![[spin9] รีวิว Mac mini M2 — นี่คือแมคที่แรงคุ้มราคาที่สุดที่เคยมีมา (ถ้ามีจออยู่แล้ว 😂)](https://img.howtoclicks.com/vi_webp/Y-yohgSaEOw/sddefault.webp)
[spin9] รีวิว Mac mini M2 — นี่คือแมคที่แรงคุ้มราคาที่สุดที่เคยมีมา (ถ้ามีจออยู่แล้ว 😂)
[spin9] รีวิว Mac mini M2 — นี่คือแมคที่แรงคุ้มราคาที่สุดที่เคยมีมา (ถ้ามีจออยู่แล้ว 😂)
รีวิวใหม่วันนี้ พบกับ Mac mini ใหม่ เปิดตัวต้นปี 2023 ที่ถึงแแม้จะไม่ได้ปรับดีไซน์มาเกิน 10 ปีแล้ว แต่ยังได้ชิพแรงสุดขั้วอย่าง M2 และ M2 Pro ปรับราคาให้ย่อมเยาลง ในรุ่นเริ่มต้นเปิดราคาเพียง 20,900 บาท ส่งผลให้นี่เป็นเครื่องแมคที่มีประสิทธิภาพต่อราคา คุ้มค่าที่สุดเท่าที่เคยมีมา มันเหมาะกับใคร ผมรีวิวให้ชมครับ
สั่งซื้อ Mac mini ใหม่ ทาง Apple Store TH: https://apple.sjv.io/O652Z
สมัครเป็นสมาชิกของช่อง spin9 เพื่อสนับสนุนการผลิตคอนเทนต์ของเราได้ที่นี่:
/ @spin9
Content
14.015 -> สวัสดีครับ อู๋ Spin9 ครับ
15.333 -> คุณผู้ชมครับ รีวิววันนี้เราอยู่กันสินค้า Apple ที่เขาเปิดตัวมาใหม่นะครับ
19.962 -> แต่ว่าไม่ใช่ของใหม่งงป่ะ
22.467 -> จริงๆ แล้ว Apple ทำอย่างนี้บ่อยมากเลยนะครับ
24.735 -> เปิดตัวใหม่แต่ไม่มีอะไรใหม่เลยในสิ่งที่ผมถืออยู่ตรงนี้นะครับ
29.9 -> เพราะว่านี่คือสิ่งที่ Apple ถนัดมากครับ
32.104 -> ก็คือเขาจะเอาชิปที่เปิดตัวมาทีหลังอ่ะ
34.994 -> แล้วก็มาอยู่ในดีไซน์ที่เขาเปิดตัวมาก่อนหน้าไปหลายปีละ
39.715 -> ที่ผมบอกว่าเขาทำอย่างนี้มาหลายๆ ครั้งก็อย่างเช่นใน iPhone SE นะ
43.675 -> iPhone ดีไซน์ที่เปิดตัวมาตั้งหลายปีละ
46.597 -> และเขาก็เอาชิปของปีใหม่ล่าสุดเลยใส่เข้าไป
50.389 -> มาขายเป็นของใหม่ให้กับเรานะครับ
52.383 -> เขาทำอย่างนี้กับ MacBook หลายรุ่นด้วยเหมือนกัน
54.898 -> ทำอย่างนี้กับ iPad หลายรุ่นด้วยเหมือนกันนะครับ
57.524 -> ซึ่งทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้ไม่ว่าเราจะดูรีวิวจากใครก็ตาม
62.435 -> จะดูจากผมก็ตามแต่ดูจากคนที่หลายคนชื่นชอบทั้งของไทยของต่างประเทศ
67.3 -> ก็จะมีเสียงบ่นงึมงำๆ ตามกันมาว่า Apple มีการรีไซเคิลดีไซน์อีกแล้วนะครับ
73.67 -> ยกตัวอย่าง Mac mini ที่อยู่ในมือผม
76.034 -> เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง
78.204 -> แต่ที่ผมบอกว่าไม่ได้มีอะไรใหม่เลย
79.923 -> เพราะว่าข้างในเป็นชิป M2 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วนะครับ
83.541 -> ไม่ได้เปิดตัวชิปใหม่เพื่อ Mac mini โดยเฉพาะนะครับ
86.543 -> แล้วก็ดีไซน์ของ Mac mini ที่อยู่ในมือผมเขาเปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2010 อ่ะ
91.373 -> ปีนี้ 2023 นะครับ
93.463 -> 13 ปียังอยู่ในมือเราอยู่เลยนะครับ
95.991 -> ดีไซน์เดิมเลยคือความหนาเท่าเดิม
98.581 -> พอร์ตด้านหลังอะไรทุกอย่างเหมือนเดิมทุกอย่างเลยนะครับ
101.527 -> อยู่กับเรามาได้ 13 ปีนะครับ
103.564 -> การที่เขาทำแบบนี้คือเอาชิปรุ่นที่แบบใหม่กว่ามาอยู่ในดีไซน์ที่เก่ากว่า
108.688 -> มันเป็นการต่ออายุของดีไซน์
111.361 -> ต่อไปได้อีกนะครับ
112.633 -> ขายออกมาเป็นของใหม่ให้กับเราไปซื้อได้อีกนะครับ
115.72 -> ซึ่งโดยปกติแล้วอ่ะถ้าเกิดในมุมของผู้บริโภคตรงไปตรงมา
120.533 -> ก็จะรู้สึกว่าเขาเอาเปรียบเรานิดหนึ่ง
122.908 -> คือเราซื้อของใหม่ก็จริง
124.788 -> แต่ว่าเราได้ของใหม่ไม่ครบทุกอย่าง
127.608 -> เราได้ชิปใหม่แต่เราได้ดีไซน์เก่าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว
130.919 -> เราก็จะรู้สึกว่าเราโดนเอาเปรียบนิดหนึ่งใช่ไหมครับ
133.461 -> เสียงบ่นงึมงำๆๆ ของทั้งคนใช้งานของทั้งคนรีวิวอ่ะ
138.117 -> ก็จะรู้สึกว่ามันแทนที่จะใหม่ไปทั้งหมดทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้นะครับ
142.488 -> แต่ว่ารอบนี้กับ Mac mini M2 ผมรู้สึกว่าแทบจะไม่มีอะไรให้บ่นเลยอ่ะ
147.755 -> เพราะว่านี่คือเครื่อง Mac ที่มีประสิทธิภาพต่อราคาที่เราจ่ายคุ้มค่าที่สุด
154.367 -> เท่าที่ Apple เคยทำมาเลยนะครับ
156.526 -> เขาลดราคาของ Mac mini ลงมาด้วยนะครับ
159.234 -> นี่คือได้ทั้งชิปใหม่ที่แรงขึ้นในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม
163.274 -> ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว Mac mini เดิมอ่ะไม่ได้แพงเลยนะครับ
166.519 -> รอบนี้เขาเริ่มต้นราคาที่อยู่ในมือผมนะ 20,900 บาท
171.195 -> ได้ชิป Apple M2 ที่เรียกว่าแรงแทบจะที่สุดแล้วในระดับราคาเดียวกันที่เราจ่าย
178.619 -> แล้วเขาก็ได้แบรนด์ Apple ได้ Ecosystem ของ Apple มาอย่างเต็มที่แบบนี้
183.487 -> ผมคิดว่าดีไซน์ 13 ปีแล้วก็จริง
186.586 -> ไม่ได้มีอะไรให้บ่นเลยนะครับ
188.065 -> เดี๋ยวเรามาดูรีวิวของ Mac mini M2 ตัวนี้กันครับ
194.667 -> จริงๆ แล้วรีวิวคลิปนี้จะไม่ใช่รีวิวที่ยาวอะไรมากมายเลยนะครับ
198.892 -> เพราะว่ามันไม่มีอะไรใหม่เลยใช่ไหมครับ
200.765 -> อย่างที่เราเล่าให้ฟังกันไปประสิทธิภาพของ M2 M2 Pro
204.765 -> จริงๆ เคย Benchmark ให้ดูกันไปแล้ว
206.559 -> แต่ว่าในคลิปนี้เราจะ Benchmark ให้ดูกันอีกรอบนะครับ
209.086 -> มาดูดีไซน์ที่ผมบอกว่า Apple เปิดตัวดีไซน์ของ Mac mini มา 13 ปีแล้วก็ตามนะครับ
214.544 -> มาดูกันอีกครั้งหนึ่งนะครับ
215.894 -> ผมคิดว่านี่เป็นดีไซน์ที่ไม่ล้าเลยนะ
218.098 -> คือแตกต่างจากตอนที่เรารีวิวพวก iPhone พอสมควร
221.962 -> ที่เหมือนกับว่า iPhone SE ซื้อมาใหม่ในปีนี้ทำไมยังได้ดีไซน์นี้อยู่นะครับ
225.867 -> เราจะพูดแบบนี้ใช่ไหมครับ
227.237 -> แต่ว่า Mac mini ดีไซน์โคตรดีเลยเอาจริงๆ
229.992 -> คือสมมุตินะว่าเขาเพิ่งเปิดตัวดีไซน์นี้มาในปีนี้เลย
235.086 -> เหมือนกับดีไซน์นี้ไม่เคยมีมาก่อนในโลก
237.297 -> ผมคิดว่าคนก็จะชื่นชมกันมาก
239.185 -> ว่าดีไซน์ Mac mini เครื่อง Mac เป็นเครื่อง Desktop เครื่องเล็กบางเฉียบแบบนี้
243.781 -> ดีไซน์แบบนี้มันยังอยู่ได้ในปีนี้
246.269 -> คือผมคิดว่าอันนี้โอเคมากๆ
249.068 -> เวลามาอยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ของเรา
251.548 -> ดูสิ
252.578 -> อยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ต่อเรียบร้อยนะครับ
254.933 -> มันได้ดีไซน์ที่โคตรจะ Apple อ่ะ
258.375 -> แล้วก็เรียบร้อยดีมาก
259.825 -> บนโต๊ะของเราไม่ได้กินพื้นที่อะไรเยอะแยะมากมายเลยใช่ไหมครับ
263.006 -> ด้านหลังพอร์ต USB ของเขาผมก็คิดว่าครบถ้วนมากนะ
266.642 -> เอาจริงๆ คือแทบจะไม่ได้ขาดอะไรไปเลย
269.663 -> ด้วยความที่ดีไซน์เขาอยู่มานานแล้วอ่ะ
272.915 -> มันยังมีข้อดีด้วยว่าถึงวันนี้ยังมีพอร์ต USB Type A มาให้นะครับ
277.923 -> เพราะว่ามันอยู่ตรงนี้มานานแล้วนะครับ
280.156 -> แล้วก็จะมีพอร์ต Thunderbolt ซึ่งเป็นพอร์ต Thunderbolt ใหม่ล่าสุดนี่แหละ
284.212 -> ถ้าเกิดเป็นรุ่นเริ่มต้นอย่างชิป M2 เราจะได้มา 2 พอร์ตแบบนี้
288.091 -> ถ้าเกิดเราไปซื้อรุ่นท็อปอย่าง M2 Pro เราจะได้ 4 พอร์ตเต็มที่เลยนะครับ
292.944 -> มีพอร์ต HDMI Out มาให้
295.109 -> สำหรับใครอยากต่อออกหน้าจอที่เป็น HDMI
298.259 -> หรือว่าจะต่อออกทีวีข้างนอกนะครับ
300.251 -> ก็ยังมี HDMI Full size มาให้โดยที่ไม่ต้องใช้ Adapter ครับ
303.807 -> เสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรได้นะครับ
305.971 -> มีพอร์ตตรงนี้มาให้
307.322 -> ซึ่งเป็น high-impedance ด้วยนะครับ
309.072 -> มีการอัปเกรดในรอบนี้นะครับ
310.63 -> ให้รองรับกับหูฟังที่มีคุณภาพสูงนะครับ
313.077 -> มีพอร์ต LAN RJ45 มาให้ที่รองรับ Gigabit LAN
317.701 -> แล้วก็เป็นสาย Power ซึ่งจริงๆ แล้วช่อง Power เป็นช่องเดิมเลย
321.314 -> ตั้งแต่ดีไซน์แรกของเขาก็ยังเป็นสาย Power แบบนี้นะครับ
324.867 -> มีมาให้อย่างครบถ้วน
326.3 -> ด้านหลังช่องใหญ่ๆ ตรงนี้เป็น Air Vent หรือว่าเป็นช่องระบายอากาศ
330.056 -> ที่ด้านในตัว Mac mini เองก็มีพัดลมระบายความร้อนขนาดค่อนข้างใหญ่เลย
335.03 -> เพราะว่าก่อนหน้านี้ดีไซน์นี้เขาใช้กับชิป Intel มาก่อนนะครับ
339.02 -> ที่มีความร้อนสูงกว่า Apple Silicon นะครับ
341.128 -> แต่ว่าพอปรับมาเป็นทั้ง M1 ทั้ง M2
344.45 -> ด้วยความที่ตัวกล่องเขายังเป็นดีไซน์เดิมพื้นที่เขาเหลือเฟือเลยแหละนะครับ
347.885 -> ที่จะระบายความร้อนให้กับชิป Apple Silicon นะครับ
350.511 -> ก็ระบายความร้อนออกทางด้านหลังของเครื่องครับ
352.879 -> ส่วนอากาศเย็นจะถูกดูดเข้านะครับ
355.352 -> บริเวณด้านใต้ของตัวเครื่องบริเวณรอบๆ ตรงนี้นะครับ
358.32 -> ก็จะมีช่องที่ดูดอากาศเข้า
360.489 -> แล้วก็มีการซ่อนดีไซน์ที่เห็นคำว่า Mac mini เอาไว้
363.198 -> ที่เราจะไม่มีทางมองเห็นเลยนะครับ
364.822 -> เวลาที่เราวางทำงานปกติอยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ของเรา
368.743 -> เพราะว่ามันจะอยู่ด้านใต้อยู่ตลอดเวลานั่นเอง
371.079 -> ด้านหน้ามีเพียงแค่ไฟแสดงสถานะหนึ่งตำแหน่งเท่านั้นนะครับ
374.751 -> ซึ่งผมคิดว่าดีไซน์นี้มินิมอลดีแล้วก็ใช้งานจริงๆ ก็เกือบจะครบถ้วนนะครับ
379.825 -> อาจจะติดอยู่เรื่องเดียวสำหรับสายช่างภาพนะครับ
382.104 -> ที่ทำงานกับ SD Card ที่เราจะต้องเสียบ Reader เพิ่มเติมนะครับ
386.821 -> ผมก็คิดว่ามันครบถ้วนดีแล้วก็วางอยู่บนโต๊ะก็เรียบร้อยดีด้วยครับ
391.362 -> แต่ราคาเริ่มต้นของเขาอ่ะ 20,900 บาทนะครับ
395.546 -> ที่เราได้ชิป M2 กับ Mac mini มา
398.641 -> ในกล่องของเขานะจะมีมาให้แค่ตัวเครื่องกับสาย Power แค่นั้นเลยนะครับ
405.4 -> เราไม่นับสติกเกอร์ 1 แผ่นที่เขาให้มานะครับ
407.754 -> ดังนั้นการที่เราจะสามารถใช้งานมันได้
412.31 -> เราจะต้องซื้อเพิ่ม 3 อย่างด้วยกันเป็นอย่างน้อยนะครับ
415.558 -> ก็คือหน้าจอมอนิเตอร์ คีย์บอร์ดแล้วก็เมาส์นะครับ
419.37 -> หรือว่าจะเป็น Trackpad ก็ได้แล้วแต่ความถนัดของเราเลยนะครับ
422.586 -> ซึ่งข้อดีของ Mac mini ก็คือเขาเปิดโอกาสให้เราอ่ะ
426.654 -> เลือกไปใช้ของอะไรก็ได้ที่เราต้องการ
430.273 -> เราอาจจะใช้หน้าจอเดิมหน้าจอที่แบบอาจจะมีอายุหลายปีมาแล้วที่เราชื่นชอบ
435.027 -> ที่อาจจะมีขนาดเล็กหน่อยหรือว่าบางคนมีจอใหญ่อยู่ที่บ้านอยู่แล้วนะครับ
439.36 -> หรือว่าบางคนอาจจะเลือกใช้จอทีวีที่มีขนาดใหญ่กว่านั้นอีกก็ได้นะครับ
444.429 -> เพราะว่ามันเชื่อมต่อได้ทั้งหมดเลย
446.656 -> จะมาเป็น USB Type C ก็ได้จะมาเป็น Thunderbolt ก็ได้
449.321 -> หรือว่าจะเป็น HDMI ก็ได้เขาไม่ได้บังคับเรานะครับ
451.925 -> เราเลือกแบบไหนเราได้หน้าจอขนาดนั้นได้สเปกนั้นมาใช้เลย
455.253 -> คีย์บอร์ดจะใช้แบบมีสายจะเป็นคีย์บอร์ดเก่าที่เป็น USB Type A เลยก็เอามาต่อได้
460.632 -> จะเป็นคีย์บอร์ดไร้สายที่เป็นบลูทูธก็ต่อได้เช่นกัน
464.085 -> หรือถ้าเกิดใครชอบคีย์บอร์ดแมคคานิคอลก็ไปเลือกซื้อเอาเองนะครับ
467.798 -> ไม่ต้องมาเปลืองเงินซื้อคีย์บอร์ดซ้ำซ้อนนะครับ
469.916 -> เมาส์ก็เหมือนกันนะครับ
471.287 -> ใครถนัดอยากใช้เมาส์ Apple เองก็ได้เหมือนกัน
474.091 -> Trackpad ของ Apple เองก็ได้เหมือนกัน
476.251 -> หรือว่าจะเป็นเมาส์ไร้สายเมาส์มีสายของเดิม
479.009 -> สามารถเอามาใช้กับ Mac mini ได้ทั้งหมดเลย
481.296 -> ด้วยความยืดหยุ่นตรงนี้ทำให้งบประมาณของทั้งโต๊ะเราอ่ะ
485.463 -> มันมีความยืดหยุ่นตามลักษณะการใช้งานของแต่ละคนได้นะครับ
488.997 -> ตัวอย่างที่ Set up อยู่ตรงนี้อาจจะเป็น Set up แพงของ Apple
493.505 -> เพราะว่าเลือกใช้ของ Apple เองเกือบทั้งหมดนะครับ
496.106 -> ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Studio Display ที่ตอนนี้เขาก็มีขายแล้ว
499.78 -> เป็นหน้าจอของตัวเอง 27 นิ้ว
501.429 -> ถ้าเกิดดูสเปกแล้วดูเหมือนกับหน้าจอขนาดเดียวกัน
504.383 -> สเปกใกล้เคียงกันของยี่ห้ออื่นจะคุ้มค่ามากกว่าก็ตามทีนะครับ
508.385 -> แต่อาจจะไม่ได้ดีไซน์แบบนี้อาจจะไม่ได้วัสดุแบบนี้นะครับ
511.322 -> ที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วมันดูเข้ากันนะครับ
513.486 -> คีย์บอร์ดไร้สายของทาง Apple ที่ออกมาใหม่แล้วก็มี Touch ID อยู่ด้วย
517.922 -> แพงจัดๆ ตัวนี้ 6,000 กว่าบาทนะครับ
520.597 -> ซึ่งมันก็ไม่จำเป็นต้องมาถึงตัวนี้ก็ได้
522.76 -> เราอาจจะใช้คีย์บอร์ดพันกว่าบาทคีย์บอร์ดหลักร้อยใช้กับ Mac mini ได้เท่ากัน
526.9 -> ได้แรงเท่ากันเร็วเท่ากันนะครับ
528.405 -> เมาส์ที่เราถนัด Ergonomics ของเราก็เลือกมาใช้ได้เลย
531.876 -> หรือว่าจะเป็นเมาส์ตัวเดิมที่มีอยู่แล้วก็ได้อัปเกรดขึ้นมานะครับ
535.246 -> ดังนั้นราคาของทั้ง System อ่ะมันยืดหยุ่นมากนะครับ
538.817 -> มันอาจจะเป็นได้ตั้งแต่ 20,000 ต้นๆ
541.484 -> ไปจนถึง Set up แบบนี้รวมกันแล้วประมาณ 70,000-80,000 บาทก็ได้เหมือนกัน
545.5 -> แต่ทั้งหมดนี้เราได้ความแรงของชิปที่เราเลือกจาก Mac mini เท่าเดิมนะครับ
550.407 -> ทีนี้เจ้า Mac mini มันเหมาะกับใครครับ
552.701 -> ถ้าเกิดเราดูเพียงแค่ราคาอย่างเดียวนะ 20,000 ต้นๆ
555.422 -> ได้เครื่อง Mac ชิป M2 ดูคุ้มค่ามากเลยใช่ไหมครับ
559.472 -> ดูราคาอย่างเดียวเราอาจจะคิดว่า
561.407 -> นี่เป็นเครื่อง Mac ที่เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นกับ Mac หรือเปล่า
565.676 -> เพราะว่าราคาเริ่มต้นดีมากเลยใช่ไหมครับ
567.838 -> แต่ในมุมมองผม ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่แบบไหนนะครับ
571.068 -> สมมุติเราเพิ่งเริ่มต้นกับ Mac หรือว่าเรามาเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเลย
575.404 -> เราจะต้องซื้อ Mac mini M2 ก่อนละ
577.843 -> เอาราคา 20,000 กว่าบาทก็ได้นะครับ
580.059 -> ต้องมาซื้อหน้าจอมอนิเตอร์ใหม่นะครับ
582.145 -> ในตลาดอาจจะไม่ต้อง Studio Display ก็ได้
584.129 -> สมมุติซื้อไปก็อีก 20,000 บาทเข้าไปใช่ไหมครับ
586.223 -> ซื้อเมาส์ซื้อคีย์บอร์ดใหม่นะครับ
587.909 -> เอามา Set up บนโต๊ะ 4-5 หมื่นเข้าไปละ
590.813 -> ผมคิดว่าไม่ได้เหมาะที่สุดสำหรับคนที่มาเริ่มต้นทั้งหมดแบบนี้นะครับ
595.523 -> ถ้าเกิดเรามีงบสัก 4-5 หมื่นอยากได้ Mac เครื่องแรกอ่ะ
598.249 -> ผมแนะนำไปซื้อ MacBook Air หรือว่าจะเอา MacBook Pro ตัวเริ่มต้นก็ได้
603.154 -> ไม่มีปัญหาแฮปปี้กว่านะครับ
605.04 -> ผมคิดว่าแบบนั้นจะได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่านะครับ
608.594 -> Mac mini เหมาะสำหรับคนที่มีจอใหญ่ที่บ้านอยู่แล้วนะครับ
614.498 -> มีจอที่ดีเป็นของตัวเองอยู่แล้ว
616.17 -> มีคีย์บอร์ดที่เราชื่นชอบอยู่แล้วมีเมาส์ที่แบบเป็นตัวโปรดของเราอยู่แล้ว
621.699 -> แล้วก็ซื้อแค่เครื่องนี้ไปอัปเกรด
624.632 -> ไม่ว่าจะอัปเกรดมาจาก PC ก็ตาม
626.556 -> แล้วเห็นว่า Workflow ของ Mac ก็ไม่แย่แล้วก็ตอบโจทย์งานตัวเองได้
630.921 -> หรือจะอัปเกรดมาจากเครื่อง Mac ของตัวเองก็ได้
634.308 -> อาจจะของเดิมนะที่มีหน้าจอใหญ่อะไรของเรา
637.232 -> ต่อกับ MacBook สักเครื่องหนึ่งของเราอยู่นะครับ
639.733 -> เราซื้อไปเสริมซื้อ 20,000 กว่าบาทกลายเป็น Work Station ที่บ้าน
644.476 -> Set up ตรงนี้ Desktop ตรงนี้เป็นเครื่อง Mac เครื่องหนึ่งที่ Powerful
647.75 -> แทบจะที่สุดเท่าที่เงิน 20,000 กว่าบาทหรืออ่ะถ้า M2 Pro 4 หมื่นกว่าบาท
652.159 -> จะสามารถทำได้แล้วกัน
653.859 -> คือมันไม่มี Option ไหนละที่เราเติมเงิน 20,000 กว่าบาทหรือ 40,000 กว่าบาทเข้าไป
657.871 -> แล้วจะได้ Workflow ที่เร็วขนาดนี้บน macOS นะครับ
661.261 -> นี่สเปกเริ่มต้นเท่านั้นนะครับ
663.206 -> ผมเปิดให้ดูว่าผม Launch Final Cut ขึ้นมานะครับ
666.715 -> มีโปรเจกต์ที่เป็น 8K ลื่นมาก
671.565 -> คือแทบจะไม่ต้องการสเปคที่สูงไปกว่านี้ละ
674.487 -> นี่คือแบบ 8K 3 ไฟล์เอามาต่อกันอยู่ในโปรเจกต์เดียวกันนะครับ
678.905 -> ซ้อนกันอยู่คือเลื่อนดูนี่คือแบบไม่มีกระตุก
683.676 -> Render ออกมาเร็วมากทั้งโปรเจกต์
685.918 -> ผมคิดว่าเร็วกว่าเครื่อง Mac ที่หลายๆ คนใช้อยู่โดยเฉลี่ยทั่วๆ ไปในท้องตลาดมหาศาลนะครับ
692.137 -> ด้วยเงินจำนวนเท่านี้มันไม่สามารถที่จะมี Option อื่นทำได้แบบนี้อีกละ
696.696 -> นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงบอกว่า Mac mini รอบนี้ที่ออกมาทั้ง M2 แล้วก็ M2 Pro อ่ะ
703.166 -> ไม่ได้ออกมาเพื่อคนที่เพิ่งเริ่มต้นกับ Mac
706.592 -> แต่ว่าออกมาเพื่อคนที่รู้จัก Workflow ของ Mac ดีอยู่แล้ว
711.099 -> ใช้แอปพลิเคชันของ macOS เยอะอยู่แล้ว
713.437 -> อย่างแบบใช้ Final Cut อยู่แล้วใช้ Logic Pro อยู่แล้วใช้ DaVinci Resolve อยู่แล้วนะครับ
718.389 -> แล้วก็อยากจะอัปเกรดให้แบบ Workflow มันเร็วขึ้น
722.178 -> ในราคาที่ย่อมอยากที่สุดเท่าที่เคยมีมานะครับ
725.138 -> อันนี้แหละที่ผมต้องการจะบอกว่า Mac mini รอบนี้
728.667 -> ประสิทธิภาพต่อราคาดีที่สุดเท่าที่ Apple เคยทำมาเลยครับ
734.97 -> มีผลทดสอบมาให้ชมเพื่อความครบถ้วนนะครับ
737.127 -> ทั้งหมดนี้ทดสอบจาก Mac mini เลยครับ
739.35 -> จากรุ่นก่อนที่ใช้ชิป M1 ที่ว่าแรงกว่า Intel มากมายแล้ว
743.13 -> M2 รอบนี้ยังแรงขึ้นอีกไม่น้อยเหมือนกันนะครับ
746.074 -> ถ้าเกิดดูจากผลทดสอบ
747.454 -> เอาแค่สเปกเริ่มต้นผมว่า Workflow โดยส่วนมากก็แฮปปี้ละครับ
750.981 -> Render งานไวนะครับ
752.397 -> แบบไม่เดือดร้อนกระเป๋าเงินมากเท่ากับไปหา MacBook Pro ราคาเฉียด 100,000
756.679 -> หรือถ้าเกิดใครชอบดีไซน์มินิมอลแต่ชิปแรงแบบ M2 Pro
760.755 -> ผมว่าก็มาได้แบบไม่เสียหายเช่นกัน
763.487 -> ใช้งานจริงลื่นมากครับ
764.804 -> ผมยืนยันได้ว่าประสิทธิภาพต่อราคาของรุ่นนี้นับว่าดีจริงเลยแหละ
769.44 -> และนี่ก็คือ Mac mini M2 ที่เปิดตัวมาในรอบนี้นะครับ
773.522 -> มี 2 ชิปให้เราเลือกนะครับ
775.078 -> รุ่นเริ่มต้นที่สุดเลยจะเป็นชิป M2 Ram 8GB Storage แค่ 256GB นะครับ
780.567 -> ราคาเริ่มต้นของเราคือ 20,900 บาทนะครับ
783.603 -> มีให้เราปรับแต่งเพิ่ม Storage ขึ้นไปได้ถึง 2TB นะครับ
787.331 -> ราคาก็จะเพิ่มขึ้นไปครับ
789.157 -> กับอีกชิปหนึ่งคือชิปตัวแรง M2 Pro นะครับ
791.881 -> ตัวนี้จะเริ่มต้นที่ Storage 512GB เลยนะครับ
795.795 -> ในราคา 45,900 บาทนะครับ
798.298 -> สามารถปรับแต่งเพิ่ม Storage เข้าไปได้สูงสุดถึง 8TB นะครับ
801.744 -> ตัวเริ่มต้นที่เป็นชิป M2 จะมีพอร์ต Thunderbolt ด้านหลังเพียงแค่ 2 พอร์ต
806.327 -> แต่ผมคิดว่าเพียงพอแหละสำหรับคนทั่วไปนะครับ
808.982 -> เพราะว่ามันยังมี USB Type A ให้เราเสียบได้อีกด้วยนะครับ
811.938 -> หรือว่าถ้าเกิดใครไม่ได้ใช้จอที่เป็น Thunderbolt หรือว่า Type C
815.541 -> ก็ไม่ได้เสียพอร์ตในการเชื่อมต่อไปนะครับ
817.969 -> ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับคนทั่วๆ ไปครับ
820.298 -> แต่ถ้าเกิดใครต้องการการเชื่อมต่อเยอะกว่านั้นนะครับ
822.478 -> จะต้องไปเลือกเอาชิป M2 Pro ที่มี Thunderbolt เชื่อมต่อให้ด้านหลัง 4 พอร์ต
826.568 -> อันนี้ต้องดูความต้องการของตัวเองด้วยนะครับ
828.887 -> แต่รับประกันได้เลยว่าในจำนวนเงินเท่ากันที่เราจ่ายนี้
832.943 -> ไม่มีเครื่อง Mac เครื่องไหนให้ประสิทธิภาพที่คุ้มค่าไปกว่า Mac mini ที่ออกมาอีกแล้ว
838.433 -> ดูความต้องการของเราด้วย
839.597 -> ถ้าผมแนะนำก็คือใครมีจอเดิมคีย์บอร์ดเดิมเมาส์เดิม Trackpad เดิมอยู่แล้วนะครับ
843.947 -> ซื้อตัวนี้ไปเติมไปอัปเกรดให้กับ Work Station หรือว่า Desktop ของเรา
847.751 -> แฮปปี้อย่างแน่นอนนะครับ
849.119 -> แต่ถ้าเกิดใครโจทย์ไม่ตรงต้องการเครื่อง Mac ที่สามารถพกพาไปได้ด้วย
853.529 -> ตัวนี้อาจจะต้องมองข้ามไปเลยนะครับ
854.767 -> ไปดูตัวพวก MacBook Pro หรือว่า MacBook Air
857.103 -> น่าจะเหมาะสมกับการใช้งานของเรามากกว่านั่นเองครับ
860.021 -> Mac mini ตัว M2 แล้วก็ M2 Pro มีวางขายแล้ววันนี้ครับ
863.217 -> ผมอู๋ Spin9 ครับ
864.062 -> พบกันใหม่คลิปหน้า
864.82 -> สวัสดีครับ
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=Y-yohgSaEOw