ประวัติวิวัฒนาการ Windows 1 ถึง Windows 11 (ฉบับค่อนข้างละเอียด)

ประวัติวิวัฒนาการ Windows 1 ถึง Windows 11 (ฉบับค่อนข้างละเอียด)


ประวัติวิวัฒนาการ Windows 1 ถึง Windows 11 (ฉบับค่อนข้างละเอียด)


Content

17.903 -> จุดเริ่มต้น วินโดวส์ เริ่มมาจาก MS-DOS
21.969 -> MS-DOS เป็นระบบปฏิบัติการ 16-bit ที่ถูกออกแบบให้กับ CPU สถาปัตยกรรม x86
28.15 -> MS-DOS ยังไม่มี Graphical User Interface
31.829 -> เวลาจะทำอะไรก็ต้องพิมพ์ผ่าน Command Line
35.15 -> ในปี 1985 ไมโครซอฟท์เลยตัดสินใจเปิดตัวซอฟท์แวร์ตัวใหม่ที่ทำงานอยู่ข้างบน MS-DOS
41.796 -> ซึ่งก็คือ ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ เวอร์ชั่น 1.0
46.305 -> แทนที่ผู้ใช้จะต้องพิมพ์คอมแมนด์เพื่อทำทุกอย่าง
49.447 -> ตอนนี้สิ่งที่ผู้ใช้ต้องทำก็มีเพียงแค่ ลากเมาส์ และ คลิกเมาส์
63.228 -> ที่วินโดวส์ได้ชื่อว่า วินโดวส์ ก็เป็นเพราะว่า UI นั้นเต็มไปด้วยกล่องสี่เหลี่ยมจำนวนมากเหมือน ”หน้าต่าง”
70.777 -> หลังจากนั้นในปี 1987 ไมโครซอฟท์ก็ได้ออกภาคต่อให้กับวินโดวส์ 1
76.325 -> นั่นก็คือ
77.641 -> วินโดวส์ 2
79.003 -> ในวินโดวส์ 2 ไมโครซอฟท์ได้ปรับปรุง UI และทำให้หน้าต่างสามารถซ้อนกันได้เป็นครั้งแรก
85.826 -> นอกจากนี้ในช่วงที่ วินโดวส์ 2 อยู่ในท้องตลาด ไมโครซอฟท์ยังได้เปิดตัว โปรแกรมสำนักงานสองโปรแกรม
92.467 -> คือ ไมโครซอฟท์ เวิร์ด และ ไมโครซอฟท์ เอ็กเซล
107.426 -> ในปี 1990 ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว วินโดวส์ 3.0
112.067 -> ในวินโดวส์ 3.0 นั้นได้มีการผลิกโฉม UI ครั้งใหญ่
116.075 -> ให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นและใช้งานง่ายมากขึ้น
120 -> ด้วยการเข้ามาของ “ไอคอน” โปรแกรม
122.8 -> นอกจากนี้ วินโดวส์ 3.0 ยังเพิ่มการซัพพอร์ท ซีดี-รอม
127.291 -> และยัง Pre-Installed มาพร้อมกับ Solitaire เกมไพ่ในตำนาน
131.755 -> ในปี 1992 ไมโครซอฟท์เปิดตัว วินโดวส์ 3.1
136.957 -> ซึ่งมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง.....
138.878 -> เกม Minesweeper
140.477 -> และโปรแกรมเล่นมัลติมีเดีย สำหรับเปิดไฟล์เสียง และ ไฟล์วิดิโอ
146.325 -> หลังจากนั้นระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ ก็ได้แยกสายวิวัฒนาการเป็นสองสาย
151.275 -> สายแรก คือ วินโดวส์แบบดั้งเดิมที่ทำงานข้างบน MS-DOS
155.62 -> สายที่สอง คือ วินโดวส์ NT วินโดวส์สายพันธุ์ใหม่ที่มี Kernel เป็นของตัวเอง
162.434 -> ในปี 1993 ไมโครซอฟท์เปิดตัว วินโดวส์ NT 3.1 ผลิตภัณฑ์ตัวแรกของครอบครัว วินโดวส์ NT
170.867 -> และหลังจากนั้นในปี 1994 ไมโครซอฟท์เปิดตัว วินโดวส์ NT 3.5
176.651 -> ที่ได้รับฟีเจอร์การตั้งชื่อไฟล์ สูงถึง 255 ตัวอักษร ก่อนวินโดวส์แบบ MS-DOS แบบดั้งเดิม
183.583 -> ด้วย NT Kernel แบบใหม่ ทำให้ วินโดวส์ NT เสถียรภาพสูง เสี่ยงต่อการ Crash น้อยลง
190.659 -> แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องแลกกับการบริโภคสรรพยากรที่สูงขึ้นเป็นเท่าตัว
195.374 -> ที่บอกว่าเท่าตัว คือเท่าตัวจริงๆนะ
198.419 -> วินโดวส์ 3.1 ที่ทำงานบน MS-DOS ต้องการแรมขั้นต่ำ 1 MB
203.529 -> แต่ วินโดวส์ NT 3.1 ต้องการแรมขั้นต่ำ 12 MB
208.876 -> วินโดวส์ NT ในตอนนั้น เลยเหมาะกับเซิร์ฟเวอร์ และ เวิร์กสเตชั่นมากกว่า
214.059 -> เพราะผู้ใช้ทั่วไปไม่น่าจะมีเงินพอซื้อฮาร์ดแวร์ระดับนั้นได้
218.349 -> วินโดวส์ ที่ทำงานบนเทคโนโลยีเก่าอย่าง MS-DOS เลยได้ไปต่อ
225.434 -> ขณะนี้เป็นปี 1995
229.245 -> เป็นปีที่ไมโครซอฟท์จะเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่
232.685 -> คราวนี้ไม่ได้ตั้งชื่อเป็นเลข 1 2 3 4
236.884 -> แต่เป็น ”วินโดวส์ 95”
241.775 -> ไมโครซอฟท์ต้องการให้ระบบปฏิบัติการตัวใหม่นี้ เข้าถึงคนทั่วไปที่เพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์ให้ได้มากที่สุด
248.901 -> ไมโครซอฟท์เริ่มจากการทุ่มทุน 200 ล้านเหรียญในการโฆษณา
254.54 -> ตั้งแต่ โฆษณาทีวีที่ฟีเจอร์เพลง “Start Me Up” จากวง เดอะโรว์ริ่งสโตนส์
260.197 -> วิดิโอโปรโมท วินโดวส์ 95 ที่มี เจนิเฟอร์ แอนิสตัน และ แมธทิว แพร์รี่
265.185 -> จนไปถึงการแสดงแสงไฟบนตึกเอ็มไพร์สเตต เป็นโทนสีวินโดวส์
270.149 -> ผลตอบรับนั้น....ออกมาดีเกินคาด
272.927 -> วินโดวส์ 95 ขายได้หนึ่งล้านชุดทั่วโลก เพียงสี่วันหลังจากเปิดตัว
279.787 -> แล้วเรื่องฟีเจอร์ล่ะ มันดี สมกับที่ผู้คนที่แทบไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์ กรูเข้าไปซื้อหรือเปล่า?
286.519 -> วินโดวส์ 95 ได้บุกเบิก ปุ่มสตาร์ท, ทาสก์บาร์, และหน้าเดสก์ท็อป
292.183 -> ฟีเจอร์อมตะ ที่เราใช้จวบจนปัจจบัน
295.857 -> วินโดวส์ 95 ยังเป็นวินโดว์รุ่นแรกที่บันเดิลมาพร้อมกับ Internet Explorer
301.441 -> ทำให้ผู้คนในสมัยนั้น ไม่ต้องเสียเงินซื้อเบราว์เซอร์ข้างนอกเพื่อเข้าถึงอินเตอร์เน็ต
306.742 -> วินโดวส์ 95 ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ภายใน ที่คนอาจจะไม่ได้สังเกต แต่ก็ทำให้การใช้คอมพิวเตอร์ง่ายขึ้น
313.717 -> เช่น การตั้งชื่อไฟล์ยาวสูงสุด 255 ตัวอักษร ที่หยิบยืมมาจาก วินโดวส์ NT
320.394 -> หรือ Plug and Play ระบบที่วินโดว์จะจัดหาไดรเวอร์ เมื่อเราเสียบอุปกรณ์เข้าคอม
325.577 -> ลดความยุ่งยากที่จะต้องหาไดรเวอร์เอง
331.81 -> ฝั่งวินโดวส์ NT เองก็ได้รับการอัพเกรดกับเขาด้วย
335.356 -> ไมโครซอฟท์เปิดตัว วินโดวส์ NT 4.0 ในปี 1996 โดยหยิบยืม UI ของวินโดวส์ 95 มาทั้งดุ้น
344.434 -> สองปีต่อมา ในปี 1998
347.273 -> ไมโครซอฟท์เปิดตัว วินโดวส์ 98
350.069 -> ภาคต่อของวินโดวส์ 95
352.151 -> วินโดวส์ 98 เน้นการเพิ่มรายละเอียดยิบย่อย และฟีเจอร์พิเศษ
356.076 -> อย่างเช่นการซัพพอร์ท USB, DVD และพอร์ทกราฟฟิค AGP ที่ดีกว่าเดิม
361.034 -> Windows Update
362.263 -> Windows Driver Model
364.039 -> การใช้มอนิเตอร์หลายตัว
365.75 -> รวมไปถึงการบันเดิล Outlook Express ไคลเอนท์อีเมลที่มาคู่กับ Hotmail
371.17 -> วินโดวส์ 98 หลังจากเปิดตัวไปนั้นถือว่าค่อนข้างมีบัคอยู่พอตัว
376.189 -> ทำให้ไมโครซอฟท์ต้องปล่อย Second Edition ในปีต่อมาเพื่อแก้บัค
380.734 -> และในขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์ก็ใช้โอกาสนี้ยัดฟีเจอร์อย่างอื่นเข้าไปใน Second Edition ด้วย
386.75 -> อย่างเช่น Wake-On-LAN และ Internet Explorer รุ่น 5.0
399.114 -> ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ภายในบริษัทไมโครซอฟท์ ก็มีการซุ่มพัฒนาวินโดวส์รุ่นใหม่เพื่อเตรียมขายต่อจากวินโดวส์ 98
406.878 -> คือ ”วินโดวส์ เนปจูน” และ ”วินโดวส์ ออดิซี่”
410.056 -> ทั้งคู่มีรากฐานจากวินโดวส์ NT และได้ทิ้งรากเหง้า MS-DOS ดั้งเดิมไป
417.001 -> แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2000 ไมโครซอฟท์กลับเปิดตัววินโดวส์ที่มีรากฐานโค้ดจากวินโดวส์ NT อีกตัวหนึ่งมาแทน
424.339 -> ซึ่งก็คือ วินโดวส์ 2000
426.661 -> วินโดวส์ 2000 นั่นไม่เหมือนวินโดวส์ 95 และ 98 ตรงที่มันไม่ได้เจาะกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป
432.117 -> ฟีเจอร์ที่เพิ่มมาส่วนใหญ่เลยเป็นฟีเจอร์ภายใน
434.667 -> ผลตอบรับของวินโดวส์ 2000 นั้นถือว่าออกมาดีเลยในเรื่องของความเสถียร
439.15 -> แต่กลับมาแป๊กในเรื่องความปลอดภัย โดยการพ่ายแพ้ให้กับไวรัส Worms อย่าง Code Red และ Code Red II
444.625 -> ถึงอย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ก็ยังไม่เอา วินโดวส์ เนปจูน กับ วินโดวส์ ออดิซี่ ออกมาขาย
448.917 -> แถมยังเอาเทคโนโลยีเก่าอย่าง MS-DOS มาสร้าง วินโดวส์ Millennium Edition
453.444 -> หรือที่เรียกย่อๆกันว่า วินโดวส์ มี
456.665 -> วินโดวส์มี นั้นเจาะกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปเหมือนกับ วินโดวส์ 95 และ 98
461.204 -> และก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากมาย อย่าง System Restore
465.001 -> ระบบที่เอาไว้ย้อนวินโดวส์ไปในสถานะก่อนที่จะเกิดปัญหา เมื่อแอพพลิเคชั่น ไดรเวอร์ หรือ ไวรัส ทำให้วินโดวส์ทำงานผิดปกติ
472.4 -> Windows Media Player 7 โปรแกรมเล่นสื่อเวอร์ชั่นใหม่ ที่เพิ่มฟีเจอร์อย่างการเบิร์นดีวีดี การเชื่อมต่อกับเครื่องเล่น MP3
479.733 -> รวมไปถึง Windows Movie Maker โปรแกรมตัดต่อวิดิโอ คล้ายๆ iMovie ของ Apple เอาไว้ตัดต่อวิดิโอดิจิทัลแบบเบื้องต้น
487.048 -> ถึงแม้ วินโดวส์ มี จะมีฟีเจอร์ที่ดูล้ำและมีประโยชน์มากแค่ไหน
491.229 -> แต่ในเรื่องความเสถียรนั้น
492.513 -> นันันันันันันันันันันันันันันั้น
494.234 -> ต่างจากวินโดวส์ 2000 ราวฟ้ากับเหว
496.917 -> บางสำนักพิมพ์ถึงกับยกให้มันเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่แย่ที่สุดตลอดกาล
502.046 -> ต่อมาไมโครซอฟท์ได้ยุบการพัฒนาของ วินโดวส์ เนปจูน และ วินโดวส์ ออดิซี่ มาเป็นโปรเจ็คเดียวชื่อ “วิสเลอร์”
508.724 -> ไมโครซอฟท์ตั้งวิสัยทัศน์ที่จะให้ วินโดวส์ วิสเลอร์ ผนวก วินโดวส์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป และวินโดวส์สำหรับธุรกิจ เข้าเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกัน
516.571 -> ระหว่างนั้นเอง ไมโครซอฟท์ซื้อรูปทิวทัศน์สีเขียวฉะอุ่ม ซึ่งถูกถ่ายโดยอดีตช่างภาพ แนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค
523.547 -> ในสัญญาการซื้อ ไมโครซอฟท์ขอสิทธิ์ขาดในการใช้รูป
527.099 -> และขอเปลี่ยนชื่อรูปจาก “Bucolic Green Hills” เป็น “Bliss”
531.388 -> หลังจากนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2001 ไมโครซอฟท์ได้เปิดเผยว่าชื่อที่แท้จริงของ วินโดวส์ วิสเลอร์ ที่พวกเขากำลังพัฒนากันอยู่นั้น
540 -> คือ วินโดวส์ เอ็กซ์พี
541.905 -> โดย “เอ็กซ์พี” ย่อมาจาก “เอ็กซ์พีเรียนส์” แปลว่า “ประสบการณ์”
546.75 -> สโลแกนในตอนแรกของ วินโดวส์ เอ็กซ์พี คือ “Prepare to Fly”
551.265 -> “เตรียมตัวที่จะบิน”
552.568 -> แต่เนื่องจากเหตุวินาศกรรม 11 กันยา
554.937 -> ทำให้ไมโครซอฟท์ต้องเปลี่ยนสโลแกนเป็น “Yes You Can”
558.556 -> “ใช่, คุณทำได้”
560.245 -> วินโดวส์ เอ็กซ์พี ถูกวางขายเป็นแผ่นครั้งแรกในวันที่ 25 ตุลาคม 2001
565.265 -> โดยมีสองเวอร์ชั่น คือ วินโดวส์ เอ็กซ์พี Home และ วินโดวส์ เอ็กซ์พี Professional
570.267 -> วินโดวส์ เอ็กซ์พี เป็นวินโดวส์ในรูปแบบที่มีสีสันกว่าเดิม ด้วย Luna Theme สีฟ้าสดใส
576.11 -> กับ UI ที่ออกแบบให้น่าใช้งานยิ่งกว่าเดิม
579.328 -> วินโดวส์ เอ็กซ์พี เป็นวินโดวส์แรกที่ซัพพอร์ทซีพียูหลายคอร์ และ Hyperthreading
584.55 -> นอกจากนี้ยังเป็นวินโดวส์แรก ที่มีเวอร์ชั่น 64-bit
587.675 -> ฟีเจอร์เด็ดอีกอย่างหนึ่งของวินโดวส์ เอ็กซ์พี คือ Product Activation
591.831 -> เอาไว้แก้เผ็ด หลังจากเวอร์ชั่นก่อน ที่ผู้ใช้สามารถเอาคีย์เดียวไปลงวินโดว์ให้ทั้งหมู่บ้านได้
596.825 -> ตอนนี้ คุณต้องต่ออินเตอร์เน็ตและ Activate วินโดวส์
599.456 -> เพื่อที่ไมโครซอฟท์ จะได้ตรวจว่าคีย์ที่คุณใช้นั้นซ้ำหรือไม่
604.234 -> วินโดวส์ เอ็กซ์พี ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความเสถียร และ ความน่าใช้ของมัน
610.231 -> จนแซงขึ้นมาเป็นระบบปฏิบัติการที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่ง ในเวลาเพียงสองปี
621.235 -> ในต้นทศวรรษ 2000s ภายในบริษัทไมโครซอฟท์ได้มีการซุ่มพัฒนาวินโดวส์ไว้ตัวหนึ่งคือ
626.766 -> วินโดวส์ แบล็คคอมบ์
628.646 -> หลังจากนั้นไม่นาน ภายในบริษัทไมโครซอฟท์ ก็เริ่มมีการพัฒนาวินโดวส์อีกตัวหนึ่ง ชื่อ วินโดวส์ ลองฮอร์น
634.829 -> ซึ่งมีผลข้างเคียงทำให้การพัฒนา วินโดวส์ แบล็คคอมบ์ ต้องหยุดชะงัก
639.915 -> วินโดวส์ ลองฮอร์น แทนที่ Luna Theme ของ วินโดวส์ เอ็กซ์พี ด้วย Plex ซึ่งเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามการพัฒนา
646.84 -> นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงมหาศาลในเรื่องโปรแกรมที่แถมมากับเครื่อง
651.015 -> การพัฒนาของ วินโดวส์ ลองฮอร์น ดำเนินไปเรื่อยๆจนถึงจุดแตกหักในปี 2004
655.623 -> เมื่อการพัฒนาเริ่มเหมือนการ “เพิ่มฟีเจอร์ไปเรื่อยๆ” อย่างไม่มีจุดหมาย ไม่มีระบบระเบียบ
661.034 -> บวกกับบัค ที่นับวันจะทวีคูณไปเรื่อยๆ
663.912 -> ทุกอย่างจบด้วยการรีเซ็ทโปรเจ็คครั้งใหญ่ เพื่อให้การพัฒนา วินโดวส์ ลองฮอร์น เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
670.095 -> ในปี 2005 วินโดวส์ ลองฮอร์น ได้ชื่อจริงๆของมันสักที คือ วินโดวส์ วิสตา
676.539 -> วินโดวส์ วิสตา ได้ขึ้นวางจำหน่ายเป็นแผ่นครั้งแรก ในเดือนมกราคมปี 2007
681.904 -> วินโดวส์ วิสตา ได้ฟีเจอร์ใหม่มากมาย
685.384 -> ไม่ว่าจะเป็น Aero UI แบบใหม่ที่เป็นหน้าต่างแก้วโปร่งใส พร้อมอนิเมชั่น 3 มิติ
690.733 -> Windows Search กล่องเซิร์ซครอบจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่า หรือ ไฟล์ในเครื่อง
695.681 -> Desktop Gadget
696.845 -> และซอฟท์แวร์สามัญกับเกมที่แถมมากับเครื่อง ที่ปรับโฉมใหม่หมดจด
701.6 -> ผลตอบรับนั้น...... เป็นเสียงด่าเสียส่วนใหญ่
705.067 -> แม้ว่าฟีเจอร์จะเยอะ และซอฟท์แวร์ที่แถมมาจะดีแค่ไหน
708.532 -> วินโดวส์ วิสตา ก็เป็นระบบปฏิบัติการที่กินเครื่องมากๆ
712.234 -> แถม Driver Model ใหม่ที่ถูกเปิดตัวใน วิสตา ยังทำให้อุปกรณ์รุ่นเก่าใช้งานไม่ได้ด้วย
717.975 -> มากไปกว่านั้น พวกผู้ผลิตก็ดันไปแปะสติกเกอร์ วินโดวส์ วิสตา ในฮาร์ดแวร์ความเร็วต่ำราคาถูก ที่รู้ๆกันอยู่ว่าจะรันวิสตาไม่ลื่น
727.648 -> วินโดวส์ วิสตา เลยไม่สามารถครองตลาดระบบปฏิบัติการได้อย่างที่ วินโดวส์ เอ็กซ์พี ทำไว้
733.278 -> เหมือน วินโดวส์ มี วิสตา ก็เป็นหนึ่งในวินโดวส์ที่คนเกลียดกันมากที่สุด
737.655 -> แล้วมันใช้ระบบปฏิบัติการอะไรหน่ะ
740.086 -> มันคือ.... เอิ่ม..... วิสตา
742.023 -> เราจะต้องตายกันหมด
743.156 -> 5555555555555
744.834 -> กลับมาที่ด้านของไมโครซอฟท์ ซึ่งก็เพิ่งไหวตัวทัน และต้องการจะหาโอกาสแก้มือ
750.168 -> ไมโครซอฟท์เริ่มจากการนำโปรเจ็ค ”แบล็คคอมบ์” ที่เคยค้างไว้มาเริ่มพัฒนาวินโดวส์รุ่นต่อไป
756.634 -> คราวนี้ ไมโครซอฟท์กลับมาใช้เลข ในการตั้งชื่อวินโดวส์อีก
760.192 -> หลักจากครั้งล่าสุด ตั้งไปตอนตอน วินโดวส์ NT 4.0
763.534 -> ถ้า วินโดวส์ NT 4.0 คือ วินโดวส์ 4
766.088 -> เอ็กซ์พี กับ 2000 คือ วินโดวส์ 5
768.75 -> วิสตา คือ วินโดวส์ 6
770.35 -> แสดงว่าวินโดวส์ต่อไป ก็ต้องเป็น วินโดวส์ 7
773.317 -> ไมโครซอฟท์เริ่มจากการฟังเสียงบ่นเสียงวิจารณ์ของผู้ใช้เกี่ยวกับ วินโดวส์ วิสตา
778.388 -> โดยการปรับปรุงให้วินโดวส์ 7 ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ กินเครื่องน้อยลง
784.559 -> นอกจากนี้ ยังมีการติดต่อกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ เพื่อที่จะเมคชัวร์ว่า อุปกรณ์จะทำงานได้ดีบน วินโดวส์ 7
791.761 -> นอกนั้น วินโดวส์ 7 ก็ไม่ต่างจาก วินโดวส์ วิสตา เท่าไหร่
795.492 -> สิ่งเด่นๆที่เพิ่มมาจากวิสตาก็จะมี
798.35 -> UI ใหม่ ที่ใช้ง่ายขึ้น และยังคงแก้ว Aero โปรงแสงอยู่
802.375 -> Aero Snap
803.76 -> และระบบ Libraries ใน Windows Explorer
806.72 -> เมื่อ วินโดวส์ 7 ลงท้องตลาดครั้งแรกในปลายปี 2009 ผลตอบรับจากผู้ใช้ และสำนักพิมพ์ต่างๆ นั้นออกมาดีมาก
814.221 -> CNET ถึงกับให้คะแนน วินโดวส์ 7 4.5 จาก 5 ดาว เลยทีเดียว
818.59 -> หลังจากนั้น วินโดวส์ 7 ก็แซงวินโดวส์ XP เป็นระบบปฏิบัติการที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด ในเวลาสองปีอีกเช่นเคย
827.141 -> อีกอย่างหนึ่ง วินโดวส์ 7 มีโฆษณาอนิเมะเป็นของตัวเองด้วยล่ะ
840.513 -> ในปี 2010 Apple ได้เปิดตัว iPad
844.822 -> iPad เป็นที่นิยมอย่างล้นหลามในเวลาอันรวดเร็ว
848.046 -> และยังได้จุดชนวน แท็บเล็ต Android ให้ผุดขึ้นมาอย่างมหาศาล
852.629 -> ไมโครซอฟท์หยุดไม่ได้ที่จะต้องตามกระแสนี้
855.736 -> เลยปล่อย วินโดวส์ 8 และ แท็บเล็ตตระกูล Surface ออกมาในปี 2012
861.834 -> วินโดวส์ 8 ปรับเปลี่ยนการใช้งานให้ไปเน้นแท็บเล็ต
865.613 -> มีการเพิ่มแอพแบบ Metro ที่ทำงานเต็มจอเหมือน iOS และ Android
870 -> และยังมีการแทนที่ Start Menu ด้วย Start Screen ที่ใช้ Tile อันใหญ่กดง่าย
875.386 -> การปรับเปลื่ยนนี้ได้รับกระแสแง่ลบจากผู้ใช้มาก เพราะอย่าลืมว่าแทบจะ 99% ของผู้ใช้นั้น ยังคงใช้เมาส์กับคีย์บอร์ดอยู่
884.789 -> UI แบบนั้นมันใช้ไม่สะดวก
887.215 -> ท่าน Gabe Newell บิดาแห่ง Steam ยังพูดเลยว่า วินโดวส์ 8 ก็เหมือนกับความโศกเศร้าอันยิ่งใหญ่ มันแค่ทำร้ายทุกคนในธุรกิจ PC
897.274 -> ไมโครซอฟท์ต้องออกอัพเดทฟรี วินโดวส์ 8.1 ในปี 2013 เพื่อรองรับฟีดแบคแง่ลบในครั้งนี้
904.562 -> วินโดวส์ 8.1 เพิ่มความเป็นเดสก์ท็อปดั้งเดิมที่ใช้ คีย์บอร์ด และ เมาส์ มากขึ้น แต่ก็ยังคง Start Screen, Tiles, และแอพแบบ Metro สำหรับผู้ใช้แท็บเล็ตอยู่
915.26 -> สองปีต่อมา ในเดือนกรกฏาคมปี 2015 ไมโครซอฟท์เปิดตัว วินโดวส์ 10
921.318 -> โดยทุกคนที่รันวินโดวส์ 7 และ 8.1 ไม่ว่าแท้หรือเถื่อน จะสามารถอัพเกรดได้ฟรี
927.113 -> วินโดวส์ 10 นำสตาร์ทเมนูแบบมุมจอกลับมา
930.515 -> และยังมีการเพิ่ม
931.654 -> Multi Desktop
933.031 -> Microsoft Edge
934.318 -> แอพ Xbox ที่มาพร้อมโปรแกรมอัดหน้าจอ
937.491 -> Cortana ผู้ช่วยส่วนตัวเหมือน Siri ของ Apple
941.385 -> วินโดวส์ 10 มีการเลียนแบบระบบปฏิบัติการในสมาร์ทโฟน โดยการเก็บข้อมูลวิเคราะห์จากผู้ใช้แทบจะตลอดเวลา ในทุกการเคลื่อนไหว
950 -> ไม่ว่าจะเป็น สเปคเครื่อง ข้อมูลตอนวินโดวส์เกิดปัญหา ข้อมูลการใช้แอพ หรือแม้แต่ ตำแหน่งที่อยู่ และ ประวัติการใช้เบราว์เซอร์
959.184 -> นี่ก็เพื่อที่ไมโครซอฟท์จะเอามันไปช่วยในการแก้บัคในวินโดวส์ และ พัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆของไมโครซอฟท์
967.472 -> ผู้ใช้บางส่วนที่ต้องการปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว ต่อต้านกลยุทธ์นี้ของไมโครซอฟท์
973.258 -> และยังส่งเสริมระบบปฏิบัติการทางเลือก อย่าง ลินุกซ์ ที่เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้โดยสมบรูณ์
981.448 -> ตอนวินโดวส์ 10 เพิ่งเปิดตัว ไมโครซอฟท์ประกาศว่า นี่จะเป็นวินโดวส์รุ่นสุดท้าย โดยฟีเจอร์ต่างๆ จะเพิ่มมาผ่าน Windows Update แทน
990.8 -> แต่ในปี 2021 ไมโครซอฟท์ทำลายสัญญานี้ด้วย วินโดวส์ 11
996.924 -> ตอน วินโดวส์ 11 ปล่อยสู่สาธารณชนครั้งแรก ไม่ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ใดๆที่เด่นชัดมาก นอกจากการปฏิรูป UI ให้ทันสมัย ตามข้อมูลวิเคราะห์มหาศาลที่ไมโครซอฟท์เก็บมา
1008.442 -> Start Menu ดูเรียบง่ายมากขึ้น เนื่องจากตามข้อมูลวิเคราะห์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ทุกอย่างใน Start Menu วินโดวส์ 10
1016.419 -> Taskbar, Windows Explorer, และ เมนูคลิกขวา ต่างถูกปรับให้มินิมอลขึ้น
1022.624 -> บางคนที่เคยชินกับเมนูวินโดวส์เก่าๆ อาจไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงนี้
1027.272 -> บ้างก็ว่า การปรับเปลี่ยนนี้ เหมือนกับการแลกความสามารถในการใช้งานกับความสวยงาม
1033.002 -> อัพเดท 22H2 ที่จะมาในเดือนกันยายน หรือ ตุลาคมนี้ จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยในการทำงานมากมาย
1041.159 -> เช่นแท็บใน Windows Explorer, การ Group ไอคอนใน Start Menu, และแอพพลิเคชั่นใหม่หลายตัว ที่ออกแบบให้ดูโมเดิร์นมากขึ้น
1049.398 -> หวังว่านี่จะช่วยทำให้ภาพลักษณ์ Form over Functions ของวินโดวส์ 11 ลดลงไม่มากก็น้อย
1055.948 -> วินโดวส์ 11 ยังมีการโฆษณาฟีเจอร์ที่ล้ำหน้าอีกหลายตัว
1059.924 -> อย่าง DirectStorage API, Auto HDR
1063.717 -> และการโคกันกับ Amazon Appstore เพื่อให้วินโดวส์สามารถใช้แอพแอนดรอยด์ได้
1069.447 -> ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในช่วงเบต้า และคงต้องรออีกสักพัก ถึงจะได้ใช้งานกันในประเทศไทย
1075.276 -> และนี่ก็คือประวัติ ที่ละเอียดในระดับหนึ่งของ ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ ตั้งแต่ วินโดวส์ 1 ถึง วินโดวส์ 11

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=WWWgR8RAJLY