#SAVEแกงส้ม | 5 อาหารไทย กินอร่อย ต้านโรคภัย | คลิป MU

#SAVEแกงส้ม | 5 อาหารไทย กินอร่อย ต้านโรคภัย | คลิป MU


#SAVEแกงส้ม | 5 อาหารไทย กินอร่อย ต้านโรคภัย | คลิป MU

อาหารไทย ส่วนใหญ่นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยจัดจ้าน ยังมีวัตถุดิบ เครื่องเทศ และสมุนไพรต่าง ๆ ที่สามารถช่วยต้านโรคภัยได้

วันนี้ ดร.วนะพร ทองโฉม นักวิชาการโภชนาการ งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล จะมาให้แนะนำ 5 อาหารไทยที่ไม่ได้มีแค่ความอร่อย แต่ยังเต็มไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รวมไปถึงเคล็ดลับในการปรุงอาหารเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอื่น ๆ อีกด้วย

#แกงส้ม #อาหารไทย #คลิปMU #MahidolChannel

–––––––––––––––––––
YouTube:    / mahidolchannel  
Facebook: http://www.facebook.com/mahidolchannel
Mahidol University มหาวิทยาลัยมหิดล: https://www.mahidol.ac.th/th
Website | https://channel.mahidol.ac.th/
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล | https://med.mahidol.ac.th/index.php


Content

0.046 -> หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินว่า อาหารไทยสามารถต้านโรคต่าง ๆ ได้
4.494 -> ไม่ว่าจะเป็นแกงเหลือง แกงป่า แกงเลียง
7.368 -> ซึ่งพบว่าสามารถลดอัตราการเกิดเซลล์มะเร็งได้
10.553 -> แต่จริง ๆ แล้วยังมีอาหารไทยหลากหลายเมนู ที่มีความอร่อยและยังต้านโรคได้อีกค่ะ
16.131 -> [เสียงดนตรี]
22.552 -> มาเริ่มที่เมนูยอดฮิตเมนูแรก คือเมนูผัดกะเพรา
25.858 -> ซึ่งผัดกะเพราจะเป็นเมนูที่ช่วยเสริมสร้าง ภูมิต้านทานและต้านเชื้อไวรัสได้ค่ะ
30.447 -> เนื่องจากผัดกะเพรามีวัตถุดิบหลัก เป็นใบกะเพรา กระเทียม และพริก
35.517 -> โดยใบกะเพราจะมีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์
38.063 -> คือโอเรียนทิน แล้วมีน้ำมันหอมระเหย
40.461 -> มีโพลีฟีนอล และลินาลูล
42.624 -> ซึ่งสารเหล่านี้มีส่วนช่วย ในการลดโอกาสการติดเชื้อไวรัส
46.173 -> และป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ค่ะ
48.153 -> สำหรับกระเทียมจะมีสารเควอซิทินและอัลลิซิน
51.259 -> ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน
53.04 -> กระตุ้นการหลั่งสารป้องกันการติดเชื้อไวรัส และการทำงานของเม็ดเลือดขาวได้ค่ะ
57.265 -> และพริกมีสารแคปไซซินอยด์และแคโรทีนอยด์
60.245 -> รวมถึงวิตามินซี
61.47 -> ซึ่งจะช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ให้กับร่างกายได้ค่ะ
64.375 -> ข้อแนะนำในการรับประทานผัดกะเพราเพื่อสุขภาพ
67.078 -> ให้หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่ติดหนังติดมัน
69.613 -> ถ้าเป็นเนื้อหมูเนื้อไก่ที่สับ แนะนำให้บดหรือสับเอง
72.915 -> เพื่อหลีกเลี่ยงไขมันแข็ง ซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวที่ติดมา
76.085 -> นอกจากนี้ หลีกเลี่ยงการรับประทานคู่กับไข่เจียว
78.757 -> เนื่องจากไข่เจียวมีปริมาณน้ำมันที่มาก
81.11 -> จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานที่มากเกินไป
83.429 -> [เสียงดนตรี]
86.921 -> สำหรับเมนูที่ 2 ก็คือเมนูส้มตำ
89.275 -> เมนูส้มตำ จะช่วยในการต้านโรคความดันโลหิตสูงได้
92.558 -> เพราะส้มตำมีวัตถุดิบหลักเป็น มะละกอดิบ มะเขือเทศ และถั่วฝักยาว
97.4 -> ซึ่งทั้ง 3 วัตถุดิบนี้ จะเป็นแหล่งของโพแทสเซียมและใยอาหาร
100.977 -> ซึ่งโพแทสเซียมจะช่วยในเรื่องของ การหดคลายตัวของกล้ามเนื้อ
104.277 -> โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ รวมไปถึงการบีบตัวของหลอดเลือด
107.189 -> ดังนั้น การได้รับโพแทสเซียมที่เพียงพอ จะช่วยลดความดันโลหิตได้
110.607 -> ในส่วนของใยอาหาร จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
114.191 -> ลดไขมัน และควบคุมน้ำหนัก
116.247 -> ซึ่งจะเป็นการป้องกันปัจจัยที่ทำให้เกิด ความดันโลหิตสูงได้ค่ะ
119.926 -> นอกจากนี้ในถั่วฝักยาวยังมีแร่ธาตุแมกนีเซียม
122.992 -> ซึ่งแร่ธาตุแมกนีเซียมจะเป็นตัวรักษาสมดุล แร่ธาตุแคลเซียมและโพแทสเซียม
127.551 -> รวมถึงช่วยในเรื่องของการคลายตัวของหลอดเลือด
130.04 -> ส่งผลให้ช่วยลดความดันโลหิตเราได้ค่ะ
132.344 -> ข้อควรระวังในการรับประทานส้มตำ
134.513 -> เนื่องจากส้มตำจะมีโซเดียมสูง จากการปรุงประกอบ
137.622 -> ทั้งน้ำปลา น้ำปลาร้า หรือผงชูรส
139.939 -> ดังนั้น ข้อแนะนำในการรับประทาน เพื่อลดปริมาณโซเดียม
143.181 -> หลีกเลี่ยงการซดน้ำส้มตำ
144.762 -> ใช้ส้อมในการรับประทาน
146.2 -> หลีกเลี่ยงการใช้ผงชูรสในการปรุงรส
148.496 -> และเลือกใช้น้ำปลาลดโซเดียมในการปรุงประกอบ
151.483 -> [เสียงดนตรี]
154.942 -> สำหรับเมนูต่อมาก็คือต้มยำกุ้งค่ะ
157.44 -> สำหรับเมนูต้มยำกุ้ง
158.92 -> เป็นเมนูที่ช่วยต้านโรคมะเร็งได้ค่ะ
160.937 -> โดยมีวัตถุดิบหลักเป็น เห็ด ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และมะนาว
165.205 -> เห็ดจะมีเบตากลูแคน
166.587 -> สำหรับมะนาวจะมีวิตามินซี สารเฮสเพอริดิน และนารินจีนิน
170.615 -> ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
171.727 -> โดยข่าจะมีสารกาแลนจิน
173.698 -> และตะไคร้จะมีสารไมริสทิซิน
175.604 -> ซึ่งจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ
176.981 -> สำหรับสารต้านอนุมูลอิสระ จะป้องกันความเสียหายที่เกิดกับเซลล์
180.929 -> ซึ่งจะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ค่ะ
183.541 -> ข้อแนะนำในการรับประทานต้มยำกุ้ง
185.72 -> ควรหั่นข่าและตะไคร้เป็นชิ้นเล็ก ๆ
187.99 -> เพื่อเราจะได้กินเข้าไปและได้ประโยชน์ จากสมุนไพรอย่างเต็มที่ค่ะ
191.44 -> [เสียงดนตรี]
194.839 -> สำหรับเมนูต่อมาคือเมนูแกงส้มมะรุม
197.603 -> ซึ่งจะต้านโรคเบาหวาน และภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานได้
200.479 -> โดยแกงส้มมะรุมจะมีวัตถุดิบหลักเป็น ฝักมะรุม กระชาย และปลาช่อนหรือกุ้ง
207.128 -> โดยฝักมะรุมจะมีสารแคมพ์เฟอรอล เควอซิทิน และซาโปนิน
211.375 -> ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการหลั่งอินซูลิน ลดระดับน้ำตาล และลดไขมันได้ค่ะ
215.52 -> สำหรับกระชายจะมีสารแพนดูราทินเอ พิโนสโตรบิน
219.078 -> ซึ่งจะช่วยในการลดไขมัน และลดความดันโลหิตได้ค่ะ
222.471 -> สำหรับปลาช่อนหรือกุ้ง
224.211 -> เป็นกลุ่มโปรตีนที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ
226.632 -> ซึ่งจะช่วยในการควบคุม ในเรื่องของไขมันในเลือด
229.334 -> ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อน จากการเป็นโรคเบาหวานได้ค่ะ
232.069 -> ข้อแนะนำในการรับประทานแกงส้มมะรุม
234.031 -> เนื่องจากการที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
236.444 -> ต้องการใยอาหารมาช่วย ในการควบคุมระดับน้ำตาล
239.336 -> ดังนั้น แนะนำเพิ่มเป็นผักใบ อย่างเช่นดอกแค
242.398 -> ซึ่งจะเพิ่มใยอาหาร ให้กับการรับประทานแกงส้มมะรุมได้ค่ะ
245.614 -> [เสียงดนตรี]
249.014 -> สำหรับอาหารไทยเมนูสุดท้าย ที่ช่วยต้านโรคก็คือเมนูยําถั่วพู
253.721 -> ซึ่งยําถั่วพูจะช่วยต้านโรคหัวใจและหลอดเลือด
256.34 -> โดยวัตถุดิบหลักของยำถั่วพู
258.399 -> จะมีถั่วพู ถั่วลิสง หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และหอมแดงค่ะ
262.83 -> โดยถั่วพูจะมีใยอาหารที่สูง
264.953 -> ใน 100 กรัม จะมีใยอาหารถึง 4 กรัม
267.256 -> นอกจากนี้ ถั่วพูยังมีแคลเซียม
269.578 -> จะช่วยในการควบคุมความดัน ควบคุมระดับน้ำตาล และไขมันในเลือด
273.277 -> และยังมีวิตามินซีและสารกลุ่มฟลาโวนอยด์
275.947 -> ซึ่งจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ
277.434 -> ซึ่งจะช่วยปกป้องในเรื่องของหลอดเลือดได้ค่ะ
279.692 -> สำหรับถั่วลิสงหรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์
282.195 -> จะเป็นแหล่งไขมันที่ดี
283.681 -> ช่วยลดระดับ LDL คอเลสเตอรอลในเลือด
285.929 -> มีแมกนีเซียมช่วยลดความดัน
287.732 -> และมีวิตามินอีช่วยต้านอนุมูลอิสระ
290.074 -> ซึ่งจะช่วยดูแลหลอดเลือด ไม่ให้ขาดความยืดหยุ่นได้ค่ะ
292.92 -> และหอมแดงมีสารเควอซิทิน
294.844 -> ซึ่งช่วยต้านอาการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ
297.455 -> ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ค่ะ
299.691 -> สำหรับยำถั่วพูจะมีรสชาติที่จัด
302.159 -> ดังนั้น แนะนำให้ใช้เครื่องปรุงรส ที่ลดโซเดียมในการปรุงประกอบอาหาร
306.585 -> รวมทั้งของทอดต่าง ๆ ที่ใส่ในยำถั่วพู
308.984 -> ไม่ว่าจะเป็นหอมเจียว กระเทียมเจียว ถั่วทอด
312.343 -> เราสามารถหลีกเลี่ยง โดยใช้เป็นถั่วอบและก็ใช้เป็นหอมแดง
316.14 -> เพื่อลดในเรื่องของไขมัน ที่ให้พลังงานสูงได้ค่ะ
318.589 -> [เสียงดนตรี]
320.465 -> จะเห็นได้ว่าอาหารไทยมีสารอาหาร ที่เป็นประโยชน์ที่ช่วยดูแลสุขภาพ
324.787 -> แต่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคได้
327.955 -> ดังนั้น เราควรจะต้องดูแลในเรื่องของ การออกกำลังกาย การนอนหลับพักผ่อน
331.977 -> การจัดการความเครียด
333.263 -> เพื่อให้โดยรวมแล้ว เรายังมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ค่ะ
336.193 -> [เสียงดนตรี]

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=UBxJ55Rv_OQ