![[spin9] รีวิว iPad เจน 10 — ของดี(มากๆ) สำหรับคนไม่ใช้ Pencil](https://img.howtoclicks.com/vi_webp/yQV5d_uL7t0/sddefault.webp)
[spin9] รีวิว iPad เจน 10 — ของดี(มากๆ) สำหรับคนไม่ใช้ Pencil
[spin9] รีวิว iPad เจน 10 — ของดี(มากๆ) สำหรับคนไม่ใช้ Pencil
รีวิวของ 10th Gen iPad มาแล้วครับ ไอแพดรุ่นใหม่ ที่ปรับปรุงให้เข้ากับไลน์อัพของ iPad รุ่นอื่นๆ ไม่มีปุ่มโฮม เป็นหน้าจอเต็มผืน ปรับมาใช้ USB-C ปรับปรุงกล้อง ปรับปรุงชิพ และปรับสเปคให้แรงขึ้น เป็น iPad ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนเริ่มใช้งาน iPad อย่างแท้จริง ยกเว้นข้อเดียวคือ ถ้าไม่ได้จะใช้ Apple Pencil ร่วมด้วยนะ เพราะรุ่นนี้มันออกจะแปลกไปสักหน่อย…
สั่งซื้อ iPad ใหม่ ผ่านทาง Apple Store TH: https://apple.sjv.io/O652Z
สมัครเป็นสมาชิกของช่อง spin9 เพื่อสนับสนุนการผลิตคอนเทนต์ของเราได้ที่นี่:
/ @spin9
Content
13.77 -> สวัสดีครับ อู๋ Spin9 ครับ
14.949 -> คุณผู้ชมครับ รีวิววันนี้อยู่กับ iPad รุ่นใหม่นะครับ
18.29 -> นี่คือ iPad Generation ที่ 10 นะครับ
20.407 -> iPad รุ่นพื้นฐานที่ไม่ได้มีชื่อรุ่นต่อท้ายนะครับ
23.746 -> คือเรียกว่า iPad เฉยๆ นี่แหละ
25.349 -> เดินทางมาถึง Generation ที่ 10 เป็นที่เรียบร้อยนะครับ
28.02 -> มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นะครับ
29.983 -> นั่นก็คือนี่เป็น iPad รุ่นพื้นฐานครั้งแรกที่ไม่มีปุ่มโฮมแล้วนะครับ
34.386 -> ด้านหน้าทั้งหมดเป็นพื้นที่ของหน้าจอไปทั้งหมดแบบนี้เลยนะครับ
38.712 -> ย้ายไปเป็นดีไซน์เดียวกันกับ iPad Air ในรุ่นปัจจุบันนั่นแหละ
42.643 -> ก็คือพอเป็นหน้าจอทั้งหมดตัวปุ่มโฮมที่เคยทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
47.429 -> ก็จะย้ายมาอยู่ที่บริเวณปุ่ม Power นะครับ
50.07 -> เปลี่ยนดีไซน์ให้เป็นขอบตัดตรงอย่างนี้นะครับ
52.575 -> แล้วก็เปลี่ยนแปลงพอร์ต Lightning ให้กลายเป็นพอร์ต USB Type C นะครับ
57.769 -> นี่ถือว่าเป็นการเปิดตัวไลน์อัพของ iPad ครบทั้งหมดเลย
62.267 -> ทั้ง iPad รุ่นพื้นฐาน iPad mini , iPad Air , iPad Pro
65.385 -> ที่ไม่มีพอร์ต Lightning อีกแล้วนะครับ
67.26 -> ทั้งหมดของ iPad ไลน์อัพปัจจุบันนี้เป็น USB Type C ทั้งหมดครับ
71.44 -> นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้วก็เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีด้วย
75.351 -> ผมได้ทดลองใช้ดูก็ค้นพบว่านี่เป็น iPad ที่ดีเครื่องหนึ่ง
78.974 -> แต่ว่ามีเรื่องที่แปลกสำหรับ iPad รุ่นนี้อยู่หลายอย่างเหมือนกัน
82.699 -> เรามาดูรีวิวนี้พร้อมกันครับ
91.932 -> ก่อนที่จะไปถึงเรื่องแปลกของ iPad Gen 10 นี้นะครับ
95.582 -> เรามาดูความเปลี่ยนแปลงก่อนนะครับ
97.507 -> จริงๆ แล้วเปลี่ยนค่อนข้างเยอะเลย
98.994 -> ถ้าเกิดเราเทียบกันกับ iPad Gen 9 นะครับ
101.677 -> เพราะว่ารอบนี้ปรับดีไซน์ใหม่ทั้งหมดเลยนะครับ
104.315 -> แล้วก็ได้สเปกที่ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยนะครับ
106.768 -> หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอนนะครับ
108.724 -> เพราะว่าไม่ได้มีปุ่มโฮมแล้วนะ
110.381 -> ขยายขนาดหน้าจอจาก 10.2 นิ้วมาเป็น 10.9 นิ้วใน iPad Gen 10 นี้นะครับ
116.126 -> เท่ากับว่าได้หน้าจอแทบจะเป็นสเปกเดียวกันกับที่อยู่ใน iPad Air
121.143 -> ยกเว้นบางเรื่องนะครับ
122.145 -> แม้ว่าจะขนาดเท่ากับ iPad Air เลยนะครับ
124.279 -> 10.9 นิ้วความละเอียดเท่ากัน
126.059 -> แต่ว่าใน iPad Gen 10 จะไม่ได้สเปกหน้าจอที่เป็น P3 นะครับ
129.963 -> แล้วก็จะไม่มีการเคลือบสาร Anti-reflective ด้วยนะครับ
133.683 -> นั่นก็คือการเคลือบกันสะท้อนจะไม่ได้ใน iPad Gen 10
136.88 -> ใน iPad Air ยังคงมีสเปกที่ดีกว่าเล็กน้อยอยู่นะครับ
140.596 -> กล้องมีการปรับปรุงจาก iPad Gen 9 ขึ้นมานะครับ
143.445 -> กล้องหลังนี้จาก 8 ล้านพิกเซล
145.068 -> ถ้าเกิดเราไปดู iPad Gen 9 กล้องหลังคือเล็กนิดเดียวเองนะครับ
149.198 -> ไม่น่าเชื่อว่ายังขายมาได้จนถึงปีนี้นะครับ
151.674 -> ก็ขยายขนาดของกล้องไป
153.845 -> เซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้นถ่ายภาพต่างๆ สแกนเอกสารต่างๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น
157.724 -> เป็น 12 ล้านพิกเซลนะครับ
159.024 -> กล้องหน้าแม้ว่าจะมีความละเอียดเท่าเดิม 12 ล้านพิกเซล
162.251 -> แล้วก็รองรับ Center Stage เหมือนเดิม
163.872 -> แต่ว่าเขามีการย้ายตำแหน่งของกล้อง iPad เป็นครั้งแรกนะครับ
167.629 -> ถ้าเกิดเรามาสังเกตดูถามว่ากล้อง iPad อยู่ตรงไหน
171.427 -> ทุกคนก็จะตอบตรงกันหมดว่ากล้อง iPad อยู่ด้านบนตรงกลางใช่ไหมครับ
175.563 -> เขาใช้ตรงนี้มาอย่างยาวนานทุกรุ่นเลย
177.611 -> มาจนถึง iPad Pro ที่เพิ่งออกใหม่สดๆ ร้อนๆ
180.476 -> กล้องก็ยังอยู่ตรงกลางด้านหน้าตรงนี้นะครับ
182.4 -> นี่เป็น iPad รุ่นแรกที่ย้ายกล้องที่อยู่ด้านหน้าตรงกลางด้านบนตรงนี้
187.228 -> ย้ายมาอยู่ด้านข้างของฝั่งนี้นะครับ
189.844 -> ซึ่งถ้าเกิดเราสะท้อนไฟดูก็จะเห็นว่าตำแหน่งกล้องมันย้ายลงมานะครับ
194.305 -> ย้ายลงมาเพื่ออะไร
195.902 -> แล้วย้ายลงมาแปลกแค่ไหน
197.255 -> เดี๋ยวค่อยไปเล่าให้ฟังอีกทีว่าผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่แปลกสำหรับ iPad รุ่นนี้ครับ
201.546 -> ปุ่ม Power อยู่ด้านบนตรงนี้
203.75 -> ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปในตัวด้วยเช่นเดียวกัน
207.101 -> ใน iPad mini แล้วก็ใน iPad Air นะครับ
209.582 -> ปุ่มเพิ่มลดเสียงอยู่ด้านข้างนะครับ
211.095 -> ด้านข้างอีกด้านหนึ่งเรียบสนิทแบบนี้พร้อมกับ Smart Connector
214.752 -> ที่มาอยู่บริเวณสันของเครื่อง iPad เลยนะครับ
217.305 -> ด้านล่างเป็นพอร์ต USB Type C อย่างที่บอกไปแล้วนะครับ
220.548 -> แล้วก็มีลำโพงสเตอริโอทั้งด้านล่างตรงนี้แล้วก็ด้านบนตรงนี้
226.256 -> นี่ iPad รุ่น Base นะ
227.415 -> นี่ iPad รุ่นเริ่มต้นแต่ว่ามีลำโพงสเตอริโอให้ใช้ได้ในโหมด Landscape นะครับ
232.18 -> เวลาที่เราดูหนังได้มิติของลำโพงด้านซ้ายด้านขวามาพร้อมกัน
236.454 -> ถือว่าให้มาเยอะแล้วก็ปรับปรุงมาเยอะเลยทีเดียวนะครับ
239.571 -> กับอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือปรับราคาขึ้นมาด้วยนะครับ
243.934 -> ปกติแล้ว iPad รุ่นพื้นฐานแบบนี้รุ่น Base นี้
247.3 -> ราคาจะอยู่ที่ประมาณหมื่นต้นๆ นะครับ
249.501 -> ตัวนี้เปิดราคามาค่อนข้างแรงนะครับ
251.86 -> 64GB WiFi ที่เป็นสเปกเริ่มต้น 17,900 บาทนะครับ
256.555 -> ดูราคาแล้วไม่น่าจะเป็น iPad รุ่นพื้นฐานไปได้นะครับ
260.351 -> แต่ว่า Apple ตั้งใจแหละเพราะว่าปรับสเปกขึ้นมาเยอะขนาดนี้นะครับ
263.704 -> ก็อยากจะขายในราคาที่สูงขึ้นโดยที่เขายังขาย iPad Gen 9 ควบคู่กันไปด้วยนะครับ
269.821 -> นั่นก็คือถ้าเกิดใครมีงบประมาณหมื่นต้นๆ น่ะยังสามารถซื้อ iPad Gen 9 ได้อยู่นะครับ
274.752 -> แต่ถ้าเกิดใครคิดว่าจะซื้อใหม่ทั้งทีนะครับ
277.272 -> อยากได้สเปกที่ดีขึ้นมาหน่อย
278.374 -> แต่ว่าเราคิดว่า iPad Air iPad Pro เกินความจำเป็นของเรา
281.848 -> ก็มีหมื่นปลายๆ ให้เลือกเป็นรุ่นนี้นะครับ
284.484 -> 17,900 บาทในสเปกเริ่มต้น
287.04 -> ถ้าเกิดอยากได้รุ่นที่ใส่ซิมได้ที่ตอนนี้อัปเกรด
290.058 -> จากรองรับ 4G มาเป็น 5G เป็นครั้งแรกใน iPad รุ่นพื้นฐาน
294.375 -> จะต้องเพิ่มเงินอีก 6,000 บาทเพื่อที่จะได้รุ่น WiFi + Cellular
297.824 -> ทีนี้ iPad ก็คือ iPad ผมคิดว่านี่เป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดตัวหนึ่ง
302.792 -> ที่ Apple ทำมานะครับ
304.161 -> แล้วผมเชื่อว่าหลายคนก็น่าจะถูกใจ iPad ในไลน์อัพปัจจุบันมากพอสมควรด้วยนะครับ
309.231 -> ตัวนี้นอกจากที่จะอัปเกรดดีไซน์ด้านนอกนะครับ
312.032 -> มีการปรับกล้องให้ดีขึ้นนะครับ
313.565 -> หน้าจอใหญ่ขึ้นแล้วชิปที่อยู่ภายในก็อัปเกรดขึ้นจาก Gen 9 ด้วยนะครับ
317.531 -> จาก A13 Bionic มาเป็น A14 Bionic นะครับ
320.838 -> เพื่อให้เรามีตัวเลือกนั่นแหละ
322.368 -> ถ้าเกิดอยากได้แรงกว่านี้จะเป็น Apple M1 ก็ต้องโดดไปใช้ iPad Air นะครับ
326.892 -> ดังนั้นตัวนี้ก็ถือว่าอัปเกรดขึ้นมาในหลายๆ มิตินะครับ
330.755 -> ลองใช้งานดูเป็นยังไงบ้างนะครับ
332.473 -> ก็ต้องบอกว่ามันคือ iPadOS
334.476 -> ถ้าเกิดมันอยู่ในมือเราแล้วใครเคยใช้มาก่อนแล้ว
337.842 -> Application หลากหลายของเขาอ่ะ
339.414 -> มันใช้งานแล้วก็ครอบคลุมกับการใช้งานตั้งแต่นักเรียน นักศึกษา
343.333 -> คนทำงานทั่วๆ ไป คนทำงานเอกสารหรือแม้กระทั่ง Professional นะครับ
347.315 -> หรือว่าคนที่อยากจะทำงานด้านครีเอทีฟ
349.577 -> ที่สามารถใช้ iPad นี้ไปทำงานของตัวเองได้หลากหลาย
353.555 -> ประยุกต์เข้ากับงานของตัวเองหรือว่าชีวิตประจำวันของเราได้อย่างแน่นอนนะครับ
356.926 -> ให้น้องๆ ที่บ้านลูกหลานที่บ้านได้เพลิดเพลินกับคอนเทนต์ Entertainment
362.538 -> ถึงแม้กระทั่งตัวเราเองดูคอนเทนต์ Streaming ดู YouTube ดู Netflix
366.007 -> เป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมมากตัวหนึ่ง
368.273 -> แล้วก็การปรับมาเป็นตัว iPad Gen 10 รอบนี้ผมก็ถือว่าเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่
373.422 -> ประสบการณ์การใช้งานถ้าใช้งานทั่วๆ ไปแทบจะไม่แตกต่าง
377.546 -> กับการใช้งานกับ iPad Air เลย
379.947 -> ถ้าเกิดให้เปรียบเทียบกันตรงๆ
381.335 -> เราไม่ได้รู้สึกเลยว่า A14 จะช้ากว่า Apple M1 ที่อยู่ใน iPad Air มากมายขนาดนั้น
387.148 -> สำหรับ Application ทั่วๆ ไป
388.485 -> ถ้าเกิดเราไม่ใช่สายโปรที่ต้องอาศัยพลังของการ Render อะไรเยอะแยะมากมาย
393.306 -> ผมคิดว่าประสบการณ์การใช้งานใกล้เคียงกันมาก
395.242 -> เพราะว่านี่เป็น iPad Full Size คือไซส์ปกติที่ถืออยู่ในมือ
399.162 -> แล้วก็รู้สึกว่าขนาดหน้าจอมันพอดิบพอดีนะครับ
402.267 -> ถือไปใช้งาน ถือไปเรียนหรือว่าการดูคอนเทนต์ Entertainment อ่ะ
405.789 -> มันพอดิบพอดีไปซะทุกอย่างนะครับ
407.512 -> ดังนั้นผมคิดว่ามันคือ Product ที่ยอดเยี่ยมตัวหนึ่งนะครับ
410.56 -> ทีนี้ผมบอกไว้ตั้งแต่แรกว่าตัวนี้มันดีก็จริง
413.714 -> แต่ว่ามันแปลกอยู่สักหน่อย
415.16 -> มันแปลกยังไงผมเล่าให้ฟังครับ
416.477 -> ความแปลกของ iPad Gen 10 ผมค้นพบว่ามีอยู่ 2 อย่างด้วยกันนะครับ
420.706 -> ที่เป็นอย่างที่ผมไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่นะครับ
423.292 -> อย่างแรกจริงๆ แล้วเป็นข้อดีแหละที่ Apple เปลี่ยนมาใช้ USB Type C
428.842 -> ใน iPad ให้ครบทุกรุ่นเหมือนกันสักทีนะครับ
431.588 -> การเปลี่ยนจาก Lightning มาเป็น Type C ใน iPad
434.748 -> มีข้อดีหลายอย่างมากเลย
436.563 -> อย่างแรกก็คือมันชาร์จได้เร็วขึ้นนะครับ
438.626 -> สายชาร์จที่ให้มาในกล่อง iPad นี่ยังให้ทั้ง Adapter แล้วก็สายชาร์จมา
442.906 -> Adapter 20 วัตต์ที่อยู่ในกล่องพร้อมกับสายชาร์จ
446.181 -> ซึ่งสายชาร์จรอบนี้เป็นสายถักแล้วนะครับ
448.444 -> ผมเข้าใจว่าถ้าเกิด iPad รุ่นเริ่มต้นแบบนี้ให้สายถักแบบนี้
452.92 -> ก็เข้าใจว่าในอนาคต Apple น่าจะใช้สายถักกับแทบจะทุกอุปกรณ์
458.311 -> ที่จะขายต่อไปในอนาคตเลยนะครับ
460.575 -> ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะเครื่องที่จะต้องเป็น iPad Pro เท่านั้น
464.107 -> หรือว่าจะต้องเป้น MacBook Pro เท่านั้นที่จะได้สายถักนะครับ
466.746 -> มีความทนทานมากขึ้นแล้วก็ดูดีมากขึ้น
469.15 -> จะดูดีกว่านี้อีกถ้าเกิดเขาให้มาเป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง
472.702 -> เพราะว่าสีรอบนี้มันเท่จริงๆ นะครับ
474.727 -> เหมือนกับตัว MacBook Air ให้สายถักที่เป็นสีเดียวกันนี้จะเท่มากเลย
478.187 -> แต่ว่าตอนนี้เครื่องทุกสีก็จะได้สาย Type C ที่เป็นสายถักสีเงินในลักษณะนี้นะครับ
484.169 -> ไม่รู้เรียกสีเงินหรือสีเทาจะเหมาะกว่ากันนะครับ
486.441 -> ซึ่งก็ดีมาก ดูดีมากแล้วก็ดูน่าจะทนทานมากขึ้นกว่าเดิมนะครับ
490.539 -> เปลี่ยนมาใช้ Type C นอกจากชาร์จเร็วขึ้นแล้ว
492.902 -> รองรับอุปกรณ์เสริมอีกมากมายหลายอย่างในตลาดนะครับ
496.235 -> อาจจะเป็นอุปกรณ์เสริมที่หลายคนมีอยู่แล้ว
498.642 -> แล้วก็ไม่สามารถที่จะเอามาใช้ได้กับ iPad ที่เป็นหัว Lightning ก่อนหน้านี้นะครับ
503.333 -> อย่างเช่นสมมุติว่าผมมี Thumb Drive ที่เป็น Type C
507.113 -> ก็เสียบได้เลยสมมุติว่าใครเอาไฟล์อะไรใส่ Thumb Drive มานะครับ
510.495 -> เสียบเข้าไปใน iPad
511.964 -> มันจะมองเห็นเลยเพราะว่าจริงๆ iPadOS มันรองรับอยู่แล้วนะครับ
515.475 -> การใช้งานกับอุปกรณ์พวกนี้มันก็จะเห็นเป็นว่าในไดร์ฟของเรามีไฟล์อะไรอยู่บ้าง
520.975 -> ถ้าเกิดกดเข้าไปในไฟล์พวกนี้
522.783 -> ก็จะเห็นเลยว่าถ้าเป็นไฟล์วิดีโอเราเล่นได้เลยนะครับ
526.102 -> เอามา Playback ในนี้ได้เลยทันทีนะครับ
527.816 -> ซึ่งเป็นความสะดวกสำหรับคนที่ใช้ iPad Type C มาก่อนหน้านี้นะครับ
531.505 -> พอ iPad รุ่น Base รุ่นที่เป็น Gen 10 นี้
534.533 -> ใช้ได้ก็เปิดโอกาสนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อ iPad รุ่นแพงๆ นะครับ
537.919 -> ก็ได้ความสามารถนี้เช่นเดียวกันนะครับ
540.062 -> หรือว่าถ้าเกิดใครมีพวก SD Card Reader อย่างนี้อุปกรณ์เสริมนะครับ
544.02 -> ที่เป็น Type C ก็เอามาเสียบใช้ได้เช่นเดียวกันนะครับ
546.834 -> เราถอดมาจากกล้องของเรานะครับ
548.472 -> ถอดมาจาก GoPro ของเราโหลดไฟล์มาดูได้แบบเร็วๆ กับจอใหญ่
552.542 -> หรือว่าจะ Copy มาใส่ไว้ในตัว Storage ของ iPad ได้โดยตรง
556.497 -> ก็สามารถทำได้โดยง่ายเช่นเดียวกัน
558.743 -> ถ้าเป็นหัว Lightning ทำไม่ได้
560.114 -> สาย LAN เช่นเดียวกันอุปกรณ์เสริมที่มีอยู่แล้ว
563.137 -> ไม่ต้องซื้อใหม่ก็ได้นะครับ
564.37 -> ก็สามารถเอามาใช้ได้เปิดความสามารถใหม่ๆ
567.277 -> หรือแม้กระทั่งสายที่เป็นสายชาร์จ iPhone ของเราอ่ะ
570.774 -> Lightning ที่เป็น Type C นี้นะครับ
573.007 -> ก็สามารถเอามาใช้ได้เช่นเดียวกัน
574.933 -> ก็คือเราเสียบข้างหนึ่งเข้า iPad แล้วก็อีกข้างหนึ่งเข้ากับ iPhone ของเรา
579.835 -> เพื่ออะไร
580.568 -> เพื่อชาร์จ iPhone
582.606 -> ก็คือเอาตัว iPad นี้เหมือนจะเป็น Power Bank ขนาดใหญ่
586.098 -> เป็นแบตเตอรี่สำรองให้กับ iPhone นะครับ
588.04 -> ซึ่งก่อนหน้านี้ใครใช้ iPad ที่เป็น Type C
590.568 -> ไม่ว่าจะเป็น iPad Air , iPad Pro ก็ทำแบบนี้ได้
593.091 -> ตอนนี้ iPad รุ่น Base ทำได้แล้วนะครับ
594.927 -> ดังนั้นการเปลี่ยนมาใช้ Type C มันมีประโยชน์หลากหลายอย่างจริงๆ สำหรับ iPad
599.702 -> อันนี้ผมเห็นด้วยที่จะเปลี่ยนมาใช้นะครับ
601.848 -> ต่อ External Monitor จะเอาไปออกหน้าจอข้างนอก
604.749 -> ที่ความละเอียด Full HD หรือว่า 4K ก็ได้เช่นเดียวกันนะครับ
607.981 -> แต่ความแปลกที่ผมบอกก็คือจริงๆ แล้วพอมันเปลี่ยนมาใช้ Type C
612.901 -> Apple Pencil เดิมมันต้องใช้ไม่ได้
614.979 -> เพราะว่า Apple Pencil เดิมอยู่ไหน
616.646 -> อยู่นี่
617.585 -> Apple Pencil ที่เป็น Gen 1 ครับ
619.807 -> หัวมันเป็นหัว Lightning นะครับ
621.491 -> ที่เราใช้กับ iPad รุ่นก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็น Gen 6 7 8 9 นะครับ
626.322 -> หรือว่า iPad mini 5 หรือว่า iPad Pro รุ่นเก่าๆ หน่อยที่ไม่เปลี่ยนมา Type C อ่ะ
631.654 -> เราสามารถที่จะเสียบ Lightning ตัวนี้ที่เป็นปลาย Apple Pencil
635.742 -> เข้ากับตูดของ iPad ได้
637.655 -> เพื่อที่จะจับคู่หรือว่าจะชาร์จตัว Pencil ของเราที่มันจะได้ท่าแปลกๆ หน่อยอ่ะ
642.308 -> ที่แบบว่าคนแซวกันเยอะๆ ใช่ไหมว่าท่าทางในการเสียบชาร์จเสียบจับคู่
647.296 -> มันประหลาดจังเลยครับ
648.669 -> จริงๆ มันต้องใช้ด้วยกันไม่ได้สิ
650.396 -> เพราะว่ามันเสียบไม่ได้แล้วอ่ะ
652.13 -> มันเป็น Type C กับ Lightning มันจะเสียบเข้าไปได้ยังไงนะครับ
655.04 -> ไปดูในสเปกตอนเปิดตัวหงายหลังกันทั่วโลกเลย
657.461 -> ว่าแบบ iPad Gen 10 ใช้กับ Apple Pencil Gen 1
661.236 -> ไม่สามารถใช้กับ Gen 2 ที่เป็นแม่เหล็กได้ด้วย
663.938 -> หยิบ Gen 2 ให้ดู
665.137 -> ที่เป็นแม่เหล็ก
667.922 -> ไม่ได้
668.677 -> คือต่อให้มันมีแม่เหล็กก็ใช้ไม่ได้ครับ
672.108 -> แล้วก็ใช้ด้วยกันไม่ได้แล้วยังไงคือต้องใช้กับ Gen 1 นะครับ
676.235 -> ใช้ได้กับ Gen 1 ไม่พอเพราะว่าเรามี Gen 1 เดิมอยู่ที่บ้าน
681.018 -> บางคนมีอัปเกรดมาใช้ iPad Gen 10 ไม่ได้อีกบังคับให้ไปซื้อ Adapter ครับ
685.895 -> มันพร้อมหายไหมล่ะ
687.963 -> บางเฉียบ
688.907 -> อันนี้ขายแยกนะครับ
690.361 -> 390 บาทนะครับ
691.403 -> สำหรับคนที่อยากใช้ Pencill เดิมที่ตัวเองมีอยู่กับ iPad Gen 10 นะครับ
695.614 -> ดังนั้นซื้อเครื่องนี้ไม่จบนะ
698.071 -> ถ้าเกิดจะใช้ Pencil ต้องซื้อ Adapter ตัวนี้เพิ่มเติมไปด้วยก็ 390 ที่หายได้ง่ายมาก
705.432 -> เพื่อที่จะให้เอา Apple Pencil เดิมที่มีอยู่มาใช้กับ iPad Gen 10 ได้นะครับ
712.137 -> ผมท่านี้เลยเอาจริงๆ คือไม่ได้แกล้งงงนะ
715.601 -> ท่านี้จริงๆ ตั้งแต่แรกว่าแบบใช้ยังไง
720.524 -> เพราะว่าเสียบไม่ได้ใช่ป่ะ
722.867 -> มันเป็นตัวเมียเหมือนกันน่ะ
725.251 -> เสียบไม่ได้ใช่ป่ะ
727.504 -> ต้องใช้สายด้วย
728.849 -> กว่าจะเข้าใจเอาจริงๆ ก็คือโง่เองแหละไม่ได้ดูคู่มือนะครับ
731.938 -> พลิกดูหลังกล่องนี้ความสลับซับซ้อน
735.677 -> ผมไม่เคยเจอแผนผังอะไรที่มันจะต้องใช้ยากขนาดนี้มาก่อน
739.308 -> iPad เสียบสาย สายเสียบ Adapter
742.184 -> Adapter เสียบ Pencil ถึงจะใช้ได้
745.842 -> ใครดูแล้วเข้าใจในครั้งแรกมั้งเอางี้ดีกว่า
747.938 -> ถึงแม้ว่าจะทำแผนผังที่แบบว่า Apple สไตล์ของเขามันต้องดูแล้วเข้าใจได้ง่ายใช่ป่ะ
753.115 -> ผมทำให้ดูว่า iPad จะใช้ Pencil
757.65 -> ถอดหัว Pencil ออกก่อน
759.218 -> อันนี้ต้องถอดออกอยู่แล้ว
761.58 -> ถอดออกก่อนนะครับ
762.45 -> อันนี้ก็พร้อมหายหลายคนหายไปแล้วนะครับ
764.302 -> แล้วก็เอาไงดี
766.498 -> เอาสาาถักของเขานี่แหละเสียบนี่ก่อน 1 ชั้นนะครับ
770.748 -> ปลายอันนี้เอามาเสียบกับ Adapter อันนี้
775.969 -> เสียบด้านไหนอ่ะ
777.522 -> ด้านนี้นะครับ
779.607 -> ไม่ได้มีบอกบนนี้ด้วยนะ
781.017 -> เป็นแบบขาวโล่งๆ เลยนะ
782.948 -> ขาวๆ โล่งๆ ไม่ได้บอกด้วยว่าด้านนี้เสียบเข้า iPad นะครับ
785.827 -> ด้านนี้มีกลมๆ บอกนิดเดียว
789.19 -> ไม่มีความหมายอะไรเลยกลมๆ
790.796 -> ด้านนี้เสียบเข้า Pencil ท่านี้
795.297 -> ถึงจะจับคู่และใช้ด้วยกันได้นะครับ
800.462 -> อะไรกันครับ
801.977 -> นี่มันอะไรกันครับ
803.12 -> กลัว Pencil หายนะครับ
804.488 -> เหมือนเวลาไปเซ็นชื่อที่ธนาคารนะครับ
806.548 -> เสียบอย่างนี้แล้วใช้ไม่ได้ด้วย
811.414 -> ให้ดูว่าจับคู่แล้วเรียบร้อยขึ้นแล้วว่าจับคู่เข้าด้วยกัน
815.459 -> แต่ว่าเสียบสายไปด้วยใช้ไปด้วยไม่ได้นะครับ
818.474 -> แม้ว่ามันจะมีสายยาวๆ ให้เราสามารถเอามาถือใช้
822.038 -> เขาไม่อนุญาตให้ใช้คือต้องใช้แบบไร้สายเท่านั้นนะครับ
824.941 -> แล้วจะมีสายไปทำไมกันครับ
826.983 -> คือทำไมไม่เอา Adapter ชั้นเดียวเอางี้ดีกว่า
829.754 -> คือผมคิดว่าเขามี Option นะ
831.537 -> สมมุติว่าเรารับได้กับการมี Adapter นะ
833.603 -> คือจริงๆ ผมก็คิดว่าน้อยคนที่จะรับได้
836.375 -> Adapter นี้เสียบ Pencil ด้านหนึ่งและด้านหนึ่งยื่นออกมาเป็น Type C เสียบเลยได้ป่ะ
841.473 -> ยังไงมันก็น่าเกลียดอยู่แล้วไง
842.998 -> คือ Apple Pencil Gen 1 อ่ะมันใช้กับ iPad ท่านี้
847.381 -> สมมุตินะให้มันยื่นออกมา
849.83 -> ก็ใช้ท่านี้เลยได้ป่ะ
851.513 -> ไหนๆ มันก็น่าเกลียดมาตั้งแต่ทุก Gen แล้วอ่ะ
853.799 -> ก็ไม่ทำนะก็คือจะต้องมีสายยาวออกมาที่ไม่รู้ว่ามีเพื่ออะไรนะครับ
858.672 -> อีก 1 ชั้นแล้วเสียบสายก็ใช้ไปพร้อมกันไม่ได้ด้วยนะครับ
862.642 -> แต่อย่างไรก็ตาม
863.894 -> เรียบร้อยจับคู่เสร็จเรียบร้อยก็ใช้งาน Pencil ได้ครบทุกฟังก์ชัน
868.292 -> เท่าที่เราสามารถใช้งาน Apple Pencil ได้กับ iPad เครื่องหนึ่งนั่นแหละ
872.427 -> แค่ไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้มันคืออะไรกัน
874.876 -> แบบที่จะต้องขายตัวนี้แยกต่างหากนะครับ
877.307 -> โอเคชี้แจงอย่างนี้ว่า Adapter ตัวนี้ 390 บาท
882.322 -> มันจะต้องซื้อสำหรับคนที่อยากใช้ Pencil เดิมที่ตัวเองมีอยู่นะครับ
888.09 -> ถ้าเกิดสมมุติว่าใครไม่เคยมี Apple Pencil เลย
891.084 -> แล้วก็เดินเข้า Apple Store ไปซื้อ iPad Gen 10 วันนี้
895.2 -> พร้อมกับ Apple Pencil Gen 1 ในกล่องของ Apple Pencil Gen 1 นั้นน่ะ
900.118 -> จะมี Adapter ตัวนี้แถมมาให้สำหรับคนซื้อแท่งใหม่เท่านั้นนะครับ
905.029 -> นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
906.429 -> ไม่ต้องซื้อ 390 แยกนะครับ
908.313 -> ดังนั้นคนที่จะซื้อตัวนี้แยกเฉพาะคนที่มี Pencil เดิมอยู่เท่านั้นนะครับ
913.908 -> ซึ่งจะเป็นใครกันบ้างนะครับ
915.449 -> ผมขออนุญาตเปิดแผนผังให้ดู
917.755 -> ลองมาดูกันว่านี่คือลิสต์ของ iPad ทั้งหมดที่รองรับ Apple Pencil Gen 1 นะครับ
923.198 -> ให้ดูกันเลยว่ามีรุ่นอะไรบ้างนะครับ
925.005 -> และคนที่ถือ Apple Pencil เดิมอยู่แล้วก็อยากจะอัปเกรด iPad ตัวเองที่ใช้อยู่
930.384 -> มาเป็น iPad Gen 10 จะมีใครบ้างนะครับ
932.915 -> ผมคิดว่าถ้าใครเคยใช้ iPad Pro อยู่ไม่น่ามา iPad Gen 10 นะ
936.963 -> เราตัดออกว่า iPad Pro ไม่ใช่
938.926 -> iPad Pro ไม่ใช่นะครับ
941.61 -> iPad Pro ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเขา
944.498 -> มี iPad Air อยู่แล้วใน Gen 3 จะเปลี่ยนมาใช้ iPad Gen 10 เป็นไปได้เก็บไว้ก่อน
954.216 -> iPad Gen 10 อยู่แล้วอันนี้ไม่เกี่ยวนะครับ
956.656 -> อันนี้เพิ่งออก
957.583 -> iPad Gen 9 เพิ่งซื้อปีที่แล้วเองยังไม่น่าเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้นะ
961.787 -> iPad 8 ก็ 2 ปีเองไม่น่าเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้เหมือนกันนะครับ
967.173 -> iPad mini ผมคิดว่าคนซื้อ iPad mini ก็น่าจะชอบ iPad เครื่องเล็กๆ
972.175 -> ซื้อเครื่องใหม่อัปเกรดขึ้นมาก็ไม่น่าจะใช้กับตัวนี้เหมือนกันตัดออกนะครับ
977.08 -> ดังนั้นผมคิดว่าคนที่มี iPad เดิมแล้วก็มี Apple Pencil Gen 1
982.534 -> แล้วก็ต้องการที่จะเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้
985.119 -> แบบที่จะต้องซื้อ Adapter คือต้องการใช้ Pencil ด้ามเดิมของตัวเอง
988.703 -> แหมเรียกว่าด้ามนะ
990.576 -> จะมีคนที่ถือ iPad Air Gen 3
994.988 -> iPad Gen 6 Gen 7 นะครับ
997.187 -> ซึ่งผมบอกเลยว่าหลายปีละเท่าที่ดู 3 ปีขั้นต่ำนะครับ
1002.453 -> สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Pencil เราอ่ะเมื่อซื้อมาซัก 3 4 5 ปีที่แล้วอ่ะ
1006.083 -> แบตมันเสื่อมไปแล้วครับ
1007.76 -> คือ Pencil นี้มันไม่น่าจะอยู่รอดจนมาถึงใช้กับ iPad Gen 10 ได้นะครับ
1012.763 -> จนเราจะต้องเสียดาย Pencil จังเลยต้องมาซื้อ 390 บาทมาใช้ด้วยกันนะครับ
1017.727 -> ผมก็คิดว่าไม่ใช่
1019.154 -> ดังนั้นจำนวนคนที่จะซื้อ Adapter ตัวนี้ไม่น่าจะเยอะ
1025.239 -> อันนี้เท่าที่เราประเมินดูอ่ะ
1026.753 -> ไม่น่าจะเยอะจริงๆ
1128.052 -> นั่นคือความแปลกเรื่องแรกนะ
1130.123 -> พูดซะยาวเลย
1132.32 -> สำหรับคนที่ใช้ Apple Pencil
1134.058 -> แต่เชื่อว่าไม่ใช่คนที่ใช้ iPad ทุกคนที่จะใช้ Pencil
1137.634 -> ดังนั้นถ้าเกิดใครไม่ได้ใช้ Pencil เลยกับ iPad
1140.765 -> ผมคิดว่าประเด็นนี้ไม่ใช่สาระสำคัญแต่อย่างใด
1144.222 -> แต่คนที่ใช้ Pencil เป็นสาระสำคัญแน่ๆ
1146.022 -> ก็เลยจำเป็นที่จะต้องมาเล่าให้ฟังกันอย่างละเอียดนิดหนึ่ง
1148.909 -> ว่าที่มาที่ไปเป็นยังไง
1149.958 -> ทำไมผมถึงเห็นด้วยกับบางเรื่องทำไมผมถึงไม่เห็นด้วยกับบางเรื่องอ่ะนะครับ
1153.243 -> อันนี้แล้วแต่ทุกคนจะเอาไปคิดต่อแล้วกันว่าประยุกต์ให้เหมาะสมกับตัวเองได้ยังไงนะครับ
1157.939 -> อันนั้นคือประเด็นของการใช้ Pencil นะครับ
1159.499 -> ถัดมาไม่แตะ Pencil แล้วแล้วกันนะครับ
1162.05 -> เรื่องที่ 2 ที่ผมบอกว่าแปลกก็คือเรื่องของตำแหน่งกล้อง
1165.255 -> เมื่อกี้ผมแตะให้ฟังไปนิดหนึ่ง
1166.99 -> ว่าเขาย้ายตำแหน่งกล้องจากด้านบนตรงกลางมาอยู่ตรงกลางด้านข้าง
1171.508 -> หรือว่าเรียกว่าเป็นกล้องแนวนอน
1173.326 -> เพราะว่าถ้าเกิดเราพลิก iPad มาเป็นแนวนอน
1175.701 -> เราจะได้กล้องที่อยู่เซ็นเตอร์เราพอดี
1178.246 -> ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับ iPad มาก่อนนะครับ
1180.431 -> เดี๋ยวผมทำให้ดูนะครับ
1181.805 -> เคสรอบนี้สีสวยมากนะ
1183.348 -> ถ้าเกิดใครซื้อมาแมตช์สีผมคิดว่าต้องถูกใจแน่ๆ นะครับ
1188.282 -> ตัวเครื่องชื่อสีชมพูแต่ว่าตัวเคสชื่อสีชมพูแตงโม
1192.949 -> เท่จังเลยนะครับ
1194.002 -> ขอใส่เคสให้ดูแบบนี้ก่อนนะครับ
1195.929 -> ว่าถ้าเกิดสมมุติว่าเราทำวิดีโอคอล ทำการประชุมหรือว่าใส่เคสแล้วตั้งในแนวนี้
1201.633 -> กล้องจะอยู่เซ็นเตอร์เราพอดีซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นเลย
1204.383 -> กับ iPad ปกติถ้าเกิดเราใช้ iPad ในแนวนอน
1206.937 -> กล้องมันจะอยู่ด้านข้างครับ
1208.618 -> ทำให้เวลาเราเปิดกล้องตัวมันจะเอียงนิดหนึ่งนะครับ
1211.54 -> ผมขออนุญาตเทียบให้ดูว่าถ้าเกิดเป็น iPad Air
1215.024 -> ที่กล้องอยู่ด้านข้างมุมมองมันคนละมุมเลยนะ
1217.888 -> คือถ้าเกิดสมมุติว่าผมตั้งอยู่ตรงกลางนี้
1220.376 -> ได้หน้าอยู่ตรงกลางใช่ไหมครับ
1221.678 -> แต่ถ้าเกิดเราเอา iPad Air มามันจะเยื้องครับ
1224.709 -> คือตัวผมอ่ะจะไม่ตรงนะครับ
1226.385 -> มันเลื่อนออกมานะครับ
1227.198 -> ซึ่งก็ถือว่าโอเคเรื่องนี้ปรับปรุงมาเป็นอย่างดีถือว่าเป็นเรื่องดีที่เขาคงเล็งเห็นแล้ว
1232.604 -> ว่าคนส่วนมากใช้กล้องหน้าของ iPad ตอนที่ iPad อยู่ในทิศทางแนวนอน
1238.818 -> อันนี้สมเหตุสมผลนะ
1240.076 -> ถ้าเกิดเขาทำแบบนี้รองรับ Center Stage เป็นกล้องแบบโคตรกว้าง Ultra Wide
1244.516 -> ถ้าเกิดผมเดินลุกขยับไปไหนมาไหนระหว่างที่ประชุม
1247.31 -> กล้อง Follow ตามนะครับ
1248.694 -> ซอฟต์แวร์พยายามจับตามนะครับ
1250.179 -> แต่ว่าพอได้ Center แบบนี้มันสมเหตุสมผลมากขึ้นในการใช้งานนะครับ
1254.026 -> แต่สิ่งที่ผมคิดว่าแปลกก็คือถ้า Apple มองเห็นแบบนี้แล้วนะครับ
1257.916 -> คิดว่าคนส่วนมากน่าจะใช้ iPad ในแนวนอน
1262.148 -> ทำไมถึงย้ายมาแค่กล้องนะครับ
1264.913 -> ทำไมโลโก้ Apple ด้านหลังอ่ะถึงไม่เป็นแนวนอน
1269.839 -> เห็นไหมครับ ตรงนี้
1271.838 -> ถ้าเกิดคิดว่าคนส่วนมากใช้ในแนวนอนอย่างนี้
1274.359 -> ตรงนี้มันควรเป็นแนวนอน
1276.095 -> ถ้าเกิดถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่าไม่ ถ้าเกิดคนไม่ได้ใส่เคสอ่ะ
1280.22 -> ส่วนมากเขาใช้แนวนี้กัน
1281.322 -> ก็ถืออย่างนี้ง่ายๆ เลยใช่ไหมครับ
1283.889 -> แต่ถ้าเกิดใส่เคสแล้วอย่างนี้มันตั้งได้เฉพาะแนวนอน
1287.685 -> เคสแบบนี้ขาตั้งอยู่แค่แนวนอนใช่ไหมครับ
1290.236 -> เราไม่สามารถที่จะมาตั้งในแนวตั้งด้วยเคสนี้ได้
1293.042 -> ไม่ได้อยู่แล้วนะครับ
1294.319 -> ถ้าเกิดเป็นเช่นนั้น
1297.168 -> โลโก้ Apple ที่ควรจะอยู่ในแนวนอนก็ควรจะต้องเป็นโลโก้ที่อยู่บนเคสใช่ป่ะ
1301.098 -> แต่โลโก้บนเคสก็ยังเป็นแนวนี้อยู่นะครับ
1303.377 -> เท่ากับว่าถ้าเกิดเราตั้งเคสในแนวนี้
1305.472 -> ยังไงโลโก้มันก็จะแบบตะแคงข้างซึ่งผมคิดว่าแปลก
1310.23 -> หลายคนอาจจะคิดว่าไม่แปลกไม่เป็นไรแต่ผมคิดว่าแปลก
1313.033 -> คือผมอยากให้มันอยู่แนวนอนซึ่ง Apple เคยทำ
1315.989 -> นี่เคส Magic Keyboard ของ iPad Pro อ่ะ
1319.908 -> เห็นป่ะว่าโลโก้มันอยู่แนวนี้
1322.575 -> ดังนั้นการใช้งานเครื่องแนวนอนน่ะมันตรง OCD ถูกใจสิ่งนี้
1327.327 -> อันนี้คิดมาดีมันเพราะว่ามันคือการใช้งานแนวนอนพร้อมคีย์บอร์ดนะครับ
1331.95 -> ทีนี้หลายคนก็บอกว่ารอบนี้ iPad ใหม่ iPad Gen 10 ออก Accessories มา
1337.115 -> คล้ายๆ กันชื่อ Magic Keyboard Folio นะครับ
1341.261 -> ไม่ใช่ Magic Keyboard ธรรมดาแต่ว่าเป็น Magic Keyboard Folio นะครับ
1344.381 -> ซึ่งผมคิดว่าเขาออกแบบมาดีนะ
1345.899 -> แกะให้ดูเลยนะครับ
1347.051 -> หมื่นหนึ่งนะตัวนี้
1348.718 -> เฉพาะเคสคีย์บอร์ดอย่างเดียว
1350.387 -> ราคามหัศจรรย์นะครับ
1351.734 -> มันเป็นเคสคีย์บอร์ด 2 ชิ้นครับ
1353.409 -> ก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันว่าเขาทำแบบนี้นะครับ
1355.606 -> พอมารองรับกับ iPad Gen 10 รุ่นเดียวเท่านั้น
1358.944 -> ไม่สามารถใช้กับ iPad อื่นได้นะครับ
1360.885 -> เอาเคสเดิมออก
1362.901 -> 2 ชิ้นที่ว่าคือมีชิ้นหนึ่งอยู่ตรงนี้ครับ
1365.127 -> แปะหลัง
1367.622 -> แปะหลังแบบนี้นะครับ
1368.814 -> ด้วยแม่เหล็กอยู่เลยนะครับ
1371.237 -> แล้วก็อีกชิ้นหนึ่งจะเป็นคีย์บอร์ดครับ
1375.017 -> แบบนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้คีย์บอร์ดที่มีปุ่มฟังก์ชันอยู่ใน iPad
1381.006 -> iPad Pro Magic Keyboard หมื่นกว่าบาทยังไม่ได้เลยนะครับ
1384.43 -> อันนี้ iPad รุ่นเริ่มต้นนะได้ Magic Keyboard ที่มีแถวปุ่มฟังก์ชันด้านบนด้วยนะครับ
1389.319 -> มี Trackpad ใช้งานคล้ายๆ กับ Magic Keyboard ที่อยู่กับ iPad Pro เลยนะครับ
1393.638 -> ผมคิดว่าตัวนี้เป็น Accessories ที่สำหรับคนที่ชอบใช้ iPad ในการพิมพ์งาน
1398.437 -> ควรมีนะครับ
1399.532 -> เพราะว่าพิมพ์ดีจริงๆ นะครับ
1401.109 -> ดีกว่าเคสคีย์บอร์ดก่อนหน้านี้ที่เป็น Smart Keyboard ปุ่มนิ่มๆ นะครับ
1404.817 -> นี่เป็นปุ่มจริงจังเหมือนกับเราใช้ MacBook ในการพิมพ์งานเลยนะครับ
1408.229 -> ชิ้นที่ 2 ตรงนี้จะติดด้วย Smart Connector ที่ผมบอกว่าอยู่ที่สันของ iPad นะครับ
1412.755 -> ก็คือสามารถที่จะติดเข้าไปได้อย่างนี้เลย
1417.118 -> เสียงแน่นเลยนะครับ
1418.679 -> ปิดมาปุ๊บโอเคโลโก้ Apple อยู่ในแนวนอนก็จริงครับ
1423.01 -> หันมาปุ๊บแนวนอนแต่ดันเป็นแนวนอนด้านนี้
1428.556 -> ดันเป็นแนวนอนด้านนี้ผิดยังไงนะครับ
1430.652 -> คือหลังเครื่องมันคือด้านนี้ไง
1432.734 -> หลังเครื่องกลับไม่มีโลโก้นะครับ
1435.096 -> ทำให้เวลาที่เราพิมพ์งานจริงๆ อ่ะ
1438.063 -> ใช้ยังไง
1438.915 -> ตรงนี้กางอันนี้ออกมา
1440.89 -> กางองศานี้ออกมานะครับ
1442.299 -> ของใหม่ๆ ไม่เคยเห็น
1444.011 -> ไม่เห็นโลโก้
1444.932 -> โลโก้อยู่ไหน
1446.373 -> โลโก้อยู่ที่พื้นโต๊ะ
1447.945 -> ที่ไม่มีใครมองเห็น
1452.353 -> ตลกมากเลยอ่ะ
1453.258 -> ทำไมมาอยู่ตรงนี้นะครับ
1454.467 -> ถ้าอยู่ตรงนี้เป็นแนวนอนนะครับ
1455.823 -> ผมก็คิดว่าเราไม่มีปัญหาอะไรให้คุยกัน
1458.318 -> แต่ว่าพอมันอยู่ตรงนี้ก็ประหลาดไม่ค่อยเข้าใจอ่ะ
1461.701 -> เคสคีย์บอร์ดตัวนี้สามารถที่จะแยกชิ้นออกมาที่ผมบอกนะครับ
1465.601 -> เพื่อที่จะพับออกไปด้านหลังใช้งานในแนวตั้งอย่างนี้ได้นะครับ
1469.382 -> หรือถ้าเกิดเราไม่ต้องการให้สัมผัสโดนปุ่มนี้
1471.526 -> เราแยกชิ้นมาอีกรอบหนึ่ง
1473.517 -> แยกชิ้นนี้ออกรอบหนึ่งนะครับ
1474.779 -> แล้วก็กลับด้านเลย
1478.925 -> เพื่อที่จะให้ด้านหลังมันเรียบๆ นะครับ
1483.553 -> โลโก้อยู่ด้านนี้นะ
1485.544 -> โลโก้อยู่ด้านนี้แล้วเป็นยังไง
1486.949 -> ถ้าสมมุติเราถือใช้งานอย่างนี้นะครับ
1488.766 -> ถ้าเกิดด้านหน้ากล้องมันจะกลับหัว
1491.524 -> กล้องมาอยู่ด้านล่าง
1493.476 -> งงไปหมดว่าเขาตั้งใจที่จะให้เราใช้แนวนอนแนวตั้ง
1498.249 -> หรือว่าแนวกับหัวยังไงกันแน่นะครับ
1500.54 -> ปกติถ้าเป็นสันอยู่ด้านนี้เวลาคนถือ iPad ก็จะถือด้านนี้นะ
1504.342 -> ให้มือจับสันตัวเองใช่ไหมครับ
1506.205 -> โลโก้กลับหัว
1507.715 -> นิดหนึ่งนะอันนี้ผมคิดว่า OCD รับไม่ค่อยได้เท่าไหร่นะครับ
1511.463 -> อย่างไรก็ตามมันใช้ดีมาก
1513.698 -> แม้ว่ามันจะมีทิศทางของโลโก้ที่เปลี่ยนไปนิดหน่อยแต่ใช้ดีมากนะครับ
1519.27 -> ผมยืนยันเลยว่ามันดีจริงๆ ที่เปิดโอกาสให้คนที่ใช้ iPad รุ่นเริ่มต้น
1524.544 -> มีโอกาสได้ใช้คีย์บอร์ดคุณภาพดีแบบนี้นะครับ
1527.399 -> เหมือนกับคนที่ใช้ iPad Pro แล้วใช้มาแล้วชื่นชอบนะครับ
1530.425 -> แล้วก็ตัวเลือกของสีนะครับ
1532.627 -> ตัว Magic Keyboard Folio นี้มีเฉพาะสีขาวแบบที่เห็นนี้เท่านั้นเลยนะครับ
1536.489 -> จริงๆ น่าจะมีสีดำให้เราเลือกด้วยนะครับ
1538.269 -> เพราะว่าดูท่าทางแล้วน่าจะเปื้อนค่อนข้างง่ายนะครับ
1541.247 -> มาดูตัวเลือกอีกอย่างหนึ่งของเรื่องสีสันตัวเครื่องของ iPad นะครับ
1546.027 -> นอกจากสีชมพูที่ผมโชว์ให้ดู
1549.258 -> ยังมีอีกสีหนึ่งที่สวยมากก็คือสีเหลืองดูสิน่ารักแล้วก็ยังมีสีฟ้านะครับ
1556.3 -> ที่ฉูดฉาดจริงๆ นะครับ
1557.871 -> รอบนี้ผมคิดว่าเขาทำออกมาได้สดใสน่ารักเลยทีเดียว
1561.935 -> สำหรับ iPad รุ่นเริ่มต้นนะครับ
1563.376 -> แล้วก็ยังมีสีเงิน Silver สำหรับคนที่อยากได้แบบสีเซฟๆ ในการพกพาไปใช้งานนะครับ
1568.875 -> แต่ถ้าเกิดใครชอบสีสันรอบนี้ถูกใจจริงๆ นะครับ
1571.764 -> แล้วก็เชื่อว่าหลายคนรอมานานแล้วแหละว่าเมื่อไหร่ iPad จะมีตัวเลือกของสีแบบนี้
1576.15 -> ให้เราเลือกแสดงความเป็นตัวตนออกมาได้เยอะๆ ซะทีนะครับ
1579.574 -> ตอนนี้มีให้เลือกแล้วนะครับ
1580.768 -> ทั้งสีชมพู สีเหลือง สีฟ้าแล้วก็สีเงินนะครับ
1584.074 -> ไปเลือกแมตช์กันได้ตามใจชอบเลยครับ
1591.72 -> และนี่ก็คือ iPad Gen 10 นะครับ
1593.615 -> ที่ถึงแม้ว่ามันจะมีเรื่องแปลกแต่ผมคิดว่านี่เป็น iPad ที่ดีมากรุ่นหนึ่งนะครับ
1599.028 -> คือสมบูรณ์แบบมากแหละ
1600.625 -> ขอแค่ถ้าเกิดเราเป็นคนที่ไม่ได้ใช้ Apple Pencil
1604.54 -> ผมคิดว่านี่เป็น iPad ที่เพอร์เฟกต์จริงๆ นะครับ
1607.276 -> แต่ถ้าเกิดใครมีความจำเป็นต้องใช้ Apple Pencil นะครับ
1610.253 -> ผมคิดว่าถ้างบถึงอยากให้กัดฟันไปเอา iPad Air นะครับ
1613.8 -> ที่ได้ชิป M1 ได้ชิปแรงกว่า
1616.088 -> ถึงแม้ว่าหน้าตาข้างนอกจะดูใกล้เคียงกันมาก
1618.217 -> แต่ว่ารองรับ Apple Pencil Gen 2 เป็นที่เรียบร้อยนะครับ
1621.479 -> ดูมีอนาคตที่ไกลกว่านั้นเองนะครับ
1623.805 -> แต่ถ้าเกิดใครไม่ได้ใช้ Pencil ผมแนะนำรุ่นนี้ได้เลยถ้าเกิดงบถึงนะครับ
1628.139 -> อย่างไรก็ตาม iPad Gen 9 ยังคงมีวางขายอยู่ในราคาเริ่มต้น 12,900 บาท
1634.263 -> ในการปรับขึ้นมาเล็กน้อยจากอัตราแลกเปลี่ยน
1636.764 -> ค่าเงินเปลี่ยนก็ราคาของสินค้า Apple ทุกตัวปรับขึ้นมาหมดเลยนะครับ
1641.053 -> ตัว iPad Gen 10 ที่ออกมาใหม่ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 17,900 บาท
1645.609 -> แล้วก็ถ้าเกิดใครงบถึง iPad Air เพิ่มไปอีกรุ่นละ 6,000 บาท
1649.486 -> ก็คือราคาเริ่มต้น 23,900 บาทสำหรับรุ่นเริ่มต้น
1653.059 -> มี 2 ความจุ 64GB แล้วก็ 256GB ให้เลือก
1657.266 -> แล้วก็มีทั้งรุ่นที่รองรับ WiFi เพียงอย่างเดียวแล้วก็รุ่นที่ใส่ซิมได้นะครับ
1661.069 -> ซึ่งใน iPad Gen 10 รองรับ 5G เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยนะครับ
1664.839 -> สามารถไปติดต่อร้านค้าตัวแทนจำหน่าย
1667.315 -> รวมถึงสั่งซื้อออนไลน์ได้ทาง Apple Store TH นั่นเองครับ
1669.975 -> ผมอู๋ Spin9 ครับ
1670.854 -> พบกันใหม่คลิปหน้า
1671.664 -> สวัสดีครับ
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=yQV5d_uL7t0