ตอนที่ 9 การบริหารจิตเจริญปัญญา

ตอนที่ 9 การบริหารจิตเจริญปัญญา


ตอนที่ 9 การบริหารจิตเจริญปัญญา

สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
ตอนที่ 9 การบริหารจิตเจริญปัญญา


Content

28.967 -> พิธีกร : สวัสดีครับ วันนี้อยู่กับผม นายณรงค์ชัย ซาซง
32.018 -> นักศึกษาสาขาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์
35.105 -> มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์
37.237 -> วันนี้เรามาสนทนาธรรมกันในเรื่อง การบริหารจิตเจริญปัญญา
42.21 -> เดี๋ยวตามผมมากันเลยครับ
44.468 -> พิธีกร : ตอนการบริหารจิตเจริญปัญญา
46.948 -> เป็นการบริหารจิตเจริญปัญญา
49.199 -> เพื่อฝึกจิตให้มีสมาธิและการพัฒนาปัญญาในการตั้งมั่นแห่งจิต
55.241 -> โดยมีจุดประสงค์คือ การสวดมนต์แปล และแผ่เมตตา
59.744 -> วิธีการปฏิบัติบริหารจิตเจริญปัญญาตามหลักอานาปานสติ
65.218 -> และสามารถนำวิธีการบริหารจิตเจริญปัญญามาใช้ในชีวิตประจำวันได้
71.776 -> นนี้เราได้รับความเมตตาอย่างยิ่งจากพระอุดมปิฎก ดร.
77.45 -> ผู้ช่วยเจ้าอาวาทวัดคลองโพธิ์พระอารามหลวง
80.725 -> เจ้าคณะอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
83.574 -> ให้ความเมตตาสนทนาธรรมในเรื่องการบริหารจิตเจริญปัญญา
91.575 -> นมัสการขอรับ
94.112 -> การบริหารจิตเจริญปัญญามีความหมาย
97.492 -> และมีหลักปฏิบัติเบื้องต้นอย่างไร ขอรับ
101.49 -> ขอเจริญพร
104.232 -> สำหรับการบริหารจิตเจริญปัญญา
110.014 -> ในความหมายของการบริหารจิตก็คือการฝึกสมาธิ
115.545 -> และความหมายของการเจริญปัญญาก็คือการฝึกในเรื่องของวิปัสสนา
122.981 -> 2 อย่างเนี่ยเป็นสิ่งที่เอามาผนวกกัน
127.901 -> ก็จะเป็น 2 คำที่พูดว่า
130.227 -> การบริหารจิตเจริญปัญญา
134.144 -> ฉะนั้น ความหมายที่เห็นได้ชัดว่าการบริหารจิตก็คือ การฝึกสมาธิ
144.114 -> ซึ่งสมาธิแปลว่าความตั้งใจ
147.993 -> ทีนี้พอเรามาฝึกในเรื่องของสมาธิเนี่ยมันจะควบคุมจิต
153.844 -> เหล่านี้ได้เรียกว่าทำให้จิตเรานิ่ง
156.656 -> ติดอยู่กับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งอย่างนี้นานๆ
160.336 -> หรือว่าหนักแน่นอยู่ในสิ่งนั้นนานๆเนี่ย
164.836 -> แน่วแน่อยู่ในสิ่งนั้นนานๆเรียกว่าสมาธิ
168.162 -> เรียกว่ามีสมาธิเช่น สมาธิกับการเรียนหนังสือ สมาธิกับการขับรถ
174.478 -> มีสมาธิกับการทำงานอย่างเงี่ย อันนี้เขาเรียกการบริหารจิต
181.828 -> การบริหารจิต ถ้าเป็นสมาธิในทางที่ดีเขาเรียกว่าสัมมาสมาธิ
187.344 -> อยู่ในมรรคมีองค์ 8
189.735 -> แต่สมาธิในทางที่ไม่ดีเรียกว่า มิจฉาสมาธิ
193.704 -> เรียกว่ามีสมาธิในการเบียดเบียนผู้อื่น
198.943 -> ในนั้นประโยชน์ของสมาธิที่เป็นสัมมาสมาธิ
204.393 -> ก็สมาธิในทางที่ดีนั้น เขาบอกว่าประโยชน์ประจำวันของสมาธิ
212.594 -> เราใช้ดำเนินชีวิตเนี่ย ก็มีหลายสิ่งหลายประการ อย่างเช่นว่า
219.161 -> ทำจิตใจให้สบายหายเครียด มีความสุขมีจิตใจผ่องใส
226.125 -> อย่างที่ 2 ก็คือหายจากวิตกกังวล หายจากโรคหวาดกลัว
231.743 -> หรือทุกวันนี้เขาเรียกว่าโรคซึมเศร้า
234.278 -> และการฝึกสมาธิเนี่ยทำให้นอนหลับง่าย
238.323 -> เพราะจิตใจไม่ได้ไปกังวลในเรื่องหนึ่งเรื่องใดแล้ว
242.138 -> แล้วก็สามารถที่จะนอนหลับสนิทไม่ฝันร้าย
247.511 -> สั่งตัวเองได้ กำหนดให้หลับ ให้ตื่นตามเวลา
251.77 -> มีความว่องไว กระฉับกระเฉง
255.441 -> คนมีสมาธิใจไม่ลอยเนี่ย
258 -> ทำงานอะไรก็เสร็จได้สมความมุ่งมั่นปรารถนาไวขึ้น
266.071 -> แต่ถ้าขึ้นไม่มีสมาธิแล้วใจลอยคิดนู่นคิดนี่
270.216 -> จิตใจกวักแกว่งไปทางโน้นทางนี้
272.551 -> มันก็ไม่เสร็จสักที งานการก็ไม่เสร็จสักที
276 -> มีความเพียรพยายามแน่วแน่ถึงจุดหมาย
279.55 -> ใช้สติปัญญาในการยับยั้ง
284.171 -> สิ่งที่มันเกิดขึ้นหรือสิ่งที่มันเป็นไปเนี่ย
289.554 -> สามารถที่จะยับยั้งชั่งใจได้
292.479 -> มีประสิทธิภาพในการทำงาน เช่นเรียนหนังสือ
296.758 -> อาจจะไม่ได้เก่งอะไรแต่ว่าคนมีสมาธิเนี่ยก็จะสามารถที่จะ
301.779 -> เรียนหนังสือรู้เรื่องกับเพื่อน
304.095 -> และเด็กทุกวันเนี่ยสมาธิสั้นใช่ไหม
306.644 -> เพราะฉะนั้นยิ่งเขามีสมาธิมากเท่าไหร่เนี่ย
309.694 -> เรื่องของการเรียนหนังสือ เรื่องของการทำงาน เรื่องการทำกิจกรรมอะไร
315.864 -> เขาจะประสบความสำเร็จได้ดีขึ้น
318.761 -> ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของการเจริญสมาธิ
321.814 -> ก็คือการเสริมบุคลิกภาพ
325.198 -> จะเห็นว่าคนที่มีสมาธิเนี่ยบุคลิกภาพจะดีนะ
330.295 -> บุคลิกภาพเข้มแข็งหนักแน่นมั่นคง
333.554 -> มีความสงบเยือกเย็น
336.544 -> แต่คนมีสมาธิเนี่ย สามารถที่จะพูดและ
340.224 -> คนฟังแล้วก็คนเชื่อตามคล้อยตาม
345.08 -> เป็นคนสุภาพนุ่มนวล เป็นคนมีท่าทางที่มี
353.097 -> เขาเรียกอะไรนะ มนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
354.884 -> แล้วประโยชน์ของสมาธิก็จะเป็นจุดมุ่งหมายของศาสนาเนี่ย
360.802 -> ในระดับหนึ่งก็หมายถึงความแนบแน่น เรียกว่าอัปปนาสมาธิ
367.01 -> อัปปนาสมาธิ หรือระดับของฌานเนี่ยการฝึกจิตให้สงบแน่วแน่
373.41 -> สามารถที่จะระงับนิวรณ์
377.892 -> นิวรณ์ก็คือเครื่องกั้น
380.41 -> คุณงามความดีเครื่องกั้น
383.14 -> สิ่งที่จะกั้นไม่ให้เราถึงคุณงามความดีทั้งหลาย
387.336 -> พยาบาทความโปรด ความตึงเครียด
391.201 -> ความจองพยาบาทจองเวรซึ่งกันและกันเนี่ย
395.423 -> มันทำให้สังคมทุกวันเนี่ยเกิดอาชญากร อาชญากรรมกันมากขึ้น
401.359 -> ดังนั้นเบื้องต้นเนี่ยที่ต้องเตรียมการปฏิบัติก็คือ
406.555 -> เลือกสถานที่
408.775 -> สถานที่ในการปฏิบัติก็คือต้องเหมาะสมกับการฝึกสมาธิ
413.475 -> เพราะการฝึกสมาธิเนี่ย
415.314 -> มันต้องใช้อะไร ต้องใช้ความเงียบ ความสงบ ความสงัด
420 -> ไม่ให้มีอะไรมารบกวนเนี่ย เรียกได้ว่าเจริญสมาธิสมถะ
426.438 -> อย่างที่2 ก็คือกำหนดเวลาของการเจริญสมาธิ
430.895 -> ต้องเว้นระยะเวลาห่างจากการที่เราทาน
435.7 -> อาหารอิ่มใหม่ๆหรือร่างกายมันอ่อนเพลียนู่นนี่นั่น
438.401 -> ก็พยายามที่จะหาเวลาที่ร่างกายเราสามารถที่จะนั่งได้นานๆ
444.871 -> เดินได้นานๆเนี่ย ก็จะเกิดสมาธิได้นานขึ้น
449.165 -> การสมาทานศีล
453.148 -> มันมีสมาทานศีลเนี่ยมันมีอยู่ 2 อย่างหรือ 3 อย่าง
459.648 -> แต่ว่าถ้าของฆราวาสปุถุชนทั่วไปเนี่ยใช้ 2 อย่างก็คือสัมปัตตวิรัติ
465.674 -> ก็คือถือศีลโดยการงดเว้น งดเว้นในสิ่งที่ประเชิญหน้า
473.814 -> ประเชิญหน้ากับสิ่งนั้นๆ
476.577 -> ดังนั้นสัมปัตตวิรัติก็คือว่าศีลที่เราสามารถงดเว้นได้เฉพาะหน้า
482.39 -> หรือศีลอีกอย่างหนึ่งที่เราไปสมาทานก็คือ สมาทานวิรัติก็คือ
486.713 -> ศีลที่ไปสมาทานนิมนต์พระมา
489.226 -> ให้ศีลหลายๆคนเนี่ยก็นิมนต์พระมาเราก็จะได้รับศีลพร้อมกันหลายๆคน
496.448 -> ศีลก็เป็นฐาน เป็นฐานของกุศลกรรมทั้งหลาย
500.923 -> อันนี้ในเรื่องของหลักของการปฏิบัติเพราะฉะนั้นความหมายของสมาธิ
509.08 -> หมายความของการบริหารจิตเจริญปัญญาก็คือเกี่ยวกับ
513.596 -> สมาธิที่เป็นสมถะ
517.216 -> เจริญปัญญาก็คือพัฒนาปัญญาในเรื่องของวิปัสสนา
522.285 -> ที่จะให้แจ้งตามความเป็นจริง
524.016 -> ก็ขอสรุปตรงเนี่ย เจริญพร
587.515 -> พิธีกร : ครับพระอาจารย์ขอรับ
589.308 -> มีอีก 1 คำถามครับในส่วนของการสวดมนต์
592.827 -> และการแผ่เมตตามีประโยชน์อย่างไรขอรับ
597.244 -> พระอาจารย์ : ขอเจริญพร
599.688 -> การสวดมนต์ก็คือการที่เรานำบทสวดมนต์ก็คือ
607.38 -> บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย
611.088 -> สรรเสริญคุณพระพุทธ สรรเสริญคุณพระธรรม สรรเสริญคุณพระสงฆ์
615.658 -> อย่างที่เราสวดมีบทว่าอรหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา
620.569 -> พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ
623.033 -> แล้วก็ข้าพเจ้าขอกราบอภิวาท พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
631.609 -> แล้วก็ธรรมคุณก็คือ
634.642 -> สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ
638.135 -> ข้าพเจ้าขอนมัสการ
640.437 -> พระธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว
644.88 -> แล้วก็สังฆคุณก็คือ สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ
650.258 -> ข้าพเจ้าขอนมัสการและนอบน้อมคุณพระสงฆ์
656.532 -> ซึ่งเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
661.782 -> ซึ่งพระพุทธเจ้าของเรานั้น
663.611 -> พระองค์เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองแล้ว
669.114 -> นำหลักธรรมที่พระองค์ได้ตรัสรู้นั้นมาสั่งสอนเวนัยสัจทั้งหลาย
675.776 -> ส่วนพระธรรมก็คือหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
679.15 -> จะเป็นในฝ่ายของปริยัติธรรมก็ดี ปฏิบัติธรรมก็ดี แล้วก็ปฏิเวธธรรมก็ดี
687.034 -> อะกาลิโก เอหิปัสสิโก
689.196 -> ก็คือเป็นสิ่งที่ชวนกันมาฟังได้ ชวนกันมาดูได้
694.727 -> โอปะนะยิโก ก็คือสิ่งที่น้อมเข้ามาใส่ตัว
698.462 -> ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ก็คือสิ่งที่ผู้รู้จะรู้ได้เฉพาะตนเอง
706.453 -> แต่ในส่วนของพระสงฆ์เองนั้นก็เป็นผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
712.61 -> เรียกว่าสุปฏิปันโนเนี่ย ปฏิบัติดี
716.71 -> อุชุปฏิปันโน ปฏิบัติตรง
719.192 -> ญายะปะฏิปันโน ปฏิบัติเพื่อรู้แจ้งเห็นจริงในธรรม
724.087 -> สามีจิปะฏิปันโน ปฏิบัติสมควรแก่การกราบไว้นบนอบ
730.985 -> เพราะฉะนั้นการบูชาพระรัตนตรัยเนี่ย
735.959 -> เป็นสิ่งที่เราจะอาราธนาคุณพระพุทธ
741.751 -> อาราธนาคุณพระธรรม อาราธนาคุณพระสงฆ์
744.552 -> ให้มาอยู่กับจิตอยู่กับใจของเรา
748.942 -> เพราะแต่ละบทสวดเนี่ยล้วนแล้วแต่เป็นคำที่เป็นกุศล
754.768 -> ยิ่งเราสวดบ่อยๆ บ่อยๆมากเข้าเท่าไหร่ ยิ่งมากเท่าไหร่เนี่ย
760.835 -> เราเหมือนอาราธนาคุณพระพุทธมาอยู่กับเรา
764.367 -> เราไปได้ยินว่าแหมเหรียญเนี่ยมีพุทธคุณดีเหรียญนี้มีธรรมคุณดี
770.907 -> เหรียญนี้เป็นของพระสงฆ์องค์โน้นองค์นี้ มีสังฆคุณดี
776.496 -> แต่เราลืมไปว่าพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณเนี่ย
780.867 -> รวมแล้วอยู่ที่บทสวดมนต์ว่าสวดแล้วได้อะไร ก็คือได้พุทธคุณมา
786.401 -> ได้ธรรมคุณมา ได้สังฆคุณมาอาราธนาอยู่ในจิตอยู่ในใจของพวกเรา
792 -> และอีกประการหนึ่งที่ถามว่าการแผ่เมตตาคือการแผ่เมตตา
796.48 -> ท่านบอกว่าสามารถที่จะส่งความปรารถนาดี
801.363 -> ไปให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย
804.267 -> โอธิโส ผะระณา เนี่ยก็แผ่ไปโดยเจาะจง แผ่ไปให้พ่อให้แม่ให้พี่ให้น้อง
811.747 -> ให้เพื่อนให้พ้องทั้งหลาย
813.121 -> ระบุชื่อไปแล้วก็แผ่ไปแบบเจาะจง
816.5 -> อะโนธิโส ผะระณานั่นก็คือแผ่ไปไม่เจาะจงเนี่ยมันก็จะไปทั้ง
821.311 -> ทั่วจักรวาลทั่วสากลพิภพนั่นแหละ
825.124 -> ประการที่ 2 ก็คือ
826.992 -> สามารถที่จะตัดกังวลได้ทุกอย่างตัดกังวลออกให้หมดสิ้น
834 -> อะไรที่มันทำให้เราเกิดติดขัดจิตเราไม่ดีเราก็สามารถแผ่เมตตา
839.207 -> ซึ่งทำแผ่เมตตาเนี่ยคนโบราณท่านแปลไว้ดีมาก
845.573 -> แปลไว้ดีมาก
846.862 -> สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลาย
850.308 -> ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
854.829 -> เราอุปมาอุปไมยว่า
857.539 -> ทุกคนหรือสรรพสัตว์ที่เกิดมาในโลกใบนี้เนี่ยเป็นเพื่อนกันหมด
863.638 -> เพื่อนในเรื่องอะไร เพื่อนในเรื่องการเกิดการแก่การเจ็บการตาย
869.139 -> ไม่มีใครที่ไม่เป็นเพื่อนกัน
871.198 -> เมื่อเกิดมาแล้วไม่มีใครไม่แก่ไม่มีใครไม่เจ็บไม่มีใครไม่ตาย
875.267 -> อย่างที่ 2 ก็คือ อะเวราโหนตุ
878.845 -> ในคำพูดแรกก็คือจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
882.677 -> นี่คือความปรารถนาดีแล้วจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
885.62 -> อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
888.587 -> อันที่ 2 ก็คือ
890.686 -> อัพยาปัชฌาโหนตุ
892.686 -> จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
896.818 -> ที่ 3 ก็คือ อะนีฆาโหนตุ
898.896 -> จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
901.813 -> และก็ ที่ 4 ก็คือเป็นเหตุผลสำคัญที่เราต้องแผ่เมตตาว่า
906.75 -> สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
909.166 -> จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
915.076 -> นี้คือทั้งความหมายและก็วัตถุประสงค์ของการแผ่เมตตาเนี่ย
922.296 -> มันจะอยู่ตรงนี้มันจะสามารถที่แผ่ความดีไปให้คนอื่น
928.49 -> แล้วก็ความดีนั้นมันจะสะท้อนกลับมาหาเราเช่นนี้เนี่ย
932.602 -> เป็นประโยชน์ละก็เป็นสิ่งที่เราควรจะสวดมนต์และก็
937.279 -> แผ่เมตตาละก็มีประโยชน์ได้ดีที่สุดสำหรับตัวเรา เจริญพร
948.652 -> พิธีกร : พระอาจารย์ครับ
950.198 -> การฝึกสมาธิตามหลักอานาปานสติต้องปฏิบัติอย่างไรขอรับ
957.058 -> พระอาจารย์ : เจริญพร ในเรื่องของการฝึกสมาธิ
963.347 -> อานาปานสติ
966 -> ต้องเข้าใจความหมายว่า
968.552 -> อานาปาน ก็แปลว่าการหายใจเข้า
972.894 -> และการหายใจออก
976.15 -> สติก็คือการระลึก ระลึกถึงการหายใจเข้าใจและการหายใจออก
984.362 -> ฉะนั้นขั้นตอนของอานาปานสติเนี่ยท่านว่าฝึกง่ายๆ
992.491 -> ฝึกจะง่ายจะยากหรืออย่างไรก็ตามก็คือ
996.715 -> มีการเตรียมตัวอย่างที่ว่าเตรียมหาที่ที่สงบสงัด
1003.781 -> แล้วก็ท่านั่งสมาธิเนี่ย
1007.358 -> จะต้องเป็นท่าที่จัดว่างให้ได้นั่งได้นานนะอย่างเช่นว่า
1014.039 -> เท้าขวาทับเท้าซ้ายมือขวาทับมือซ้าย
1019.34 -> หรือถ้าไม่สะดวกจะใช้ท่าอื่นก็ได้ในกรณีที่เป็นผู้หญิง
1025.349 -> ซึ่งอาจจะสวมกระโปรงไม่สามารถจะนั่งท่าขัดสมาดได้ก็
1031.299 -> เป็นท่าพับเพียบอะไรทำนองเนี่ย
1035.918 -> ละก็ต้องนั่งสบายๆตั้งกายให้ตรงไม่เกร็งและต้องคอยระวังไม่ให้หลังงอ
1046.928 -> เพราะจะทำให้เสียบุคลิกภาพ
1051.33 -> หลับตาพอสบายๆ
1054.381 -> หรือบางคนจะใช้วิธีลืมตาเพ่งดูวัตถก็ได้ เรียกว่า กสิณนะ
1060.228 -> ตั้งศูนย์กลางสมาธิ
1063.024 -> อยู่ที่ลมหายใจ
1064.801 -> อย่างที่บอกว่าอานาปานก็คือหายใจเข้าหายใจออกนั่นแหละ
1070.087 -> สังเกตลมที่กระทบตรงไหนชัดเจน
1074.108 -> นะ ก็ให้กำหนดจุดเพียงจุดเดียวบริเวณช่องจมูก
1080.252 -> ลมหายใจเข้าลมหายใจออก
1084.186 -> อันนี้เรียกว่าการเจริญในส่วนของอานาปานสติ สมาธิ
1114.824 -> พิธีกร : และในวันนี้ต้องกราบขอบพระคุณพระอุดมปิฎก ดร.
1120.385 -> ผู้ช่วยเจ้าอาวาทวัดคลองโพธิ์พระอารามหลวง
1123.31 -> เจ้าคณะอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
1126.49 -> ได้ให้ความเมตตาสนทนาธรรมในเรื่องการบริหารจิตเจริญปัญญา
1132.565 -> ขอกราบขอบพระคุณครับ

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=zWzc8iZNPgo