173.028 -> จงใจหายใจ มันจะเหนื่อย ดูสบายๆ ไป
3177.385 -> เห็นร่างกายมันหายใจไป
3180.085 -> หรือเห็นร่างกายมันยืน เดิน นั่ง นอนไป
3183.965 -> เห็นร่างกายดีแล้วนะ
3186.275 -> โดยวัยรู้สึกกายไว้ดีแล้ว
3190.458 -> เพราะว่าถ้ารู้สึกเข้าไปที่จิต
3193.088 -> มันจะเคลิ้มง่าย เคลิ้มๆ ง่าย
3196.498 -> รู้สึกกายไว้ดีแล้ว
3199.058 -> แต่ไม่เพ่งกาย นี่ร่างกายยกมือรู้สึก
3205.048 -> ยิ้มซิๆ ร่างกายยิ้มรู้สึกใช่ไหม
3210.037 -> รู้สึกไหมร่างกายเรายิ้มด้วย
3212.147 -> ใจเราก็เบิกบานไปด้วย สัมพันธ์กัน
3217.817 -> ฉะนั้นถ้าเราดูกายได้ชำนิชำนาญ
3220.187 -> เราก็จะเห็นจิตได้ชำนิชำนาญขึ้น
3226.711 -> ที่ฝึกอยู่ใช้ได้ ไปฝึกอีก
3233.717 -> เบอร์ 6: ปฏิบัติในรูปแบบ
3236.827 -> โดยการสวดมนต์และนั่งสมาธิ
3240.467 -> มีบทสวดมนต์และลมหายใจ
3242.837 -> เป็นเครื่องอยู่ของจิต
3245.52 -> รู้สึกตัวได้ดีกว่าแต่ก่อน
3248.47 -> ในระหว่างวันจะมีบทสวด
3250.94 -> ผุดขึ้นมาเป็นบางครั้ง
3253.22 -> จิตฟุ้งซ่านและหลงคิดนาน
3256.15 -> เห็นจิตชอบวิจารณ์
3258.599 -> มีทิฐิ มานะ อัตตาสูง
3262.488 -> บางครั้งที่รู้สึกกาย กายจะแน่นและเกร็ง
3267.423 -> เวลาหลับตานั่งสมาธิจิตจะเคลิ้ม
3271.423 -> ขอหลวงพ่อชี้แนะการปฏิบัติด้วยค่ะ
3274.893 -> ขยับไว้ เคลื่อนไหว อย่างขยับ
3278.773 -> ร่างกายขยับแล้วคอยรู้สึกๆ ไว้
3282.082 -> ถ้านั่งแล้วมันจะเคยชิน
3284.082 -> ที่จะโน้มจิตให้นิ่งๆ เข้าไป เคลิ้มๆ ไป
3288.342 -> ฉะนั้นเรากระดุกกระดิกแล้วรู้สึกๆ ไป
3293.127 -> ก็ฉลาดนะเห็นกิเลส ที่ดูยาก
3297.127 -> ตัวเซลฟ์นั้น มานะอัตตาอะไร
3301.597 -> เห็นตัวนี้ได้เก่งนะ ดูได้ ก็ดีแล้ว
3307.408 -> เคลื่อนไหวไว้แล้วก็รู้สึกไป
3312.068 -> ใช้ลมอย่างเดียวมันละเอียดไป
3315.638 -> มันจะเคลิ้มง่าย
3317.378 -> ใช้ของที่หยาบกว่าลมคือร่างกาย รู้สึกเอา
3324.554 -> เบอร์ 5 ย้อนกลับมาเบอร์ 5 นิดหนึ่ง
3327.324 -> อย่าไปเกร็ง ในการภาวนาอย่าไปเกร็งขึ้นมา
3332.747 -> อย่าไปเกร็ง
3334.147 -> ภาวนาอย่างนั้นเหนื่อย
3336.917 -> แล้วมันไม่ได้สมาธิที่ดี
3338.927 -> มันเหนื่อยเกินไป มันเครียด
3347.149 -> เบอร์ 4 ฟุ้งนะ ดิ้นขลุกขลักๆ
3353.504 -> เบอร์ 3 แบบนี้ไม่เอา
3363.389 -> กลับเข้ามา กลับมารู้สึกตัวเองไว้
3374.264 -> เบอร์ 1 เราดันจิตขึ้นสูงไป
3379.166 -> เบอร์ 1 รู้สึกไหมเราดันจิตขึ้นไป
3387.622 -> ให้จิตปกติ รู้ๆ ไป
3390.512 -> นี่ดันขึ้นไปแล้วก็ไปเห็นเคลื่อนไหวได้
3393.202 -> อันนั้นถูกตรงที่เห็น
3395.182 -> แต่ตัวที่ดูมันไม่ถูก
3398.232 -> มันถูกล็อกเอาไว้อย่างนี้
3408.282 -> เบอร์ 7 : เป็นคนกลัวผี
3411.872 -> จึงสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน
3413.762 -> ตั้งแต่เด็กติดต่อกันกว่า 20 ปี
3417.762 -> ฝึกวสีในสมาธิควบเจริญปัญญา
3421.762 -> ถนัดดูกายมากกว่าดูจิต
3424.332 -> คิดว่าแยกธาตุแยกขันธ์ได้แล้ว
3427.702 -> สภาวะที่เด่นเวลาภาวนาคือ
3430.632 -> เห็นกลไกการขุดถอน ตัด หลุดออก
3435.153 -> คลายออกของบางสิ่งบางอย่าง
3439.363 -> ที่มีลักษณะเป็นแผ่น
3441.713 -> เป็นเส้น เป็นยางเหนียว
3444.373 -> ตอนนี้ยางเหนียวเริ่มเบาบางลง
3446.753 -> มากกว่าในอดีต
3448.303 -> เรียนถามหลวงพ่อว่า
3450.113 -> ผมทำวิปัสสนาได้จริงๆ แล้วใช่ไหม
3453.243 -> และขอคำแนะนำเพิ่มเติมครับ
3457.003 -> ก็ทำได้นะ ทำ
3462.506 -> แล้วมีกิเลสอะไรแทรกเข้ามาเราคอยรู้ไว้
3467.436 -> อย่างถ้าเราภาวนาดีๆ แล้วเรารู้สึก
3470.316 -> เราเก่งจังเลยอะไรอย่างนี้ เราก็รู้ทัน
3474.056 -> ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวโดนกิเลสหลอก
3477.576 -> คอยรู้ทันกิเลสเรื่อยๆ ไป
3481.196 -> อย่าบังคับจิตให้นิ่ง
3484.816 -> ตรงนี้บังคับจิตให้นิ่งอยู่
3488.916 -> จิตเลยนิ่งๆ ปล่อยให้มันทำงานให้ได้
3492.416 -> อย่าไปรักษามันไว้
3496.016 -> มีสติให้ถี่ๆ สติจะเป็นตัวรักษาจิต
3501.005 -> แต่ถ้าเราจงใจไปรักษาจิตเสียเอง
3504.045 -> ประคองจิตมันจะกลายเป็นเพ่ง
3509.475 -> แล้วเรา จิตมันเคลื่อนไหว
3512.015 -> มันทำงาน มันหยุดนิ่ง
3513.375 -> เรามีสติรู้ไปเรื่อยๆ
3515.415 -> สติมันจะรักษาจิตดี
3518.155 -> รักษาให้เอง
3521.731 -> ใจเราก็จะรู้ตื่นเบิกบาน
3527.38 -> ตรงนี้เราส่งจิตออกไปดูแล้ว
3530.57 -> จิตมันเคลื่อนไป
3534.435 -> เราก็รู้ว่าจิตเคลื่อน
3539.948 -> ตรงนี้เราดึงจิตเข้ามา
3542.278 -> รั้งจิตเข้ามามันก็จะเริ่มแน่นๆ
3546.278 -> เราก็รู้ว่าเราไปรั้งมันไว้ ไปดึงมันไว้
3553.655 -> ลองหยุดปฏิบัติซิ
3558.045 -> จิตตรงนี้ดีจำไว้นะ
3561.425 -> จิตตรงนี้ล่ะคือจิตที่ถูก
3565.325 -> ส่วนที่เป็นอย่างเมื่อกี้
3567.645 -> เป็นจิตที่เราเมก make ขึ้นมา ทำขึ้นมา
3572.806 -> ตัวนี้คือตัวจิตรู้จริงๆ
3576.046 -> จิตรู้ไม่ได้อยู่ข้างใน
3577.786 -> จิตรู้ไม่ได้อยู่ข้างนอก
3580.256 -> จิตรู้เราไม่ได้รักษาไว้
3582.876 -> ตรงนี้เริ่มรักษาแล้วรู้สึกไหม
3587.151 -> รู้ทันอย่างนี้
3589.041 -> ตรงนี้ล่ะตรงนี้ถูกเป๊ะเลย
3591.931 -> ตอนที่กำลังยิ้มนั้นถูกเลย
3594.531 -> แล้วตอนที่ยิ้มหุบเริ่มเพ่งใหม่
3598.531 -> ตอนนี้ยิ้มแต่เพ่งรู้สึกไหม
3602.531 -> ยังแน่นๆ อยู่
3605.271 -> ฉะนั้นเราจิตไปติดเพ่งอยู่ ให้รู้ทัน
3609.271 -> อย่าไปเพ่งไว้ปล่อยมันออกมา
3611.891 -> ให้มันทำงาน
3616.231 -> จิตมันเคลื่อนไปแล้ว
3618.341 -> ก็รู้ว่ามันเคลื่อนไป
3619.901 -> ทำกรรมฐานไปแล้วก็รู้ทันจิตไปเรื่อยๆ
3625.891 -> เบอร์ 8 : ปฏิบัติตามคำสอนหลวงพ่อ
3629.891 -> ด้วยใจรักมาราว 5 ปี
3632.481 -> ได้เห็นความไม่เป็นกลาง
3634.841 -> ความเสื่อม ความเจริญ กิเลส
3639.401 -> และวิปัสสนูปกิเลสลักษณะต่างๆ
3641.781 -> ละเอียดขึ้นตามลำดับ
3644.301 -> มีศีล 5 เป็นเครื่องรักษาจิต
3647.601 -> พบพุทโธครั้งแรกตอนจิตเห็นความเซ็ง
3651.601 -> เห็นกิเลสใช้กายบีบคั้นจิต
3654.951 -> โดยมีทุกขเวทนาเป็นอาวุธ
3658.511 -> เห็นสมาธิคอยช่วยลดแรงกระทบ
3661.831 -> เห็นทุกอย่างเป็นรูปนามที่เกิดดับ
3665.171 -> เห็นความไม่เป็นกลางขั้นละเอียดดับลง
3668.871 -> พบความสุขที่ไม่มีประมาณและไม่มีเจ้าของ
3673.664 -> ขอคำแนะนำจากหลวงพ่อด้วยครับ
3678.452 -> เราภาวนาไม่ต้องละเอียด
3681.452 -> รู้อะไรเยอะแยะหรอก
3684.042 -> รู้เยอะๆ เหนื่อย
3687.432 -> เราแค่เห็นสิ่งที่ปรากฏเฉพาะหน้าเกิดขึ้น
3691.122 -> แล้วก็ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป
3693.202 -> เห็นแค่นี้พอแล้ว
3695.612 -> ถ้าเห็นเยอะแยะไปหมดใจมันจะฟุ้ง
3698.552 -> เดี๋ยวมันเหนื่อย
3701.012 -> ฉะนั้นเอาปัจจุบันเท่านั้นเอง
3702.972 -> เอาคำเดียวเลย คือปัจจุบัน
3706.532 -> รู้ลงปัจจุบันไปเรื่อยๆ
3710.593 -> ไม่อย่างนั้นจิตมันจะเดินปัญญาเยอะไป
3713.473 -> วิปัสสนูปกิเลสมันถึงเกิดขึ้น
3716.025 -> เวลามีวิปัสสนูปกิเลสมันจะเดิน
3719.005 -> เหมือนเดินปัญญาเยอะเลย
3721.715 -> จริงๆ มันฟุ้ง ฉะนั้นเอาปัจจุบันคำเดียว

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=R1XsZeWozqY