ไขมันในช่องท้อง ยิ่งสะสมเยอะ ยิ่งอันตราย | คลิป MU
ไขมันในช่องท้อง ยิ่งสะสมเยอะ ยิ่งอันตราย | คลิป MU
พุงหรือหน้าท้อง เป็นส่วนที่สะสมไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะทำให้มีบุคลิกภาพไม่ดีแล้ว หากเรามีไขมันในช่องท้องในปริมาณมากเกินไป ยังส่งผลเสียกับร่างกายในระยะยาวอีกด้วย
โดยวันนี้ รศ.พญ.ประพิมพ์พร ฉัตรานุกูลชัย สาขาวิชาโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล จะพูดถึงสาเหตุการเกิดของไขมันในช่องท้อง ตลอดจนผลเสียกับร่างกายที่จะตามมา พร้อมแนะนำวิธีการวัดไขมันในช่องท้องด้วยตนเอง และที่สำคัญที่สุดคือ เราจะมีวิธีการลดไขมันในช่องท้องได้อย่างไร
#ไขมันในช่องท้อง #คลิปMU #MahidolChannel
#คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหิดล #MURA
#ความรู้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้
–––––––––––––––––––
YouTube: / mahidolchannel
Facebook: http://www.facebook.com/mahidolchannel
Mahidol University มหาวิทยาลัยมหิดล: https://www.mahidol.ac.th/th
Website | https://channel.mahidol.ac.th/
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล | https://med.mahidol.ac.th/index.php
Content
0.119 -> [เสียงดนตรี]
3.54 -> พุงหรือว่าหน้าท้อง
มันจะเป็นส่วนที่มีไขมันสะสมอยู่มาก
7.28 -> ถ้าเกิดว่าเราเป็นคนที่มีลักษณะอ้วนลงพุง
10.04 -> นอกจากจะทำให้เรามีบุคลิกภาพที่ไม่ดี
12.996 -> มันจะยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ในระยะยาวด้วยอีกค่ะ
16.271 -> [เสียงดนตรี]
25.985 -> ปกติเมื่อเวลาที่เรา
รับประทานอาหารมากจนเกินไป
28.981 -> มีพลังงานส่วนเกิน
30.361 -> ร่างกายของเราก็จะเก็บสะสมพลังงานส่วนเกิน
33.454 -> ในรูปของไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังของเรา
37.097 -> เช่น ไขมันที่บริเวณต้นแขน ต้นขา หรือสะโพก
40.599 -> ซึ่งอันนี้เป็นไขมันที่เป็นปกติ
42.695 -> แล้วก็ไม่ได้ส่งผลเสียกับร่างกายของเรา
44.919 -> แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเรา
มีไขมันมากเกินค่าปกติ
49.134 -> เกิดเป็นภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
51.846 -> ร่างกายของเราก็จะเริ่มสะสมไขมัน
อยู่ที่ภายในช่องท้อง
55.69 -> หรือที่เราเรียกว่า Visceral Fat นั่นเองนะคะ
58.153 -> [เสียงดนตรี]
64.124 -> ไขมันในช่องท้องจะเป็นไขมันที่มีอันตราย
มากกว่าเมื่อเทียบกับไขมันชั้นใต้ผิวหนัง
69.459 -> เพราะว่าไขมันในช่องท้องจะก่อให้เกิด
สภาวะที่เกิดการอักเสบในร่างกายของเรา
74.08 -> รวมถึงทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินนะคะ
77.135 -> ซึ่งภาวะที่ดื้ออินซูลินนี่ ก็แปลว่า
ร่างกายของเรามีระดับอินซูลินอยู่ในตัวเรา
81.783 -> แต่ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
84.56 -> ซึ่งจะทำให้เราเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวาน
87.525 -> เพิ่มโอกาสในการเกิด
โรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ มากมาย
91.353 -> ไม่ว่าจะเป็นโรคไขมันในเลือดสูง
93.604 -> โรคความดันโลหิตสูง
95.256 -> โรคไขมันพอกตับ
96.505 -> รวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือดค่ะ
98.229 -> [เสียงดนตรี]
107.243 -> ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เราเกิด
ภาวะไขมันในช่องท้องมากเกินไปนะคะ
111.774 -> อันดับแรกก็คือ
เกิดจากการที่เรารับประทานอาหารมากจนเกินไป
115.54 -> โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เรา
รับประทานอาหารหมู่คาร์โบไฮเดรต
119.079 -> แป้ง หรือน้ำตาล มากจนเกินไป
121.15 -> รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีไขมัน
เช่น ของทอดมากเกินไปนะคะ
125.64 -> ร่วมไปกับการที่ร่างกายของเรา
ไม่ค่อยมีการขยับตัว
128.664 -> หรือไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว
130.277 -> ไม่ค่อยมีการออกกำลังกาย
131.92 -> โดยภาพรวมก็จะทำให้ร่างกายของเรา
มีพลังงานเกิน
135.18 -> เกิดภาวะน้ำหนักเกิน หรือเกิดโรคอ้วน
137.6 -> ซึ่งเมื่อเราเกิดโรคอ้วนขึ้นมานี่
139.446 -> เราก็จะเกิดไขมันสะสมในช่องท้อง
142.098 -> นอกจากนี้เมื่อเราอายุเยอะขึ้น
144.109 -> ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยง
145.469 -> ซึ่งทำให้เรามีลักษณะของ
การที่เราจะมีไขมันสะสมในช่องท้องมากขึ้นค่ะ
149.4 -> [เสียงดนตรี]
153.276 -> วิธีการวัดไขมันในช่องท้องนะคะ
155.471 -> ง่ายที่สุดก็คือการวัดรอบเอว
157.156 -> เพราะว่าเส้นรอบเอวของเราจะมีความสัมพันธ์
กับปริมาณไขมันในช่องท้องค่ะ
160.96 -> วิธีการวัดเส้นรอบเอวที่ถูกต้องนะคะ
163.074 -> เราควรจะวัดในท่ายืน
165.28 -> วัดตอนเช้าขณะที่เรายังไม่รับประทานอาหาร
168.254 -> วัดช่วงที่เราหายใจออก
169.92 -> โดยวิธีการวัด เราก็ควรจะวัดที่บริเวณ
กึ่งกลางระหว่างขอบบนของกระดูกเชิงกราน
177.086 -> กับขอบล่างของชายโครง
179.071 -> โดยต้องวัดให้ขนานกับแนวของพื้นนะคะ
181.403 -> [เสียงดนตรี]
183.778 -> โดยค่าปกติ ผู้หญิงไม่ควรมีเส้นรอบเอว
เกิน 80 เซนติเมตร
188 -> และผู้ชายไม่ควรมีเส้นรอบเอว
เกิน 90 เซนติเมตร
191.423 -> หรือเส้นรอบเอวของคนเรา
ไม่ควรจะเกินส่วนสูงหาร 2 ค่ะ
196.583 -> โดยถ้าหากว่าเรามีเส้นรอบเอว
เกินค่าปกติดังนี้นะคะ
200.431 -> ก็อาจจะสันนิษฐานได้ว่าเรามีไขมันในช่องท้อง
ที่มากจนเกินไปค่ะ
204.839 -> [เสียงดนตรี]
208.921 -> วิธีการที่เราจะลดไขมันในช่องท้องนะคะ
ก็คือการลดน้ำหนักนั่นเอง
212.535 -> เราก็ควรที่จะปรับพฤติกรรมของเรา
ด้วยการปรับเรื่องของการรับประทานอาหาร
217.7 -> เช่น ลดหรืองดการรับประทานน้ำตาล
หรือการทานคาร์โบไฮเดรต
223.193 -> หรือแป้งที่มากจนเกินไป
224.919 -> รวมถึงหลีกเลี่ยง
การทานไขมันที่ไม่จำเป็น เช่น
227.951 -> หลีกเลี่ยงหรืองดเว้น
การทานอาหารทอดกรอบบ่อย ๆ นะคะ
231.246 -> ร่วมไปกับการออกกำลังกาย
233.206 -> หรือการมีกิจกรรมทางกาย
เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
236.484 -> ก็จะทำให้น้ำหนักค่อย ๆ ลดลง
238.39 -> เมื่อเราลดน้ำหนักตัวลง
240.014 -> ไขมันทั้งตัวของเราก็จะลดลงตามไปด้วย
242.821 -> แล้วที่สำคัญ ไขมันในช่องท้องจะเป็นไขมัน
ตำแหน่งแรก ๆที่ลดลงเมื่อเราผอมลงนะคะ
247.824 -> โดยเป้าหมายในการลดน้ำหนักนะคะ
249.522 -> โดยส่วนใหญ่เราก็จะบอกว่า
251.247 -> ให้พยายามลดน้ำหนักลง
ให้ได้อย่างน้อย 5% จากน้ำหนักเริ่มต้น
255.4 -> เพราะว่าเมื่อน้ำหนักลดลงประมาณ 5% นี่
258.144 -> เรื่องโรคต่าง ๆ ทางเมตาบอลิก
260.367 -> เช่น ระดับน้ำตาล ไขมันในเลือด
หรือความดันโลหิตสูง ก็จะดีขึ้น
264.84 -> และถ้าเกิดว่าเรามีโรคอื่น ๆ
เช่น ไขมันพอกตับ
267.946 -> การลดน้ำหนักลงให้ได้อย่างน้อย 7-10%
270.861 -> ก็จะส่งผลทำให้ภาวะไขมันพอกตับดีขึ้น
274.28 -> หรือถ้าเกิดว่าคนไข้เป็นโรคเบาหวาน
ที่เป็นมาไม่นาน ไม่เกิน 5-6 ปีนะคะ
281.506 -> การที่เราลดน้ำหนักลงได้ประมาณ 10-15%
285.2 -> ก็อาจจะทำให้ร่างกายของเรา
เข้าสู่ภาวะสงบของโรคเบาหวาน
289.358 -> แปลว่าเราอาจจะหยุด
รับประทานยารักษาโรคเบาหวานได้
293.464 -> เมื่อเราน้ำหนักลดลงค่ะ
294.905 -> [เสียงดนตรี]
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=yQfV1OusXBU